GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1] 2
ผู้เขียน หัวข้อ: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษกู้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดาเอานะว่  (อ่าน 1582 ครั้ง)
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษกู้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดาเอานะว่
« เมื่อ: 23-01-2009, 05:49:47 »

คำเตือน บทความเรื่องนี้อาจให้ภาพหรือเสียงที่ไม่เหมาะสม ผู้อ่านอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด

บทที่ 1 ปฐมบทแห่งศรัทธา

ตอน  ตำนานสงครามศักดิ์สิทธิ์ตอนที่ 1

ใช่ แล้วนี่แหละ วิถีชีวิตของเรา วิถีชีวิตแห่งพาราดิน อัศวินแห่งลูซิสเอ๋ย จงต่อสู้ ยืนหยัดบนหอกกางเขนอันศักดิสิทธิ์ของเรา และจงพลีชีพของเจ้าเพื่อเป็นเครื่องบูชาแห่งความศรัทธา

น้ำเสียงบุรุษชราที่เปี่ยมด้วยความศรัทธา ให้ความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกับสภาพที่ดูร่วงโรยไปมาก แต่สามารถสร้างความหึกเหิมและเติมไฟอันร้อนแรงให้กับบรรดานักรบแห่งลูซิสกว่า
หลายหมื่นชีวิตที่ได้มาร่วมชุมนุม ณ ลานหน้าวิหารเมทัลลิกาในงานฉลองวันครบรอบอีกทศวรรษหนึ่งนช่วงอายุขัยของชายชราผู้นี้ สายตานับร้อยนับพันจ้องด้วยความชื่นชม ยกย่อง และเถิดทูลความเสียสละของเขาที่มีต่อศาสนจักร แม่ทัพที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์พระสันตะปาปาในยุคสงครามศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างศาสนจักรวิหารแห่งลูซิสและโลกมนตราแห่งความมืด
 และเป็นชัยชนะที่มีความหวังอันริบหรี่  เหล่าบรรดาเครลิคและนันกว่าหมื่นชีวิตที่ถูกจับไปทรมานจากความทะเยอทะยานที่จะครอบครองโลกของนักรบมนต์ดำวอลลอค
 หลายร้อยชีวิตที่ต้องสังเวยเวทย์ แผ่นดินถูกสาปมืดและหนาวเย็น กลิ่นไอแห่งความตายกำลังคืบคลานไปทั่วผืนปฏพี แต่มีเพียงที่เดียวที่รอดพ้นจากบ่วงแห่งอาทรัม
มีเพียงที่เดียวที่แสงตะวันสาดส่อง นั้นคือวิหารเมทัลลิกาแห่งลูซิส และผู้ถูกเลือกให้เป็นตำนานแห่งความศรัทธาคือเขาเพียงผู้เดียว   อังเดร เดอ นอท   ด้วยอำนาจแห่งศรัทธา
และพลังแห่งลูซิสที่พิทักษ์ร่างของเขา เกราะเหล็กแห่งดูราฮานที่สืบทอดมาจากต้นตระกูลเดอ นอท หอกกางเขนโบราน และโล่ห์เหล็กพญาอินทรีย์อาวุธคู่กาย
 ที่สานต่อความเป็นพาราดินจากบรรพบุรุษมาจนถึงตัวเขา ความหวังเดียวแห่งศาสนจักรและชาวโลกแห่งความสว่างอยู่ที่เขาและเพื่อนทหารหาญที่ต้องพลีกายถวายวิญญาณให้กับศึกครั้งนั้น
 การปะทะกันกับแม่มดผู้ที่ต้องการครองโลก เรน่า กับกองทัพวอลลอคที่เกิดขึ้นจากการนางแม่มดร้าย เรน่า เหตุการณ์การจับตัวบรรดานักศึกษาเวทย์ 30,000 ชีวิต
ที่เพิ่งจบการศึกษาจากที่ค่ายเวทย์  ท่ามกลางงานเลี้ยงฉลองวันจบการศึกษา ซึ่งว่ากันว่ามีอาจารย์ในค่ายบางคนรู้เห็นเป็นใจกับเหตุการณ์จับตัวนักศึกษาในครั้งนี้
เรน่าสาปนักศึกษาทั้งหมดดุจคนไร้วิญญาณความรู้สึก ล้างสมองและถ่ายทอดคาถาเวทย์มนต์ดำขั้นสูงให้แก่พวกเขา เพื่อจะใช้ให้พวกเขาเป็นเครื่องมือของนางแม่มดเรน่า
แล้วมันก็จริงนางสามารถครอบครองครึ่งค่อนโลกภายในเวลาไม่กี่สิบวัน โลกตกอยู่ในความมืดและความตาย วอลลอคทั้งสามหมื่นคนกระจายไปทุกสารทิศ
 ที่สุดท้ายที่เหลืออยู่และการครอบครองโลกของแม่มดเรน่ากำลังจะสำเร็จนั้นคือ พระวิหารเมทัลลิกา  หมู่บ้านเรดคลิฟที่เคยมีชีวิตชีวาถูกครอบงำด้วยความมืด
และเป็นค่ายทัพวอลลอค นางเดินทางมาด้วยตัวเองพร้อมเหล่าวอลลอค หวังเอาชีวิตของสันตะปาปาและเหล่านักรบศักดิ์สิทธิ์กลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่
เพียงทะเลเท่านั้นที่กั้นความสำเร็จของนาง นางอัญเชิญฝูงผู้นำสารแห่งความมืด ข้ามทะเลผืนนี้ไป และในที่สุดความมืดก็มาถึงพระวิหาร และแสงทองกำลังจะสิ้นไป
 เมฆฝนแห่งความมืดปกคลุมทั่วบริเวณ กองทัพศักดิ์จำนวนไม่กี่พันที่เฝ้าวิหารพร้อมยุทธภัณฑ์กำลังรับพรสุดท้ายจากสันตะปาปา
 ประตูพระวิหารเปิดขึ้นเป็นสัญญาณของการเปิดฉากการศึกในครั้งนี้
 Evil
"ข้าต้องการเพียงวิหารนี้เป็นที่สุดท้าย เพื่อโลกแห่งความมืดของข้าจะได้รู้ว่า ข้าเท่านั้นที่เป็นหนึ่งเดียว"
นางแม่มดเรน่าก้าวเข้ามาในวิหาร พร้อมกลิ่นไอแห่งความแค้น
 Angry
"บังอาจ นังแม่มดร้ายจงเอาความบาป ความโสมม ของเจ้าออกจาวหารศักดิ์สิทธิ ์ เดี๋ยวนี้"
เสียงอัศวินอังเดรตะโกนจากหน้าแท่นบูชา ข่มนางได้ไม่น้อย
 laugh
