"ผมเสีย" มักเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุจากธรรมชาติหรือสิ่งที่เรากำลังเผชิญ อยู่ ไม่ว่าจะเป็นจากแสงแดด สภาพอากาศ ความร้อนหรือแม้แต่สารเคมีต่างๆ นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วเกร็ดความรู้ยังมี 8 วิธีที่ทำให้ผมเสียมาบอกกัน
1. เป่าผม จะทำให้ผมแห้งกรอบ ถ้าไม่รีบควรจะปล่อยให้ผมแห้งเอง โดยธรรมชาติบ้างและหากต้องใช้เครื่องเป่าผมก็อย่าจ่อเครื่องเป่าให้แนบติด กับผมมากเกินไป หาเครื่องเป่าผมที่มีช่องลมโต ๆ และเปิดความร้อนให้ระดับต่ำสุด จะดีกับสุขภาพของเส้นผมมาก
2. แปรงผมวันละร้อยครั้ง คือ การจัดผมให้เข้ารูปเข้าทรง แปรงผมบ่อยเกินไป จะไปดึงเส้นผม อาจทำให้หนังศีรษะถลอกเป็นแผลได้ และที่สำคัญควรแปรงผมอย่างเบามือ เลือกใช้แปรงที่ขนแปรงห่างกันมาก ๆ จะช่วยป้องกันเส้นผมพันกัน
3. ใช้แชมพูทูอินวันสะดวกดี ไม่ควรใช้เป็นประจำ เพราะอาจทำให้เส้นผมหยาบกระด้างได้
4. ใช้ยางหนังสติ๊กรัดผมหรือยางที่สำหรับรัดปากถุง จะทำให้ผมอ่อนแอ และแตกปลายได้ เลือกใช้ที่ยางรัดผม ที่หุ้มด้วยผ้าจะดีกว่า
5. เกาผมแรง ๆ ในระหว่างสระผม เพราะเกิดอาการคัน และถ้าเป็นรังแค การเกาแรงๆ จะทำให้รังแคลุกลามมากขึ้น การสระผมที่ถูกวิธี ควรนวดด้วยฝ่ามือแทน
6. ไม่ค่อยสระผม การสระผมบ่อย ๆ แล้วจะทำให้ผมแห้ง แต่ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญเรื่องผม ต่างยืนยันมาว่าไม่จริงยิ่งถ้าอยู่ท่ามกลางมลพิษก็จำเป็นจะต้องสระผมบ่อย ๆ และควรสระทุกครั้งที่รู้สึกว่า ผมสกปรก เพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษนั้น เป็นต้นเหตุให้ผมขาดประกายเงางามและกลายเป็นผมหยาบในที่สุด
7. ใช้เครื่องสำอางสำหรับผมมากไป จะ ก่อให้เกิดการตกค้างของสารเคมีบนเส้นผม ทำให้เส้นผมส่องประกายเงางามได้ยาก ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมบ่อย ๆ ก็ควรจะสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนใสบ้าง เพื่อช่วยชำระสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ด้วย
8 . ดัดผมยืดผม เป็นการทารุณกับเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะศัตรูตัวร้ายรองจากแสงแดด และการเป่าผม ก็คือการปล่อยให้เส้นผมโดนสารเคมีแรง ๆ จากน้ำยาดัดและยืดผม ซึ่งทำให้ผมเสียได้ง่ายๆ เหมือนกัน
เคล็ดลับดูแลผมให้สลวย สวย เก๋ ในหน้าร้อน
- เริ่มต้นที่การสระผม หน้าร้อนผมจะต้องเจอกับแสงแดดแรงๆ ฝุ่น และลมร้อน ผมจึงอ่อนแอกว่าปกติ จึงควรเลือกแชมพูที่มีค่า pH เป็นกลาง ที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้ผมแห้ง
- ไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไปเพราะจะทำให้ผมแห้ง หลังสระผมด้วยแชมพูควรตามด้วยครีมนวดผม เพราะแสงแดดและลมร้อนจะเป็นตัวการขโมยความชุ่มชื้นไปจากเส้นผม จึงควรเลือกใช้ครีมนวดผมที่ไม่เพียงแต่ช่วยคืนความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยให้ผมอยู่ทรง มีน้ำหนักโดยไม่ลีบลู่อีกด้วย หลังนวดบำรุงผมเสร็จ ควรล้างครีมออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดเกล็ดผม และเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผม
- หากปลายผมแห้ง ชี้ฟู ควรหมั่นเล็มปลายผมทุก 6-8 สัปดาห์ และหมั่นพอกบำรุงเส้นผมด้วยทรีทเม้นต์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์เข้มข้น ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผมสัปดาห์ละครั้ง
