รู้ได้ไงว่าเขามีใจ
เป็นเรื่องธรรมดาของสาวๆ ล่ะค่ะ ที่แอบปิ๊งชายหนุ่มแต่ไม่กล้าบอก
ได้แต่มานั่งคิดอยู่คนเดียวว่าใจเราจะตรงกันกับเขามั้ยน้อ ...
เราน่าจะมีหวังบ้างล่ะ
จนกระทั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย แต่ถึงจะเรื่อยเปื่อยเราก็ยังมีความสุข
เพียงแต่ถ้ารู้สักนิดว่าเขาคิดกับเราอย่างไร
มีใจให้กันบ้างสักนิดก็คงทำให้เรามีสิทธิ์เป็นแฟนกันได้ใช่มั้ยล่ะ
แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเขามีใจ คงต้องมาลองเริ่มต้นสำรวจตรวจตรากันใหม่ซิว่า
ใจเขาเทมาให้เรามากน้อยแค่ไหน
เราลองมาเริ่มต้นคิดอย่างมีเหตุผลกันดูดีกว่า
จะได้รู้ว่าเค้าน่ะมีใจกะเราบ้างมั้ย
1. เก็บ SMS ในมือถือทุกวัน ไม่เลือกว่าจะเก๋หรือเปล่า
เขาก็ยังคงเก็บแต่ของคุณไว้ทุกข้อความ และถ้าใครส่ง SMS
มาซ้ำเค้าก็เลือกที่จะลบของคนอื่น (ในกรณีหลังนี่ท่าทางจะรู้ได้ยาก)
แต่ในกรณีแรกจะรู้ได้ง่ายหน่อย แกล้งทำท่าขอเค้าอ่าน SMS ของเค้า
อาจจะหาเหตุผลง่ายๆ มาสักหนึ่งเหตุผล เช่น นั่งเฉยๆ ไม่มีอะไรทำ ขออ่าน SMS
หน่อยแล้วกัน
แต่อย่าให้เขาจับพิรุธได้ล่ะ อ๋อ! นอกจากเก็บไว้แล้ว
เขาก็ควรที่จะส่งกลับมาหาคุณบ้าง ไม่ใช่ว่าส่งไปแล้ว 100 ข้อความ
แต่ส่งกลับมาแค่ 1 อันนี้ต่อให้เก็บเอาไว้หมดทุกข้อความ
ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบคุณ
2. อายเวลาเจอกัน
เวลาเจอหน้ากันกี่ครั้ง ก็ยังทำให้เขาอายได้เสมอ
อาจจะดูยากหน่อยเพราะบางคนฟอร์มเยอะ แต่มันมีวิธีนะคะ
อย่าคิดนะว่าที่เขาพูดน้อยเป็นเพราะอาย จริงๆ แล้วมันมาจากหลายสาเหตุ
แต่ถ้าเขาเกิดหลบตาคุณแล้วมองไปที่อื่นอย่างลุกลี้ลุกลน
และเวลาที่คุณจ้องแล้ว
เขาเกิดอาการประหม่า ถ้าเขาไม่ใช่คนขี้อายสุดขีดหรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด
อย่างแน่นอนที่สุดเลยค่ะว่า อาการแบบนี้เขาคงต้องมีใจให้คุณบ้างล่ะนะ
คอยสังเกตกันดูดีๆ ก็แล้วกัน
3. โทร.กลับมาหาคุณ
ถ้าเขาเกิดชอบคุณจริง
ต่อให้เป็นคนขี้อายพูดน้อยซักแค่ไหนก็ต้องมีสักวันบ้าง
แหละที่เขาาคิดที่จะกริ๊งกร๊างมาหาคุณ
แต่อย่าเพิ่งดีใจไปเพราะมันต้องรู้เรื่องที่คุยด้วยนะคะ
ไม่ใช่ว่าเรื่องงานก็เหมาว่าเขาชอบคุณ
ที่โทร.มาก็ต้องเป็นแบบไร้จุดหมายในการโทร.นะคะ อาจจะโทรมาถามแค่ว่า
"ทำอะไรอยู่" แล้วก็วางไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็อย่าปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปนะคะ
รีบชวนคุยให้เต็มที่เลยค่ะเอาให้ไม่อยากวางสายเลย
4. ชวนไปข้างนอก
ที่ใช้คำว่าไปข้างนอกเพราะมันหมายถึงว่าที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่บ้านนะ