เฮอะ วิหารอันศักดิ์สิทธิ์ ฮะฮะฮะฮ่า ข้าอยากจะขำนัก วิหารอันศักดิ์ ท่านอัศวินอังเดร ท่านกล้าพูดคำนี้หรอ .....เรน่าพูดพร้อมกับกวักมือให้วอลลอคนายหนึ่งเอาตัวหญิงสาวในชุดนักบวชเข้ามาในพระวิหาร.......นี่นะเหรอ   ที่ศักดิ์สิทธิ์  ท่านรักนางใช่มั้ยท่านถึงไม่เลือกข้า ท่านตามนังนี้มา ท่านทิ้งข้ามา ท่านมาอยู่ในวิหารนี้ก็เพราะมัน ข้าโดดเดี่ยวเพราะข้าไม่อาจรักใครได้อีก ข้าเจ็บปวด และวันนี้ข้าจะทำท่านดูว่าข้ามีค่าควรแก่ท่านมากกว่านังชีนี่แค่ไหน
 ไม่
มันไม่เกี่ยวกัน.....เจ้าอยากครอบครองทุกอย่างแม้แต่ตัวข้า ใจของข้า  แต่นางบริสุทธิ์นางไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้ารักนาง
 Evil
เห็นมั้ยละ  ท่านก็เป็นแค่อัศวินจอมปลอม ท่านยอมรับออกมาแล้ว ว่าท่านมาอยู่ในวิหารเนี่ยเพราะจุดประสงค์ของตัณหา
 ไม่
ไม่ใช่ ข้าอยู่ที่นี่เพื่อรับใช้ศาสนจักรด้วยความศรัทธามั่น  และข้าก็ูถูกเลือกให้กำจัดเจ้า
 laugh
เจ้าเห็นมะ ว่ามีพื้นที่ไหนบ้างที่มีความสว่างหลงเหลืออยู่  ไม่มี  และข้าจะปิดฉากท่านกับนาง มาอยู่กับข้าเถอะ ข้าจะไว้ชีวิตท่านและข้าจะให้ท่านเป็นราชาแห่งวินโดเนีย
 ไม่
ไม่มีทาง ข้าไม่ได้รักเจ้า และข้าก็ไม่มีทางขายวิญญาณให้กับซาตานอย่างเจ้าหรอก
 Angry Cry
แล้วโจเซฟละ  ท่านทิ้งเขาได้ยังงัย เขาทำอะไรผิด  เขาเป็นลูกท่านนะ
 Evil ไม่
ความผิดมันเกิดจากเจ้า เจ้าอยากครอบครองข้า  แต่ความสัมพันธ์ทางกายก็ไม่อาจให้ข้ารักเจ้าได้ หากท่านจะเอาลูกมาให้ข้า ข้าก็จะฟูมฟักให้เขาอยู่ในทางที่พระเจ้าทรงเลือก
 Angry
ไม่ ลูกของข้า ข้าเลี้ยงเองได้ และถ้าท่านไม่ไปกับข้า ข้าจะกำจัดที่นี้ซะ และหากวันนี้ท่านรอดไปได้ลูกของท่านจะเป็นคนเด็ดศรีษะของท่านเอง...........ทันใดนั้นนางก็โยนหญิงสาวคนนั้นลงกับพื้นพร้อมกับชี้ไม้เท้าคู่ใจไปที่หน้าของเธอ
 Shocked Cry
อย่า........อย่านะ เรน่า นางไม่เกี่ยว
 Angry
รักกันมาใช่มะ ข้าจะพรากมันไปอยู่ปรโลก.......สาป เป็น หิน   ร่างหญิงสาวกลายเป็นหินอย่างช้าๆ
 Shocked
ไม่  มาเรีย  มาเรีย   ไม่....................อัศวินแห่งลูซิส หลั่งน้ำตาแห่งความรัก คนที่เขารักกำลังลาโลกไปอย่างช้าๆ..............เรน่า เจ้าใจร้ายนัก ใจเจ้าทำด้วยอะไร ข้าอยากจะรู้นัก
 laugh
ที่นี้ข้าก็หมดเสี้ยนหนามไปแล้วเจ้าจะกับไปอยู่กับข้าหรือไม่ ท่านอังเดร ฮะฮะฮะฮะฮะ
 ไม่
ข้าจะไม่ไปกับเจ้า เจ้าผู้หญิงใจร้าย ใจอำมหิต จิตสกปรก
 Smiley
น้อมรับคำชมท่านอัศวิน   ถ้าท่านยังดื้ออยู่ละก็ข้าก็จะไม่เตือนท่านอีกแล้ว เด็กๆ เด็ดลมหายใจทุกลมในวิหารนี้  ส่วนอัศวินอังเดรข้าจัดการเอง.....ทันใดนั้น วอลลอคผู้รับใช้นางเรน่าก็กรูเข้ามาในลานหน้าวิหาร
 Angry
ทหารของพระเจ้า จงลุกขึ้นต่อสู้ถวายความศรัทธาเถิด เทพแห่งลูซิสขอท่านปกป้องเหล่าทหารด้วย...........เมื่อสิ้นสุดเสียของอัศวินอังเดร ทหารทุกนายก็ลุกขึ้น ตั้งโล่ประจำตัวเป็นแถวเพื่อจะฝ่าเหล่าวอลลอคที่ขวางอยู่หน้าวิหารออกไป แสงจากหลังคาของวิหาร คล้ายกับเป็นการอวยพรของลูซิส  ออร่าเคลือบเกราะของนักรบแห่งลูซิสและเกราะดูราฮานของอัศวินอังเดรเปล่งประกายราบกับว่าเกราะนี้กลายเป็นเพชร
 Angry
.......พาราดินทั้งหลาย   โล่ห์กระแทก.......เหล่าพาราดินที่ก่อตัวกันเมื่อครู่บัดนี้ได้กลายเป็นก้อนหินใหญ่มหึมาเรืองแสงแห่งลูซิสพุ่งเข้าสู่กองทัพวอลลอคนับหมื่นด้านหน้าประตู กระจายไปคนละทิศคนละทาง ดับชีวิตวอลลอคที่โดนโล่ห์กระแทกนี้พุ่งเข้าใส่อย่างจังในทันทีกว่าร้อยศพ สงครามนองเลือดกำลังจะเกิดขึ้น
 Angry
......อาภรณ์แห่งอาทรัม.....เด็กๆของข้าสวมใส่และจงเรียกสายฝนแห่งความมืดออกมา.... ทันใดนั้นเอง บรรยากาศแห่งความมืดคืบคลาน ออร่าสีดำน่าสพึงกลัวถุกขับออกมาจากชุดนักรบวอลลอดสีดำคลิบแดง เหล่าววอลลอคเอาลูกแก้วที่ขับไอความมืดออกมา พร้อมกับร่ายเวทย์ แววตาที่ไปหลงเหลือความเมตตาของความเป็นมนุษย์เลยแม้แต่น้อย น้ำเริ่มหยดจากฝากฟ้าเป็นสีแดงเหมือนเลือด เกราะของพาราดินเมื่อโดนสายฝนนี้ก็เกิดเป็นควันเล็กๆลอยขึ้นมา  คุณพระ เกราะที่แข็งแกร่งดุจดังเพชรก็ไม่ปานกำลังละลาย สายฝนห่านี้กำลังกลายเป็นน้ำกรดดีๆ นี่เอง  มีเพียงเกราะดุราฮานของอัศวินอังเดรเท่านั้นที่เหมือนว่าไม่สะทกสะทานอะไร ฝนแห่งสายเลือดโหมแรงขึ้น เกราะของเหล่าพาราดินละลายจนถึงชั้นใน จนถึงเนื้อ เหล่าทหารหาญก็เริ่มแสบร้อนและร้องครวญอย่างทรมาน บรรยากาศโหยหวญ ชวนขนลุก เสียงอัศวินอังเดรดังขึ้น
 Sad
........ พี่น้องของข้าอย่าได้ เสียสติ จงเพ่งจิตอธิษฐาน ขอพร จากลูซิส ให้ท่านมีร่างกายที่แข็งดุจเหล็กไหล โอ้เทพลูซิส ขอจงอวยพรแก่ข้าและทหารของท่าน ให้มีกายาเหล็กไหลด้วยเถิด.....ลำแสงเปล่งประกายจากร่างกายของเหล่าพาราดิน  แปลกที่น้ำฝนทำลายเกราะของหล่าพาราดินได้แต่บัดนี้ไม่อาจจะทำอะไรได้อีกต่อไปผิดกับเมื่อครู่ที่สายฝนดูเหมือนจะคร่าชีวิตเหล่าพาราดินไปสู่ยมโลกเสียแล้ว

