GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 [2] 3 4
ผู้เขียน หัวข้อ: บอร์ดเล่าเรื่อง  (อ่าน 3673 ครั้ง)
legender
Jr. Member
**
กระทู้: 292


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #15 เมื่อ: 19-04-2007, 10:12:16 »

อ้างจาก: darkwar ที่ 19-04-2007, 10:06:02
อ้างจาก: HeadEgg [~นายหัวไข่~] ที่ 19-04-2007, 00:11:41
อิอิ บอกว่าเอาเรื่องเสียวงายยยยย

ปล. ล้อเล่น
บอร์ดฉ้านก็โดนล๊อกจิถ้างั้น
ผมว่าโดนลบเลยอะงับ หุหุ
HeadEgg
Full Member
***
กระทู้: 699


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #16 เมื่อ: 19-04-2007, 13:57:51 »

เอ่อออ จริงด้วย มันหยาบหนิ อิอิ Cheesy
กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #17 เมื่อ: 19-04-2007, 15:23:47 »

ตำนานเทพเจ้านอร์สภาคต่อ

กำเนิดชีวิตแรก
 
เทพเจ้าของสแกนดิเนเวียเมื่อแรกเริ่ม จักรวาลก็คือสภาวะหมุนคว้าง มืดและสับสน และแล้วจู่ๆความสับสนนั่นก็ค่อยๆแตกแยกออก เกิดห้วงว่างขึ้นตรงกลาง เป็นห้วงที่ความลึกหยั่งไม่ได้ อุณหภูมิเริ่มต่ำลงขนาดแช่คนให้แข็งได้ในฉับพลัน ห้วงที่ว่าชาวเหนือเรียก กินนันกาแก็บ(Ginnungagap) ทิศเหนือของกินนันกาแก็บ เป็นอาณาเขตของ นิฟล์เฮม(Niflheim) โลกแห่งความมืดมัวนิรันดร์ น้ำพุ เวอร์เกลเมอร์(Hvergelmir) แฝงตัวอยู่ที่นี่ และน้ำจากน้ำพุก็เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ 11 สาย ซึ่งก็ไหลไปไหนไม่พ้นนอกจากจะไปสู่ห้วง กินนันกาแก็บ เจอเข้ากับความเย็นที่นี่ น้ำในแม่น้ำก็ค่อยๆแข็งตัวแผ่ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆแทรกตัวเข้าไปในห้วงว่างจนเต็ม

ทางใต้ของ กินนันกาแก็บ คือ มัสเปลส์เฮม(Muspelsheim) แผ่นดินแห่งไฟ ซึ่งมีความร้อนอยู่ตลอดเวลา เป็นที่อยู่อาศัยของ เซิร์ท(Surtr) ยักษ์แห่งไฟ ผู้ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างแรก ที่มีบทบาทตั้งแต่การสร้างโลกจนล้างโลกในวาระสุดท้าย (แร็คนาร็อคนั่นเอง) หน้าที่ของยักษ์ตนนี้คือเฝ้ามัสเปลส์เฮมเอาไว้ ไม่ยอมให้ใครเข้า แต่เพราะความที่ตอนนั้นก็ไม่มีใครอยู่ ยักษ์เซิร์ทจึงเบื่อมากๆไม่รู้จะทำอะไรนอกจาก ตีดาบ ทำของ และส่งประกายไฟลอยเข้าไปในกินนันกาแก็บเล่นไปวันๆ

ความร้อนที่มาจากประกายไฟนี่ละ นานเข้าบ่อยเข้า ทำให้น้ำแข็งในห้วงละลายเป็นไอ ไอลอยขึ้นกระทบอากาศเย็นกลายเป็นน้ำค้างแข็งร่วงลงมากองอยู่กับพื้น นับเดือนนับปี น้ำค้างเหล่าก็รวมตัวกันจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมาสองอย่าง อย่างหนึ่งคือ ยักษ์ตนแรก อีเมอร์(Ymir) กับ วัว ออดฮัมลา(Audhumla)

เมื่อเกิดแล้ว ทั้งสองก็หิวซิ อีเมอร์ หันไปหันมาเจอกับเต้านมอันเต่งของวัว ก็ตรงเข้าดูดนมวัวเป็นการใหญ่ แต่วัวออดฮัมลาโชคร้ายหน่อย หล่อนไม่มีอะไรจะกิน นอกจากน้ำแข็งข้างหน้า ก็เลยเลียน้ำแข็งกินไปพลางๆปรากฏว่า น้ำลายอุ่นๆของวัวที่เลียน้ำแข็ง ก็ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งจากก้อนน้ำแข็งที่มันเลีย นั่นคือ เทพ บูรี(Buri) พระเกษาของพระองค์ทรงงอกขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เป็นประเศียร ประวรกาย เป็นชีวิตของชายอีกคนหนึ่ง เทพองค์นี้จะนับเป็นบรระบุรุษของเทพทั้งหมดทีเดียว

