GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1]
ผู้เขียน หัวข้อ: Finish Final  (อ่าน 943 ครั้ง)
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Finish Final
« เมื่อ: 13-10-2007, 14:13:08 »

Finish   Final

บทนำ: ผลแห่งชะตากรรม


อีกไม่นานชะตากรรมของโลกจะแปรผัน...
จะมีผู้ใดกันหนอที่จะสามารถหยุด
ชะตากรรมครั้งนี้ของโลกได้ .....ผู้ใดกันเล่า..จะกล้าอาจหาญ
ต่อพลังที่เหนือตน....ผู้ใดกันเล่า.........


            เฮ้!เฮ้! เสียงผู้คน ประโคมกับสียงดนตรีที่แสนไพรเราะ ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งเมือง   ผู้คนต่างร้องเพลงเต้นรำ   ดื่มฉลอง สนุกสนานเฮฮา   ทำไมนะรึ ?   วันนี้เป็นวันที่ต้นไม้แห่งชะตากรรมจะออกผลลูกที่   5 
 ในรอบ200ปีต้นไม้ต้นนี้จะออกลูกไปพียง 1 ลูกเท่านั้น
              ใกล้ค่ำแล้ว......  ว๊าบ~ แสงสีฟ้าอ่อนๆ สว่างขึ้นที่หอคอยกลางเมือง ตะเกียงเวทถูกจุดโดยนักเวทผู้หนึ่ง
แสงสีฟ้าอ่อน สว่างว๊าบ ทำให้ตะเกียงที่อยู่ตาม 2 ข้างถนนในเมืองส่องแสงสีฟ้าเจิดจ้า  เหมือนกับว่าพวกมันกำลังส่องแสงแข่งขันกับตะเกียงเวทอันใหญ่บนหอคอ     ผู้คนพากันมารวมกันที่กลางเมืองเพื่อรอค่อยเวลาที่ต้นไม้แห่งชะตากรรมจะออกผล    ทุกเงียบกันหมด ทำให้ได้ยินเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา
                ชายหนุ่มตาสีเทา ผมสีดำสนิม รูปร่างสูงบนหลังเขาแบกกระเป๋าใบใหญ่  เขาแตะบ่าของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง 
           “เฮ้ พี่ชายพวกท่านมาชุมนุมอะไรกันอยู่หรอ?”   ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้างงงวย
              “เงียบๆหน่อย” ชายวัยกลางคนพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา  แล้วก็คิดขึ้นได้ “ อ๋อเจ้าคงไม่ใช้คนที่นี้แน่นอน เดี๋ยวเจ้าก็รู้เองล่ะน่า เงียบๆก่อนก็แล้วกัน”   ชายวัยกลางคนกล่าวเสร็จก็จดจ่อสายตาอยู่ที่ต้นไม้เล็กๆกลางเมือง ต้นไม้นั้นมีขนาดสูงเท่าเด็ก10ขวบ   ใบโปร่งใสแก่นใบเป็นสีทองสดใส เป็นประกาย แก่นในของต้นไม้มีแสงสีทองวิ่งอยู่ด้านใน รอบๆต้นไม้มีแสงสีทองโคจรอยู่รอบๆต้นไม้นั้น   ใช่แล้วนี้คือต้นไม้แห่งชะตากรรม
                 “ก็ได้คร้าบบบบ”    ชายหนุ่มลากเสียงยาวๆ แสดงถึงความผิดหวังที่ไม่รู้คำตอบที่ตนถามไป
                สักพักหนึ่งก็มีทหารใสเกราะสีขาวแล้วโล่อันใหญ่ติดอยู่ที่กลางหลังวิ่งออกมาจากปราสาท
                “ท่านลอร์ดเนโอเดนเสด็จแล้ว” นักรบเกราะขาวตะโกนด้วยเสียงที่ดังก้อง

วิ้งๆ วิ้งๆ   เสียงแมลงจัทร์ทราบินโคจรรอบตัวของคนๆหนึ่งที่ท่าทางดูภูมิฐาน  ผ้าคลุมที่หลังดูเหมือนจะไม่ใช้ผ้าทั่วๆไป มันคือรังศรีชนิดหนึ่งที่จะมีเฉพาะผู้ที่ร่างกายไม่สามารถรับพลังที่มีอย่างมหาศาลจึงถ่ายเท่พลังงานออกมาในรูปแบบต่างๆกันออกไป   ร่างกายของคนผู้นี้สามารถมองทะลุได้เหมือนเขาเป็นแค่พลังงานอะไรซักอย่าง เกราะสีขาวนวลมี ตราของเผ่าเอลฟ์  ใบหูที่ยาวแหลม เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกมาชายผู้นี้เป็นชาวเอลฟ์
            ผู้คนต่างแสดงความเครพโดยการคุกเข่าลงกับพื้น  แต่มีชายหนุ่มนักเดินทางคนเดียวเท่านั้นที่ยังอึ้งกับภาพที่ได้เห็นเบื้องหน้าของเขา
                    “ลุกขึ้นเถิดประชาชนแห่งข้า”     เสียงที่ก้องสะท้อนโดยที่ปากของเขาไม่ขยับ
                    “ข้าไม่ได้เจอพวกท่านพร้อมหน้าแบบนี้มากี่ปีแล้ว ชั่งหน้ายินดีจริงๆที่พวกเรามาอยู่พร้อมหน้ากันที่นี้” ลอร์ดเนโอเดลกล่าวคำทักทายอย่างเป็นกันเองกับประชาชนของตน
                       ว๊าบๆดอกของต้นไม้แห่งชะตากรรมส่องแสงสีขาวสว่าง แล้วดอกไม้ก็ค่อยๆกลายเป็นผลอย่างช้าๆ
ลอร์ดเนโอเดลเดินเข้าไปหน้าต้นไม้และเด็ดผลของต้นไม้ออกมาพร้อมกับกล่าวว่า
                     “ขอให้เมืองๆนี้และประชาชนแห่งข้าอยู่อย่างเป็นสุขไร้ทุกข์ มีแต่สุข ความสุขนั้นย่อมเป็นเที่ยงแท้มิใช่แค่ภาพลวงตา  จงสะนองตอบความตอบการของข้าด้วย ใช้เพื่อตัวข้าแต่เป็นคนทุกๆผู้ทุกนามในเมืองนี้ต่างห่าง ประสิทธิ์พรวิเศษให้แก่ข้าด้วย..”  เมื่อลอร์ดเนโอเดล กล่าวจบก็ชูผลแห่งชะตากรรมขึ้นเหนือหัว
                        ฟ้าว~ ฟ้าว~ ผลแห่งชะตากรรมแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีทองพุ่งกระจายออกไปในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่  แสงที่ทองสว่างจ้าตัดกับสีดำมืดมิดของท้องฟ้า
                         วิ้งๆ วิ้งๆ ฝนสีทองตกตกมาจากฟากฟ้าแทรกซึมเข้าไปในทุกสิ่งทุกอย่าง    ผู้คนต่างปลื้มปิติยินดีจนบางคนร้องไห้ออกมา
                      หลังจากนั้นชายหนุ่มนักเดินทางก็รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเป็นเช่นไร เขาอึ้งไปซักพัก  แล้วจึงได้สติกลับคืนมา เขาว่างกระเป๋าใบใหญ่ลงข้างๆของเขา  และมองไปรอบๆตัว ผู้คนต่างเต้นรำ ร้องเพลง ดื่นฉลอง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความปลื้มปิติยินดีกันทั่วหน้า.................
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #1 เมื่อ: 13-10-2007, 14:14:17 »

