เนื่องด้วยคืนนี้จะดูบอลแชมเปี้ยนลีก วันนี้เลยแต่งก่อนตอนกลางวัน และเพิ่งจะมาต่อให้เสร็จประกี้ เลยเอามาลงเลยละกัน ฉันจะได้ดุบอลสบายใจหน่อย อิๆๆ----------------------------------
บทที่ 9. แท่นหินเสาไม้กางเขนกลับหัวแห่งความมึด
หน้าต่างของห้องพักหนึ่งในโรงแรมเซาเทรินฟอร์ท มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งที่ขอบหน้าต่างเพื่อเฝ้ามองว่าคนที่รักจะกลับมาเมื่อไร เพราะนี่ก็เข้าวันที่ 5 แล้วที่ฟริกซ์บอกว่าไปทำภารกิจและยังไม่กลับมา ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรใจของนาฟตี้ก็อยู่ไม่เป้นสุขเพราะกลัวว่าฟริกซ์จะเกิดเรื่องขึ้น และเวลาก็ผ่านไปจนเย็นก็ยังไม่เห้นมีวี่แววของฟริกซ์เลย ตาของนาฟตี้เหม่อลอยไปไกลโดยที่ไม่เห้นอาเวียที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบมุ่งหน้าเข้ามายังโรงแรม โดยที่อาเวียเองก็ไม่เห้นนาฟตี้ที่นั่งอยู่ขอบหน้าต่างของโรงแรมเช่นกัน
อาเวีย : " ลูฟเฟ่น นาฟตี้ เกิดเรื่องแล้ว "(อาเวียผลักประตูห้องพักและตะโกนบอก2พี่น้อง)
ลูฟเฟ่น : " มีอะไรหรือหน้าตาตื่นเลย"
นาฟตี้ : " อย่าบอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ฟริกซ์" (น้ำตาเริ่มเออที่ตาของนาฟตี้แล้ว เพราะอาเวียมีสีหน้าที่แปลกไปทัทีที่นาฟตี้ถามถึงฟริกซ์)
อาเวีย : " ข้าก็เพิ่งกลับมาจากภารกิจที่เมืองวิลเดอวู้ด และท่านเซอร์เรียกให้ไปพบ และแจ้งข่าวว่าเมื่อเช้านี้มีทหารที่เนื้อตัวมอมแมมและมีบาดแผล เดินทางมาจากเมืองวิลโดเนีย มาแจ้งข่าวว่าตอนนี้เมืองวิลโดเนียเกิดเหตการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อ2วันก่อนอยู่ๆก็เกิดเหตแผ่นดินไหวและอยู่ๆก็มีแท่นเสาปูนสีดำสูงเกือบ50เมตรผุดขึ้นมาที่กลางเมือง โดยที่ปลายแท่นเสานั้นมีไม้กางเขนอันใหญ่สีดำแต่เป็นไม้กางเขนกลับหัว และจากนั้นก็มีหมอกสีดำปกคุมเมืองและเมื่อหมอกหายไป มอนสเตอร์ที่ปิดผลึกไว้ให้อยู่ในถ้ำน้ำแข็งอยู่ๆก็ทะลักออกมาอาละวาทฆ่าชาวบ้านและนักรบที่อยู่ที่นั่นตายกันเป้นเบือเลย เหมือนกับว่าพอแท่นหินไม้กางเขนสีดำโผล่ออกมาก็ทำให้อณาเขตผนึกที่กั้นมอนสเตอร์ไว้สลายหมดทำให้มอนสเตอร์ออกมาอาละวาทได้"
นาฟตี้ : " อย่าบอกนะว่าพี่ฟริกซ์ไปทำภารกิจที่เมืองนั้น"
อาเวีย : " ใช่ " (คำตอบสั้นๆของอาเวีย ก็ทำให้นาฟตี้ร้องไห้โฮในทันที)
ลูฟเฟ่น : " ใจดีๆไว้นาฟตี้ เจ้าฟริกซ์เก่งออกขนาดนั้น คงไม่เป้นไรหรอก" (ลูฟเฟ่นรีบกอดน้องสาวไว้เพื่อปลอบใจ)
