คำเตือน บทความเรื่องนี้อาจให้ภาพหรือเสียงที่ไม่เหมาะสม ผู้อ่านอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด
บทที่ 1 ปฐมบทแห่งศรัทธา
ตอน สงครามศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 5 (มิตรภาพ ความรัก ความแค้น ริษยา)
.ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่บดบังแสงอาทิตย์ ให้ความรู้สึกแตกต่างกับบริเวณที่กิ่งก้านใบปกคลุมไปไม่ถึง สายลมพัดเอื่อยทำให้คิดถึงความเหงาเป็นที่สุด แต่เวลานั้นมีชายหนุ่มหน้าตาดีผิวพันธุ์ผิดกับที่นักต่อสู้ฝึกควรมี ปอยผมพัดปลิวตามกระแสลม ณ ทุ่งหญ้าแห่งหมู่บ้านเซาเทิร์นไชร์ กับหญิงสาวนักเวทย์ฝึกหัด ยืนอยู่ใต้ร่มเงา ต้นไม้หญ่นั้น เขาทั้งสองกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่ คล้ายว่าจะคุยเกี่ยวกับความลับ หรือเรื่องที่จะต้องรู้เพียงสองคนจึงได้นัดกันมาคุยห่างจากบริเวณค่ายเวทย์ และสมาคมนักสู้ฝึกหัด หญิงสาวเริ่มเอ่ยถาม
ท่านรักข้าหรือไม่
เรน่า ข้าเห็นเจ้าเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น
ตลอดเวลาข้าเฝ้ามองดูท่านมาตลอด ท่านไม่คิดหรือว่า ข้าหวังกับท่านเพียงใด
แต่ว่าข้าไม่ได้รักเจ้า
ท่านรักใครโปรดบอกข้า
เจ้าจะช่วยข้าหรอ......
..................บอกข้าซิข้าช่วยได้ทุกอย่าง....ท่านรักใคร ไม่แน่นะข้าอาจทำให้ท่านสมหวัง
เจ้าจะช่วยข้าจริงหรอ ..... ทำไมหรือเรน่า ..... ทำไมหรือเรน่า
แม้ข้าจะไม่ได้อยู่กับท่าน แต่การที่ข้าได้เห็นคนที่ข้ารักมีความสุข ข้าก็มีความสุขไม่ใช่หรอท่านบอกมาเลย ว่าท่านรักใคร......มาเรีย มาเรีย ใช่มั้ย ท่าน บอกข้า
เจ้ารู้.....
แน่นอน ข้ารู้แน่ ทำไมข้าจะไม่รู้ สายตาที่ท่านมองนาง ทำไมข้าจะคาดเดาไม่ได้ ไม่เป็นไรนะท่าน ข้าจะช่วยท่าน ข้าเป็นเพื่อนนาง
ข้าเพียงอยากรู้ว่านางมีใจให้กับข้าหรือไม่
ได้แล้วข้าจะหลอกถามนางให้แก่ท่าน
ขอบใจเจ้ามาก......ชายหนุ่มรี่เข้าไปจับมือกับเรน่า พร้อมกับจ้องมองหญิงสาวด้วยความหวัง เรน่าตกตะลังงันเหมือนถูกสาป แววตาของ อังเดร ช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน อบอุ่นจนร้อน จนแทบละลายลงไปตรงนั้น.....ข้าไปก่อนนะเรน่าข้าต้องรีบไปหา
อะไรในตลาดเพื่อให้นางประทับใจข้าให้ได้.....แล้วเข้าก็เลี่ยงไปมุ่งหน้าตรงไปยังตลาดเซาเทิร์นไชร์ เพื่อหาของขวัญไปให้กับมาเรีย หยิงสาวที่เขาหมายตาเอาไว้ แต่เรน่ายังคงอึ้งอยู่พักหนึ่งจน อังเดรหายไปลับขอบฟ้า นางหันตามมาด้วยสายตาที่แค้นเคือง โกรธคล้ายกับว่าปิดบังไว้เมื่อครู่นี้ นางพึมพำว่า
ฝันไปเถอะ ถ้าข้าไม่ได้ท่านเป็นคนรักข้า ใครก็เอาไปไม่ได้ โดยเฉพาะแก นังมาเรีย นังเพื่อน ทรยศ