เศษเสี้ยวที่ 1 : ความทรงจำที่จางหาย

    ตึกๆๆๆๆ  เสียงฝีเท้าสัตว์พาหนะชนิดหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วมันก็คือ เวฟทิว นกขนาดยักษ์ที่ชอบการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ  ยิ่งกว่าจากบินบนท้องฟ้าเสียอีก   มันเป็นสัตว์พาหนะชั้นสูง  ยิ่งในศักดิ์ศรี   ไม่ยอมรับในตัวผู้ใดง่ายๆ  ผู้ที่ขี่มันมา สวมชุดเกราะสีขาว  อายุราวๆ 17-18 ปี  ผมสีทอง ประกอบกับตาสีฟ้า ทรงผมที่ดูไม่เป็นทรงลู่ไปตามลมนั้นล่ะเป็นเอกลักษณ์ของเขาเลยล่ะ   นามของเขามีชื่อว่า  โซ  เนเปรอส  บุตรแห่ง เนโอเดล เนเปรอส   
กษัตริย์แห่ง อาณาจัทร ลาโซรอส   เขาควบเวฟทิวไล่ตามเรือเหาะลำหนึ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส  อาณาที่ปรากฏต่อหน้าเขาคือ อาณาจักร ลาโซรอส นั้นเอง  อาณาจัทรทั้งอาณาจักรลอยอยู่บนฟ้า   ทั้ง8ทิศของอาณาจักรมีน้ำตก7สีไหลตกลงมายังพื้นเบื้องล่าง ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้อาณาจักรมีชื่อว่า บลูโฮ ชื่อของทะเลสาบทั้งตามลักษณะของทะสาบคือ ตรงกลางของทะเลสาบจะเป็นสีน้ำเงินสนิทมิอาจมองเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆได้ๆ  เพราะเงาของอาณาจะบดบังแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวันทำให้แสงอาทิตย์ส่องไปไม่ถึงผิวของทะเลสาบ
                     เมื่อใกล้จะถึงอาณาจักร เวฟทิวจึงกางปีกขึ้นแล้วก็บินขึ้นไปยังอณาจักรตรงเข้าไปยังลานจอดเรือเหาะ..... เรือเหาะลงจอดที่ลานขนาดใหญ่
                    โซกระโดดลงจากเวฟทิว ด้วยความดีใจจึงรีบวิ่งไปที่เรือเหาะ
                 “เฟีย” โซตะโกนด้วยความดีใจ 
                     ข้างหน้าเขาคือหญิงสาวในชุดสีขาวนวลอ่อนๆ เปล่งประกายระยิบระยับ ดวงตาของเธอแสดงถึงความสดใสร่าเริง   นัยน์ตาของเธอเป็นสี นิลแกมฟ้า  รอยยิ้มประกอบกับใบหน้าที่ดูร่าเริงอยู่เสมอของเธอชังกินใจผู้ชายหลายๆ คน   จะเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมถ้าได้เป็นเจ้าของใบหน้างดงามนั้น ผมของเธอชั่งชดงามสีน้ำตาลยาวจรดมาจนเกือบจะถึงเอวโบกสะไวตามแรงลม เมื่อเธอก้าวออกจากเรือเหาะตาของเธอกระทบกับแสงแดดเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
                     “โซเป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีเธอเปลี่ยนไปเยอะนะ” เฟียพูดแล้วอมยิ้มนิดๆ โซจะเดินเข้าไปใกล้ๆหญิงสาว..... เธอส่งยิ้มให้.....     
                  เฮือก!! โซสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก   
                …ฝันนี่มันอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นคือใคร .......อะไรกัน.......
ขณะที่โซยังคิดไม่ตกเกี่ยวกับหญิงสาวและเมืองในความฝันก็มีเสียงหนึ่งตะโกนเรียกเขา  “โซ!!พวกมันมากันแล้ว” ชายผู้มีนัยน์ตาสีแดงราวกับมังกร  ร้อนแรงดังเปลวเพลิง เขาสวมชุดเกราะสีดำทมิฬ วิ่งเข้ามาในกระโจม ชื่อของเขาคือ ฟิวเนส บุตรแห่ง เฟรมลอร์ด ผู้ปกครองอาณาจักร แห่งเพลิง   ผู้ถือดาบอัคคีวินาศที่ ตีขึ้นจากแขนขวาและสร้อยอัสนีกลืนโลก ของเทพอัคคีองค์ก่อน(แขนขวาของเทพอัคคีองค์ก่อน ทำจากกระดูกของมังกร)
                    “พวกมันมามากกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก....”      ฟิวเนสกล่าวยังไม่ทันจบโซก็พูดแทรกขึ้นมาทันที่
                    “สนอะไรล่ะ” คำพูดของโซบ่งบอกว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยมุทะลุ   มีความกล้าหาญ หลังจากกล่าวจบ โซก็รีบไปสวมเสื้อเกราะที่มีลักษณะคล้ายกับของ ฟิวเนส อาวุธคู่กายของเขาคือดาบโลหิตหมื่นกษัตริย์ ซึ่งได้มาจากสงครามครั้งใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน เทพแห่งช่างรุ่นก่อน ได้ตีดาบเล่มนี้ให้กับมือ และได้สะละแหวนหมื่นเลือดกษัตริย์ นำมาตีเป็นดาบให้กับ โซ ตัวดาบเป็นขาวมีสีแดงของเลือดแซมเล็กน้อย
                      ฟ้าว~  เสียงลูกพลังงานสีแดง แหวกอากาศ มายังค่ายพยาบาล รวดเร็วอย่างน่าทึ่ง เสียงผู้คนหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนก 
                            เปรี้ยง!!! เสียงดาบของโซปะทับกับลูกพลังทำให้ลูกพลังแตกกระจายหายไป 
                            “เล่นกันอย่างงี้เลยหรอ สกปรกจริงๆ” ฟิวเนสกล่าวอย่างหงุดหงิด
                             “ลุยเลยอย่าให้รอดแม้แต่ตนเดียว!”   โซพูดด้วยความสีหน้าที่เครียดแค้น
ทั้งสองวิ่งออกไปยังสนามรบ  เหล่าทหารของฝ่ายผู้รุกรานสีหน้าของแต่ล่ะคนราวกับไม่มีชีวิต
                            “ซอมบี้?” ฟิวเนสกล่าวเป็นเชิงถาม
                           “หน้าจะใช่....ข้าไม่รู้สึกถึงพลังชีวิตของพวกมันเลย” โซ ตอบด้วยสีหน้าที่เย็นช้า
                            ทหารอมตะก้าวเดินอย่างช้าๆรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ  ทางฝ่ายมนุษย์ก็ถูกดันออกไปเรื่อยๆ
                            “ซอมบี้เหรอข้าไม่กลัวเหรอเว้ย!!” ทหารคนหนึ่งตะโกนเป็นการปลุกใจให้เพื่อนๆมีกำลังใจในการต่อสู้   ต่อทัพอมตะที่อยู่ตรงหน้า  แต่ก็ได้ผลเกินคาดทหารทุกนายรุกคือดันพวกซอมบี้ถอยหลังไปเรื่อยๆ
                             “จุดอ่อนของพวกอยู่ที่หัว!!” โซตะโกนบอกเหล่าพวกพ้องของตน
                            “เสร็จล่ะ ได้ยิ้นที่โซพูดไหม!!” ฟิวเนสตะโกนพร้อมบั่นคอพวกซอมบี้ตายไปหลายตน
การต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดๆหนึ่งก็ปรากฏภาพแม่ทัพของฝ่ายศัตรู อยู่ด้านหลัง
                              “ 9 ตน ไง๊มากงี้ง่ะ” ฟิวเนสกล่าวด้วยน้ำเสียงกวนๆ
                          หลังจากฟิวเนสกล่าวจบโซก็กระโดดข้ามพวกซอมบี้ไปจุดมุ่งหมายคือแม่ทัพทั้ง13ตนเบื้องหน้า
                             “รอข้าด้วย!!”  ฟิวเนสตามโซไปทันที่
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #2 เมื่อ: 13-10-2007, 14:15:25 »