ติดตามตอนต่อไป รัก นะจ้ะ

kim jun bi
 

Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษกู้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดาเอานะ
« ตอบ #1 เมื่อ: 23-01-2009, 05:58:33 »

^_^เป็นดั่งไผ่ลู่ลม^_^
Jr. Member
**
กระทู้: 180


ผมเป็นใคร???


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #2 เมื่อ: 23-01-2009, 08:44:04 »

คิดเองหรอเนี่ย Shocked

อันเพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย    ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
ถึงมีเกลือ น้อยนิด ด้อยราคา   ดีกว่าน้ำ เค็มที่ เต็มทะเล

                      เกมน่าเล่นที่อยากแนะนำ

http://s1.th.gladiatus.com/game/c.php?uid=104993
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษผู้พิทักษ์มหาวิหารแห่งศรัทธา
« ตอบ #3 เมื่อ: 23-01-2009, 12:43:35 »

เกราะเหล็กแห่งดูราฮานที่สืบทอดมาจากต้นตระกลเดอ นอท หอกกางเขนโบราน และโล่ห์เหล็กพญาอินทรีย์อาวุธคู่กาย
 ที่สานต่อความเป็นพาราดินจากบรรพบุรุษมาจนถึงตัวเขา ความหวังเดียวแห่งศาสนจักรและชาวโลกแห่งความสว่างอยู่ที่เขาและเพื่อนทหารหาญที่ต้องพลีกายถวายวิญญาณให้กับศึกครั้งนั้น
 การปะทะกันกับแม่มดผู้ที่ต้องการครองโลก เรน่า กับกองทัพวอลลอคที่เกิดขึ้นจากการนางแม่มดร้าย เรน่า เหตุการณ์การจับตัวบรรดานักศึกษาเวทย์ 30,000 ชีวิต
ที่เพิ่งจบการศึกษาจากที่ค่ายเวทย์  ท่ามกลางงานเลี้ยงฉลองวันจบการศึกษา ซึ่งว่ากันว่ามีอาจารย์ในค่ายบางคนรู้เห็นเป็นใจกับเหตุการณ์จับตัวนักศึกษาในครั้งนี้
เรน่าสาปนักศึกษาทั้งหมดดุจคนไร้วิญญาณความรู้สึก ล้างสมองและถ่ายทอดคาถาเวทย์มนต์ดำขั้นสูงให้แก่พวกเขา เพื่อจะใช้ให้พวกเขาเป็นเครื่องมือของนางแม่มดเรน่า
แล้วมันก็จริงนางสามารถครอบครองครึ่งค่อนโลกภายในเวลาไม่กี่สิบวัน โลกตกอยู่ในความมืดและความตาย วอลลอคทั้งสามหมื่นคนกระจายไปทุกสารทิศ
 ที่สุดท้ายที่เหลืออยู่และการครอบครองโลกของแม่มดเรน่ากำลังจะสำเร็จนั้นคือ พระวิหารเมทัลลิกา  หมู่บ้านเรดคลิฟที่เคยมีชีวิตชีวาถูกครอบงำด้วยความมืด
และเป็นค่ายทัพวอลลอค นางเดินทางมาด้วยตัวเองพร้อมเหล่าวอลลอค หวังเอาชีวิตของสันตะปาปาและเหล่านักรบศักดิ์สิทธิ์กลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่
เพียงทะเลเท่านั้นที่กั้นความสำเร็จของนาง นางอัญเชิญฝูงผู้นำสารแห่งความมืด ข้ามทะเลผืนนี้ไป และในที่สุดความมืดก็มาถึงพระวิหาร และแสงทองกำลังจะสิ้นไป
 เมฆฝนแห่งความมืดปกคลุมทั่วบริเวณ กองทัพศักดิ์จำนวนไม่กี่พันที่เฝ้าวิหารพร้อมยุทธภัณฑ์กำลังรับพรสุดท้ายจากสันตะปาปา
 ประตูพระวิหารเปิดขึ้นเป็นสัญญาณของการเปิดฉากการศึกในครั้งนี้
 Evil
"ข้าต้องการเพียงวิหารนี้เป็นที่สุดท้าย เพื่อโลกแห่งความมืดของข้าจะได้รู้ว่า ข้าเท่านั้นที่เป็นหนึ่งเดียว"
นางแม่มดเรน่าก้าวเข้ามาในวิหาร พร้อมกลิ่นไอแห่งความแค้น
 Angry
"บังอาจ นังแม่มดร้ายจงเอาความบาป ความโสมม ของเจ้าออกจาวหารศักดิ์สิทธิ ์ เดี๋ยวนี้"
เสียงอัศวินอังเดรตะโกนจากหน้าแท่นบูชา ข่มนางได้ไม่น้อย
 laugh
เฮอะ วิหารอันศักดิ์สิทธิ์ ฮะฮะฮะฮ่า ข้าอยากจะขำนัก วิหารอันศักดิ์ ท่านอัศวินอังเดร ท่านกล้าพูดคำนี้หรอ .....เรน่าพูดพร้อมกับกวักมือให้วอลลอคนายหนึ่งเอาตัวหญิงสาวในชุดนักบวชเข้ามาในพระวิหาร.......นี่นะเหรอ   ที่ศักดิ์สิทธิ์  ท่านรักนางใช่มั้ยท่านถึงไม่เลือกข้า ท่านตามนังนี้มา ท่านทิ้งข้ามา ท่านมาอยู่ในวิหารนี้ก็เพราะมัน ข้าโดดเดี่ยวเพราะข้าไม่อาจรักใครได้อีก ข้าเจ็บปวด และวันนี้ข้าจะทำท่านดูว่าข้ามีค่าควรแก่ท่านมากกว่านังชีนี่แค่ไหน
 ไม่
มันไม่เกี่ยวกัน.....เจ้าอยากครอบครองทุกอย่างแม้แต่ตัวข้า ใจของข้า  แต่นางบริสุทธิ์นางไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้ารักนาง
 Evil
เห็นมั้ยละ  ท่านก็เป็นแค่อัศวินจอมปลอม ท่านยอมรับออกมาแล้ว ว่าท่านมาอยู่ในวิหารเนี่ยเพราะจุดประสงค์ของตัณหา
 ไม่