- การไดร์ผมแต่ละครั้ง ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงๆ ที่สำคัญควรใช้เซรั่มบำรุงผม ฉีดบำรุงเพื่อป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อนก่อน ควรไดร์ผมให้แห้งเพียง 80% หลังจากนั้นจึงจัดแต่งทรง แล้วปล่อยให้แห้ง จะช่วยให้ผมอยู่ทรงดีกว่า ถ้าจะให้ดี ควรลงทุนใช้ไดร์ที่มีประจุอิออน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาไฟฟ้าสถิตที่ทำให้ผมชี้ฟู
- สาวๆ ที่มีปัญหาผมฟีบ ควรหลีกเลี่ยงการใส่ครีมนวดผมบริเวณโคนผม เลือกแชมพูและครีมนวดผมที่ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก จัดทรงง่าย และใช้การไดร์ผมช่วยแต่งทรง โดยใช้แปรงกลมไดร์ยกโคนผมขึ้น ค่อยๆ ดึงพร้อมม้วนผมไปด้วยอย่างเบามือทีละช่อ หากไว้ผมแสกข้าง ลองไดร์ยกโคนผมไปในทางตรงกันข้ามกับที่มักจะแสก ก่อนที่จะปัดไปทางเดิม จะช่วยยกโคนผมให้ดูหนา มีน้ำหนักขึ้น
- ก่อนออกจากบ้านจึงควรใช้ ฉีดพรมเซรัมบำรุงผม ให้ทั่วเส้นผม เพื่อลดไฟฟ้าสถิตและช่วยปกป้องเกล็ดผมจากความร้อนและสภาพแวดล้อม
- ระหว่างวัน ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม พร้อมหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผมต่างๆ เช่น แสงแดด ความร้อน หรือสารเคมี หากต้องออกแดดควรหาหมวกหรือผ้าพันผมกันแดด ก่อนว่ายน้ำ ควรใช้น้ำรดผมให้เปียกก่อนเพื่อให้คลอรีนทำร้ายเส้นผมได้น้อยลง
- พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผมต่างๆ เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน มลภาวะ หรือสารเคมีแรงๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวการทำร้ายผม
นอกจากการดื่มน้ำมากๆ แล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารช่วยบำรุงสุขภาพผม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยบำรุงผมจากภายในได้ โดยการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะ การรับประทานมื้อเช้านั้น ถือเป็นมื้อที่สำคัญต่อสุขภาพเส้นผมมากที่สุด เน้นการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และสารอาหารประเภทธาตุเหล็ก ซิงก์ และวิตามินซีเสริมด้วย
เพียงเท่านี้ ก็จะได้เส้นผมสลวยออกไปเฉิดฉายรับร้อนกันแล้ว
1. เป่าผม จะทำให้ผมแห้งกรอบ ถ้าไม่รีบควรจะปล่อยให้ผมแห้งเอง โดยธรรมชาติบ้างและหากต้องใช้เครื่องเป่าผมก็อย่าจ่อเครื่องเป่าให้แนบติด กับผมมากเกินไป หาเครื่องเป่าผมที่มีช่องลมโต ๆ และเปิดความร้อนให้ระดับต่ำสุด จะดีกับสุขภาพของเส้นผมมาก
2. แปรงผมวันละร้อยครั้ง คือ การจัดผมให้เข้ารูปเข้าทรง แปรงผมบ่อยเกินไป จะไปดึงเส้นผม อาจทำให้หนังศีรษะถลอกเป็นแผลได้ และที่สำคัญควรแปรงผมอย่างเบามือ เลือกใช้แปรงที่ขนแปรงห่างกันมาก ๆ จะช่วยป้องกันเส้นผมพันกัน
3. ใช้แชมพูทูอินวันสะดวกดี ไม่ควรใช้เป็นประจำ เพราะอาจทำให้เส้นผมหยาบกระด้างได้
4. ใช้ยางหนังสติ๊กรัดผมหรือยางที่สำหรับรัดปากถุง จะทำให้ผมอ่อนแอ และแตกปลายได้ เลือกใช้ที่ยางรัดผม ที่หุ้มด้วยผ้าจะดีกว่า
5. เกาผมแรง ๆ ในระหว่างสระผม เพราะเกิดอาการคัน และถ้าเป็นรังแค การเกาแรงๆ จะทำให้รังแคลุกลามมากขึ้น การสระผมที่ถูกวิธี ควรนวดด้วยฝ่ามือแทน
6. ไม่ค่อยสระผม การสระผมบ่อย ๆ แล้วจะทำให้ผมแห้ง แต่ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญเรื่องผม ต่างยืนยันมาว่าไม่จริงยิ่งถ้าอยู่ท่ามกลางมลพิษก็จำเป็นจะต้องสระผมบ่อย ๆ และควรสระทุกครั้งที่รู้สึกว่า ผมสกปรก เพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษนั้น เป็นต้นเหตุให้ผมขาดประกายเงางามและกลายเป็นผมหยาบในที่สุด
7. ใช้เครื่องสำอางสำหรับผมมากไป จะ ก่อให้เกิดการตกค้างของสารเคมีบนเส้นผม ทำให้เส้นผมส่องประกายเงางามได้ยาก ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมบ่อย ๆ ก็ควรจะสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนใสบ้าง เพื่อช่วยชำระสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ด้วย