เศษเสี้ยวที่ 2 : ประจัญหน้า

                          ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือ  ร่าง  9 ร่าง    ที่มีไอมรณะไหลออกมาจากชุดเกราะตลอดเวลา   
                    ตนแรก ริมสุดทั้งซ้ายและขวา  นักดาบ ร่างกายขนาดยักษ์ที่สวมหมวกขนาดใหญ่และชุดเกราะแค่ท่อนบนท่อนล่างตั้งแต่ใต้อกลงมาเผยให้เห็นซี่โครงเป็นซี่ๆ ดาบขนาดยักษ์ที่พาดไว้ด้านหลังดูน่าเกรงขาม 
                     ตนที่ สอง ทั้งซ้ายและขวา  นักเวทสายความมืด ร่างเล็กสวมเกราะทั้งตัวถือคฑารูปหัวกะโหลกมนุษย์ ที่อยู่ใหญ่สะดุดตาด้วยขนาดของคฑาที่ใหญ่เกือบเท่าๆตัวของพวกมัน 
                     ตนที่ สาม  ทั้งซ้ายและขวา นักเวทสายธรรมชาติ ร่างเล็กสวมเกราะทั้งตัวที่มือที่ถือคฑาเล็กไม่สะดุดตามากนัก
                     ตนที่ สี่  ทั้งซ้ายและขวา นักธนู สวมแต่เกราะแขนไว้ทั้ง 2 ข้าง  เผยให้เห็น ร่างกายที่เป็นกระดูกทั้งตัว  ที่มือถือคันธนูขนาดใหญ่ 
              ตนที่ ห้า ทั้งซ้ายและขวา นักบวช เสื้อคลุมที่ดูโปร่งใสมองทะลุผ่านได้ เผยให้เห็นแต่ใบหน้าที่เป็นกระดูกและมือที่ถือหนังสือเล่มเล็กสีดำ
                     ตนสุดท้าย ท่าทางที่ยืนเตรียมพร้อมโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย  มือทั้งสองข้างถือดาบสองดาบขนาดกลางไว้ทั้ง2ข้าง ใบมีดของดาบเป็นมีขาว มีรอยร้าวปะปลาย ใบหน้าของมันยังมีเนื้อ
เยื่อติดอยู่ ดวงตามีฟ้าที่ดูเหมือนเป็นแค่พลังงานอย่างหนึ่ง
                     นักดาบคู่กระทืบเท้าเกิดไอสีดำซึมลอยขึ้นมาจากพื้นเดิน
                     “อา...เก็บ..มัน..”  นักดาบคู่กล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้ง    ทันใดนั้นนักดาบและนักเวท 6 ตน ก็พุ่งเข้าไปหาโซและฟิวเนส
                    ลากไอ้หัวแดงไปเชือดที่อื่นดีกว่า  นักเวทเกราะดำ  พาฟิวเนสแล้ว พวกพ้องอีก 2 ตน
วาบหายไปในช่องมิติ
             นักดาบร่างยักษ์พุ่งใส่โซด้วยความเร็วสูงผิดจากรูปร่างใหญ่โตของมัน   มันกระโดดไปด้านหลังของโซ   
                 เซือก!! เสียงของมีคมทะลุผ่านอะไรซักอย่าง  “อ๊ากกกก” เสียงโหยหวนของนักรบกระดูกดังขึ้น   โซแกว่งดาบไปด้านหลังตัดผ่านช่วงอกของนักรบกระดูก สะลายหายไป
                “ คลื่นแห่งความตาย” นักเวทกระดูกผู้ที่คฑาหัวกระโหลกกล่าวมนต์สังหาร
               โซกระโดดหลบคลื่นพลังงานไปได้  แต่ว่านักเวทกระดูกกลับวาบมาอยู่ด้านหลังของโซแล้ว  “ เขตอาคมมืด” นักเวทกล่าวมนต์พื้นที่  กล่าวม่านสีดำคลุมโซและนักเวทผู้ร่ายมนต์
                  “คลื่นแห่งความตาย”  นักเวทกล่าวมนต์สังหารขึ้นอีกครั้ง คลื่นพลังทะลุผ่านโซ และทะลุผ่านม่านสีดำออกไปภายนอก 
                    “ภาพลวงตา?” นักเวทกระดูกไหวตัวได้ก็สายไปเสียแล้ว โซ กระโดดขึ้นไปด้านบนซัดดาบลงมาเป็นคลื่นพลัง กระแทกเข้ากับร่างของจอมเวท
                   “ เวทมนต์แกน่าสนใจดีนี่” โซกล่าวพร้อมๆกับที่ร่างของนักเวทกระดูกค่อยๆสะลายหายไปในอากาศ
 ม่านพลังสีดำค่อยๆคลายออก โซกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณหาจุดที่ฟิวเนสกำลังต่อสู้อยู่
           “ศร…” จอมเวทอีกตนกล่าวชื่อมนต์ พร้อมกับเกิด คันธนูไฟง้างพร้อมยิง
                 “ไฟ!!” ลูกศรเพลิงพุ่งตรงไปยังจุดที่โซยืนอยู่
                 เปรี้ยง!! โซ ใช้ดาบเป็นโล่กำบังมนต์    โดยที่โซยังไม่ทันระวังตัวจอมเวทกล่าวมนต์ขึ้นอีกครั้ง       
                “ศร..ไฟ3ชั้น!!” เกิดพลังเวทรูปศร 3 ดอกพุ่งไปหาโซอีกครั้ง     เปรี้ยงๆ ตูม!!  ดาบหลุดออกจากมือของโซกระเด็นไปด้านหลัง
                  “หึๆๆ...จบแค่นี้และนะ” จอมเวทกระดูกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยินดี  “สายฟ้......”   
                    จอมเวทยังไม่ทันกล่าวจบก็เกิดคลื่นพลังงานสีแดงเพลิงเข้าปะทะ “อ๊ากกกกก!”
นักเวทถูกไฟสีแดงฉานเผาไหม้หายไปเป็นจุล
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #3 เมื่อ: 13-10-2007, 14:17:31 »