ไม่ใช่ ข้าอยู่ที่นี่เพื่อรับใช้ศาสนจักรด้วยความศรัทธามั่น  และข้าก็ถูกเลือกให้กำจัดเจ้า
 laugh
เจ้าเห็นมะ ว่ามีพื้นที่ไหนบ้างที่มีความสว่างหลงเหลืออยู่  ไม่มี  และข้าจะปิดฉากท่านกับนาง มาอยู่กับข้าเถอะ ข้าจะไว้ชีวิตท่านและข้าจะให้ท่านเป็นราชาแห่งวินโดเนีย
 ไม่
ไม่มีทาง ข้าไม่ได้รักเจ้า และข้าก็ไม่มีทางขายวิญญาณให้กับซาตานอย่างเจ้าหรอก
 Angry Cry
แล้วโจเซฟละ  ท่านทิ้งเขาได้ยังงัย เขาทำอะไรผิด  เขาเป็นลูกท่านนะ
 Evil ไม่
ความผิดมันเกิดจากเจ้า เจ้าอยากครอบครองข้า  แต่ความสัมพันธ์ทางกายก็ไม่อาจให้ข้ารักเจ้าได้ หากท่านจะเอาลูกมาให้ข้า ข้าก็จะฟูมฟักให้เขาอยู่ในทางที่พระเจ้าทรงเลือก
 Angry
ไม่ ลูกของข้า ข้าเลี้ยงเองได้ และถ้าท่านไม่ไปกับข้า ข้าจะกำจัดที่นี้ซะ และหากวันนี้ท่านรอดไปได้ลูกของท่านจะเป็นคนเด็ดศรีษะของท่านเอง...........ทันใดนั้นนางก็โยนหญิงสาวคนนั้นลงกับพื้นพร้อมกับชี้ไม้เท้าคู่ใจไปที่หน้าของเธอ
 Shocked Cry
อย่า........อย่านะ เรน่า นางไม่เกี่ยว
 Angry
รักกันมาใช่มะ ข้าจะพรากมันไปอยู่ปรโลก.......สาป เป็น หิน   ร่างหญิงสาวกลายเป็นหินอย่างช้าๆ
 Shocked
ไม่  มาเรีย  มาเรีย   ไม่....................อัศวินแห่งลูซิส หลั่งน้ำตาแห่งความรัก คนที่เขารักกำลังลาโลกไปอย่างช้าๆ..............เรน่า เจ้าใจร้ายนัก ใจเจ้าทำด้วยอะไร ข้าอยากจะรู้นัก
 laugh
ที่นี้ข้าก็หมดเสี้ยนหนามไปแล้วเจ้าจะกับไปอยู่กับข้าหรือไม่ ท่านอังเดร ฮะฮะฮะฮะฮะ
 ไม่
ข้าจะไม่ไปกับเจ้า เจ้าผู้หญิงใจร้าย ใจอำมหิต จิตสกปรก
 Smiley
น้อมรับคำชมท่านอัศวิน   ถ้าท่านยังดื้ออยู่ละก็ข้าก็จะไม่เตือนท่านอีกแล้ว เด็กๆ เด็ดลมหายใจทุกลมในวิหารนี้  ส่วนอัศวินอังเดรข้าจัดการเอง.....ทันใดนั้น วอลลอคผู้รับใช้นางเรน่าก็กรูเข้ามาในลานหน้าวิหาร
 Angry
ทหารของพระเจ้า จงลุกขึ้นต่อสู้ถวายความศรัทธาเถิด เทพแห่งลูซิสขอท่านปกป้องเหล่าทหารด้วย...........เมื่อสิ้นสุดเสียของอัศวินอังเดร ทหารทุกนายก็ลุกขึ้น ตั้งโล่ประจำตัวเป็นแถวเพื่อจะฝ่าเหล่าวอลลอคที่ขวางอยู่หน้าวิหารออกไป แสงจากหลังคาของวิหาร คล้ายกับเป็นการอวยพรของลูซิส  ออร่าเคลือบเกราะของนักรบแห่งลูซิสและเกราะดูราฮานของอัศวินอังเดรเปล่งประกายราบกับว่าเกราะนี้กลายเป็นเพชร
 Angry
.......พาราดินทั้งหลาย   โล่ห์กระแทก.......เหล่าพาราดินที่ก่อตัวกันเมื่อครู่บัดนี้ได้กลายเป็นก้อนหินใหญ่มหึมาเรืองแสงแห่งลูซิสพุ่งเข้าสู่กองทัพวอลลอคนับหมื่นด้านหน้าประตู กระจายไปคนละทิศคนละทาง ดับชีวิตวอลลอคที่โดนโล่ห์กระแทกนี้พุ่งเข้าใส่อย่างจังในทันทีกว่าร้อยศพ สงครามนองเลือดกำลังจะเกิดขึ้น
 Angry
......อาภรณ์แห่งอาทรัม.....เด็กๆของข้าสวมใส่และจงเรียกสายฝนแห่งความมืดออกมา.... ทันใดนั้นเอง บรรยากาศแห่งความมืดคืบคลาน ออร่าสีดำน่าสพึงกลัวถุกขับออกมาจากชุดนักรบวอลลอดสีดำคลิบแดง เหล่าววอลลอคเอาลูกแก้วที่ขับไอความมืดออกมา พร้อมกับร่ายเวทย์ แววตาที่ไปหลงเหลือความเมตตาของความเป็นมนุษย์เลยแม้แต่น้อย น้ำเริ่มหยดจากฝากฟ้าเป็นสีแดงเหมือนเลือด เกราะของพาราดินเมื่อโดนสายฝนนี้ก็เกิดเป็นควันเล็กๆลอยขึ้นมา  คุณพระ เกราะที่แข็งแกร่งดุจดังเพชรก็ไม่ปานกำลังละลาย สายฝนห่านี้กำลังกลายเป็นน้ำกรดดีๆ นี่เอง  มีเพียงเกราะดุราฮานของอัศวินอังเดรเท่านั้นที่เหมือนว่าไม่สะทกสะทานอะไร ฝนแห่งสายเลือดโหมแรงขึ้น เกราะของเหล่าพาราดินละลายจนถึงชั้นใน จนถึงเนื้อ เหล่าทหารหาญก็เริ่มแสบร้อนและร้องครวญอย่างทรมาน บรรยากาศโหยหวญ ชวนขนลุก เสียงอัศวินอังเดรดังขึ้น
 Sad
........ พี่น้องของข้าอย่าได้ เสียสติ จงเพ่งจิตอธิษฐาน ขอพร จากลูซิส ให้ท่านมีร่างกายที่แข็งดุจเหล็กไหล โอ้เทพลูซิส ขอจงอวยพรแก่ข้าและทหารของท่าน ให้มีกายาเหล็กไหลด้วยเถิด.....ลำแสงเปล่งประกายจากร่างกายของเหล่าพาราดิน  แปลกที่น้ำฝนทำลายเกราะของหล่าพาราดินได้แต่บัดนี้ไม่อาจจะทำอะไรได้อีกต่อไปผิดกับเมื่อครู่ที่สายฝนดูเหมือนจะคร่าชีวิตเหล่าพาราดินไปสู่ยมโลกเสียแล้ว

