อีกไม่นานภายใต้การนำของรัฐบาลยุคจ้าวพ่อเทคโนโลยีไอทีแห่งประเทศไทย ประชาชนทั้งหลายจะได้ใช้บัตรประชาชนไฮเทค
บรรจุไมโครชิปขนาดเล็กกว่าเล็บหัวแม่โป้ง แต่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของบุคคลคนนั้น และเหตุการณ์ต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ลูกค้าผู้หนึ่งโทรศัพท์ไปยังร้านพิซซ่า มีเสียงพนักงานรับสาย
พนักงาน: ร้านพิซซ่าไฮเทค ยินดีต้อนรับค่ะมีอะไรให้เราได้บริการคะ
ลูกค้า: ขอสั่งพิซซ่า มาส่งให้หน่อย
พนักงาน: ขอเลขที่บัตรประชาชนด้วยค่ะ
ลูกค้า: จะเอาไปทำไม?
พนักงาน: ร้านพิซซ่าไฮเทค มีความยินดีขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ขณะนี้ทางร้านได้เชื่อมการบริการเข้ากับฐานข้อมูลบัตรประชาชนของราชการ
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้การบริการแก่ลูกค้าทุกท่านแล้วค่ะ ขอเลขที่บัตรประชาชนด้วยค่ะ
ลูกค้า: โอเค บัตรผมเลขที่ 3 xxxx xxxx xx x
พนักงาน: ขอบคุณค่ะ ยินดีต้อนรับคุณสมชาย โชคดี อยู่บ้านเลขที่ xx ถ.สุทธิสาร กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ที่บ้าน 02-xxxxxxx ที่ทำงาน 02-xxxxxxx มือถือ 01-xxxxxxx นะคะ ไม่ทราบว่าติดต่อสะดวกที่เบอร์ไหนคะ
ลูกค้า: โอ้โห แค่เลขบัตรประชาชน ให้ข้อมูลได้ขนาดนี้เลยเหรอ...น่าทึ่งจริงๆ
อือ...วันนี้วันหยุด ต้องมาส่งที่บ้าน ผมขอสั่งพิซซ่าหน้าไก่เพิ่มชีสพิเศษแล้วกัน
พนักงาน: เปลี่ยนเป็นพิซซ่าสูตรลดน้ำหนักรวมมิตรผักดีกว่ามั้ยคะ
ลูกค้า: ทำไมล่ะ
พนักงาน: จากฐานข้อมูลของคุณ มีข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า คุณมีอาการของโรคเก๊า และคอเรสเตอรอลสูงเกินมาตรฐาน
เป็นมาหลายปีแล้วด้วย หมอสั่งให้คุณงดของมันและสัตว์ปีก ไม่ใช่หรือคะ
ลูกค้า: ก็ได้ๆ ขอ 2 ถาดใหญ่เลยแล้วกัน
ลูกค้า: โอเค อ้อ...ผมจะจ่ายเป็นเครดิตการ์ดนะ
พนักงาน: ต้องขอโทษด้วยค่ะ จากการตรวจสอบข้อมูลด้านการเงิน ขณะนี้วงเงินบัตรเครดิตของคุณทั้ง 3 ใบเต็มแล้วค่ะ
ลูกค้า: อ้าวเหรอ... อือ...ไม่เป็นไรคุณจะใช้เวลามาส่งกี่นาที เดี๋ยวผมไปกดเอทีเอ็มให้
พนักงาน: ประมาณ 45 นาทีค่ะ ดูตามฐานข้อมูลด้านการจลาจรรอบบริเวณบ้านคุณ
ถ้าคุณ ออกจากหมู่บ้าน เลี้ยวขวาไปประมาณ 500 เมตร คุณจะพบเอทีเอ็มตู้แรก แต่คุณต้องเสียค่าธรรมเนียมเบิกเงิน 20 บาทนะคะ
เนื่องจาก เป็นตู้เอทีเอ็มต่างธนาคารไม่ใช่ของธนาคารที่คุณมีเงินสดเหลือค้างอยู่ ดิฉันขอแนะนำให้คุณยอมเลยไปอีกซัก 100 เมตร
จึงจะพบตู้เอทีเอ็มของธนาคารที่คุณเป็นลูกค้า ซึ่งน่าจะดีกว่าเพราะจากตรงนั้นคุณสามารถเข้าซอยเล็กๆ
ทางด้านหลังซึ่งเป็นทางลัดกลับมาบ้านคุณได้ รวมเวลาทั้งไปจนกลับจะประมาณ 30 นาทีค่ะ
ลูกค้า: หา... ตรงนั้นมีทางลัดกลับบ้านผมด้วยหรือทำไมผมไม่เคยรู้ นึกว่าต้องตามวันเวย์ไปลอดทางด่วนกลับมาซะอีก
พนักงาน: อย่าทำอย่างนั้นนะคะเพราะคุณจะใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง
ซึ่งจะไม่ทันรอรับพิซซ่า ทางลัดที่แนะนำนี้ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะทางค่อนข้างแคบ รถยนต์ผ่านลำบาก
โชคดีที่ดิฉันดูข้อมูลของคุณแล้วพบว่ารถยนต์ของคุณเพิ่งโดนไฟแนนซ์ยึด
คุณจึงเปลี่ยนไปซื้อมอร์เตอร์ไซด์ฮอนด้าดรีม 300 ซีซี ซึ่งถึงแม้จะเป็นรถมือสอง
แต่จากรายงานการตรวจเช็คพบว่าเป็นรถที่นำเข้าศูนย์ตลอด แสดงว่าสภาพรถน่าจะยังดีพอที่จะลัดเลาะผ่านทางลัดที่ค่อนข้างขรุขระนี่ได้
ลูกค้า:อู้หู....มันล้วงข้อมูลส่วนตัวกันได้ลึกขนาดนี้เลยรึ... นี่มันบอกข้อมูลอะไรอื่นๆ ได้อีกเยอะมั้ยเนี่ย?