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อีเมอร์ไม่สนใจนอกจากให้ตัวเองอิ่มไว้ก่อน นี่เป็นความต้องการแรกของมนุษย์ตั้งแต่เกิด อีเมอร์ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็อิ่ม แต่ดูจะอิ่มมากไป มันจึงง่วงแล้วจึงก็ลงนอนบนพื้นน้ำแข็งแล้งหลับสนิทไปโดยพลัน ประกายไฟจากดาบของยักษ์เซิร์ทลอยละล่องมาตกข้างตัวเรื่อยๆสร้างความอบอุ่นให้เขาหลับนานขึ้นและเหงื่อออก แต่ว่าเหงื่อยักษ์ตัวแรกนี่ประหลาดแท้ ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น

ตัวแรกที่เกิดจากหยาดเหงื่อของอีเมอร์ เป็นยักษ์หกหัวที่แสนจะน่าเกลียด ธรุดเกลเมอร์(Thrudgelmir)(ตนนี้เป็นบรรบุรุษของยักษ์น้ำค้างแข็งตัวอื่นๆต่อไปอีก พวกนี้นับเป็นศัตรูตลอดกาลของพวกเทพ) ส่วนเหงื่อจากใต้รักแร้ข้างซ้ายกลายเป็นยักษ์ชาย และหญิงคู่หนึ่ง แม้จะมีตนละหัวเดียว แต่ก็น่าเกลียดพอๆกับเจ้าหกหัวตัวแรก ขนาดที่ไม่มีใครอยากจำชื่อด้วยซ้ำ

บูรี ต้นกำเนิดเผ่าพันธ์เทพ และ ธรุดเกลเมอร์ บรรพบุรุษยักษ์ คล้ายกับ อีเมอร์ ที่จู่ๆเมื่อเกิดมาแล้ว ก็สามารถให้กำเนิดลูกได้เลย เบอร์เกลเมอร์(Bergelmir) เกิดจากยักษ์ ธรุดเกลเมอร์ ด้วยการกระโดดออกมาจากร่างของพ่อ ขณะเดียวกัน โอรสของ บุรี ก็กระโดดออกจากกายของพระองค์ มีนามว่า บอร์(Bor) บอร์ สมรสกับ เบสล่า(Bestla)ยักษี ลูกสาวตนหนึ่งของอีเมอร์ ได้ผลพวงจากการสมรสเป็นเทพสำคัญสามองค์ โอดิน(Odin) วิลี(Vili) และ วี(Ve) เทพทั้งสามพระองค์นี่จะทรงเป็นต้นวงศ์ของเทพ อีเซอร์(Aesir) ผู้ครองสวรรค์

ปล.วันนี้ปวดหัวขอไม่ลงเรืองเล่าก่อนนอนน่ะ



กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #18 เมื่อ: 20-04-2007, 18:09:42 »

ตำนานเทพนอสตอนที่3

กำเนิดสงครามเทพ-ยักษ์
คราวนี้พอเห็นเทพเกิดขึ้นเท่านั้น เบอร์เกลเมอร์ ก็ชักจะตกใจกลัวเทพขึ้นมา ทั้งสองจึงช่วยกันรวบรวมพี่น้องๆที่เกิดขึ้นจาก อีเมอร์ ไว้เป็นกำลังฝ่ายตัว ความกลัวเทพอาจเพราะคุณสมบัติที่ยักษ์ไม่มี เช่น ทั้งสามองค์แข็งแรงมาก แผลบาดเจ็บอะไรต่างๆที่เกิดขึ้นก็สามารถหายเองได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากพวกยักษ์ซึ่งมีจะมีมาก และมีเสริมขึ้นเรื่อยๆแต่ความแข็งแรงและแข็งแกร่งกลับสู้เทพทั้งสามไม่ได้เลย

สงครามระหว่างลูกๆ ของธรุดเกลเมอร์และโอรสของบอร์ เกิดขึ้นเป็นเวลานานนับพันๆปีในห้วงกินนันกาแก็บ โดยที่ไม่มีฝ่ายใดชนะเด็ดขาด หรือฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ

ในที่สุด พวกเทพจึงทรงคิดจะต้องยุติ มิให้ อีเมอร์ สมารถให้กำเนิดอะไรต่อมิอะไรที่ไม่พึงปรารถนาอีก โดยทรงฆ่า อีเมอร์ เลือดของยักษ์ตนแรกไหลจากร่าง มากจนกลายเป็นแม่น้ำเลือดใหญ่ ท่วมในห้วงกินนันกาแก็บที่เหลือจนเต็ม ทายาทยักษ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในตอนแรก ต่างจมน้ำในแม่น้ำเลือดนี้ตายหมด ยกเว้น เบอร์เกลเมอร์ สามารถหนีกับภรรยาของเขา ไปขึ้นฝั่งทางใต้ได้


กำเนิดแผ่นดินและโลกต่างๆ
เบอร์เกลเมอร์ ตั้งอาณาจักรของยักษ์ขึ้นใหม่ เรียกว่า โจตันเฮล์ม(Jotunheim) ลูกหลานของพวกเขาได้รับการสั่งสอนให้เกลียดแค้นเทพ