ติดตามตอนต่อไป รัก นะจ้ะ

kim jun bi
พลอยชมพู เงินพจน์
Newbie
*
กระทู้: 11


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิด
« ตอบ #4 เมื่อ: 23-01-2009, 13:22:16 »

พี่เป้ยค่ะ เก่งมากมายเลยค่ะ พี่เป้ย
แต่งตอนที่2ไวไวนะค่ะ  อรีสรอติดตามผลงานของพี่เป้ยอยนู่นะค่ะ
5 5 5

 Smiley
พลอยชมพู เงินพจน์
Newbie
*
กระทู้: 11


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิด
« ตอบ #5 เมื่อ: 23-01-2009, 13:29:57 »

 laugh
พี่ เป้ย สู้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

อลีส เปน กาม ลาง จาย ห้ายย น้า คร้า
ไฟ ติ้ง
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #6 เมื่อ: 23-01-2009, 15:32:36 »

คำเตือน บทความเรื่องนี้อาจให้ภาพหรือเสียงที่ไม่เหมาะสม ผู้อ่านอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด

บทที่ 1 ปฐมบทแห่งศรัทธา

ตอน  ตำนานสงครามศักดิ์สิทธิ์ตอนที่ 2 (การอัญเชิญ)

ณ ลานหน้าวิหารศักดิ์สิทธิ์  ความมืดมนปกคลุมมหาวิหารไปทั่วบริเวณ  แสงตะวันที่เคยสาดส่องเมื่อครู่ กำลังค่อยๆเลือนหายภายใต้ กลีบเมฆฝนโลหิตแห่งความมืด  สายฝนสีแดงที่มีกลิ่นคาวเลือดแสดงถึงความโหยหิวชีวิต
เหล่าทหารพาราดินที่สวมใส่เกราะเหล็กดูหน้าเกรงขาม บัดนี้ฝนแห่งความมืดได้ละลายเกราะออกไปหมดเหลือเพียงร่างกายช่วงบนที่เปล่าเปลือยเต็มไปด้วยโลหิตที่แสบร้อนจากสายฝน แต่ว่าทันทีที่ อัศวินอองรี
อธิษฐานขอพรจากเทพลูซิส ร่างกายที่ดูเหมือนจะถูกกัดกินไปถึงกระดูกก็กลับมีแสงออร่าสว่างออกมา ใช่แล้ว บัดนี้ร่างกายของเหล่าทหารพาราดิน กลายเป็นร่างกายอันแข็งแกร่งดุจเหล็กไหล สงครามศักดิ์สิทธิ์กำลังประทุขึ้น
 laugh
โฮะๆๆๆ ท่านอังเดร พวกข้ายังไม่ใช้พลังอันแท้จริงเลยนะ  ท่านมีเพียงหยิบมือเดียวหรือจะสู้พวกข้าได้ ยอมแพ้ซะเถอะ ท่านก็รู้ว่าข้า สร้างความมืดปกคลุมโลกได้จนมาถึงนี้ อย่าเหนื่อยอีกเลย นะที่รัก มาอยู่กับข้าเถิด
ท่านจะได้เป็นราชาแห่งวินโดเนีย
 Smiley
ท่านดูถูกข้าได้แต่ท่านไม่สามารถดูถูกพลังอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพลูซิสได้หรอก
 Angry
ดี ข้าขี้เกียจรอแล้ว ข้าจะส่งเพื่อนของท่านไปสู่ยมโลก เลยและกัน..................บรรดาวอลลอคเอ๋ย จงอัญเชิญ อัศวินแห่งความมืด ผู้นำทางแห่งความมืด และผู้นำทางแห่งความมืดออกมา....
 Shocked
ทันใดนั้นเอง ลานหน้าวิหารก็เต็มไปด้วยเพลิงสีดำลากเป็นรูปสามเหลี่ยมหันปลายแหลมตรงข้ามกันเป็นรูปดาว จากนั้นก็เป็นกองเพลิงใหญ่ ล่งกลิ่นความแค้นคลุ้งไปทั่วบริเวณ กองเพลิงสูงใหญ่เสียดฟ้าและมีลักษณะคล้ายกับกำลังไหม้อิฐที่ก่อตัวกันเป็นรูปร่าง อัศวินแห่งความมืดคืออะไรกันแน่ หรือว่ามัน คือปีศาจของอิฐที่ก่อตัวเป็นกำแพงหนาสูงใหญ่ มีเปลวเพลิงมฤตยูครอกอยู่ตลอดเวลา ปีศาจโกเลมในตำนานนั้นเอง ไม่สินี่อาจจะเป็นมากกว่าโกเลม มันคืออัศวินแห่งความมืด ไม่ใช่หนึ่งหรือสองตัว มันมากันเป็นกองทัพ  อีกทางหนึ่งก็มีกองเพลิงลักษณะเดียวกันแต่เล็กกว่า ส่งกลิ่นความเลือดออกมาคลุ้งทั่วบริเวณ มันปรากฏตัวออกมาแล้ว ใช่มันมีลักษณะคล้ายกับว่าเป็นหมาป่าที่หิวโหย พร้อมกระโจนใส่ทุกขณะ นี่คือผู้นำทางแห่งความมืดหรือนี่ มันทำให้บรรยากาศเข้าสู่ความตายมากขึ้นทุกทีทุกที แล้วบนท้องฟ้านั่นคืออะไรกัน มังกร มังกรหรอนั้น ไม่นะมันบินปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆแห่งความมืด มักรที่มีร่างเคล้าเพลิงสีดำ พร้อมกับจ้องสายตาดุจดังเหยี่ยวมายัง บรรดานักรบแห่งเทพลูซิส คล้ายกับขู่บรรดาทหารหาญให้หวาดกลัวมัน  และเสียงร้องคำรามที่หน้ากลัวนั่นดังสนั่นแวกนภากาศไปทั่วบริเวณมหาวิหาร กองทัพพาราดินถูกล้อม เบื้องหน้าเป็นทะเล เบื้องหลังเป็นพระวิหารที่มีนักรบวอลลอคปิดกั้นอยู่ ทางออกทางซ้ายถูกปิดด้วยอัศวินแห่งความมืด  ทางออกทางขวาถูกปิดด้วยผู้นำทางแห่งความมืด เบื้องบนก็ถูกปิดล้อมด้วยผู้นำทางแห่งมืด  กำลังไม่กี่พันคนหรือจะฝ่ากองทัพกว่าหมื่นนี้ได้ จะมีชัยหรือเพียงมีชีวิตรอด ความหวังริบหรี่เหมือนกับกระดาษที่กำลังถูกไฟลามไปจนสุดปลายกลายเป็นขี้เถ้าอย่างช้าก็ไม่ปาน มันเริ่มแล้ว อัศวินแห่งความมืดก้าวมาถึงกองทัพพาราดินแล้วเหวี่ยงแขนก้อนอิฐเพลิงที่เต็มไปด้วยกำลังแรงดุจกัจพายุซัดเข้า เหล่านักรบกระเด็นไปไม่มีทิศทาง  แล้วฝูงหมาป่าเพลิงก็กระโจนใส่เหล่าพาราดินอีกฝั่งหนึ่ง เขี้นวอันแหลมคมกัดกระชากอัศวิน มันตะปบจนเหล่านักรบแห่งธรรมะต้องล้มลง และนั่น มันมาแล้ว มังกรเพลิงมันโฉบมากลางวงล้อมคว้าเอาเหล่านักรบขึ้นไปสู่ท้องฟ้าที่สูงจากพื้นหลายร้อยฟุตแล้วมันก็ปล่อยลงมาสู่พื้นดินดังสายผนมนุษย์ ตกลงมายังพื้น หวังที่จะให้ร่างของนักรบกระแทกแตกแหลกละเอียด
 Shocked
แต่ทว่าเมื่อเหล่าพาราดินถูกอัศวินแห่งความมืดเหวี่ยงกระแทกกระเด็นซัดไปกับพื้นบ้าง อาคารมหาวิหารบ้าง ตกทะเลบ้าง เหล่านักรบกล้ากลับไม่สะเทือนแต่อย่างใด ขณะเดียวกันแขนอันใหญ่โตที่ฟาดเหล่าพาราดินกลับเละเป็นผุยผง เหล่าพาราดินที่ยังยืนอยู่บ้างใช้โล่ห์พุ่งกระแทก บ้างแทงหอกแม่นยำไปกลางจุดกึ่งกลางของอัศวินแห่งความมืด แล้วมันก็กลายเป็นผุยผงไปในพริบตา สร้างความตื่นตะลึงมึนงงให้กับนักรบวออลลอคที่เคยกระหยิ่มยิ้มย่อง เพราะคิดว่าจะได้เห็นเลือดสาดแต่ก็คาดผิดไป อีกฝั่งหนึ่งเขี้ยวที่แหลมคมของผู้นำทางแห่งความมืดก็ไม่อาจทำอะไรร่างกายที่แข็งดุจเพชรของเหล่าพาราดินได้ พาราดินที่ยังเหลืออยู่ก็ยกหอกฟาดลงสู่พื้นทำห้เกิดคลื่นแหวกอากาศเป็นทางยาวและซัดผู้นำทางแห่งความมืด ร่างของพวกมันฉีกออกระหว่างกลางกลายเป็นกองเพลิงส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว และแน่นอนไม่เพียงแต่เหล่าพาราดินที่ถูกปล่อยลงมาจากฟ้าไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเขายังชูหอกคู่ใจขึ้นท้องฟ้าแล้วสะบัดไปรอบตัวทำให้เกิดพายุหมุนรุนแรงบรรดามังกรเพลิงบินไปมาไม่มีทิศทาง ไม่สามารถควบคุมปีกของมันได้ตกลงมาจากฟ้าสู่พื้น สิ้นฤทธิ์ปิดฉากปีศาจอัญเชิญทั้งสาม
 Smiley
เป็นยังไงละเรน่า  เจ้ายังคิดจะเอาชนะนักรบที่สู้ด้วยศรัทธาอย่างพวกข้าอีกหรือ     พรจากเทพแห่งลูซิสทำให้พวกข้ามีกายาเหล็กไหล พวกเจ้าก็ไม่อาจทำอะไรพวกข้าได้อีก
 laugh
ปับ ปับ ปับ นางตบมือ ...ข้าดีใจที่ข้าคิดไม่ผิดที่จะมาสู้กับพวกท่านเป็นกลุ่มสุดท้าย  พวกท่านไม่ทำให้ข้าผิดหวัง เอาละที่นี้ เริ่มเข้าสู่ความตายที่แท้จริงได้หรือยังละ ท่านอังเดร ฮ่า ฮ่า ฮ่า
 Evil
ข้าจะอุทิศการตายของพวกท่านไว้ในประสาทวินโดเนียของข้า เพราะนอกจากพวกเอล์ฟ แล้ว มีท่านเพียงกลุ่มเดียวที่ เด็ดหายใจยากที่สุด แต่ก็คงไม่ยากสำหรับข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
 Angry
บทสุดท้ายของการอัญเชิญ   ข้าขออัญเชิญยมทูตแห่งความมืด

ทันนั้นเองออราแห่งความมืดได้ปรากฏเหนือบรรดานักรบวอลลอคมีลูกเพลิงสีดำลอยขึ้นคล้ายกับลูกแก้ว มันค่อยๆ กลายเป็นรูปร่างคล้ายกับหัวกะโหลก   โอ้ สิ่งนี้เองหรอที่เรียกว่ายมทูตแห่งความมืด
บรรยากาสแห่งความตายคลุกกรุ่นอีกครั้งและคราวนี้ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ายมทูตแห่งความตายจะมาคร่าชีวิตของเหลื่าทหารพาราดินได้หรือไม่ติดตามการต่อสู้แห่งมหาสงครามนี้นตอนต่อไป

คิม จุน บิ
karato Luv.
Hero Member
*****
กระทู้: 3,352

โอ้วววว ว วว


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #7 เมื่อ: 23-01-2009, 15:48:56 »

เนื้อเรื่องตอนแรกๆสุดยอดมากคับ
เป็นการดำเนินเรื่องที่อ่านแล้ว ให้ความรู้สึกสนุก รู้สึกตื่นตาดี
ยังไงๆก็ลงมาให้ผมอ่านอีกนะ สู้ๆ
ป.ล. ชอบคับ  Smiley

เกมอสุราห่วยขั้นเทพครับผม*
พลอยชมพู เงินพจน์
Newbie
*
กระทู้: 11


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #8 เมื่อ: 23-01-2009, 21:12:20 »

