1.สอบให้ได้เกรดเฉลี่ย 4.00 สักครั้งในชีวิตนักเรียน
ของผมนะ...ข้อนี้ไม่ว่าจะจบชั้นปีไหนๆ มันก็ความใฝ่ฝันของเด็กทุกๆคน(ที่มีความคิด)ครับจริงไหม ใครๆก็อยากทำให้สิ่งที่ ผู้ปกรองที่ส่งเราเรียนนั้นได้ภาคภูมิใจในตัวเรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันจะมีซักกี่คนที่จะได้เกรด4.00กัน น้อยเสียเหลือเกิน เพราะมนุษย์ทุกคนเกิดมาก็แตกต่างกัน ทั้งรูปร่าง หน้าตา สีผิว ส่วนสูง ฯลฯ ทำไมมนุษย์ถึงต้องการความเท่าเทียมกันนะ ในเมื่อทุกๆอย่างในโลกใบนี้หรือแม้แต่จักรวาลก็ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะเท่าเทียมกัน หากแต่แบ่งแยกความ(ทัดเทียม)ว่าด้านดีหรือชั่วเพียงแค่นั้น การพอใจในสิ่งที่ตนมี สิ่งที่ตนเป็น ภาคภูมิในสิ่งที่ตนเองสามารถกระทำได้ ถึงจะลำบากก็ต้องพยายาม พากเพียร และขยัน เพื่อฟันฟ่าความลำบากไปให้ได้
แต่ผมเชื่อว่า เกรด4.00หรือแม้แต่การได้รับใบปริญญานั้นมันไร้ค่าครับ เพราะความหวังของคนที่เป็นพ่อ แม่ นั้นไม่ได้ต้องการผลการเรียนอะไรแบบนั้น แต่พวกท่านเพียงแค่ต้องการให้ลูกๆของตนนั้นเป็นคนดี ใฝ่ดี เลี้ยงตัวเองได้ และพอใจในสิ่งที่ตนเป็น เพียงแค่นั้นเราก็เป็นลูกที่ทำให้พ่อ แม่ ภาคภูมิใจในตัวเรามากกว่าครับ 2.บอกรักรุ่น น้องที่เราแอบรักมานาน แล้วชวนไปเที่ยวด้วยกัน > < ( ถ้าไม่มี ดูข้อ 2.1 )
2.1 บอกรักเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เราแอบชอบอยู่ เพราะปีหน้าก็จะจบแล้วน้ะจ้ะ ( ถ้าเพื่อนร่วมห้อง ดูข้อ 2.2 )
2.2สารภาพ ความในใจเพื่อนร่วมห้องที่เราแอบชอบ ไม่ว่าเราจะรักเขาแบบไหน แล้วเขาเป็นเพศอะไรก็ตาม แต่ก็บอกความจริงในใจไม่เถอะ ถ้าไม่บอกออกไป โอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันอาจไม่หวนมาตลอดชีวิต แล้วจะมานั่งนึกเสียใจทีหลังน้ะ (อันนี้เคยเกิดกะหลายๆคนแล้ว)
...ผมคิดว่าความรักบางครั้งก็ต้องเก็บเอาไว้เพียงแค่ภายในใจก็พอครับ เพราะบางครั้งการเปิดเผยความภายในใจของตนไปนั้น อาจจะทำให้ความผูกพันธ์ ที่ร่วมกันสร้างมาอาจพังทลายลงก็เป็นได้ ซึ้งนั้นก็จริง(เกิดขึ้นกับใครหลายๆคนเช่นกัน)แต่ถึงกระนั้นการเผยความในใจนั้นมันมีทั้งสมหวัง และไม่สมหวัง ปะปนกันไป บางครั้งการได้บอกไป เปิดเผยไปก็ทำให้เราสบายใจมันก็ดี แต่ทว่ามันก็มีบางคนที่ต้องนั่งนึกเสียใจว่าเราไม่น่าสารภาพชอบเขา/เธอไปเลย เพราะเขา/เธอก็ยิ่งจะห่างตัวเราไปมากขึ้นทุกๆทีเช่นเดียวกัน และอีกอย่างวัยนี้มันวัยเรียนนะครับ แต่การมีความรู้สึกดีกับคนๆนึงมันก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกัน ยังไงซะการรักเป็นดีกว่ารักไม่เป็นจริงไหม? 3.โดด เรียนวิชาที่อาจารย์โหดหินสุดๆสักครั้ง !!
