ไม่ต้องอ่าน - ไม่ต้องตอบก็ได้นะ เพราะมันยาว !!
ความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษของอัจฉริยะเฉพาะทาง
John Von Neuman นักคณิตศาสตร์ ผู้เลื่องชื่อ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า
“บิดาแห่งทฤษฎีเกม”
เป็นผู้ที่มีความสามารถในการคิดคำนวณอันซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว
แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวเช่นนี้เป็นสิ่งที่คนอีกกลุ่ม
หนึ่ง สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และคนกลุ่มที่ว่านี้คือ Autistic Savant
หรือเรียกสั้นๆว่า “ซาวองส์” ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส
แปลความหมายอย่างตรงตัวว่า “ผู้ที่มีความรู้หรือนักปราชญ์
ส่วนผู้ที่บัญญัติคำนี้ขึ้น
เพื่อใช้เรียกลักษณะอาการของอัจฉริยะออทิสติกนี้ คือ นายแพทย์ จอห์น
แลงดอน ดาว (John Landon Down) และเหตุที่ต้องเรียกเช่นนี้เป็นเพราะ
ซาวองนั้นมีความสามารถเฉพาะทางที่พิเศษจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะแล้ว
แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีความบกพร่องทางพัฒนาการความผิดปกติเกี่ยวกับสมอง
หรือมีภาวะออทิสติกร่วมด้วยเช่นกัน และ
ภาวะออทิสติกนี้เองที่ทำให้ซาวองส์ขาดความสามารถพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
เช่น หัดเดินได้ช้า
ติดกระดุมเสื้อหรือผูกเชือกรองเท้าและทางอาหารเองไม่เป็น และนอกจากนั้น
ซาวองส่วนใหญ่ยังมีไอคิวอยู่ในช่วง 40-70
ซึ่งถึอว่าต่ำจากไอคิวเฉลี่ยของคนปกติที่อยู่ระหว่าง 90-110
และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “อัจฉริยะออทิสติก”
ในปัจจุบันยังไม่มีทฤษฎีใดที่สามารถอธิบายถึงลักษณะพิเศษและขอบเขตความ
สามารถของซาวองส์ได้อย่างครบถ้วน และครอบคลุม
แต่ก็มีทฤษฎีหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คือ
ทฤษฎีที่บอกว่า
ซาวองส์เกิดจากการที่สมองซีกซ้ายได้รับความเสียหาย
สมองซีกขวาจึงเข้ามาทำหน้าที่ทดแทน
โดยจะสังเกตได้จากการที่ทักษะและความสามารถของซาวองส์ส่วนใหญ่นั้นมักเกี่ยว
ข้องกับสมองซีกขวา
ซึ่งควบคุมในเรื่องของจินตนาการที่มีความหลากหลายเชื่อมต่อหลายมุม
และไม่มีมิติสัมันธ์ เช่น ศิลปะและดนตรี
ส่วนทักษะที่ไม่ค่อยพบในกลุ่มคนที่เป็นซาวองส์นั้นจะเกี่ยวข้องกับสมองซีก
ซ้าย เช่น เรื่องความคิดในเชิงตรรกะและความคิดเชิงนามธรรม
ในกลุ่มคนที่เป็นออทิสติกอาจมีซาวองส์อยู่ประมาณ 1 ใน 10 คน
ส่วนกลุ่มคนที่มีปัญหาความผิดปกติทางพัฒนาการ เช่น ปัญญาอ่อน หรือ
สมองพิการ ก็จะพบซาวองส์ 1 คน ใน 2,000 คน
แต่เนื่องจากกลุ่มคนที่เป็นออทิสติกมีน้อยกว่ากลุ่มคนที่มีปัญหาด้าน
พัฒนาการและปัญหาความพิการของสมองอยู่มาก
ดังนั้นหากสุ่มคนที่เป็นซาวองส์มาจำนวนหนึ่ง
ก็จะพบว่ามีคนที่เป็นโรคออทิสติกถึงครึ่งหนึ่ง
นอกเหนือจากนี้ยังมีข้อมูลอื่นๆที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้โดยการทดลองด้วย
Computer Tomography (CT)และ Magnetic Resonance Imaging (MRI)
ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างภาพด้วยรังสี และ สนามแม่เหล็ก
ทำให้พบข้อบกพร่องในสมองซีกซ้ายของคนที่เป็นซาวองส์จำนวนหนึ่ง
ซึ่งอาจเกิดจากความบกพร่องด้านพัฒนาการทางสมองของทารกขณะอยู่ในครรภ์มารดา
เนื่องจากสมองซีกซ้ายนั้นมีการพัฒนาช้ากว่าสมองซีกขวา
ดังนั้นสมองซีกซ้ายจึงมีความเสี่ยงต่อการถูกทำลายได้มากกว่า
ส่วนในกรณีที่มักพบอาการซาวองส์ในเพศชาย มากกว่าเพศหญิง
อาจมีสาเหตุมาจากการทีมีฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเทอโรนในระดับสูงมากจนเป็น
พิษต่อประสาทและทำให้เซลล์ประสายทเกิดความเสียหายได้
ลักษณะความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษของอัจฉริยะเฉพาะทางนี้
อาจแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ คือ
ความสามารถทางศิลปะ คือ มีทักษะในการสร้างสรรค์ภาพขึ้นมาจากความทรงจำ
แม้จะเป็นการเห็นภาพเพียงแค่ครั้งเดียว
เด็กหญิงที่เป็นซาวองส์ผู้หนึ่งสามารถวาดภาพคนขี่ม้าขึ้นได้จากความทรงจำใน
วัย 3 ขวบ และ ภาพที่วาดออกมานั้นมีสัดส่วนและกล้ามเนื้อ
ถูกต้องตามหลักสรีรวิทยา ซึ่งต่างจากภาพวาดของเด็กทั่วๆไป
ความสามารถทางดนตรี คือ มีความสามารถในการเล่นดนตรีได้เหมือนต้นฉบับ
แม้จะเป็นการเล่นที่เกิดจากการฟังเพลงนั้นเป็นครั้งรำ และ ครั้งเดียว เช่น
เลสลี่ เลมเก้ (Leslie Lemke ) วัย 14 ปี สามารถเล่นเปียโนเพลงคอนแชร์โต
หมายเลข 1 ของไวคอฟสกี ได้อย่างไพเราะ และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ
เลสลี่ตาบอด และเป็นอัมพาตที่สมอง
การคำนวณวันจากปฎิทิน คือ
ความสายมารถในการคำนวณเพื่อบอกวันที่ล่วงหน้าหรือย้อนหลังได้
เพียงแค่ระบุวันที่ต้องการทราบ คำตอบที่ได้มีความแม่นยำ และ
แน่นอนว่าเป็นการคิดในใจ ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคิดเลขใดๆ
แม้ปีนั้นจะเป็นปีอธิกสุรทินก็ตาม
ความสามารถนี้มักจะมีอยู่ในตัวซาวองส์แทบทุกคน
นอกจากนั้นบางคนยังสามารถบอกได้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แล้ว
โดยการคาดคะเนจากความรู้สึกซึ่งมักได้ผล ที่แม่นยำเสมอ
ความสามารถทางการคิดคำนวณ ซาวองส์บางคนสามารถคำนวณได้รวดเร็วมาก
ตัวอย่างในกรณีนี้มาจากบันทึกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1789 ของนายแพทย์เบนจามิน รัช
(Benjamin Rush) “บิดาแห่งจิตเวชศาสตร์ของอเมริกา”
โดยคุณหมดได้บันทึกไว้ว่า โทมัส ฟูลเลอร์ (Thomas Fuller)
ซึ่งเป็นซาวองส์ที่มีความรู้ทางคณิตศาสตร์
เพียงแค่การนับเลขแต่กลับสามารถตอบคำถามยากๆที่วา “หากชายคนหนึ่งมีอายุ
70ปี 17 วัน กับอีก 12 ชั่วโมง ถามว่าชายคนนี้มีอายุกี่วินาที”
ได้อย่างถูกต้องในเวลาเพียง 1 นาทีครึ่ง
โดยที่เขาไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆช่วยในการคิดคำนวณเลย
สุดท้ายคือ ทักษะด้านเครื่องยนต์กลไก และ ความรู้เกี่ยวกับระยะทาง
ซาวองส์บางคนมีความสามารถในการประกอบหรือซ่อมเครื่องจักรกลที่มีชิ้นส่วนซับ
ซ้อนได้ บางคนก็มี