8 . ดัดผมยืดผม เป็นการทารุณกับเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะศัตรูตัวร้ายรองจากแสงแดด และการเป่าผม ก็คือการปล่อยให้เส้นผมโดนสารเคมีแรง ๆ จากน้ำยาดัดและยืดผม ซึ่งทำให้ผมเสียได้ง่ายๆ เหมือนกัน
เคล็ดลับดูแลผมให้สลวย สวย เก๋ ในหน้าร้อน
- เริ่มต้นที่การสระผม หน้าร้อนผมจะต้องเจอกับแสงแดดแรงๆ ฝุ่น และลมร้อน ผมจึงอ่อนแอกว่าปกติ จึงควรเลือกแชมพูที่มีค่า pH เป็นกลาง ที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้ผมแห้ง
- ไม่ควรสระผมบ่อยจนเกินไปเพราะจะทำให้ผมแห้ง หลังสระผมด้วยแชมพูควรตามด้วยครีมนวดผม เพราะแสงแดดและลมร้อนจะเป็นตัวการขโมยความชุ่มชื้นไปจากเส้นผม จึงควรเลือกใช้ครีมนวดผมที่ไม่เพียงแต่ช่วยคืนความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยให้ผมอยู่ทรง มีน้ำหนักโดยไม่ลีบลู่อีกด้วย หลังนวดบำรุงผมเสร็จ ควรล้างครีมออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดเกล็ดผม และเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผม
- หากปลายผมแห้ง ชี้ฟู ควรหมั่นเล็มปลายผมทุก 6-8 สัปดาห์ และหมั่นพอกบำรุงเส้นผมด้วยทรีทเม้นต์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์เข้มข้น ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผมสัปดาห์ละครั้ง
- การไดร์ผมแต่ละครั้ง ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงๆ ที่สำคัญควรใช้เซรั่มบำรุงผม ฉีดบำรุงเพื่อป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อนก่อน ควรไดร์ผมให้แห้งเพียง 80% หลังจากนั้นจึงจัดแต่งทรง แล้วปล่อยให้แห้ง จะช่วยให้ผมอยู่ทรงดีกว่า ถ้าจะให้ดี ควรลงทุนใช้ไดร์ที่มีประจุอิออน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาไฟฟ้าสถิตที่ทำให้ผมชี้ฟู
- สาวๆ ที่มีปัญหาผมฟีบ ควรหลีกเลี่ยงการใส่ครีมนวดผมบริเวณโคนผม เลือกแชมพูและครีมนวดผมที่ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก จัดทรงง่าย และใช้การไดร์ผมช่วยแต่งทรง โดยใช้แปรงกลมไดร์ยกโคนผมขึ้น ค่อยๆ ดึงพร้อมม้วนผมไปด้วยอย่างเบามือทีละช่อ หากไว้ผมแสกข้าง ลองไดร์ยกโคนผมไปในทางตรงกันข้ามกับที่มักจะแสก ก่อนที่จะปัดไปทางเดิม จะช่วยยกโคนผมให้ดูหนา มีน้ำหนักขึ้น
- ก่อนออกจากบ้านจึงควรใช้ ฉีดพรมเซรัมบำรุงผม ให้ทั่วเส้นผม เพื่อลดไฟฟ้าสถิตและช่วยปกป้องเกล็ดผมจากความร้อนและสภาพแวดล้อม
- ระหว่างวัน ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม พร้อมหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผมต่างๆ เช่น แสงแดด ความร้อน หรือสารเคมี หากต้องออกแดดควรหาหมวกหรือผ้าพันผมกันแดด ก่อนว่ายน้ำ ควรใช้น้ำรดผมให้เปียกก่อนเพื่อให้คลอรีนทำร้ายเส้นผมได้น้อยลง
- พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผมต่างๆ เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน มลภาวะ หรือสารเคมีแรงๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวการทำร้ายผม
นอกจากการดื่มน้ำมากๆ แล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารช่วยบำรุงสุขภาพผม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยบำรุงผมจากภายในได้ โดยการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะ การรับประทานมื้อเช้านั้น ถือเป็นมื้อที่สำคัญต่อสุขภาพเส้นผมมากที่สุด เน้นการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง และสารอาหารประเภทธาตุเหล็ก ซิงก์ และวิตามินซีเสริมด้วย
เพียงเท่านี้ ก็จะได้เส้นผมสลวยออกไปเฉิดฉายรับร้อนกันแล้ว
เครดิต : www.hbwellness.info