ส่วนเทพนั้นทรงคิดจะหาทางสร้างจักรวาลให้น่าอยู่เสียใหม่ ด้วยการใช้ประโยชน์จากร่างของอีเมอร์ พวกเทพทรงใช้ศพอันมหึมา ข้ามห้วงว่างกินนันกาแก็บ ส่วนต่างๆจากร่างศพให้กำเนิดสรรพสิ่งต่างๆตามทางไปด้วย

เลือดของอีเมอร์ กลายเป็น มหาสมุทร กระดูก เป็น ภูเขา และ ฟันซึ่งแตกหัก กลายเป็น หน้าผาต่างๆ ผม กลายเป็น ต้นไม้ใบหญ้า หัวกะโหลกโค้งมโหฬาร เทพก็เอามาทำ โค้งสวรรค์ สมองของอีเมอร์ กลายเป็น เมฆลอยทั่วท้องฟ้า ที่สำคัญที่สุด เนื้อของอีเมอร์ กลายเป็น แผ่นดินอันมั่นคงอยู่ตรงกลางมหาสมุทร เรียกกันว่า มิดการ์ด(Midgard) หรือ แผ่นดินที่อยู่ตรงกลาง

ซึ่งอันที่จริงก็จะอยู่ตรงกลางระหว่าง นิฟล์เฮม ดินแดนแห่งน้ำแข็ง ความเย็นและความเงียบนิรันดร์ และ มัสเปลส์เฮม อาณาจักรแห่งไฟ แผ่นดินที่ถูกแผดเผาด้วยดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน และยังอยู่ตรงกลางของมหาสมุทร คือถูกมหาสมุทรล้อมรอบด้วย ยิ่งกว่านั้นมิดการ์ด เป็นแผ่นดินของมนุษย์ซึ่งพวกเทพทรงวางไว้เป็นเขตกั้นระหว่าง แอสการ์ด ของตนกับ โจตันเฮล์ม ของยักษ์








Naraku
Jr. Member
**
กระทู้: 282

<Yagami Raito> <เรียกข้าว่าพระเจ้า>


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #19 เมื่อ: 20-04-2007, 23:51:43 »

อยากอ่านเรื่องผี

อีกจังเลย

ดึก ๆ อ่านเรื่องผีแล้ว เปลี่ยว ดี


<<ไม่มีเวลาเล่นเกม
กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #20 เมื่อ: 21-04-2007, 12:05:04 »

คับ
เรืองเล่าก่อนนอนต้องเล่าตอนกลางคืนเด๋วคืนนี้หามาเล่าไห้ฟังกานน่ะ
ตอนนี้บอร์ดผมมีแต่เรืองชวนเครียดเยอะและ
เอาเรืองตลกไปอ่านกานบ้าง
เรือง "เคยทามมาแล้ว"

หญิงสวยกำลังอยู่บนเตียงกับชู้รักคนล่าสุด เมื่อหล่อนได้ยินเสียง สามีเปิดประตูหน้าบ้าน
"เร็วเข้า!" หล่อนพูด
"ไปยืนที่มุมห้อง"
ว่าแล้วก็ทาน้ำมันทั่วตัวชายหนุ่ม หลังจากนั้นก็โรยแป้งจนขาววอก
"อย่าขยับจนกว่าฉันจะบอก" หล่อนกระซิบ
"แกล้งทำเป็นรูปปั้นตรงนี้แหละ"
"นั่นอะไรเหรอที่รัก" สามีหล่อนถามขณะที่เดินเข้ามาในห้องนอน
"อ๋อ รูปปั้นคะ" หล่อนตอบโดยไม่มองหน้า
"ครอบครัวสมิธซื้อมาไว้ในห้องนอนพวกเขา ฉันชอบเลยซื้อมาบ้าง"
เขาไม่ได้ว่าอะไรต่อ แล้วก็เข้านอนตามปกติ เช้าวันรุ่งขึ้น เขาลุกไปเข้าห้องครัว
สักพักก็กลับมาด้วยแซนวิช กับเบียร์กระป๋อง
"เอ้า กินอะไรซะบ้าง" เขายื่นอาหารไปให้รูปปั้นสีขาวที่มุมห้อง
"ฉันยืนเป็นรูปปั้นปัญญาอ่อนที่ห้องนอนบ้านสมิธตั้ง 3 วันโดยที่ไม่มีใครให้อะไรกิน
แม้แต่น้ำสักแก้วก็ไม่มี"




กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #21 เมื่อ: 21-04-2007, 22:28:05 »

เรื่องเล่าก่อนนอน
อ่านแล้วจะนอนหลับฝันดี
เรื่อง "วิณญาญเฮี้ยนผีเด็กแมนชั่น"