อาเวีย : " นั้นสิ เจ้าฟริกซ์เก่งขนาดนั้นต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว และทหารที่มาส่งข่าวอีกอย่างก็เป้นคนของเจ้าฟริกซ์ด้วย เจ้าฟริกซ์คงเป้นคนให้ส่งข่าวมาแจ้งกับทางการเองนั้นละ"
ลูฟเฟ่น : " เห้นไหมๆ น่าจะเป้นเจ้าฟริกซ์ละที่ให้คนมาส่งข่าว แต่ข้าสงสัยเรื่องเกิดเมื่อ2วันที่แล้วแต่ทำไมข่าวเพิ่งถูกมาส่งละ"
อาเวีย : " ทางรถไฟใต้ดินที่จะไปเมืองวิลโดเนียถูกใครบางคนทำลายกลางทางระหว่างเมืองไปแล้ว เลยทำให้รถไฟใต้ดินไม่สามารถเดินรถได้เพราะท่านเซอร์ก็ส่งทหารและนักรบไปแล้วเมื่อบ่ายแต่ก็ต้องเดินกลับมากันเพราะเส้นทางรถไฟถูกปิดหมดเพราะหินถล่มทับเส้นทางรถไฟที่ก่อนจะถึงป้อมปราการตะวันออก และคาดว่าสถานีวิลโดเนี่ยก็คงถูกทำลายไปแล้วเหมือนกัน "
ลูฟเฟ่น : " งั้นทางการจะทำยังไงละ "
อาเวีย : " ทางการจะจัดเคลื่อนพลเท่าที่รวบรวมได้อย่างไวที่สุดก็ประมาณ1000คนไปวิลโดเนียเย็นนี้และท่านเซอร์ก็ส่งม้าเร็วไปแจ้งข่าวที่ป้อมปราการตะวันออกให้ส่งคนที่ป้อมปราการตะวันออกไปช่วยที่วิลโดเนียก่อน100-300คน เพราะที่ป้อมปราการตะวันออกมีทหารและนักรบอยู่ประมาณ 500คนประจำการอยู่ที่นั่น และถ้าพวกเราเร่งเดินทางให้ไวขึ้นคงถึงเมืองตอนเช้า ข้าเลยมาบอกพวกเจ้าไงว่าจะไปด้วยกันไหม"
นาฟตี้ : " ถึงพี่อาเวียไม่บอก ฉันก็จัดของและเตรียมตัวเดินทางเรียบร้อยแล้ว" (ภาพที่อาเวียและลูฟเฟ่นเห้นคือนาฟตี้ไม่ได้ร้องไห้แล้ว แถมยังจัดเตรียมของและเตรียมตัวออกเดินทางแล้ว ทำให้ลูฟเฟ่นก็ลุกไปจัดข้าวของเหมือนกัน ส่วนอาเวียก็ลงไปบอกมาดาหว่องให้เตรียมสเบียงให้หน่อยและอาเวียเองก็รีบกลับบ้านเพื่อกลับไปเอาอาวุธและสัมพาระของตัวเองและกลับมารอพวกนาฟตี้ที่ชั้น1ของโรงแรม และอาเวียก็พาสองพี่น้องไปรวมพลที่หน้าประตูทางอออกด้านตะวันออกของเมืองโดยที่นาฟตี้แลลูฟเฟ่นก็ไม่ลืมที่จะเอารูปปั้นเทวีลูซิสไปด้วยตามคำสั่งของเจ้าของรูปปั้นนั้น และทั้งหมดก็ออกเดินทางในทันที โดยมีอาเวียและเรนาร์ดเป็นหัวหน้า 2คนในภาระกิจนี้)
เวลาประมาณ 3ทุ่ม ทางด้านป่าใบเมเปิ้ล ฟริกซ์และชาวเมืองกับทหานนักรบที่เมืองวิลโดเนียที่หนีรอดออกมาได้ประมาณ 300คน ก็พักและทำการรักษาบาดแผลกันอยู่ ซึงที่พักห่างจากเมืองวิลโดเนียประมาณ2 กิโลเมตรได้ โดยที่ฟริกซ์ให้คนไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่ป่าหน้าเมืองวิลโดเนีย เพื่อเฝ้าดูเหตการณ์ในเมือง และฟริกซ์ก็ได้คุยปรึกษาหารือกับหัวหน้าสมาคมเบอร์เซอร์เกอร์
ลูคัส และหัวหน้าสมาคมวอร์ลอค
เรน่า ที่ทั้ง2สมาคมประจำอยู่ที่เมืองนี้