เศษเสี้ยวที่ 3: ขุนผลออกโรง


“แฮ่ๆ..เกือบแล้วไง” ฟิวเนสนั่งลงมองมายังโซ เขาหอบหายใจเล็กน้อย
               "ข้าเป็นหนี้ชีวิตเจ้าอีกครั้งแล้วสินะ  หึ ๆไอ้ 3 ตัวที่พาเจ้าวาบไปล่ะ?"  โซกล่าวด้วยสีหน้าที่ดูผิดหวัง พร้อมกับหัวเราะเบาๆ กล่าวเป็นเชิงถาม
                      " ฮ่าๆ ฮ่าๆ "  ฟิวเนสปล่อยฮาออกมาฮาใหญ่
              "ก็คนอย่างข้ามันดวงแข็งนี่ มันเล่นพาข้าวาบเข้าประตูแคบๆก็เจอของดีตายหมู่นะซิ"
                      ฟิวเนสอวดสรรพคุณอย่างปลื้มปิติ แล้วเขาก็สลบไป
              "ประมาทจริงๆนะพวกเจ้า....อย่าลืมซิว่ายังเหลือพวกข้าอยู่  ......จัดมัน" ขุนพลดาบคู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น     ดวงตาสีฟ้าสว่างเจิดจ้า  แสดงถึงความโกรธของมัน 
              "อากัส  เฟมัส " ขุนพลกล่าวชื่อนักบวชทั้งสอง ที่วิ่งเคียงข้างกันมา นักบวชตนทางซ้ายมือของ ขุนพลกระดูก ชื่อ เฟมัส  ตนทางขวามือชื่อ อากัส
                      "บทสวดที่เศร้าสร้อย" เฟมัสกางสมุดสีดำเล่มเล็กพร้อม กล่าวมนต์สนับสนุน เกิดตัวอักษรมารลอยโครจรรอบๆตัวของ ขุนพลกระดูก
                       เปรี้ยง!! ต้าม!! ต้าม!! ขุนพลกระดูกกระหน่ำดาบคู่ใส่โซ โดยไม่เปิดช่องว่างแม้แต่นิดเดียว  โซ เป็นแค่ฝ่ายตั้งรับ   
                         "หึ   เร็วดั่งลม" โซยิ้มที่มุมปากพร้อมกล่าวมนต์เสริมความเร็ว วาบไปด้านหลังของขุนพลกระดูก
                       เปรี้ยง!! ขุนพลกระดูกสอดดาบไขว้กันเป็นรูปกางเขน สกัดการโจมตีของโซจากด้านหลังได้  โซวิ่งมาทางด้านขวาของขุนพลให้ชั่วพริบตา
                        "รับไป! "โซตะโกนพร้อมซัดออกไป
                        เปรี้ยง!!  ขุนพลกระดูกกับสกัดได้เป็นครั้งที่ 2   
                         "ข้าประมาทฝีมือเจ้าไปหน่อย เร็วเหนือเสียง " โซวาบฟัน ขุนพลกระดูกจากทุกทิศทางแต่ ขุนพลก็สามารถสกัดการโจมตีไว้ได้หมดโดยที่ตนเองไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว
                         "ตาข้าบ้างล่ะ เฟมัส!!  " ขุนพลตะโกนเรียกชื่อ 1 ใน 2 นักบวช
                          เฟมัสวาบมาตรงที่ขุนพลยื่นอยู่ทันที่  ขุนพลกำศีรษะขอเฟมัสไว้แน่น
                        "จิตดับวูบ.." ขุนพลกระดูกกล่าวชื่อมนต์สูบพลังชีวิตและระเบิดออกมาในรูปของพลังงานมหาศาล
                        ตูม!!!เกิดพลังมหาศาลระเบิดออกเป็นวงกว้าง  โชคดีที่ผลของมนต์เร็วเหนือเสียงยังมีผลอยู่จึงทำให้โซสามารถหลบการโจมตีที่รุนแรงครั้งนี้ได้
                         แซดๆ เสียงพลังงานไฟฟ้าไหลเวียนไปตามพื้นดิน ปรากฏภาพของขุนพลยืนอยู่ทามกลางหมอกควัน  ขุนพลปล่อยร่างของเฟมัสลงสู่พื้น  เมื่อร่างของเฟมัสกระทบพื้นก็แตกสะลายกลายเป็นฝุ่นผง
                         "หึๆฮ่าๆ หลบได้ด้วยรึ... ฮ่าๆ แต่ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าหรอ.."  ขุนพลพร้อมๆกับหันหลังไปมอง ทางด้านหลัง
                           "อากัส...." ขุนพลกล่าวชื่อของนักบวชที่ยื่นนิ่งอยู่ด้านหลัง
                          "เขตอาคมมืด....บทสวดที่เศร้าสร้อย....สุสานโลงศพสีแดง..."อากัสร่ายมนต์ 3 บท ในเวลาไล่ๆกัน   หึหึๆ ขุนพลหัวเราะพร้อมจ้องมาที่โซ
                           เกิดม่านพลังคลุมทั้งสองไว้ด้านในแล้วปรากฏภาพโลงศพสีแดงผุดขึ้นมาจากพื้นดิน   อักษรมารโครจรอยู่รอบตัวของขุนพล พร้อมๆกับมีไอสีแดงที่ใต้ท้าวของมัน
                   วูบๆ  ขุนพลวาบไปทั่วๆบริเวณ เป็นช่วงๆ โซหันตามตั้งท่าเตรียมพร้อม