ตะวันลับขอบฟ้า ดวงดาวสาดแสงแปลงประกาย ทุ่งหญ้าที่เขียวขจีสะท้อนตะวันกัลบดูเหมือนหลับไหล เตนท์มากมายหลายสีสันที่ค่ายเวทย์ถูกกางเอาไว้เพื่อเป็นที่พักชั่วคราวของนักเวทย์ฝึกหัด แสงจากตะเกียงภายในเตนท์เรียงรายสวยงามเมื่อมองมาจากบนท้องฟ้า สองสาวนักเวทย์ฝึกหัดคู่หู มาเรียและเรน่า กำลังท่องหนังสืออยู่เพื่อเตรียมตัวสอบเพิ่มระดับเพื่อเป็นนักเวทย์ชั้นสูงในสุดสัปดาห์นี้ มาเรีย วางมือพร้อมกับถอนหายใจ พึมพำว่า
ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ฉันปวดหัวเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว ต้องพักสายตาแล้วละ เรน่าเแก........เป็นอะไร โกรธอะไรฉัน หรอ หญิงสาวแปลกใจที่เพื่อนร่วมเตนท์มองเธอด้วยสายตาดุจดั่งจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยทีเดียว เรน่าสะดุ้งรู้สึกตัว แล้วรีบแก้ตัวไปว่า
เออ เปล่านี่จ้ะ ฉันก็แค่แบบว่า คิดอะไรเพลินๆ นี่ เออนี่ มาเรีย แก แกรู้จักอังเดรมะ ที่เป็นนักสู้ฝึกหัด ที่มาโบสถ์ของสาธุคุณมอเร่ย์ ที่เซาเทอร์นฟอร์ทน่ะ
เออก็เคยเห็นอะนะ ก็หน้าดีนะแก
แล้วแกชอบเขามั้ยละ
ไม่หรอก แหม เค้าออกจะเป็นที่สนใจของสาวสาวมากมาย อะนะ ถ้าฉันชอบเขา ฉันก็คงเสียใจแน่เลย เพราะเขามีตัวเลือกเยอะแยะมากมายก่ายกอง
แล้วถ้าเขาเลือกเธอละ
แกยังงัยฉันก็จะต้องเป็นนักบวชหญิงอยู่แล้วอะ ฉันจะไปมีความรักได้ยังไงกันละ ฉันทำจเรื่องนี้ไว้แล้ว และฉันก็ไม่สนใจหรอกนะเรื่องแบบนี้ ว่าแต่แกจะถามทำไมยะ
แหม เพื่อนสาวฉันก็แค่อยากรู้เฉยๆ หรอก
เออ หรือว่าแกสนใจ นี่แกอย่าบอกนะว่าแกสนใจเขาอะ
บ้า ฉันแค่อยากรู้ท่านั้นเองจริงๆ อะ
โล่งอกไปที แนนึกว่าแกจะปล่อยฉันเป็นนักบวชอยู่คนเดียว ฉันจำได้นะว่าเราสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน เราจะไม่ทิ้งกันนะแก เราจะบวชเพื่อช่วยเหลือคน รักษาเขาจากอำนาจมืดนะ
มาเรียพูดพร้อมเดินไปหยิบหนังสือที่อยู่ในกล่องบนพื้น เธอก้มลงหลังให้เรน่า
จ้าๆ......เรน่าตอบแล้วก็พึมพำในใจ ขอให้มันจิงเหอะ อย่ามาเป็นชีตบะแตกทีหลังก็แล้วกัน.....จากนั้นเรน่าก็สาดสายตาอำมหิตไปยังมาเรีย มาเรียนึกถึงวิชาสอบในสัปดาห์นี้ขึ้นจึงหันไปถาม จึงเห็นว่าเรน่าสาดสายตาอันเครียดแค้นไปที่เธออยู่
เรน่า แกโกรธอะไรฉันแน่เรยเนี่ยะ ฉันแค่จะยืมอ่านชีทวิชาการท่องคาถาเบื้องต้นเองอะ โกรธเลยหรอ
อ๋อ...เออ เปล่า แค่คิดอะไรเพลินๆ
นี่แกแอบชอบใครใช่มะ ใจลอยเรื่อยเลย
เปล่านะแกอ่านต่อเหอะ อย่ามาสนใจฉันเรย
เช้าวันรุ่งขึ้นเรน่าดักพบ อังเดร ที่ทางเข้าสมาคมไฟเตอร์ พร้อมกับถือกระดาษอะไรบางอย่างที่มือ
อังเดร....... เรน่าเรียกอังเดรอย่างตื่นเต้น