บางทีอาจจะไปห้องสมุด ชวนไปทำการบ้านรายงานอะไรทำนองนี้
เพราะนี่แหละแผนไม้ตายของพวกเขา แต่บางทีมันก็มีคำว่าไม่ใช่นะคะ
ดูเสียก่อนว่าคุณเก่งในวิชานั้นๆ หรือเปล่า คุณช่วยเค้าได้จริงเหรอ
ถ้าได้ก็ลุยเต็มที่เลยค่ะ คำแนะนำหรือคะ สวยไว้ก่อน อย่าโทรมเลยเชียว
5. ไม่คิดจะปฏิเสธ
จะบอกว่าตอบรับทุกครั้งมันก็ไม่ได้
เพราะบางทีคนเราก็ต้องมีเหตุจำเป็น
แต่น้อยครั้งมากที่เขาจะพูดคำว่าไม่กับคุณ
แทบจะ 1 ใน 10 เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะให้ช่วยอะไร หรือชวนไปไหนมาไหนก็ตาม
ถ้าเขามีใจอยู่แล้วละก็ เขาาจะรีบตกลงคุณในทันทีทันใด
แต่บางคนก็มีเชิงขอคิดดูก่อน แล้วค่อยตอบตกลงทีหลัง
แต่ดูง่ายค่ะพอตกลงปุ๊บวันที่นัดหมายก็จะหล่อมาเลย
6. มีท่าทีว่าหวงคุณ
ไม่ว่าจะใครก็ตามที่เค้ามาใกล้ตัวคุณและถ้าเป็นเพศตรงข้ามด้วยละก็
เค้าจะมีอาการไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา มองคนโน้นคนนี้ไม่เป็นคนดีอยู่ตลอดเวลา
ใครแซวนิดหน่อยไม่ได้เป็นจะมีเรื่องอยู่ตลอดเวลา
แบบนี้แหละที่เค้าเรียกว่าหวง
ก็พิสูจน์เลยสิคะว่าจริงไหม โดยการที่คุณแกล้งไปตีซี้กับใครซักคน
และถ้าเขามีอาการโกรธคุณและคนๆ นั้น โดยที่คุณถามเหตุผลเค้าก็ตอบไม่ได้
นั่นแหละเขาาหวงคุณเข้าแล้ว
แถมด้วยอีโมคู่รักนะเจ้าค๊า ^___^
ได้แต่มานั่งคิดอยู่คนเดียวว่าใจเราจะตรงกันกับเขามั้ยน้อ ...
เราน่าจะมีหวังบ้างล่ะ
จนกระทั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย แต่ถึงจะเรื่อยเปื่อยเราก็ยังมีความสุข
เพียงแต่ถ้ารู้สักนิดว่าเขาคิดกับเราอย่างไร
มีใจให้กันบ้างสักนิดก็คงทำให้เรามีสิทธิ์เป็นแฟนกันได้ใช่มั้ยล่ะ
แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเขามีใจ คงต้องมาลองเริ่มต้นสำรวจตรวจตรากันใหม่ซิว่า
ใจเขาเทมาให้เรามากน้อยแค่ไหน
เราลองมาเริ่มต้นคิดอย่างมีเหตุผลกันดูดีกว่า
จะได้รู้ว่าเค้าน่ะมีใจกะเราบ้างมั้ย
1. เก็บ SMS ในมือถือทุกวัน ไม่เลือกว่าจะเก๋หรือเปล่า
เขาก็ยังคงเก็บแต่ของคุณไว้ทุกข้อความ และถ้าใครส่ง SMS
มาซ้ำเค้าก็เลือกที่จะลบของคนอื่น (ในกรณีหลังนี่ท่าทางจะรู้ได้ยาก)
แต่ในกรณีแรกจะรู้ได้ง่ายหน่อย แกล้งทำท่าขอเค้าอ่าน SMS ของเค้า
อาจจะหาเหตุผลง่ายๆ มาสักหนึ่งเหตุผล เช่น นั่งเฉยๆ ไม่มีอะไรทำ ขออ่าน SMS
หน่อยแล้วกัน
แต่อย่าให้เขาจับพิรุธได้ล่ะ อ๋อ! นอกจากเก็บไว้แล้ว
เขาก็ควรที่จะส่งกลับมาหาคุณบ้าง ไม่ใช่ว่าส่งไปแล้ว 100 ข้อความ
แต่ส่งกลับมาแค่ 1 อันนี้ต่อให้เก็บเอาไว้หมดทุกข้อความ
ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบคุณ
2. อายเวลาเจอกัน
เวลาเจอหน้ากันกี่ครั้ง ก็ยังทำให้เขาอายได้เสมอ
อาจจะดูยากหน่อยเพราะบางคนฟอร์มเยอะ แต่มันมีวิธีนะคะ
อย่าคิดนะว่าที่เขาพูดน้อยเป็นเพราะอาย จริงๆ แล้วมันมาจากหลายสาเหตุ
แต่ถ้าเขาเกิดหลบตาคุณแล้วมองไปที่อื่นอย่างลุกลี้ลุกลน
และเวลาที่คุณจ้องแล้ว
เขาเกิดอาการประหม่า ถ้าเขาไม่ใช่คนขี้อายสุดขีดหรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด
อย่างแน่นอนที่สุดเลยค่ะว่า อาการแบบนี้เขาคงต้องมีใจให้คุณบ้างล่ะนะ
คอยสังเกตกันดูดีๆ ก็แล้วกัน
3. โทร.กลับมาหาคุณ
ถ้าเขาเกิดชอบคุณจริง
ต่อให้เป็นคนขี้อายพูดน้อยซักแค่ไหนก็ต้องมีสักวันบ้าง
แหละที่เขาาคิดที่จะกริ๊งกร๊างมาหาคุณ
แต่อย่าเพิ่งดีใจไปเพราะมันต้องรู้เรื่องที่คุยด้วยนะคะ
ไม่ใช่ว่าเรื่องงานก็เหมาว่าเขาชอบคุณ
ที่โทร.มาก็ต้องเป็นแบบไร้จุดหมายในการโทร.นะคะ อาจจะโทรมาถามแค่ว่า
"ทำอะไรอยู่" แล้วก็วางไป ถ้าเป็นแบบนี้ก็อย่าปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปนะคะ
รีบชวนคุยให้เต็มที่เลยค่ะเอาให้ไม่อยากวางสายเลย
4. ชวนไปข้างนอก
ที่ใช้คำว่าไปข้างนอกเพราะมันหมายถึงว่าที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่บ้านนะ
บางทีอาจจะไปห้องสมุด ชวนไปทำการบ้านรายงานอะไรทำนองนี้
เพราะนี่แหละแผนไม้ตายของพวกเขา แต่บางทีมันก็มีคำว่าไม่ใช่นะคะ
ดูเสียก่อนว่าคุณเก่งในวิชานั้นๆ หรือเปล่า คุณช่วยเค้าได้จริงเหรอ
ถ้าได้ก็ลุยเต็มที่เลยค่ะ คำแนะนำหรือคะ สวยไว้ก่อน อย่าโทรมเลยเชียว
5. ไม่คิดจะปฏิเสธ
จะบอกว่าตอบรับทุกครั้งมันก็ไม่ได้
เพราะบางทีคนเราก็ต้องมีเหตุจำเป็น
แต่น้อยครั้งมากที่เขาจะพูดคำว่าไม่กับคุณ
แทบจะ 1 ใน 10 เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะให้ช่วยอะไร หรือชวนไปไหนมาไหนก็ตาม
ถ้าเขามีใจอยู่แล้วละก็ เขาาจะรีบตกลงคุณในทันทีทันใด
แต่บางคนก็มีเชิงขอคิดดูก่อน แล้วค่อยตอบตกลงทีหลัง
แต่ดูง่ายค่ะพอตกลงปุ๊บวันที่นัดหมายก็จะหล่อมาเลย
6. มีท่าทีว่าหวงคุณ
ไม่ว่าจะใครก็ตามที่เค้ามาใกล้ตัวคุณและถ้าเป็นเพศตรงข้ามด้วยละก็
เค้าจะมีอาการไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา มองคนโน้นคนนี้ไม่เป็นคนดีอยู่ตลอดเวลา
ใครแซวนิดหน่อยไม่ได้เป็นจะมีเรื่องอยู่ตลอดเวลา
แบบนี้แหละที่เค้าเรียกว่าหวง
ก็พิสูจน์เลยสิคะว่าจริงไหม โดยการที่คุณแกล้งไปตีซี้กับใครซักคน
และถ้าเขามีอาการโกรธคุณและคนๆ นั้น โดยที่คุณถามเหตุผลเค้าก็ตอบไม่ได้
นั่นแหละเขาาหวงคุณเข้าแล้ว
แถมด้วยอีโมคู่รักนะเจ้าค๊า ^___^