                             "พินิจดูเด็กน้อย เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยรึ"   ขุนพลกล่าวพร้แมยักไหล่ทำท่ากวนๆ   
                             สวบๆๆๆๆๆ เกิดบาดแผลขึ้นทั่วตัว อั๊ก  โซกระอักเลือดขณะที่จ้องไปในดวงตาของขุนพลและแล้วเขาก็ทรุดลงบนพื้น
                              "หึๆๆคิดว่าแน่คงเอาจริงมากเกิดไป ก็แค่มดปลวกหึๆๆ"  ขุนพลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ปิติยิ้นดี ดวงตาของมันจ้องมองโซ ภาพโซที่จมกองเลือดอยู่ด้านหน้าของมันค่อยๆมะลายหายไป
                               "หือ......"ขุนพลกล่าวลากเสียงด้วยความสงสัย
                               "คิดว่าจะจบแค่นี้หรอ ขุนพล"  ปรากฏร่างของโซยื่นอยู่ด้านหลังของขุนพล
                               "ภาพลวงตางั้นรึ  พวกเผ่าวิญญาณ น่ากลัวจริงๆ"ขุนพลกล่าวจบโซก็ง้างดาบขึ้น
                                เปรี้ยง!!ขุนพลสกัดการโจมตีได้ มันหัวเราะเบาๆพร้อมกับปะดาบสู้กับโซไปเรื่อยๆ   ไปมีที่ท่าว่าฝ่ายใดจะเพลี้ยพล้ำ 
                                  "คงไม่จบง่ายๆอย่างที่ข้าคิด...."ขุนพลบ่นพึมพำเสียงมันแพ่วเบาจนเสียงดาบที่ปะทะกันกลบเสียงของมันไปหมด
                                  "อากัส......"ขุนพลกล่าวพร้อมก้าวไปด้านหลังจับโซล็อกไว้
                                  "เก่งจริงหลบครั้งนี้ให้ได้สิ...."ขุนพลกล่าวลากเสียงด้วยความมั่นใจว่าจะสังหารโซได้ด้วยมนต์บทเดิม
                                  อักษรมารรอบๆตัวของขุนพลค่อยๆจางหายไป โลงศพรอบๆบริเวณ ผุพัง
สะลายกลายเป็นผง ม่านสีดำค่อยๆจางหายไป   ขุนพลกระดูกเงยหน้ามองเหตุการณ์
                                   โซ หลุดออกมาจากการล็อกของขุนพลอย่างง่ายดาย
                                  "อากัส....?" ขุนพลกวาดสายตาไปรอบๆ  ภาพที่ขุนพลได้เห็นคืออากัส โดนฟิวเนสเหยียบตัวสะลายไปต่อหน้า
                                   "เฮ้ย~  ข้าเป็นหนี้ชีวิตเจ้าอีกครั้งแล้วรึ"โซถอนหายใจยาวๆ  ส่ายหัวมองไปยังฟิวเนสที่ยิ้มยิงฟันหันมาทางโซ
                                    "หึๆ ต้องแลกเปลี่ยนกันหน่อย"   ขุนพลกล่าวพร้อมกับชูดาบทั้ง 2 ขึ้นบนฟ้า    "เจ้าอยากดูดดื่มเลือดไหมสหายข้า " ผิวหนังที่ยังติดอยู่ที่ใบหน้าของขุนพลสะลายหายไปในพริบตา       ดาบทั้งสองเล่มปะกบเชื่อมเป็นดาบเล่มใบเล่มเดียว  ไอมารสีเขียวโพยพุ่งออกจากดาบยักษ์
                               "มาตัดสินครั้งสุดท้ายกันเถอะไม่เจ้าก็ข้าต้องตายกันไปข้างหนึ่ง" ขุนพลกำดาบไว้แน่น เงยหน้าขึ้นจ้องมายังที่โซ
                                "ข้าชื่อ โซ เจ้าควรจำชื่อข้าไว้"  โซกล่าวด้วยซีหน้าที่เย็นชาจ้องมองขุนพล
                                " ตัวข้าคือคาซาคอส  ถือกำเนิดขึ้นจากซากศพนับร้อย..... กินให้อิ่มสหายข้า" ขุนพลกระดูกกล่าวพร้อมกับแกว่งดาบซัดลงยังพื้นเบื้องหน้า  เกิดคลื่นพลังสีเขียวแกมเงินพุ่งเป็นแนวราบไปกับพื้น
                              โซกระโดดขึ้นไปบนอากาศ พร้อมซัดคลื่มพลังลงมาใส่ อาซาคอส   แต่อาซาคอสยกดาบขึ้นกำบังคลื่นพลังไว้ได้ทัน    ตูม!!เสียง คลื่นพลังปะทะกับดาบของ คาซาคอส ทำให้เกิดรอยราว   
คาซาคอสจับที่ดาบแล้วกล่าว"สหายข้า......จงมอบพลังให้กับข้าผู้นี้ด้วย"  ร่างของโรมัท เกิดไอมารโพยพุ่งออกมาจากตัวของมันอย่างมหาศาล  หึๆๆ ข้าคงเป็นฝ่ายชนะหึๆๆ 
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #4 เมื่อ: 13-10-2007, 14:20:57 »