เรื่องราวสยองขวัญเผชิญวิญญาณที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเอง  ที่ดิฉันเจอ มันจะมาในลักษณะคล้ายกับโดนผีอำ แต่มัน น่ากลัวมาก ๆเหมือนจริง  เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับดิฉันตอนเช่าแมนขั่นอยู่กับญาติ ๆ แมนชั่นแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาประมาณ  10  กว่า ปีแล้ว  บรรยากาศภายใน เงียบ มากจนทำให้เข้ามาเดินแล้วรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก 

    มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ดิฉันนอนหลับกลางวันอยู่บนเตียงนอน ดิฉันก็เห็นเด็กสองคนอายุประมาณ 4 ขวบ  วิ่งเล่นกันอย่าง สนุกสนาน เสียงดังมากจนดิฉันรู้สึกหนวกหูอย่างมากเลยลุกขึ้นมาต่อว่าให้เด็กสองคนนั้นเงียบ ๆ หน่อย เด็กสองคนนั้นพอได้ยินดิฉันว่า  ก็หยุด และหันมามองดิฉัน เป็น ตาเดียวกัน  ท่าทางของเด็กสองคนไม่ค่อยพอใจดิฉันนัก  ตอนนั้นความรู้สึกของ ดิฉันมันคล้ายกับครึ่งหลับ ครึ่งตื่น ครึ่งจริงครึ่งไม่จริง จะลุกขึ้นก็ไม่มีแรง แล้วเด็กสองคนนั้นก็ฉุดรั้งแขนดิฉันให้ลุกออกมาจากเตียงนอนพร้อมกับพูดกับดิฉันว่า  "เตียงของหนู ... เตียงของหนู"  แต่ดิฉันก็ไม่สนใจที่จะทำตามที่เด็กสองคนนั้นพูด แล้วเสี้ยววินาทีดิฉันก็ต้องเบิกตาสว่างทันที เพราะเด็กสองคนนั้นส่งเสียงดุดิฉัน    พร้อมกับทำท่าทางใบหน้าขึงขังน่ากลัว     นัยน์ตาทั้งสองคู่ของเด็ก สองคนนั้น จาก ปกติก็ค่อย ๆ  เปลี่ยนเป็นแดงก่ำเหมือนดวงไฟ  แล้วก็แสยะยิ้มให้อย่างน่ากลัว เสียงเล็ก ๆ ของเด็กก็ค่อย ๆ เปลี่ยนกลายเป็นเสียงทุ้มฟังแล้วขนลุกขนพอง  แล้วก็พูดขึ้นว่า "ลุกไป !  ลุกไป !"

    ตอนนั้นดิฉันกลัวมากแต่ไม่มีเรี่ยวแรงส่งเสียงเรียกใครเลย แต่ดิฉันก็ไม่ละความพยายามที่จะส่งเสียงตะโกนเรียกคนให้มาช่วย เด็ก สองคนนั้นก็แสดงท่าทางหลอกดิฉันอย่างน่ากลัวดิฉันพยายามทั้งดิ้นทั้งร้อง  ให้คนช่วย  จนในที่สุดเฮือกสุดท้ายดิฉันก็ ตื่น ลุกขึ้น มา นั่งจนได้ หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปแล้ว คิดว่าตัวเองคงจะโดนผีอำธรรมดา  ต่อมาดิฉันก็มานอนที่เตียงนี้อีก  แล้วก็เจอกับ เด็กสองคนท่าทางของเด็กน่ากลัวขึงขังตั้งแต่แรกเห็น       ท่าทางไม่พอใจอย่างมากที่ดิฉันมานอนที่เตียงอีก   เด็กสองคนเดินดิ่งเข้ามาหาดิฉันด้วยใบหน้าน่ากลัว ได้แต่แสยะยิ้ม  ลูกนัยน์ตา  เหลือกถลนจนปลิ้น ออกมานอกเบ้า เท่านั้นยังไม่พอเด็กทั้งสองยังช่วยกันกดทับที่ไหล่พร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกจนดิฉัน กลัว สุดขีด   ส่งเสียงร้องให้คนช่วยจนเหนื่อย อ่อนไม่มีแรง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงดิฉันสักคนแต่ดิฉันก็ไม่ละ ความ พยายามที่จะหลุดพ้นจากมิติลี้ลับที่กำลังเผชิญกับผีเด็กทั้งสองให้ได้    ดิฉันเลยตั้งจิตภาวนา  พุทโธ พุทโธ พร้อมกับออกแรงยันตัวเพื่อ ลุกขึ้นนั่งในที่สุดดิฉันก็หลุดออกมา จากอีก มิติหนึ่งจนได้ ตั้งแต่นั้นมาดิฉันก็ไม่กล้านอนที่เตียงนี้อีก เลย




กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #22 เมื่อ: 22-04-2007, 18:39:33 »

เรื่องเล่าก่อนนอน(วันนี้มาเร็วไปป่าวไม่รู้)
สโลแกน อ่านแล้วนอนจะฝันดี
เรื่อง"ผีหอพยาบาล"