5 5 5

คนที่คิดเรื่องนี้คงจิ  ฟุ้งซ่านมากแน่ๆรุย อิอิ

ล้อเล่นน้า 
เก่งมากๆค่ะ คิดต่อไปนะ อลีสจิติดตามตอนต่อไปนะค่ะ

บายๆ


ไฟติ้ง2222222222222222222
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


ตอน สงครามศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 3(ยมฑูตกระชากวิญญาณ)
« ตอบ #9 เมื่อ: 24-01-2009, 03:52:20 »

ตอน สงครามศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 3(ยมฑูตกระชากวิญญาณ)
ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความตายที่อบอวนไปทั่วมหาวิหารแห่งลูซิส สงครามศักดิ์สิทธิ์ของโลกแห่งแสงสว่างกับโลกแห่งความมืดปะทุขึ้น เพลิงมฤตยูกำลังมอดไหม้ร่างของปีศาจอันเชิญของกองทัพวอลลอคที่ล้มไม่เป็นท่าเพราะกายาเหล็กไหลของเหล่าพาราดินที่ทำให้ปีศาจในตำนานเหล่านี้ไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนให้กับอัศวินแห่งลูซิสได้อีก การบุกมหาวิหารในครั้งนี้ นำโดยนางแม่มดแห่งมนตรามืด พร้อมกองทัพวอลลอคนับหมื่น จะสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่การทำสงครามทั้งมวล เพราะกำลังของกองทัพต่างกันกว่า 30 เท่า ออร่าสีดำกำลังโหมขึ้นจากกองทัพวอลลอค ไฟที่ลุกโชนคล้ายลูกแก้วไฟกำลังลอยขึ้น ภายในค่อยๆ ปรากฏเป็นรูปหัวกระโหลก นักรบรัตติกาลเหล่านี้กำลังเรียก ยมทูตแห่งโลกมืดออกมานั้นเอง

เหล่าพาราดินที่เห็นยมฑูตแห่งโลกมืด ก็พงะออก บรรยากาศแห่งความตายกลับมาปกคลุมรุนแรงกว่าตอนที่เรียกปีศาจอันเชิญทั้งสามออกมา แววตาทุกคู่แห่งนักรบเวทย์มนต์ดำลุกเป็นไฟ เหมือนกันกับทแววตาในหัวกระโหลกของยมทูตแห่งโลกมืด ราวกับว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน วอลลอคทุกคนก็ยกมือชี้มาทางนักรบแห่งลูซิสที่ถูกล้อมด้วยเปลวเพลิงสีดำซึ่งกำลังเผาร่างปีศาจอันเชิญในตำนานมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านอยู่
 Angry
ไปอยู่โลกหน้าเถอะนะ นักรบแห่งเทพลูซิส  เอาละ   จงมอบชัยชนะให้แก่ข้าเถิด พลังแห่งมนตราดำ จงสวมใส่อาวุธแห่งอาทรัมให้แก่เหล่ายมฑูตแห่งความมืด...........สิ้นเสียงการร่ายมนต์ของแม่มดเรน่าจบลง เปลวไฟแห่งยมฑูตยิ่งโหมกระหน่ำ หนักขึ้นแล้วนางก็เปล่งเสียงต่อไปว่า..........ยมฑูตเอ๋ยข้าขอ สาป คลั่ง แก่พวกท่าน......ไฟที่ลุกโชน บัดนี้เริ่มเปลงรัศมีแห่งความตายไปทั่วบริเวณ....ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่บริเวณนั้นก็เหี่ยวแห้งจนกรอบ......น้ำทะเลหน้าพระวิหารเดือดพล่านคล้ายว่าอยู่ในกระทะร้อน ปลาลอยตายเกลื่อนส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ  อุณหภูมิบริเวณลานหน้าพระวิหารร้อนแรงขึ้นดุจดังอยู่ในนรก เหมือนว่าแรงดึงดูดของโลกดูดแรงหนักขึ้น เหล่าพาราดินเริ่มยืนไม่ไหวแล้ว
 laugh
ท่านอังเดร บัดนี้ยังไม่สายหากท่านจะเลิกแข็งข้อต่อข้านะท่าน กลับไปกลับข้าเถิด ทหารฝีมือดีเหล่าไม่สมควรตายตอนนี้ ข้าเสียดายนะ  และข่าจะฝึกให้พวกเขากลายเป็น นักรบรัตติกาลแถวหน้า และท่านก็จะเป็นราชา   แ ห่งวินโ ดเ นีย  ที่ไม่มีใครจะเหนือกว่าท่านอีกต่อไป
 Sad
หยุดเถอะ หยุดซักที่ข้าไม่เคย และข้าก็ไม่มีวันรักเจ้าได้
 Wink
ท่านยังอาลัยอาวรณ์ นังชีนั่นอีกหรอ มันตายไปแล้ว ส่วนข้ายังอยู่ เพียงท่านมีข้า ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน
 Evil
แม้ว่าข้าไม่รักเจ้า
 laugh
ก็ไม่เป็นไร มีเพียงแค่ตัวท่านไปกับข้าเท่านั้น ข้าจะไว้ชีวิตเพื่อนของท่านทั้งหมด  มาเถิดวินโดเนียกำลังขาดพระราชาที่มีความเก่งกล้าอย่างท่าน
 Angry
เจ้าลืมไปแล้วหรือ พวกข้าต่อสู้ด้วยศรัทธา  แม้ตายข้าก็ไม่เสียดาย......พี่น้องของข้าเอ๋ยจงเปล่งพลังแห่งศรัทธาออกมาเถิด...จงต่อสู้อย่าได้ถอย
 Evil
ฮิฮิ น่าขำ ดูพวกท่านซิ แม้ยืนยังไม่มีกำลังเลย ท่านคิดจะสู้อีกหรือ
 Angry
ถึงพวกข้าสู้ไม่ไหวแต่พวกข้าก็ไม่คิดถอย  เจ้ามาปลิดลมหายใจของพวกข้าสิ มาเลยถ้าเจ้าจะทำ  เราจะปกป้องวิหารนี้จนกว่าจะสิ้นลม
 Smiley
ได้ ข้าจัดให้ จงตายไปเถอะ ข้าจะให้ลานหน้าวิหารแห่งนี้เป็นที่ฝังศพพวกท่าน จงตายอย่างสมเกียรติเถอะ ยมทูตแห่งโลกมืด จงพาวิญญาณศัตรูของข้าไปสู่ยมโลก
 Angry
สิ้นเสียงนางเรน่า แม่มดแห่งรัตติกาล หัวกะโหลกนับหมื่นพุ่งราวกับอุกาบาต ตรงมาที่กองทัพแห่งลูซิสที่ผนึกกำลังกัน ตั้งโล่ห์ขึ้นเหมือนโดม ทันทีที่กระทบกับโล่ห์ของเหล่าพาราดินที่มีออร่าเปล่งประกายเหมือนเพชรที่สะท้อนแสงตะวัน หัวกะโหลกเพลิงก็ระเบิด อานุภาพของมันซัดนักรบพร้อมโล่ห์เหล็กแห่งลูซิส กระเด็นซัดร่างของนักรบแห่งลูซิสกระจายไปคนละทิศ คนละทาง และแน่นอนแม้ว่ากายาเหล็กไหลจะไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ว่าอานุภาพของมันก็ซัดวิญญาณของเหล่าพาราดินออกจากร่างไป ตั้งแต่ร่างยังไม่ตกถึงพื้นเลย  ร่างที่ไร้วิญญาณเริ่มเกลื่อนพื้น          ดูเหมือนว่าโดมที่มั่นคงของเหล่าพาราดินเริ่มสั่นคอน แต่หัวกะโหลกเพลิงก็พุ่งเข้ามาโจมตีไม่ยั้ง พาราดินจะอยู่รอดหรือไม่   ศึกครั้งนี้จะจบลงอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ

คิม จุน บิ
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


ตอนที่สาม ต่อ ผิดพลาดเล็กน้อย
« ตอบ #10 เมื่อ: 24-01-2009, 03:59:01 »