เศษเสี้ยวที่ 4: ซาดัสผู้หิวกระหาย

              ขุนพลกระดูกกำดาบไว้แน่นทันใดนั้นมันก็กระโดด ข้ามโซ ไปด้านหลังในเวลาชั่วพริบตา หวังเพื่อจะปลิดชีวิตโซในดาบเดียว
"หึๆหึๆมาได้แค่นี้และมนุษย์เอ๋ย" ขุนพลกระดูก กล่าวพร้อมกับซัดดาบหวังจะปลิดชีวิตโชทันที่   
   โซ แกว่งดาบไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว " ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอะไรกัน....ชิ้ง  ตัดผ่านจุดชีวิตของขุนพลกระดูก  อ๊ากก!! ความเจ็บปวด ข้าไม่เคยเจ็บอย่างงี้มานานแล้ว ฮะๆฮ่าๆ ตั้งแต่ตอนไหนน้า~..จิตวูบดับสูญ..."  ชื่อเวทมนต์สูบพลังชีวิตได้ถูกกล่าวขึ้นอีกครั้ง  ขุดพลกระดูกกล่าวจบก็เปล่งพลังเฮือกสุดท้ายออกมา    โซอยู่ใกล้เกินไปไม่สามารถหลบมนต์บทนี้ได้เป็นครั้งที่2   เปรี้ยง!!!  โซโดนคลื่นพลังผลักกระเด็นออกจากจุดนั้นออกไปประมาณ  2-3 เมตร    "อ๊ากกกก~ " ขุนพลกระดูกกรีดร้องด้วยเสียงที่แหบแห้งก่อนที่จะสะลายหายไปพร้อมๆกับดาบที่น่าเกรงขาม 
            อีกด้านหนึ่งของสนามรอบ   วิ้งๆ~ "วงแหวนจัทร์เสี้ยวทมิฬ!!"  ตูม!!!ฟ้าวๆๆ~เสียง  ลำแสงทรงจัทร์เสี้ยว สีม่วงแกมดำ แหวกอากาศ กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ตัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆข้าง  ปรากฏร่าง ร่างหนึ่งในกลุ่มควัน.... ร่างนั้นสูงราวๆ 2 เมตร   
 "ฮ่าๆๆ   นี้รึ กลุ่มมนุษย์ กลุ่มสุดท้ายที่ต่อต้านพวกเรากระจอกจริงๆ" เสียบแหบนิดๆของเจ้าของเสียงฟังแล้วทำให้รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว    ดวงตาที่กระหายเลือด นั้น มีสีแดงสดคล้ายสีของเลือด รอยยิ้มที่ดูน่าขนลุกบวกกับ ดวงตาข้างขวามีดวงตาเล็กๆ4ดวงอยู่เรียงกันประกอบกับใบหน้าที่ซีดขาว ทำให้ดูสยดสยองยิ่งหนัก   ชื่อของมันคือ ซาดัส ปีศาจที่เกิดจากความแค้นของปีศาระดับกลาง 100 ตน รวมเป็นมันผู้เดียว
         "พวกทหารชั้นต่ำเสร็จพวกมนุษย์ได้ง่ายๆเลยรึ!?  พวกนี้ก็เก่งใช่เล่นนะเนี้ย....."ซาดัสกล่าวพร้อมๆกับกวาดสายตายไปรอบๆ   "เจอแล้ว"  มันพุ้งตัวไปทางฟิวเนสที่ยังไม่พักฟื้นแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว
    "หลบไปเศษกระดูก  วงแหวนทมิฬ"ซาดัสกล่าวพร้อมซัดคลื่นพลังงานใส่  ทหารกระดูกหลาย 10 ตนที่รุมฟิวเนสอยู่     เปรี้ยง!! ทหารกระดูกแตกกระจายไปคนละทิศละลายแล้วสะลายหายไป
     "แฮ่ๆ..."  ฟิวเนสหอบหายใจถี่ๆสายตาของเขาจ้องไปยังสิ่งๆหนึ่งที่กำลังพุ้งมาตรงที่เขายื่นอยู่ 
    "โว้ๆๆๆนึกว่าใคร  ลูกเก็บ เฟรมลอร์ด  เองรึ พลังของเจ้าดึงดูดข้าเสมอ ฮะๆน่าสนุกๆๆ"  ซาดัสย้ำคำว่าน่าสนุกๆ ด้วยสีหน้าที่ดูมีใจเป็นพิเศษ
    "ลูกเก็บเหรอ   ฟังดูดีหนิในสายตาของข้าไม่เห็นเขาเป็นพ่ออยู่แล้ว"ฟิวเนสกล่าวพร้อมพุ่งตัวเข้าไปหาซาดัส             
     "จงกู่ก้องอัคคีวินาส"สิ้นเสียงของฟิวเนสจากดาบธรรมดาๆกลายเป็นดาบสีแดงเพลิง   ไฟสีแดงลุกไหม้กินเนื้อโลหะที่เป็นตัวดาบเหลือไว้ทิ้งไว้แต่เพียงเปลวไฟ
     ฟิวเนสทั้งฟันทั้งแทงด้วยความเร็วแต่ ซาดัสก็สามารถปัดป้องแล้วหลบหลีกได้ตลอด
                          "หือ....ฝีมือมีแค่นี้องหรอ?"  ซาดัส กล่าวอย่างสงสัย เป็นเชิงยั้วในฟิวเนสโกรธ   
                           "ก็ได้รับไปซะย๊ากกกกก~!!! คลื่นสุริยันต์!! " เปรี้ยง!!! เพียงชั่ววูบ ซาดัส ก้มลงเพื่อหลบคลื่นพลังที่ฟิวเนสปล่อยออกมา  "ดาร์กสตองเกอร์" เวทมนต์เพิ่มความแข็งแกร่งการโจมตีระยะประชิด ออร่าสีดำเปร่งแสงที่มือของซาดัส    ตูม!!  ความแรงหมัดของซาดัสทำให้ฟิวเนสกระเด็นลอยขึ้นบนอากาศ
                           "หึหึๆวงแหวนทมิฬ3ชั้น" ซาดีสเอ่ยจบก็เกิดคลื่นพลัง ซัดกระแทกใส่ร่างของฟิวเนส 3 ครั้ง
     อั๊ ก! ฟิวเนส สติเริ่มเลือนลาง ร่างของเขาค่อยๆลอยตกมาจากฟากฟ้า   ฟิ้ว!  ซาดัส วาบไปดักรอฟิวเนสอยู่จุดที่กำลังจะลอยลงมา  ทันใดนั้น  "ย๊ากก!!!วงแหวนจัทร์เสี้ยวทมิฬ!!!"   ซาดัสตะโกนลั่นก้องไปทั่วทั้งสนามรบทำให้โซที่นอนแน่นนิ่งอยู่รู้สึกตัวลุกขึ้นมองไปทางต้นเสียง     สวบๆๆๆเสียงคลื่นพลังตัดผ่านร่างของฟิวเนส   ร่างของฟิวเนสตกลงสู่พื้น   เกราะที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่ก็แตกสลายไปหมด เลือดสดๆไหลทะลักออกจากบาดแพลจำนวนมากไม่มีที่ถ้าจะว่าจะหยุด 
                 "ไม่!!!~" โซตะโกนสุดเสียง      ด้วยกำลังที่เขามี เขาวิ่งตรงไปยังที่ๆซาดัสอยู่ 
                 "ย๊ากก!!" โซ ตะโกนพร้อมกระโดดขึ้นไปบนฟ้าพร้อมง้างดาบเตรียมซัดใส่ร่างที่อยู่ตรงหน้า