2545 ที่หอพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เจอกับตัวเอง ตอนนั้นเป็นการเรียนภาคฤดูร้อนจะมีนักศึกษาเรียนไม่ค่อยมาก หอพักนี้มี ทั้งหมด 4 ชั้น ตอนนั้นพพักอยู่ชั้นที่ 4 ชั้น 4 จะมีคนอญุ่ 2 ห้อง แต่อยู่คนละฝั่งเลยคือว่าไกลกันมากๆ คืนนั้นพักอยู่กับเพื่อน 2 คนในห้อง ตอนนั้นเป็นเวลา ตี 3 นิดๆ ตื่นขึ้นมาเพราะว่าปวดฉี่ ก็เลยปลุกเพื่อนให้ไปเป็นเพื่อนเลยชวนเพื่อนไปเข้าห้องนำชั้น 3 เพราะว่าตอนนั้นได้ยินเสียงคนเยอะเสียงดังเลยพูดกับเพื่อนว่าไปเข้สชั้น 3 ดีกว่าเพราะว่าคนเยอะดีจะได้ไม่น่ากลัวก็เลยเดินออกมาจากห้องพร้อมกับเพื่อนยิ่งเดินใกล้ห้องนำเท่าไหร่เสีงคนคุยกันก็ยิ่งดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆๆก็เลยหยุดยืนคุยกันนกับเพื่อนว่าวันนี้ดีจังคนอาบน้ำกันดึกจะได้ไม่น่ากลัวพอคุยกันกับเพื่อนเสร็จก็เดินมาถึงทางลงซึ่งเป็นบันไดเวียน สักพักเราสองคนก็มองหน้ากันแต่ก็ไม่พูดอะไรสงสัยว่าตอนนั้นเราสองคนกำลังตกใจกลัวอย่างแรง ในใจตอนนั้นคิดว่าเพื่อนจะได้ยินเหมือนเราได้ยินไหมนะ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรเลยก็เลยเดินลงมาเข้าห้องน้ำเพราะตอนนั้นปวดฉี่อย่างแรงพอลงมาถึงชั้น 3 ก็ต้องอึ้งอีกครั้งเพราะชั้น 3 ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่เลย โอ้เมืองพุทธแล้วเสียงคุยกันอย่างดังนั้นมันดังามจากไหนกัน เรารีบเข้าห้องนำแล้วก็ๆๆๆวิ่งขึ้นบันไดอย่างไม่คิดชีวิต พอขึ้นมาถึง้องนอนคลุมโปงแล้วก็ถามเพื่อนว่าตอนที่ลงไปเข้าห้องน้ำได้ยินอะไรปลกๆมั้ย พระเจ้เพื่อนบอกว่าได้ยินเหมือนกันเลย คือว่า พอเราสองคนหยุดอยู่ที่หน้าบันไดเวียนก็มีเสียงฝีเท้าของใครก็ไม่ร้วิ่งตามมาด้านหล้ง ได้ยินเสียงวิ่ง ตับ ๆ ๆ ๆ และวมาหยุดที่ขางหลังเราสองคน แล้วก็มีเสียงเหนื่อยและก็หอบ แฮกๆ อยู่ด้านหลังนี่ถ้าเป็นคนมีลมหายใจก็คงหายใจรดต้นคอกันแล้วแต่นี่เค้าเป็นแค่สิ่งที่เคยมีลมหายใจเท่านั้น



¤MԾդщΊN¤
Hero Member
*****
กระทู้: 3,921

۩~♥ถ้าไม่รักเธอแล้วจะให้ไปรักใคร♥~۩


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #23 เมื่อ: 22-04-2007, 18:40:59 »

พศ. เนี่ยคนเล่าเกิดทันป่าวว้า Grin   ล้อเล่ง

หลอนดีจังเรื่องนี้
กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #24 เมื่อ: 23-04-2007, 20:02:34 »

มาอีกแล้วเรื่องเล่าก่อนนอน
สโลแกน"อ่านแล้วนอนจะฝันดี"
เรือง"ผีแท็กซี่และสิ่งที่บูชา"
ปล.เรื่องนี้เปงเรื่องที่ผมว่าน่าอ่านที่สุดเท่าที่เอามาและ
บอกตงๆผมอ่านแล้วยังขนลุกเลย
ปล.2ตำนานเทพนอสตอนที่4จาเอามาพรุงนี้น่ะ