อ้าว เรน่า มาที่นี่ได้ไง
ก็ทางผ่านนะข้าต้องผ่านมาทางนี้อยู่แล้ว ข้ามีเรียนที่โบสถ์น่ะ เออ นี่จดหมายจากหมายจากมาเรีย ข้าไปก่อนนะรีบ
อังเดรเริ่มต้นอ่านจดหมาย ด้วยความร้อนใจ
ถึงอังเดร
ข้าไม่รู้ว่าข้าจะบอกท่านยังไงดี เกี่ยวกับความรู้สึกที่ข้ามี แต่ข้าอยากเจอกับท่านเป็นการส่วนตัว
ถ้าท่านเมตตาในความรู้สึกของข้า ขอท่านช่วยพบข้าสักครั้งจะได้มั้ย
ด้วยใจที่สับสนจริงๆและอยากพบท่านผู้เดียว
มาเรีย
ป.ล. ที่โรงเตี้ยม ถนนเซาเทินฟอร์ท ห้อง 241 เวลา 17.00น. ช่วยมาตรงเวลานะคะ ข้าอยากคุยกับท่านจริง
อังเดรทั้งดีใจจนไม่นึกสงสัยว่าผู้หญิงที่เรียบร้อยอย่างมาเรียจะนัดผู้ชายมาคุยในโรงเตี้ยมสองต่อสองด้วยเหตุผลอันใด
ก่อนเวลานัดสิบนาที อังเดรมาถึงที่โรงเตี้ยมด้วยหัวใจเต้นแรง เขารีบไปที่เคาเตอร์ มีหญิงชราที่เป็นเจ้าของโรงเตี้ยม คอยต้อนรับอยู่
พบใครหรือคะ
พบมาเรีย
มาเรีย?
เออ ไม่มีนะคะ แล้ว คุณเป็นใครกันละ
ผมอังเดร
เออ อังเดร เดอ นอท ห้อง 241 ใช่คุนมะคะ
ครับ
อะนี่คะ กุญแจ
ขอบคุณครับ
อังเดร รีบขึ้นไปจนหัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ห้อง241 vอยู่เพียงชั้นสองของโรงแรม แต่เขารู้สึกว่านานเหลือเกิน จนกระทั่งมาถึงห้อง เขาไขกุญแจแล้วเข้าไป ภายในห้องมืดสลัว กลิ่นเครื่องหอมเผาอย่างน่าเย้ายวนใจ เอาละคราวนี้เห็นที่ชายหนุ่มท่าทางจะแย่แล้วที่นี้ มีเสียงสตรีดังมาจากห้องน้ำในห้อง
ท่านอังเดรมาแล้ว หรอ คะ นั่งก่อนสิคะ เดี๋ยว ข้าออกไป นั่งดื่มน้ำชาที่โต๊ะก่อนนะคะ
อังเดรเดินเข้าไปที่โต๊ะน้ำชาภายใน ห้อง รินน้ำชาใส่ถ้วย ลงแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ เขายกชาขึ้นมาดื่มเพื่อจะได้ดับความตื่นเต้นที่เขามีอยู่ในขณะนี้ กลิ่นและรสของชาช่างเย้ายวนใจให้เขาอยากจะดื่มอีกหลายๆแก้ว เขารู้สึกเคลิ้ม กลิ่มกำยานที่เคล้าคลุ้งไปทั่วห้องทำในเขารู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เขาเห็นร่างหญิงสาวเปลือยเหล่าออกมาจากห้องน้ำลางๆ อารมณ์ชายดุจโคขุนก็ตื่นขึ้นพร้อมจะจู่โจม แน่นอน หญิงสาวเดินเข้ามาจูบเบาที่หน้าผากของอังเดร แล้วเขาก็ไม่อาจควบคุมอะไรได้อีกเหมือนตกอยู่ในมนตรา เขาเข้าฟัดเหวี่ยงกับหญิงสาวอย่างเผ็ดร้อนแล้วไม่อาจจะมีสติอีก เขาทำทุกอย่างเพื่อจะหนีออกจากอารมณ์นั้น แต่ร่างกายเขาไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป เขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากตอนนี้เขาได้จู่โจมหญิงสาวอย่างเผ็ดร้อนอย่างรุนแรงไม่มีสิ่งใดต้านยทานได้อีกแล้ว เขาจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างไร โปรดติดตาม นะจ้ะ
คิม จุน บิ