ทความนี้เป็นบทความที่เราชอบม๊ากมากเลยเอามาให้อ่านกัน
เมื่อมนุษย์หายไปจากโลกนี้ (Life After People)
เราจะไม่พูดถึงสาเหตุที่มนุษย์หายไปหรือวันหายนะโลกเวอร์ๆ นะครับ แต่เราจะมาตั้งสมมุติฐานว่าถ้าวันใดวันหนึ่งจู่ๆ ก็ไม่มีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้สักคนเดียว อะไรจะเกิดขึ้น??
แน่นอนครับนักวิทยาศาสตร์คิดไว้และตั้งสมมุติฐานไว้แล้ว ความจริงเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้วครับ ในเมืองปริปยาด(Pripyat)ของยูเครน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่ทันสมัยเมืองหนึ่ง จนกระทั้งเกิดหายนะภัยจากโรงงานไฟ ฟ้าปรมาณูเชอร์โนบิลเกิดระเบิดขึ้น มีการแผ่กระจายรังสี ทำให้เมืองที่มีประชากรกว่า 50000 คน กลายเป็นเมืองร้างชั่วข้ามคืน ปัจจุบันเมืองนี้เต็มไปด้วยฝุ่น สวนสนุกที่กำลังเปิดใหม่ถูก ทิ้งไว้โดยไม่ใช้งาน ในปีค.ศ. 1986 และผลที่ตามจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เกิดก รณีศึกษาที่เจาะลึกและละเอียดมากเกี่ยวกับ “สิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ไม่มีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้แล้ว”
ที่มารูปภาพ http://bjornlee.files.wordpress.com/2007/02/ferris_pripyat.jpg
และสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์,บรรดาผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์ พฤกษาศาสตร์ นิเวศวิทยา ชีววิทยา ภูมิศาสตร์ อุตุวิทยา และโบราณคดี นำไปตั้งสมมุติฐาน ถ้าจู่ๆ มนุษย์ทั้งหมดหายไปจากโลกอะไรจะเกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่ 1 ปี 5 ปี 10 ปี 25 ปี 50 ปี 100 ปี 200 ปี 500 ปี จนไปถึง 1000 ปี สิ่งที่พวกเขาได้มีดังต่อไปนี้
จะไม่มีใครทำหน้าที่ป้อนพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้นไฟฟ้าจะค่อยๆ ดับทีละเมืองสองเมือง จนกระทั้งหมดโลก
แต่โรงงานไฟฟ้าปรมาณูจะยังอยู่นานกว่านั้น เพราะเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วไปจะมีเชื้อเพลิงทำงานได้ราวสองปี แต่เมื่อไม่มนุษย์คนไหนใช่ไฟ ปริมาณการผลิตจะเหลือจนล้น และปฏิกรณ์ก็จะปิดตัวเองลงโดยอัตโนมัติในสองวัน
โรงงานไฟฟ้ากังหันลมเช่นกันถ้าไม่มีมนุษย์คอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นให้แก่ตลับลูกปืนหรือฟันเฟือง ในไม่ช้ามันก็ไม้สามารถทำงานได้
ส่วนพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อน ที่สุดท้ายที่มันยังผลิตไฟฟ้าอยู่คือเขื่อนยักษ์ฮูเวอร์(Hoover dam) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา เนื่องจากพลังน้ำที่หมุนจากกังหันไฟฟ้ามาจากอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบมี้ดอัน ไฟศาล ตราบใดที่ยังมีน้ำอยู่ในทะเลสาบการผลิตไฟฟ้าก็ยังดำเนินต่อไป แม้ไม่มีมนุษย์เขื่อนพลังงานไฟฟ้าก็ยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
ที่มารูปภาพ http://stylefrizz.com/img/harrods-london-life-after-people-hq.jpg
นครใหญ่ๆ บนโลกที่มีท่อและอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่วางสลับซับซ้อน สำหรับการระบายน้ำ การวางสายเคเบิล การขนส่ง คมนาคม รถไฟใต้ดิน ฯลฯ ความจริงแล้วต้องมีคนควบคุมตลอดเวลา เพราะสิ่งเหล่านี้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดินซึ่งน้ำจะท่วมตลอดเวลา ถ้าไม่มีคนมาควบคุมสวิทช์ปั๊มป์น้ำ อุโมงค์รถไฟนครใหญ่จะน้ำท่วมเต็มภายในเวลาประมาณ 36 ชั่วโมง หรือครึ่งวันเท่านั้น ตัวอย่างเช่นใต้นครนิวยอร์คมีสถานีสูบน้ำถึง 700 แห่งวันหนึ่งๆ สูบน้ำใต้ดินเอาไประบายทิ้งหลายล้านแกลลอน แม่น้ำหลายสายจะเอ่อล้นจนท่วมสะพานและตึกรามบ้านช่อง
พื้นผิวคอนกรีตต่างๆ เช่น ลานจอดรถ ถนนหนทาง พื้นที่ใดที่มีแสงแดดตกกระทบจะมีพันธุ์พื้ชต่างๆ เจริญเติบโต เริ่มจากเมล็ดๆ ที่งอกจากรอยแตกรอยร้าวแล้วรากจะเลื้อยตามผิวเหล่นั้นจากนั้นก็เหี่ยวเฉาจน ตายผสมผสานกับพืชชั้นต่ำจำพวกตะไคร่น้ำที่ก่อให้เกิดดินปกคลุมผิวหน้า พอพืชโตสัตว์ก็พากันมาอาศัยอยู่และในมิช้านครล้างก็กลายเป็นป่าในที่สุด