เป็นประสบกานจากน้าเราทุ้ง2ที่ไปเที่ยวกินเหล้าตามภาษาคน
เครียดอ่ะจ้า (มันหลายปีมาละเหมือนกัน) คือว่าเรื่องของเรื่องอ่ะ
เหล้าแล้วนิดหน่อยกำลังจะกลับบ้าน ก็ยืนเรียกแท็กซี่ ตอนนั้นมีคนอื่นยืนอยู่ด้วย
ประมาณ2-3คน ก็ยืนเรียกแท็กซี่ตามปกติอ่ะจ่ะ แต่มันมืดแล้วไม่ค่อยมีแท็กซี่เลยนานหน่อย ก็มีแกกซี่ผ่านมา1คันน้าเราทั้ง2เลยโบก คนที่ยืนข้างๆตกใจเค้า มองน้าเราน้าเราก็มองเค้า แล้วน้าเราเลยถามเค้าว่ามองไมหรอ คนที่มองก็เดินหนีไป แท็กซี่ก็วิ่งมาจอด
น้าเราทั้ง2ขึ้นแท็กซี่ น้าเราคนแรกบอกแท็กซี่ว่าไปแยก....(ในที่น้ขอไม่บอกแยกอะไร)
น้าเราคนที่2เมาก็นั่งมาได้ซักพักก็ถามขึ้นแบบโวยวายให้นาเราคนที่1ฟัง
เฮ้ย!กลิ่นอะไรวะ เหม็นเหมือนหนูตายเลย น้าเราคนที่1บอกว่าไม่รู้แล้วกระซิบ บอกนาคนที่โวยวายบอกว่คุณอย่าทักซิ น้าคนที่1ก็ไม่ค่อยเมา แต่เมานิดหน่อย มองไปที่กระจกคนขับรถมองไม่มีเงาหัวเท่านั้นแหละ น้าเราส่างเมาทันที แล้วไปบอกน้าคนที่2 น้าคนที่2ก็ส่างเมาไปด้วย ทั้งคู่เริ่มกัวๆ พอถึงโค้งที่แท็กซี่กำลังจะพาไปตาย (โค้งนี้ว่ากันว่ามีคนตายบ่อย) น้าเรารู้ตัวเลยภาวนาสวดมนต์ทั้งคู่ และมีแม่เกศณีกระโดเข้ามาตอนจะแหกโคงพอดี (แม่เกศณีคือสิ่งศักสิทธิ์ที่น้าคนที่
1บูชาที่บ้าน มีน่าตาเหมือนน้าคนที่2แต่เค้าสวยกว่า) แม่เกศณีเค้าก็ช่วยเต็มที่เท่าที่ผีจะช่วยได้ คือเค้าส่งข้อความลงเพจเจอร์มาว่า
เฮ้ยผม...นะคุณอยู่ไหนมาหาผมทีที่บ้านผมที(.คือคำที่ไม่สามารถเปิดเผยได้) น้าเรา2คนอ่านพนักน่าบอกแท็กซี่ว่าไปที่...ด้วยค่ะ แล้วแท็กซี่มองมาทั้ง2คนตกใจเลยบอกว่า
พี่จอดตรงนี้ละกัน รถก็หยุด ทั้ง2คนเกี่ยงกันจ่ายตังเพราะแท็ซี่มันไม่ยอมไป น้าเราคนที่2ต้องไปจ่ายคือวิ่งไปวางไว้ที่เบาะว่าวิ่งออกมาแท็กซี่คันนั้นก็หายไป ตั้งแต่คืนนั้น ทั้ง2ก็ไม่กล้าขึ้นแทกซี่กัน2คนอีกเลย



HeadEgg
Full Member
***
กระทู้: 699


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #25 เมื่อ: 23-04-2007, 23:24:32 »

อิอิ งงดีครับ

อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเลย Tongue
กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #26 เมื่อ: 24-04-2007, 14:23:36 »

ตำนานเทพนอสตอนที่4

กำเนิดพระอาทิตย์-พระจันทร์
เมื่อโลกเป็นที่เป็นทาง เทพทั้งหลายก็ทรงเห็นพ้องว่า แสงสว่างจะเป็นสิ่งที่จำเป็น พวกเขาจึงเดินทางไป มัสเปลส์เฮม เก็บเอาประกายไฟที่กระเด็นจากดาบเซิร์ทดวงที่ไม่ดับ ขว้างไปบนท้องฟ้า เกิดเป็นดวงดาวพร่างพราวทั่วไปหมด และเกิดสองดวงสว่างสุดคือดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์
และสร้างราชรถสำหรับลากลูกไฟทั้งสองไปทั่วฟ้า คันที่ลากดวงอาทิตย์มีทั้งน้ำแข็งและโล่ สวาลิน ไว้ด้านหลังม้าและคนขับ ป้องกันความร้อนรุนแรง มีม้าสองตัวลาก ชื่อ อาร์วาคร์(Arvakr) แปลว่า ขึ้นแต่เช้า กับ อัลสวิน(Alsvin) ซึ่งแปลว่า ฝีเท้าเร็ว ส่วนดวงจันทร์ ไม่ยุ่งยาก เพราะแสงไม่แรงเท่า ทั้งเล็กกว่า มีม้าลากเพียงตัวเดีนสคือ อัลสไวเดอร์(Alsvider) แปลว่า เร็วเสมอ
ต่อไปนี้มีการแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
โอดินทรงมองหาจากบรรดาลูกหลานที่เหลืออยู่ ค่อนข้างนอกคอกหน่อยคือเป็นลูกผสมยักษ์-เทพชื่อ มานิ(Mani) และ โซล(Sol) ชื่อทั้งสองแปลว่า ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
พี่น้องสองคนเป็นลูก มันดิลฟาริ(Mundilfari) มนุษย์จากมิดการ์ด พ่อของเขาหาญตั้งชื่อว่า อาทิตย์และจันทร์ ด้วยคิดว่าลูกตัวงดงามเหมือนทั้งสองดวง หาญเช่นนี้ โอดินโกรธมาก เลยพรากตัวสองพี่น้องมาทำหน้าที่สารถีขับรถพระอาทิตย์และรถพระจันทร์เสียจริง
ตำนานชาวนอร์สยังกล่าวถึงศัตรูตัวฉกาจของอาทิตย์และจันทร์ไว้ด้วยคือ พญาหมาป่าสองตัว สกอลล์(Skoll) และ ฮาติ(Hati) สองตัวนี่ปรารถนาอย่างเดียวมาแต่เกิดคือ อยากจะกินดาวทั้งสองให้สิ้นซาก แล้วก็สามารถทำได้จริงด้วยในช่วงแร็คนาร็อก