ลูคัส : " เกิดบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย อยู่ๆมอนสเตอร์ระดับสูงออกมาจากถ้ำที่เป้นพื้นที่ปิดผนึกได้ยังไง และไอ้แท่นเสาบ้านั้นอยู่ๆก็เกิดขึ้นมาได้ยังไง เดี๋ยวเช้าแล้วข้าจะจัดคนที่พอสู้ได้ไปยึดเมืองคืนจากพวกมอนสเตอร์นั่น"
ฟริกซ์ : " ใจเย็นๆสิ ยังอารมร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะท่านลูคัส ตอนนี้เราต้องนึกถึงชาวบ้านและคนที่เจ็บก่อนสิ
เรน่า : "ถูกต้องแล้ว ตามที่พริกซ์พูด ต้องรักษาคนเจ็บก่อน และพอรุ่งเช้าค่อยพาชาวบ้านและคนเจ็บอพยพไปที่ป้อมปราการตะวันออกก่อน เพราะพวกเราแทบไม่มียากันเลยนะ และเครริคและนันที่มีก็มีแค่ 5คนเอง พวกนั้นต้องทำการรักษาทั้งวันทั้งคืน ท่านยังจะพาคนไปบาดเจ็บล้มตายอีกหรือ"(เมื่อเรน่าพูดจบ ก็ทำให้ลูคัสหายคลั่งขึ้นมาหน่อยและลูคัสก็แกล้งเดินไปมา แต่จริงๆแล้วลูคัสเดินไปสำรวจตรวจตาคนเจ็บและชาวบ้าน ฟริกซ์ก็เลยมองหน้าของเรน่าและอดขำไม่ได้ว่าลูคัสเป้นคนอารมร้อนตามนิสัยเบอร์เซอร์เกอร์ แต่ใจจริงก็เป็นคนที่รักและห่วงชาวบ้านมากเหมือนกัน)
ทหารสอดแนม : "ท่านฟริกซ์ มีกองทหารและนักรบประมาณ300เดินทางใกล้มาถึงที่พักของเราแล้ว สงสัยเป้นพวกของที่ป้อมปราการตะวันออก"
ฟริกซ์ : " รีบไปนำทางพวกเค้ามาทางที่พักของพวกเราเร็ว จะได้มาปรึกษาหารือกันแก้สถานการณ์นี้"(พอฟริกซ์สั่งการเสร็จ ทหารสอดแนมรีบวิ่งไปทางกองทหารและนักรบของป้อมปราการตะวันออกทันที)
เรน่า : " เอ.. ใครเป้นคนนำกองกำลังนี้มานะ ถ้าพูดถึงป้อมปราการตะวันออกก็มีแค่ หัวหน้าสมาคมเบรด ไซเฟอร์ กับ หัวหน้าสมาคมแอสซาซิน เมย่า "
ฟริกซ์ : " ถ้าให้ฉันเดาในสถานการณ์แบบนี้ คงเป้นท่านไซเฟร์แน่ๆเพราะท่านไซเฟอร์สุขุมเยือกเย็น ส่วนท่าเมย่าคงต้องเฝ้าป้อมปราการตะวันออกพร้อมกับกองกำลังที่เหลือ เพราะป้อมปราการนั้นต้องมีหัวหน้าและกองกำลังเฝ้าอยู่ตลอด24ชั่วโมงมาเป้นเวลาช้านานแล้ว"
เรน่า : "ก็น่าจะเป้นตามที่เจ้าบอก เพราะสถานการณ์แบบนี้ไซเฟอร์น่าจะเหมาะสมที่สุด"(พอเรน่าพูดจบสักพักก็มีคนจามฮัดชิ้วมาเป็นระยะ)
ไซเฟอร์ : " สงสัยมีใครนินทาอะไรฉันไหมเนี่ย ฮ่าๆๆ"
เรน่า : " สงสัยคำนินทานั้นมาจากสาวๆที่ท่านจากมาแบบเร่งด่วนละมั้ง "
ไซเฟอร์ : " พูดเข้าไปนั่น ไงเจ้าฟริกซ์ หายหน้าหายตาไปเลยนะ ตั้งแต่ให้เมย่าเคี่ยวเข็นฝึกวิชาให้นะ เดี๋ยวนี้รู้สึกดังใหญ่แล้วนะ เป้นถึงนักล่าลำดับที่3 เจ้ารู้ไหม เมย่ามันเอาไปคุยใหญ่เลยว่าสอนลูกศิษย์ดี ฮ่าๆๆ"
ฟริกซ์ : " มันก็ใช่จริงๆตามที่คุณเมย่าพูดนั่นละ เพราะคุณเมย่าเค้าสอนผมด้วยคอสพิเศษสำหรับพวกหัวดื้อ ผมถึงได้เก่งแบบนี้ " (ทั้ง3หัวเราะร่าเพราะรู้ว่าเมย่านั้นมีนิสัยปากร้ายใจดี ทำโหดไปงั้นละ แต่ดันใจดีมากๆๆ)