หลายปีผ่านไป เมื่อมีการทบถมซากพืชซากสัตว์มากขึ้น มันก็จะเป็นเสมือนเชื้อเพลิงอย่างดี หากวันใดวันหนึ่งเกิดฟ้าผ่าลงมาก็จะเกิดเปลวไฟ นครใหญ่เช่น ชิคาโกหรือแคลิฟอร์เนีย จะถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน และถ่านก็จะกลายเป็นอาหารชั้นดีของพืชพรรณและในที่สุดเมืองใหญ่ๆ ก็จะกลายเป็นพื้นที่ป่าโดยสมบูรณ์
ที่มารูปภาพ http://www.theage.com.au/ffximage/2008/05/16/people_300_080515013424815_wideweb__300x300.jpg
และเมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ตึกอาคารร้างสูงระฟ้าขนาดใหญ่หลายแห่งได้กลายเป็นระบบนิเวศน์แนวตั้ง ที่เต็มไปด้วยนก หนูและพืชพันธุ์นานาชนิดอาศัยอยู่ สัตว์ที่มีขนาดเล็กชนิดใดชนิดหนึ่งอาจสามารถทำลายเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าฮู เวอร์ลงได้ หมีป่าที่เคยอาศัยอยู่ในป่าแถบแคลิฟอร์เนีย และฝูงวัวกระบือต่างพากันอพยพมาอยู่ในพื้นที่ราบขนาดใหญ่ทางฝั่งตะวันตกของ สหรัฐฯ
ส่วนสัตว์ทั้งหลายเช่นสัตว์ ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์คือนกพิราบจะเข้ามาอาศัยตามอาคารร้างเหล่านี้ เหมือนเป็นหน้าผาจำลอง ซึ่งเป็นสถานที่จำลองดั้งเดิมจริงๆ ของมัน, แมลงสาป,กวางหมาป่า เมื่อไม่มีมนุษย์อยู่มันจะเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิมหลายเท่าโดยเฉพาะหมาป่าซึ่ง ความจริงสัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์หายากแต่เมื่อไม่มีมนุษย์อยู่แล้วมันจะเพิ่ม ถึงหกเท่าในแต่ละปี ภายใน 25 ปีมันจะมีถึงครึ่งล้านตัว
ที่มารูปภาพ http://media.monstersandcritics.com/articles/1386901/article_images/lifeafterpeople16.jpg
สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เพิ่มจำนวนเร็วมากอีกชนิดคือปลวก บ้านที่ทำด้วยคอนกรีต.เหล็กจะอยู่ได้ประมาณ 40 ปี ส่วนบ้านที่ทำด้วยไม้, ปูนจะโดนปลวกโจมตี อาหารหลักของปลวกคือเซลลูโลสที่เป็นโครงสร้างหลักของพืช ปลวกจะกินอย่างไม่หยุดยั้ง ปลวกบางฝูงหม่ำไม้ถึงหนึ่งพันปอนด์ต่อปี บวกกับจุลินทรีย์ที่กินไม้จนผุ ตรงจุดข้อต่อของไม้จะมีน้ำขังอยู่ได้ เมื่อไม้เปื่อยก็ตกเป็นอาหารจุลินทรีย์ ในไม่ช้าบ้านที่ทำจากไม้ก็ล้มครืนทั้งหลัง
รถยนต์ของเราจะสลายและกลายเป็นเศษฝุ่นกองโต และที่สำคัญหลักฐานทางประวัติ ศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพถ่าย บันทึก จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงแต่หลักฐานเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกว่ามนุษย์เราเคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
สะพานขึงที่อยู่ด้วยสายเคเบิลโลหะ แม้สายเคเบิลจะรับแรงดึงได้ถึง 200,000ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แม้มันจัแข็งแกร่งแต่ส่วนประกอบของมันมาจากแร่ธรรมชาติ เมื่อมันสัมผัสความชื้นนานๆ ไป มันก็จะโน้นเอียงกับสู่ธรรมชาติ และล้มครืน
ที่มารูปภาพ http://stylefrizz.com/img/eiffel-tower-life-after-people-hq.jpg
ส่วนสถานที่สำคัญของโลกก็ยิ่งส่งผลกระทบเช่นกัน เริ่มจากสะพานบรุคลิน(Brooklyn Bridge)เป็นสะพานที่ต้องทาสีใหม่ทุก 12 ปีถ้าไม่มีคนดูแลทรุดโทรมชัวร์, สะพานโกลเดนเกต(Golden Gate) ของซานฟานซีสโกที่ต้องใช้ช่างเหล็ก 17 คน กับช่างทาสี 38 คน มาอยู่ประจำ เมื่อไม่มีคนเมื่อใด สนิมจะกินและสะพานจะยุบลงเมื่อนั้น
อาคารโบราณจนพวกอิฐและหิน เช่นรางลำเลียงน้ำหรือเอควาดักท์ของโรมัน แม้มันจะอยู่มานานพันปี แต่นั่นหมายถึงมนุษย์ต้องมาดูแลรักษาหากไม่มีมนุษย์ มันก็พังลงครืนได้เช่นกัน เพราะเกลือจะปลิวมาสะสมกัดกร่อน
ที่มารูปภาพ
สถานที่ที่รับผลกระทบอย่างมากถ้าไม่มีคนอยู่คือสฟิงส์ตัวที่เฝ้าพีระมิด นั้นแหละ ที่มันอยู่ให้เราเห็นจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เนื่องจากมนุษย์ต้องคอยอนุรักษ์ อยู่เสมอ และเมื่อมันขาดมนุษย์ไปจะเกิดการกัดกร่อนโดยเกลือและกระแสลมทำให้มันเหลือ แต่ฝุ่นในเวลา 500 ปี
เครดิต http://www.thaigoodview.com/node/65580
ปล.ขี้เกียจลงรูปต้องขอโทษด้วยครับ