นรกภูมิ
แม้ว่าชาวนอร์สจะไม่ค่อยกล่าวถึงเรื่องนรกเลย แต่นรกของชาวนอร์สนั้นก็มีอยู่ เรียกว่า นิฟล์เฮม เป็นแผ่นดินของคนตาย อากาศหนาวเย็นมาก มีแต่แค่ ยักษ์ กับ คนแคระ เท่านั้นที่อยู่ร่วมกับวิญญาณคนตายได้ นรกของชาวนอร์สเป็นอาณาจักรของ เทพี เฮล(Hel) (ที่มาของ Hell) พระองค์นี้เป็นเทพที่สำคัญต่อไปในภายหน้า

กำเนิดคนแคระ-เอลฟ์
 เทพอาร์วาคร์ ผู้ทรงลากดวงอาทิตย์ระหว่างที่เทพทั้งสามช่วยกันสร้างโลก เนื้อส่วนหนึ่งของอีเมอร์นั้นก็เริ่มเน่า และได้ผลิตสิ่งมีชีวิตขึ้นพวกหนึ่ง
เทพทั้งหลายจึงสำรวจสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น แล้วจึงเปลี่ยนรูปร่างให้เข้ากับอุปนิสัย พวกที่ทำท่าทางโลภ ชอบขู่คำรามและโค้งตัวคุ้ยเขี่ยพื้นดิน สามารถรอดชีวิตได้โดยที่พวกอื่นตาย เทพสร้างให้เป็น คนแคระ(Dwarf) ให้ไปอยู่ในอาณาเขต สวาทัล์ฟเฮม(Svartalfheim) ใต้พื้นผิวแผ่นดินมิดการ์ด ซึ่งพวกมันสามารถจะขุดดินหาแร่มีค่าและอัญมณีมาเก็บไว้เป็นสมบัติ สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าโผล่ขึ้นมายามกลางวัน เพราะแค่แดดอ่อนต้องผิว จะกลายเป็นหินทันที
ส่วนอีกพวกหนึ่งไม่มีความโลภ เป็นพวกที่มีจิตใจดี ได้รับเปลี่ยนให้สวยงาม ตัวเบาเหมือนอากาศ เรียกว่า เอลฟ์(Elf) ได้อาณาเขต อัล์ฟเฮม(Alfheim ดินแดนแห่งเอลฟ์ขาว หรือ เอลฟ์สว่าง) อยู่ระหว่างแอสการ์ด กับมิดการ์ด พวกนี้มีสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนแคระ ถิ่นที่อยู่พวกเขาปลอดภัย และสามารถมาเที่ยวเล่นโลกมนุษย์ได้โดยไม่มีอันตราย เหตุนี้จึงทำให้เหล่าคนแคระไม่ชอบเหล่าเอลฟ์







Naraku
Jr. Member
**
กระทู้: 282

<Yagami Raito> <เรียกข้าว่าพระเจ้า>


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #27 เมื่อ: 25-04-2007, 12:41:43 »

เรื่องผี น่ากลัวดีแฮะ

แต่ มัน งง ๆ อ่ะ = =

Ps. ชอบเรื่องผีมั่กมาย แต่ไม่อยากเจอตัวจิง ๆ (นู๋กัว)


<<ไม่มีเวลาเล่นเกม
กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #28 เมื่อ: 26-04-2007, 21:55:07 »

เรื่องเล่าก่อนนอน
สโลแกน"อ่านแล้วจะนอนฝันดี"
เรื่อง"ผีมาเล่นด้วย"