ไปอยู่โลกหน้าเถอะนะ นักรบแห่งเทพลูซิส  เอาละ   จงมอบชัยชนะให้แก่ข้าเถิด พลังแห่งมนตราดำ จงสวมใส่อาวุธแห่งอาทรัมให้แก่เหล่ายมฑูตแห่งความมืด...........สิ้นเสียงการร่ายมนต์ของแม่มดเรน่าจบลง เปลวไฟแห่งยมฑูตยิ่งโหมกระหน่ำ หนักขึ้นแล้วนางก็เปล่งเสียงต่อไปว่า..........ยมฑูตเอ๋ยข้าขอ สาป คลั่ง แก่พวกท่าน......ไฟที่ลุกโชน บัดนี้เริ่มเปลงรัศมีแห่งความตายไปทั่วบริเวณ....ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่บริเวณนั้นก็แห้งจนกรอบ......น้ำทะเลหน้าพระวิหารเดือดพล่านคล้ายว่าอยู่ในกระทะร้อน ปลาลอยตายเกลื่อนส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ  อุณหภูมิบริเวณลานหน้าพระวิหารร้อนแรงขึ้นดุจดังอยู่ในนรก เหมือนว่าแรงดึงดูดของโลกดูดแรงหนักขึ้น เหล่าพาราดินเริ่มยืนไม่ไหวแล้ว
 laugh
ท่านอังเดร บัดนี้ยังไม่สายหากท่านจะเลิกแข็งข้อต่อข้านะท่าน กลับไปกลับข้าเถิด ทหารฝีมือดีเหล่าไม่สมควรตายตอนนี้ ข้าเสียดายนะ  และข่าจะฝึกให้พวกเขากลายเป็น นักรบรัตติกาลแถวหน้า และท่านก็จะเป็นราชา   แ ห่งวินโ ดเ นีย  ที่ไม่มีใครจะเหนือกว่าท่านอีกต่อไป
 Sad
หยุดเถอะ หยุดซักที่ข้าไม่เคย และข้าก็ไม่มีวันรักเจ้าได้
 Wink
ท่านยังอาลัยอาวรณ์ นังชีนั่นอีกหรอ มันตายไปแล้ว ส่วนข้ายังอยู่ เพียงท่านมีข้า ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน
 Evil
แม้ว่าข้าไม่รักเจ้า
 laugh
ก็ไม่เป็นไร มีเพียงแค่ตัวท่านไปกับข้าเท่านั้น ข้าจะไว้ชีวิตเพื่อนของท่านทั้งหมด  มาเถิดวินโดเนียกำลังขาดพระราชาที่มีความเก่งกล้าอย่างท่าน
 Angry
เจ้าลืมไปแล้วหรือ พวกข้าต่อสู้ด้วยศรัทธา  แม้ตายข้าก็ไม่เสียดาย......พี่น้องของข้าเอ๋ยจงเปล่งพลังแห่งศรัทธาออกมาเถิด...จงต่อสู้อย่าได้ถอย
 Evil
ฮิฮิ น่าขำ ดูพวกท่านซิ แม้ยืนยังไม่มีกำลังเลย ท่านคิดจะสู้อีกหรือ
 Angry
ถึงพวกข้าสู้ไม่ไหวแต่พวกข้าก็ไม่คิดถอย  เจ้ามาปลิดลมหายใจของพวกข้าสิ มาเลยถ้าเจ้าจะทำ  เราจะปกป้องวิหารนี้จนกว่าจะสิ้นลม
 Smiley
ได้ ข้าจัดให้ จงตายไปเถอะ ข้าจะให้ลานหน้าวิหารแห่งนี้เป็นที่ฝังศพพวกท่าน จงตายอย่างสมเกียรติเถอะ ยมทูตแห่งโลกมืด จงพาวิญญาณศัตรูของข้าไปสู่ยมโลก
 Angry
สิ้นเสียงนางเรน่า แม่มดแห่งรัตติกาล หัวกะโหลกนับหมื่นพุ่งราวกับอุกาบาต ตรงมาที่กองทัพแห่งลูซิสที่ผนึกกำลังกัน ตั้งโล่ห์ขึ้นเหมือนโดม ทันทีที่กระทบกับโล่ห์ของเหล่าพาราดินที่มีออร่าเปล่งประกายเหมือนเพชรที่สะท้อนแสงตะวัน หัวกะโหลกเพลิงก็ระเบิด อานุภาพของมันซัดนักรบพร้อมโล่ห์เหล็กแห่งลูซิส กระเด็นซัดร่างของนักรบแห่งลูซิสกระจายไปคนละทิศ คนละทาง และแน่นอนแม้ว่ากายาเหล็กไหลจะไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ว่าอานุภาพของมันก็ซัดวิญญาณของเหล่าพาราดินออกจากร่างไป ตั้งแต่ร่างยังไม่ตกถึงพื้นเลย  ร่างที่ไร้วิญญาณเริ่มเกลื่อนพื้น          ดูเหมือนว่าโดมที่มั่นคงของเหล่าพาราดินเริ่มสั่นคอน แต่หัวกะโหลกเพลิงก็พุ่งเข้ามาโจมตีไม่ยั้ง พาราดินจะอยู่รอดหรือไม่   ศึกครั้งนี้จะจบลงอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ

คิม จุน บิ
พลอยชมพู เงินพจน์
Newbie
*
กระทู้: 11


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #11 เมื่อ: 24-01-2009, 15:20:25 »

สนุกมากมายรุย laugh
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #12 เมื่อ: 24-01-2009, 16:46:04 »


คำเตือน บทความเรื่องนี้อาจให้ภาพหรือเสียงที่ไม่เหมาะสม ผู้อ่านอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด

บทที่ 1 ปฐมบทแห่งศรัทธา

ตอน สงครามศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 4(พิทักษ์ร่างจากลูซิส)

เสียงระเบิดดังกึกก้องทั่วสารทิศ แรงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ต้นไม้ทุกต้นที่อยู่บนโลกนี้ เมื่อได้รับอานุภาพแรงระเบิดก็เริ่มเฉาตายตามกัน โลกใบนี้ไม่หลงเหลือความมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว มองไปทางไหนก็มีแต่ความตาย ต้นกำเนิดเสียงระเบิดนี้มาจากสมรภูมิรบแห่งสงครามศักดิ์สิทธิ์ระหว่างนักรบลูซิสแห่ง มหาวิหารเมทัลลิกา พาราดินผู้ต่อสู้เพื่อศรัทธา  กับ นักรบรัตติกาล เจ้าของมนตราแห่งอาทรัมและความตาย วอลลอค บัดนี้โดมที่ก่อตัวขึ้นจากนักรบพาราดินใช้โล่ห์ต่อกันเพื่อต้านทานยมฑูตแห่งรัตติกาลที่กำลังพุ่งเข้าใส่และแตกตัวระเบิด สนั่นหวั่นไหว แผ่นดินสั่นสะท้าน เหมือนโลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ โล่ห์และกายาเหล็กไหลก็ไม่สามารถต้านท้านแรงระเบิดได้ ร่างกายไม่มีรอยขีดข่วนแต่วิญญาณของทหารแห่งลูซิสถูกซัดกระเด็นสู่ปรโลก หัวกระโหลกเพลิงชุดที่สองพุ่งตรงเข้ามาอีก  พาราดินก็ถูกแรงระเบิดซัดกระเด็นไปคนละทิศ คนละทาง โดมที่เคยก่อตัวแข็งแกร่งบัดนี้ มันเริ่มโค่นลงกระจัดกระจาย