...คือว่า...ข้อนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากโดดคนเดียว ควรชวนเพื่อนทั้งห้องโดดเป็นเพื่อนเช่นเดียวกัน กึกๆ ที่เอ็งเอ็นไม่ติดเป็นเพราะข้อนี้ป่าวฟระ- -*4. พาเพื่อนๆทั้งหลายแล้วนำพวงมาลัย มาขอขมาอาจารย์ที่พร่ำสอนสักครั้ง
...สักครั้งเองหรอ หลายๆครั้งก็ได้ครับ^^ ผมว่าการขอขมาไม่จำเป็นต้องชวนเพื่อนๆไปด้วยนะ เพราะตัวเราย่อมรู้ตัวเราเองดี เพราะการกระทำของแต่ละบุคคลนั้นไม่เท่าเสมอกัน และอีกอย่างคำว่าอาจารย์นั้นไม่จำเป็นแค่คนที่พร่ำสอนเราเท่านั้น เพราะผู้ใหญ่ที่ให้ความเอ็นดูเรา ช่วยเหลือเรา สอนเรา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์ทั้งสิ้นครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นครูที่สอนในโรงเรียนเสมอไป การกตัญญูเป็นสิ่งที่ดีควรทำทุกๆครั้งที่มีโอกาศเสียมากกว่า 5. นัดกับเพื่อนๆทั้งห้องไปเที่ยวและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเอาไว้ เพราะอีกหน่อย เมื่อเราได้ไปในสถานที่แห่งนั้นอีกครั้ง ความทรงจำที่เราเคยมากับเพื่อนทั้งห้อง ไม่ว่าจะนานผ่านไป 1 2 3 5 10 ปีก็ยังอยู่ตรงนั้นตลอดไป
...ผมว่ารูปถ่ายก็คือเครื้องเตือนความทรงจำเอาไว้เพียงแค่นั้นนะ และอีกอย่างไม่จำเป็นต้องนัดไปเที้ยวที่ไหนเลยก็ได้ เพียงแค่เรายังจดจำความรู้สึกเมื่อได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน หัวเรอะด้วยกัน ยิ้มให้กัน เพียงแค่นี้มันก็มีค่ามากกว่าการได้นัดไปเที้ยว ณ ที่ๆแห่งหนึ่งกับเพื่อนๆเพียงแค่วันสองวัน เพราะความทรงจำที่ควรจดจำมันคือความผูกพันธ์ของทุกๆคนเสียมากกว่า ถึงจะลืมเลือนไปบ้าง แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นเครื้องเตือนความทรงจำเก่าๆเอาไว้ที่จะยิ้มออกมาทุกๆครั้งที่นึกถึงมันจริงไหม?6. รีบเขียนเฟรนด์ชิพซะ !! ห้ามลืมเลยรู้มั้ย สำคัญมากๆ ข้อนี้สุดๆ
...ข้อนี้ผมเห็นด้วยนะ แต่ทว่าสำหรับผมแล้ว ถึงเพื่อนจะเขียนเฟรนด์ชิพของผมยังไม่ครบทุกคน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะการกระทำที่แสดงต่อกันทุกๆวันนั้น ก็เป็นพยานที่แน่ชัดแล้วว่า"เพื่อน"ยังคงอยู่กับเราเสมอ และมันก็มีคุณค่ามากกว่าการเขียนลงแผ่นกระดาษมากกว่าเสียอีก
อ่อ...ลืมบอกไปอีกอย่าง เวลาเขียนเฟรนด์ชิพให้เพื่อนนะครับ อย่างเขียนสักแต่ว่าเอาให้เสร็จมันเยอะเหลือเกินนะ เพราะนั้นแสดงถึงคุณกำลังดูถูก"เพื่อน"ของคุณอยู่
"เวลาจดบันทึกความทรงจำอะไรนั้น อย่าจดเอาไว้แค่บนกระดาษนะครับ แต่ควรจดสิ่งเหล่านั้นที่สำคัญลงในทุกห้องหัวใจ เพราะทุกๆเมื่อที่นึกถึงมัน เราก็จะยิ้มออกมาได้แม้เวลานั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ก็ตาม"7.ขึ้นไปนำร้องเพลงเคารพธง ชาติ หน้าเสาธงสักครั้ง / หรือออกไปพูดหน้าเสาธงว่า "ผมรักเพื่อนๆ คุณครูทุกคน และ รร.นี้ครับ" กล้ามั้ยล่ะ ?