พนักงาน: อือ... สักครู่นะคะ เอาเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบริการของร้านพิซซ่าไฮเทคของเราแล้วกัน อ้อ! มีอีกอย่างค่ะ
ดิฉันขอแนะนำคุณให้ใส่หมวกกันน๊อคและเปิดไฟหน้าขณะขับขี่มอร์เตอร์ไซด์ออกมาด้วยนะคะ เพราะขณะนี้บันทึกคะแนนใบขับขี่ของคุณเหลือแค่ 30 คะแนน
หากโดนจับอีก คุณจะโดนยึดใบขับขี่ 1 ปีเชียวนะคะ
ลูกค้า: เฮ้ย...อะไรกันวะ...แค่เลขบัตรประชาชนนี่ ทำให้ใครๆมาเสือกรู้เรื่องส่วนตัวคนอื่นๆ ได้ทุกเรื่องเลยรึไง
พนักงาน: กรุณาใช้คำสุภาพด้วยนะคะ เพราะขณะนี้ ชื่อคุณยังอยู่ในฐานข้อมูลของผู้อยู่ระหว่างโดน ทัณฑ์บน
แม้ข้อหาของคุณจะเป็นขั้นลหุโทษ เพราะแค่มีความผิดฐานใช้วาจาไม่สุภาพกับเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่
ตั้งแต่เมื่อคุณโดนตำรวจจับโทษฐานขับรถเร็วเมื่อเกือบปีมาแล้ว นี่อีกเพียง 2 เดือนก็จะพ้นระยะแล้ว
ถ้าเกิดตอนนี้มีใครแจ้งความจับคุณในข้อหาเดียวกัน คุณต้องกลับไปรับโทษจำคุกตั้ง 1 เดือนเชียวนะคะ
อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า
ลูกค้า: โอ๊ย....อยากจะบ้าตาย ไม่กงไม่กินมันแล้ว ยกเลิกที่สั่งทั้งหมดไปเลยแล้วกัน
พนักงาน: เสียใจด้วยค่ะ คำสั่งซื้อได้ส่งผ่านระบบออนไลน์
โดยคำยืนยันจากคุณผ่านการบันทึกทางสายโทรศัพท์เข้าสู่ส่วนประมวลผลกลางแล้ว ไม่สามารถยกเลิกได้แล้วนะคะ
ลูกค้า: ทำไม จะเอากันเข้าคุกกับแค่ยกเลิกพิซซ่า 2 ถาดนี่รึยังไง
พนักงาน : อือ... ทางร้านเราไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ ใจจริงดิฉันก็อยากทำเรื่องยกเลิกคำสั่งของคุณเหมือนกัน
แต่ตามนโยบายของรัฐบาลที่ท่านอยากให้ธุรกิจทุกอย่างในผืนแผ่นดินไทยดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตรงไปตรงมา เปิดเผย ตรวจสอบได้
ทุกอย่างเมื่อยืนยันเข้าระบบแล้ว จะไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ค่ะ
ลูกค้า: แต่ถ้าไม่เอาซะอย่าง ใครจะทำอะไรได้
พนักงาน: ไม่มีใครทำอะไรคุณหรอกค่ะ เพียงแต่ระบบจะบันทึกชื่อคุณเป็นบุคคลมีประวัติ หรือที่เรียกว่า แบล็คลิส
ลูกค้า: บันทึกก็บันทึกไปซิ มันจะเป็นอะไรนักหนากันเชียว
พนักงาน: อือ..มันก็จะส่งผลเวลาต้องตรวจสอบเครดิตบูโร หรือข้อมูลความน่าเชื่อถือส่วนบุคคลซึ่งจะใช้เวลาคุณยื่นขอเครดิตต่างๆ เช่น
กู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือขอบัตรเครดิตใบต่อไป รวมถึงเวลาขอวีซ่าเดินทางไปต่างประเทศ
หรือเกิดในอนาคตคุณเข้าสู่แวดวงการเมือง หากฝ่ายตรงข้ามตรวจสอบพบว่า
คุณเคยชักดาบไม่จ่ายค่าพิซซ่าถึง 2 ถาดใหญ่ ก็อาจเป็นเหตุขอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจคุณได้ค่ะ
ลูกค้า: โอ๊ย! พอๆๆ โอเค เอามาส่งเลย จบๆ พอๆ พอกันที
พนักงาน: ร้านพิซซ่าไฮเทค ยินดีที่ได้บริการค่ะ ทางร้านหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้มีโอกาสให้บริการ............
หลังจากกระแทกหูโทรศัพท์แล้ว ลูกค้ารายนี้ก็ออกจากบ้าน
ไปกระโดดน้ำตายตรงทางลัดที่พนักงานร้่านพิซซ่าไฮเทคแนะนำมาเรียบร้อย
ปัจฉิมลิขิต.ขอโทษด้วยนะคะ ยาวไปหน่อย