               "นี้ล่ะน้า..มนุษย์  โง่เขลาจริงๆ วงแหวนจัทร์เสี้ยวทมิฬ!!"   ซาดัส กล่าวมนต์บทนี้ขึ้นอีกครั้ง ดวงตาทั้ง 5 ดวง เปิดกว้าง    มองภาพของโซที่อยู่ข้างหน้า 
               " หายไปจากโลกนี้ซะ!!" โซกล่าวพร้อมซัดดาบใส่คลื่นพลังรูปจัทร์เสี้ยว  เปรี้ยง!!  เสียงพลังปะทะกันอย่างรุนแรง   สวบ!! เสียงคลื่นพลังตัดผ่านร่างของโซ ไปในชั่วพริบตา 
 พลังของโซพ่ายแพ้  ต่อพลังของซาดัสเสียแล้ว.....  ซาดัสไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่นิดเดียว 
             "หึๆมีเพียงแค่นี้ เองรึพลังของผู้ต่อต้าน ที่กวาดกองพันโลหิตทั้ง  371 ตนได้เพียงคนเดียว......"  สวบ!! เกิดบาดแผลบนร่างของซาดัสตั้งแต่หน้าผายาวไปจนถึงเอว เป็นแนวตั้ง และเกิดรอยไหม้ที่หน้าอกเพราะพลังคลื่นสุริยันต์ของฟิวเนสไฟสีดำลุกไหม้กัดกินร่างส่วนหน้าอกของซาดัส
               "นี้มัน......  หึๆๆ ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! "ซาดัสเงยหน้าขึ้นมองฟ้าแล้วแหงนหน้าลงมามองโซที่อยู่ตรงหน้า "ข้าทะนงตัวไปจริงๆ ฮ่าๆ นี้ล่ะโทษฐานที่ข้าประมาทพวกเจ้ามากเกินไป ฮ่าๆ   ฮ่าๆ " 
               "พิธีกรรมต้องห้าม ยื้อชีวิต!!"   ซาดัสกำกำไลที่ข้อมือจนแตกละเอียดพร้อมกล่าว มนต์ต้องห้าม  เมื่อซาดัส กล่าวจบเกิดม่านพลังคลุมร่างของซาดีสเอาไว้พร้อมๆกับดวงวิญญาณนับสิบๆดวงพุ่งเข้าไปหาซาดัสเมื่อม่านพลังคลายออก บาดแผลทั้งหมดก็ หายไปในพริบตา
                   "ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ่า!! เงื่อนไขทุกอย่างก็ครบหมดไม่ว่าจะ วิญญาณ  30 ดวง  ภาวะใกล้เคียงความตาย  และ......."  สวบ!!!  อั๊ก!! ซาดัสยังไม่ทันกล่าวจบก็ถูกโซพุ่งตัวเข้ามาแทงที่ท้องเสียบทะลุออกกลางหลัง  ซาดัสกะอักเลือดสดๆออกมาจากปากคำใหญ่ 
                     "เหอๆๆไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมาหาที่ตายเองเร็วขนาดนี้ หึๆๆ " ซาดัสสะแยะยิ้ม พร้อมบ่นพึมพำอะไรบ้างอย่าง เกิดไอเย็นทำให้โซดึงดาบออกจากตัวซาดัสไม่ได้และโซก็ไม่สามารถปล่อยมือออกจากดาบได้เพราะไอเย็นจากตัวซาดัส
                     "เวทมนต์สายธรรมชาติ...น้ำแข็ง?..ดึงดาบไม่ออก!?" โซกล่าวขึ้นด้วยความตกใจและสงสัยในสิ่งที่ได้เห็น 
                     "รู้ไหมโซ ว่าเวทมนต์บทนี้มันรุนแรงขนานไหนหือ?..."  เสียงของซาดัสเข้า มาในหัวโซ แต่ซาดัสยังท่องมนต์บทนั้นอยู่ 
                     "หลุมดำ..." ซาดัสกล่าวด้วยเสียงที่เรียบง่าย  เวทมนต์สูบพลังชีวิตขั้นสูงที่จะสูบชีวิตผู้ที่อยู่ใกล้ตัวผู้ร่ายเอง  เกิดก้อนพลังงานสีดำสนิท ลอยขึ้นเหนือหัวร่างทั้งสอง ปรากฎภาพวิญญาณ ปีศาจนับสิบๆดวงถูกดูดออกจากตัวของซาดัสไปยังก้อนพลังงานและก้อนพลังงานก็ใหญ่ขึ้นทุกที่ๆ  ก้อนพลังงานลอยสูงขึ้นไปบนอากาศ แว๊บ เกิดแสงสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ  ตูม!! ก้อนพลังงานแตกตัวออก กลายเป็นหลุมดำขนาดย่อม    แต่เวทมนต์บทนี้ดูดแต่วิญญาณเท่านั้น  วิญญาณถูกดูด กระชากออกมาจากซากศพ ของทหารที่พลีชีพในสนามรบ 
                           " กักวิญญาณ "  เสียงอันอ่อนนุ่มของหญิงสาว เธอใช้มือของเธอปิดหน้าของฟิวเนสเอาไว้ ไม่ให้เขาถูกมนต์บทนี้ดูดวิญญาณของเขาไป เธอใส่เสื้อคลุมบางใสสีขาวเห็นผม
บรอนทองของเธอ  ออกมาปะปลาย 
                      "เส้นทางสู่แสงสว่าง" เสียงของผู้เฒ่าคนหนึ่งกล่าวมนต์แสง ชั้นสูง เขาใส่ชุดนักบวชระดับสูง ตรากางเขนที่หน้าอกบ่กบอกถึงระดับฝีมือที่ไม่ธรรมดา ใบหูแหลม ร่างกายของเขาเหมือนเป็นแค่พลังงานอะไรซักอย่าง แมลงจัทร์ทราบินโครจรรอบๆตัวของเขาบ้างก็มาเกาะที่ตัว ท้องฟ้าที่มืดมิดในตอนกลางคืนถูกเสาแสงขนาดยักษ์แหวกออก   แสงสาดส่องลงมายังสนามรบ
                                "อะไรกันมนต์แสงงั้นหึ อ๊ากกกก" ซาดีสกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดร่างของมันสะลายหายไปในแสงอันเจิดจ้า
                               "ท่านพ่อรักษา คนผู้นี้ด้วย " หญิงสาวผมบรอนเรียกผู้เฒ่าว่าพ่อ
                               นักบวชเฒ่ากางหนังสือเล่มใหญ่ท่องมนต์พึมพำ 
                               "หัตถ์ แห่ง พระผู้เป็นเจ้า" ผู้เฒ่ากล่าวมนต์รักษาชนสูงสุดแรกมาด้วยชีวิตครึ่งหนึ่งของผู้ร่าย
เจอกันใหม่วันที่16ตุลานะคมช่วงบ่ายๆว่างๆจะวาดรูปตัวละครขอให้ดูงับ ติ+ชมด้วยนะงับ
ปล.เกือบลืมไปสอบวิชาเฉพาะ ที่โคราชครับ วันที่ 14 16 20 บอกแนวสอบวาดเส้นไว้ด้วยนะครับขอบคุณมากๆ (ว่าที่สถาปัตขอนแก่น555+)
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #5 เมื่อ: 14-10-2007, 11:23:12 »