เรน่า : " เจ้าพานักรบและทหารมากี่คนละเนี่ย เห้นทหารสอดแนมแจ้งว่าประมาณ300 คน"
ไซเฟอร์ : "ประมาณนั้นละ แต่ไม่ต้องห่วง ทหารครึ่งหนึ่งที่พามาเป็นนักรบที่มีฝีมือมากซึ่งคัดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ใจจริงก็อยากพามาหมดป้อมพร้อมกับเมย่า แต่ทำไงได้กฎต้องเป็นกฎที่ต้องมีคนเฝ้าป้อม และอีกอย่างก็มีม้าเร็วมาส่งข่าวว่า คาดว่าตอนเช้าคงมีทหารและนักรบมาจากเมืองเซาเทรินฟอร์ทอีกประมาณ1000คนได้มั้ง" (ไซเฟอร์พูดจบก็หยิบสารให้กับเรน่าและฟริกซ์ดู)
ลูคัส : " งั้นตอนเช้าถ้ากำลังพลมาถึงแล้วเราค่อยบุกยึดเมืองคืนมาเลย ข้าคันไม้คันมือที่อยากจะล้างแค้นมอนสเตอร์ที่มันมาทำลายเมืองและฆ่าชาวเมืองเต็มที่"
ไซเฟอร์ : " อ้าว..เจ้าก็รอดมาได้ด้วยหรือ นึกว่าเมาหลับแล้วออกมาไม่ทันซะอีก ฮ่าๆๆ)
ลูคัส : " ปากดีนัก มาเจอกันหน่อยไหม ถือว่าเรียกเหงือก่อนออกแรงพรุ่งนี้เช้า" (ลูคัสพูดและหยิบขวานใหญ่ออกมา และไซเฟอร์เองก็เตรียมชักดาบใหญ่ออกมาเหมือนกัน เพราะทั้งคู่ในอดีตตอนหนุ่มๆทั้งสองมีเรื่องบาดหมางใจกันเพราะสาวเพราะไซเฟอร์นั้นหล่อกว่าลูคัสมาก สาวๆที่ลูคัสจีบส่วนมากไซเฟอร์จะได้หมด)
นายทหารสอดแนว : " แย่แล้วๆๆ ท่าฟริกซ ท่านเรน่า ท่าลูคัส หินและต้นไม้ที่พวกเราช่วยกันมายันประตูปิดทางเข้าออกไว้ ตอนนี้มันเริ่มจะพังลงมาแล้วและมีเสียงมอนสเตอร์มันจะออกมาแล้ว
ทั้งหมดได้ยินดังนั้นจึงรีบพากำลังรบส่วนใหญ่รีบวิ่งไปที่หน้าเมืองวิลโดเนีย และแบ่งทหารส่วนหนึ่งให้นำทางพาชาวบ้านและผู้บาดเจ็บไปยังป้อมปราการตะวันออก เพราะถ้ามอนสเตอร์มันออกจากเมืองมาได้ คงยุ่งกว่านี้หลายเท่า ทุกคนจึงพยายามขังให้มันอยู่แต่ในเมืองไซเฟอร์ : " เจ้าได้ออกแรงแล้วละลูคัส ฮ่าๆๆ "
ลูคัส : " เจ้าเองละเพิ่มมาถึง นั่งพักได้แป๊ปเดียว ต้องมาออกรบแล้วจะไหวหรือ ฮ่าๆๆ "
เรน่า : " เฮ้อ..เจ้าบ้า2คนนี้ยังจะมีเวลามาทะเลาะกันเป้นเด็กๆอีก ไม่อายพวกทหารและนักรบบ้างหรือ" (2คนหันไปดูก็เห้นอาการกลั้นหัวเราะของทหารและนักรบที่ได้ยินคำสนทนาของ2คนนั้น แต่ไม่อาจหัวเราะได้ ถึงแม้อยากจะหัวเราะก็ตามทีเถอะ)
ฟริกซ์ : " กำจัดมอนสเตอร์มันคงง่ายกว่าทำให้ท่านทั้ง2คนหยุดทะเลาะนะเนี่ย"
"ซเฟอร์/ลูคัส : "เจ้าฟริกซ์" (พูดพร้อมกันด้วยเสียงอันดัง และทหารและนักรบทั้งหมดก็กลั้นหัวเราะไม่ไหว จนหัวเราะออกมาทั้งๆที่วิ่งอยู่ ก็ถือว่าเป้นการผ่อนคลายระบายความเครียดของเหล่าทหารและนักรบที่กำลังจะไปรบในเมืองข้างหน้า เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า จะมีคนได้กลับมาหัวเราะแบบนี้สักกี่คน..............)