เรื่องนี้พี่ผมเล่าให้ฟันเขาบอกว่าวันที่เขาไปเข้าค่ายเมื่อทำกิจกรรมเสร็จพี่ผมก็เล่นกับเพื่อนต้อนกลางคืนไม่ยอมนอนพ่อดีที่เข้าค่ายอยู่
ไกล้กับวัดจึงคิดเล่นพิเลนจึงไปเดินเล่นกันแล้วหยอกเล่นกันไปตามทางสักพักก็เล่นกันไปเล่นกันมาเดินผ่านเมรุพอดีเลยเดินเข้าไปดูลองใจกันว่าใครไม่กลัวผีและทีนี้พี่ก็เลยเดินรุ้สึกว่าตัวมันหนักๆเหมือนไม่มีแรงมันหนักขึ้นทุกทีและพี่ผมก็ล้มลงแล้วหันไปเห็นเด็กยืนอยู่บนต้นไม้3คนแล้วอีกคนนึงอยู่บนคอพี่ผมพี่ผมวิ่งไม่ได้เพราะถูกกดไวอยู่เพื่อนพี่ผมวิ่งหนีไปได้2คนเหลืออีก1คนโดนดึงเข้าไปในป่าเพื่อนพี่ผมร้องเท่าไรก็ไม่มีเสียงพี่ผมบอกว่าเห็นแต่ปากขยับแต่ไม่ได้ยินเสียงและทีนี้เพื่อนที่วิ่งหนีไปได้2คนก็ไปตามพระเณนมาพระเณนก็บอกว่าเด็กพวกนี้ไม่มีเพื่อนเล่นอยากมาเล่นกับเราเลยบอกให้ไปพวกเขามาเข้าค่ายไม่ได้มาเล่นกับแกและทีนี้พี่ผมก็ขยับได้และกลับไปนอนที่เต็นได้ประมาณตี3พี่ผมเห็นเพื่อนโดนลากไปนอนคนละทิศละทางแต่เห็นอีกคนไปนอนไกลกว่าเพื่อนเลยปลุกเพื่อนอีกคนที่ไม่โดนไปตามหาอีกคนไปเจออยู่หลังวัดและเห็นเด็นคนที่เจออยู่บนต้นไม้4คนจึงไปตามหลวงพ่อเจ้าอาวาทมาและได้พูดอะไรก็ไม่รู้จึงไม่มากวนอีกเลยวันต่อมาก็ไม่ได้ออกไปเดินเล่นอีกเลยตอนเข้าค่าย






กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: บอร์ดเล่าเรื่อง
« ตอบ #29 เมื่อ: 29-04-2007, 21:45:13 »

เรื่องเล่าก่อนนอน
สโลแกน"อ่านแล้วจะนอนฝันดี"
เรือง"ผีข้างทาง"
เมื่อประมาณไม่กี่ปีมานี้เองพี่เคยเล่าหั้ยฟังว่ามีเด็กผู้ชายคนนึงพ่อแม่ไม่ค่อยสนใจซักเท่าไหร่ แต่อยู่มาวันนึงในตอนเย็นเค้ากำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์จะกลับบ้านแล้วคราวนี้เกิดถูกรถ10ล้อมาชนเข้า เสียชีวิตคาที่เลย หลังจากนั้นเวลาเย็นๆชาวบ้านแถวนั้นก้อจะเห็นเด็กผู้ชายออกมายืนข้างถนนอยู่เรื่อยๆหรือไม่ก้อมายืนโบกมือให้หรือไม่ก้อจะเห็นเด็กผู้ชายขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วจะเลี้ยวเข้าข้างทางพ่อแม่เค้าก้อไม่พาเค้ากลับบ้านนะพี่บอกว่าพ่อแม่เค้าพูดว่า"ช่างมันเถอะปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ"ครูแถวบ้านเป็นครูสอนอะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้วแต่ไม่ใช่ครูในรร.เค้าสงสารก้อเลยคิดว่าจะพากลับบ้านแต่ก่อยนออกจากบ้านลูกชายเค้าเห็นเงาพ่อตัวเองไม่มีหัวอ่ะ(คิดเอาเอง)ลูกจะไม่ให้พ่อออกไปไปครูไม่เชื่อ ครูเค้าก้อจุดธูปและปักไว้ที่หน้ามอ'ไซค์แล้วก้อไปตรงที่เด็กผู้ชายตายแล้วก้อบอกว่าเดี๋ยวจะพากลับบ้านพอครูขี่รถไปได้สักพักมีรถสิบล้อหลับในขับมาชนตายคาที่เหมือนกัน ทุกวันนี้ชาวบ้านแถวนั้นเห็นคนแก่กับเด็กผู้ชายขี่รถมอ'ไซค์ไปทุกคืน ปล.ลืมบอกไปว่าเรื่องเกิดขึ้นที่จ.นครศรีธรรมราชแต่จำไม่ได้ว่าอำเภออะไร ถ้าคัยไม่เชื่อก้ออย่าลบหลู่นะขอร้องเพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงพี่เราเคยเห็นมากับตาเลย เราไปที่ไรก้อไม่เคยออกจากบ้านตอนกลางคืนทุกทีเลยกลัวมากๆ



ป้าย:
หน้า: 1 [2] 3 4