พอดีมาอยู่โครราชแล้วได้แวะร้านเน็ตนิดๆ ว่างๆจะวาดรูปตัวละครมาให้ดูนะครับ
บอกแนวข้อสอบความถนัดทางสถาปัตด้วยครับ จะสอบวันที่ 16 ตุลา แล้วง่ะ แล้วก็แนว วาดเส้นด้วยนะครับ
คอมเมนหน่อยครับ== Cry Cry  บาย Cool Cool Cool Cool
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #6 เมื่อ: 15-10-2007, 08:33:17 »

 Angry Angry Angryจะไม่คอมเมน เลยรึงายยยยยยยยยยยโด่เว้ยยยยยยยยยยยยยยเซงงงงงงงงงงงงงงงซิบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
เซงบอร์ดโปรแจ็คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคเวงงงงงงงงงงงงงงงโด่เว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ปรึกษาไรไม่ได้เลยใช่ไหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมโด่เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย Cry Cry Cry Cry
Intimate
Sr. Member
****
กระทู้: 1,431

Keep smiling :)


Re: Finish Final
« ตอบ #7 เมื่อ: 15-10-2007, 08:35:40 »

 Shocked


มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #8 เมื่อ: 15-10-2007, 14:19:28 »

เมน ข้าด้วยได้โปรดดดดดดได้โปรด เถอะข้าจะตายเพราะไม่ได้อ่านเมนของพวกท่านม่ายยยยยยย Cry Cry Cry Cry Cry Cry
Gaius Appuleius Diocles
Sr. Member
****
กระทู้: 1,472

ถ้าคุณทำให้ผมโกรธ แต่ผมจะไม่ทำให้คุณโกรธผม


Re: Finish Final
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-10-2007, 14:21:23 »

ไม่รู้สิไม่กล้าคอมเม้น เพราะเราก็แต่งเหมือนกัน แฮ่!!~~ เอาเป็นว่าก็สนุกดีนะ

ความคิดกำหนดการกระทำ
การกระทำกำหนดนิสัย
นิสัยกำหนดความเคยชิน
ความเคยชินกำหนดชะตากรรม

คนดีชะตากรรมก็ดี คนเลวชะตากรรมก็เลว
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #10 เมื่อ: 15-10-2007, 14:33:12 »

เอ้ย เอ้ย  เอ้ยยยยไม่สมดั่งใจเอาอีกกกกกกกกกก Shocked Shocked Shocked Shocked
Gaius Appuleius Diocles
Sr. Member
****
กระทู้: 1,472

ถ้าคุณทำให้ผมโกรธ แต่ผมจะไม่ทำให้คุณโกรธผม


Re: Finish Final
« ตอบ #11 เมื่อ: 15-10-2007, 14:39:39 »

อะไรอะ แต่งไม่ได้เรื่องเลย ไม่มีฉากปะทะกันดุเดือด เอาแบบซาดิสหน่อยจิ ฆ่ากันให้ตาย เลือดพุ่งกระฉูด อะไรประมาณนี้ ต้องมีตบจูบๆหน่อยสิ ตบกัน ต่อยกัน ....กัน น่าสนุก เมืองระเบิด แผ่นดินทรุด โลกแตก กลายเป็นเอเลี่ยน ฯลฯ (ตัวอย่างการคอมเม้น) ขำๆน้าคร้าบ อิอิ

ความคิดกำหนดการกระทำ
การกระทำกำหนดนิสัย
นิสัยกำหนดความเคยชิน
ความเคยชินกำหนดชะตากรรม

คนดีชะตากรรมก็ดี คนเลวชะตากรรมก็เลว
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #12 เมื่อ: 15-10-2007, 14:43:44 »

อ้างจาก: ชนมวัต พุ่มงาม ที่ 15-10-2007, 14:39:39
อะไรอะ แต่งไม่ได้เรื่องเลย ไม่มีฉากปะทะกันดุเดือด เอาแบบซาดิสหน่อยจิ ฆ่ากันให้ตาย เลือดพุ่งกระฉูด อะไรประมาณนี้ ต้องมีตบจูบๆหน่อยสิ ตบกัน ต่อยกัน ....กัน น่าสนุก เมืองระเบิด แผ่นดินทรุด โลกแตก กลายเป็นเอเลี่ยน ฯลฯ (ตัวอย่างการคอมเม้น) ขำๆน้าคร้าบ อิอิ
โหยมีตบจูบด้วยไม่ชอบแนวนั้นอ่ะ  โดยเฉพาะ กลายเปงเอเลี่ยนหน้าสนใจดี อิอิ ไว้เรื่องนี้จบค่อยต่อ 555 เอาแบบสู้กันจนโลกแตกแล้วไปดาวอื่นต่อเรื่อยๆ
จนทางช้างเผือกดับสูญแล้วก็ไปต่อแม็กแจนแลนเล็กต่อแล้วอ้อมไปแม็กแจนแลนใหญ่  ถ้าจะมัน555
มิ๊กซ์
บุคคลทั่วไป
Re: Finish Final
« ตอบ #13 เมื่อ: 16-10-2007, 13:18:05 »

ช่วงเช้าไปสอบความถนัดทางสถาปัตมาปรากฎ เอ้ย!!!! Shocked  Shocked เอ้ย!!! Shocked ไม่จริง!!!!
มันเป็นข้อสอบช่วยเด็กโดยเฉพาะครับคาดว่า100คะแนน ผมจะได้ 80กว่าๆ
เพราะอะไรหรอครับ = = ข้อสอบมันเป็นระดับพื้นฐานที่ไปติวทั้งนั้น
จานที่ร.ร.เคยบอกไว้ว่า มันคือข้อสอบช่วยเด็
ป้าย:
หน้า: [1]