แรงเบิดนับพันชุดกำลังวิ่งเข้ามาอีกเป็นตับ  นักรบพาราดินล้มลงระเนระนาด   มีเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่ ใช่แล้ว อังเดร อัศวินแห่งลูซิสผู้นำทัพพาราดินอยู่ในตอนนี้ เขายังยืนอยู่ท่ามกลางพี่น้องพาราดินที่ล้มลงไม่เป็นท่า แววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยศรัทธานี้คืออะไรกัน   เขาไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย  ยมทูตที่ซัดร่างพี่น้องของเขา ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านเลย  มันวิ่งโหมเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้งเขายังยืนอยู่ อะไรนี่ แววตาของเขามันเหมือนมีน้ำตา แต่มันไม่หลังออกมา เขากำลังนึกอะไรอยู่
 Huh?
ศรัทธา คือ อะไรหรอครับ สาธุคุณมอเร่ย์
 รัก
ใช่แล้ว เขากำลังนึกถึงสมัยที่เขาเป็นนักสู้ฝึกหัดอยู่ เขาเป็นอันดับที่หนึ่งของอะเคเดมี่ แต่ทว่า เขามาที่นี่ทำไมอะ นี่มันโบสถ์แห่งเซาเทิร์น ฟอร์ทไม่ใช่หรอ อ๋อ เพราะแม่แคสเตอร์สาวคนนั้นนามว่า มาเรียนั่นเอง แหม เหตุผลการมาที่นี่คงไม่ใช่เรื่องเรียนแล้วคะคุณ พ่อหนุ่มนี่ก้อจริงๆเรยนะคะ แต่เอ๊ะนั่นใครที่นั่งอยู่ตรงนั้นแคสเตอร์สาวอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่เคียงข้างมาเรีย แม่สาวคนนี้ทำทรงหยิกลอน ออกแนวป้าๆหน่อยนึง เรน่า ดูเธอซิกำลังจ้องมาที่ อังเดรไม่กระพริบเลยหล่ะ นี่อะไรกันนะ มาเรียกับเรน่าเป็นเพื่อนกันด้วย   
 Smiley
ศรัทธา ก็คือ การที่เราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างไม่หวั่นไหว ไม่สนใจว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรเรายังคงทำสิ่งนั้นอยู่
 Huh?
สาธุคุณครับ แล้ว.......ถ้าเราการมีศรัทธา แล้วเราจำเป็นมั้ยที่เราจะต้องทำเพื่อศาสนจักร
 Smiley
ศรัทธามีหลายแบบ ศรัทธาที่คนสร้างขึ้น เพราะศรัทธาตนเอง  เราจะมี ขอบเขตในพละกำลังของตนเอง เจ้าคงจะเห็นได้จากรุ่นพี่ไฟเตอร์ของเจ้าที่ไปศึกษาวิชาขวานที่วินโดเนีย
 woon
เบอร์เซอร์เกอร์?
  Smiley
แต่การที่เราทำเพื่อศาสนจักร เราจะมีกำลังอย่างไม่น่าเชื่อ และนี่แหละที่เขาเรียก ศรัทธาอันยิ่งหญ่ และศรัทธาแบบนี้จะมีผลแห่งสรัทธาด้วย
 Huh?
ผลแห่งศรัทธา?
 Smiley
ผลแห่งศรัทธาก็คือ เมื่อเราสรัทธาเพื่อศาสนจักร เราจะได้รับการปกป้องจากเทพแห่งลูซิส เจ้าจะมีกำลังมหาศาล และจะได้รับการพิทักษ์ร่างจากลูซิส เมื่อถึงยามขับขัน เจ้าอย่าได้หวั่นไหว จงตั้งศรัทธาไว้ที่พระองค์เทพแห่งลูซิสจะโอบกอดเจ้าไว้ มนตราดำจะไม่อาจทำร้ายเจ้าได้ และมันจะหนีไป
 ใช่
พิทักษ์แห่งลูซิส.....ลูซิส...........
 ใช่
พิทักษ์ร่างแห่งลูซิส
 Smiley
ข้าเข้าใจแล้ว

ผู้นำแห่งพาราดิน บัดนี้ แววตาที่เปี่ยมศรัทธากำลังลุกโขน  ออร่าที่เปล่งประกาย สวยงาม ออกมาจากเกราะดูราฮานที่สืบทอดออกมาจากบรรพบุรุษ  ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าจะผ่าสถานการณ์นี้ไปได้อย่างไร สีหน้าที่มั่นใจชัยชนะที่มีหวังอันน้อยนิดจะเป็นของเขา เพราะอะไรนะหรอ ศรัทธานั่นไงหล่ะ เขาวิ่งเข้าหากระโหลกที่วิ่งเข้าใส่เหล่าพาราดิน เมื่อเขาถึงด้านหน้าสุดของบรรดาพาราดินที่ล้มระเนระนาดกองกันอยู่ เขากระโจนขึ้นเพื่อขว้างยมทูตแห่งความมืดอย่างไม่กลัวว่ามันจะมาคร่าเอาชีวิตของเขาไป   และนี่แหละสรัทธา  ที่เขาเข้าใจ แต่มันจะเป็นการรนหาที่ตายหรือไม่
 ไม่
เรน่านึกบางอย่างออก เธอพึมพำ ..... หรือว่า....... พิทักษ์ร่างจากลูซิส.....เป็นไปไม่ได้....เขาเป็นพาราดินที่แท้จริงหรือ......เขาศรัทธาจริงๆหรือ
 Sad
สรวงสวรรค์ขอโปรดฟังข้า  ขอเทพลูซิสปกป้องข้าจากมนตราอันชั่วร้าย ข้าขอให้ศรัทธาบูชาสวรรค์.....พิทักษ์ร่างจากลูซิส
 Embarrassed
เมฆฝนโลหิตที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ แหวกออก ลำแสงจากท้องฟ้าสาดเข้ามาที่ร่างของอัศวินอังเดรและขยายออกเป็นวงกว้างครอบคลุมเหล่าพาราดินที่นอนกระจัดกระจายอยู่ผลึกแก้วครอบร่างพาราดินทุกคนอยู่นตอนนี้ หัวกะโหลกที่พุ่งเข้าใส่เหวี่ยงตัวจากลำแสงวิ่งชนและระเบิดกันเองอย่างสับสน บ้างกลับมาระเบิดกลางวงวอลลอคทำให้วอลลอคที่โดนแรงระเบิดถูกซัดวิญญาณสู่ปรโลกเช่นเดียวกัน  บัดนี้วอลลอคแตกกระเจิงหลบหนีกันจ้าระหวั่น สม ! แม้แต่แม่นางเรน่ายังไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็น นางสร้างวงแหวนรัตติกาลเพื่อป้องกันตัวเอง พร้อมกับความโกรธแค้นที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
 Angry
ท่านไม่หยุดง่ายๆใช่มะ......ข้าจะทำให้ท่านรู้ว่า การต่อสู้กับข้ามันเลวร้ายกว่าที่ท่านยอมไปกับข้าแค่ไหน..........
 Evil
เมื่ออัศวินอังเดรกลับลงมาสู่พื้นอย่างงามสง่า พร้อมร่างกายที่เรืองแสงจากผลึกแก้วที่ลูซิสประทานให้แก่เขา และปกป้องพี่น้องพาราดินของเขา การตัดสินใจด้วยศรัทธามั่นสร้างความตะลึงงงให้กับวอลลอคและพาราดิน นางเรน่าแค้นเคืองนักกว่าเก่าอีกทั้งยังสร้างออร่าที่ดำที่หน้ากลัว แผ่กระจายทั่วบริเวณ  การต่อสู้ระหว่างวอลลอคกับพาราดินแบบตัวต่อตัวกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว มหาสงครามนี้คงไม่จบง่ายๆแน่นอน  เรน่าจะได้ครองโลกหรือไม่ และอังเดรจะนำทัพปกป้องมหาวิหาได้หรือเปล่า

ติดตามตอนต่อไป....นะจ้ะ รัก

คิม จุน บิ
พลอยชมพู เงินพจน์
Newbie
*
กระทู้: 11


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #13 เมื่อ: 24-01-2009, 16:59:38 »

5 5 5

เพ้อเจ้อมากมาย  แต่กะสนุกดี
เด๋ว อลีส จิ นำ มา สร้าง เปน หนัง นะ
แต่ว หั้ย จบ ไว ๆ ล่ะ


ไฟ ติ้ง นะ จ้า คิม จุน บิ
Mini-BB
Newbie
*
กระทู้: 22

Honey


Re: อองรี เดอ พาราดิน วีรบุรุษ[ข้าน้อย]้มหาวิหารแห่งศรัทธา (จากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเกมส์ เดา
« ตอบ #14 เมื่อ: 24-01-2009, 17:00:52 »

 Sad
ขอร้องนะคะถ้าชื่นชอบละครเรื่องอย่าลืม โหวด ด้วยนะคะ และก็อย่าลืมเปนกำลังให้เราตอนต่อไปนะคะ และก็ช่วยโปรโมทละครในเกมส์ด้วยนะคะโดยเฉพาะแฟนคลับพาราดินนะคะ
 รักคะ
ป้าย:
หน้า: [1] 2