...เออ-*-อันนี้มะกล้าง๊าบบ นู๋ขี้อายง่ะ>///<(วิบัติแล้วเอ็ง- -*)8.ถ่ายรูปกับคนที่เราแอบ ปลื้มในวันจบการศึกษา งานปัจฉิม
...งานปัจฉิวเขาเอาไว้ให้ครูบาอาจารย์ผูกข้อไม้ข้อมือให้เราไม่ใช่หรอ? มันไม่ใช่วันวาเลนไท นะเออ-*-(แง๊~สดกดไม่ถูก- -)9. รวมพลคน ม.6 ทำความสะอาด รร. ครั้งใหญ่สักครั้ง เป็นการตอบแทนก่อน จะจบจากโรงเรียน ไป
...วันนั้นเป็นวันที่เราจะได้มองย้อนดูตัวเองว่า เราพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า ออกจากบ้านหลังเก่าที่เรารัก ก้าวไปยังบ้านหลังใหม่ที่จะเป็นก้าวต่อไปยังหนทางข้างหน้าต่อไป และวันนั้นผมเห็นว่าคนที่บอกเกลียจโรงเรียน บ่นว่าเมื่อไหร่จะจนฟร้าา~พอถึงวันนั้นเข้าจริงคนพวกนี้แหละที่ขยันทำมากกว่าใคร ผมเห็นมากับตา มองพวกนั้นไปก็ยิ้มไป จนเพื่อนที่เป็นคู่บัดดี้ทำความสะอาดถามผมว่า แกเป็นบ้าอะไรยิ้มอยู่ได้ ผมก็เลยชี้ไปยังไอ้เจ้าพวกนั้นที่ชอบหาเรื่องเข้าห้องปกครองที่กำลังขยันขันแข็งกับการทำความสะอาดโรงเรียนอยู่ คู่บัดดี้ของผมก็เลยพูดว่า โหไอ้พวกนี้ปากไม่ตรงกับใจ เรียกเสียงหัวเรอะของเพื่อนๆที่อยู่แถวๆนั้นได้เลยละ^^ 10.ร้อง เพลงเหล่านี้ กับเพื่อนๆสักครั้งก่อนจะอำลาจากกันไป (น้ำตาท่วม)
กว่า จะรัก –XYZ (ซึ้งมากๆเพลงนี้) /
หัวใจผูกกัน – บอย /
เราและนาย – เสก โลโซ /
highschool never end – Bowling for Soup (ถ้าพวกอินเตอร์)
...เพื่อนห้องผมร้องเพลง ข้อความอ่ะของพอส เก่าก็จริงแต่เมื่อได้ฟังก็เรียกน้ำตาได้ทุกเมื่อนะT^T
======================================
จะอยู่ไกลห่างสักเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่ยึดใจเราอยู่ ไว้ไม่ให้เราห่างกัน
คือความห่วงใยที่เธอให้ ฉัน คำพูดเหล่านั้น ที่เธอคอยส่งมา
ให้ฉันได้รับรู้ ให้ฉันนั้นได้มั่นใจ ไม่มีสิ่งไหนที่จะลึกซึ้งถึงคุณค่า
ผ่านมาจากถ้อยคำ นั้น ผ่านมาจากสายตาฉัน และสิ่งๆนั้นบอกฉันให้รู้ตลอดมา
ฉันและเธอจะ เดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าจะสุขสันต์ ฉันจะมีเธอข้างกาย
วัน เวลาจะนานสักเพียงไหน เพื่อนฉันคนนี้นั้นไม่มีวันห่าง และไม่มีวันจากไปไหน
ใน วันที่ฉันไม่มีใคร เปิดอ่านข้อความเก่าๆ ช่างมีความหมายจากวันนั้น
คือ ความห่วงใยที่เธอให้ฉัน ข้อความเหล่านั้น ที่เธอคอยส่งมา
ให้ฉันได้ รับรู้ ให้ฉันนั้นได้มั่นใจ ไม่มีสิ่งไหนที่จะลึกซึ้งถึงคุณค่า
ผ่านมา จากถ้อยคำนั้น ผ่านมาจากสายตาฉัน และสิ่งๆนั้นบอกฉันให้รู้ตลอดมา
ฉัน และเธอจะเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าจะสุขสันต์ ฉันจะมีเธอข้างกาย
วัน เวลาจะนานสักเพียงไหน เพื่อนฉันคนนี้นั้นไม่มีวันห่าง และไม่มีวันจากไปไหน
ให้ ฉันได้รับรู้ ให้ฉันนั้นได้มั่นใจ ไม่มีสิ่งไหนที่จะลึกซึ้งถึงคุณค่า
ผ่าน มาจากถ้อยคำนั้น ผ่านมาจากสายตาฉัน และสิ่งๆนั้นบอกฉันให้รู้ตลอดมา
ฉัน และเธอจะเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าจะสุขสันต์ ฉันจะมีเธอข้างกาย
วัน เวลาจะนานสักเพียงไหน เพื่อนฉันคนนี้นั้นไม่มีวันห่าง และไม่มีวันจากไปไหน
====================================== 11.เก็บรวบรวมความทรงจำดีๆ ที่ได้รู้จักกับเพื่อน อาจารย์ รวมทั้งประสบการณ์ที่ได้จากโรงเรียนแห่งนี้ ที่ได้รู้จักบทเรียนต่างๆ ได้สุข ได้ทุกข์ หัวเราะ และ ร้องไห้ แล้วเก็บมันไว้ในหัวใจตลอดไป
...เขาบอกว่าแร่ธาตุที่แข็งและงดงามที่สุดนั้นคือเพรช แต่สำหรับผมแล้วเพรชก็เป็นแค่สิ่งๆหนึ่ง ที่มนุษย์นั้นตั้งคุณค่าให้แก่มันเองโดยที่มันไม่สามารถรับรู้ถึงคุรค่าจอมปลอมเหล่านั้นเลย แต่ทว่าแร่ธาตุที่แข็งแกร่งและงดงามที่สุดนั้นคือสายสำพันธ์ที่เรามอบคุณค่าให้แก่กัน คอยทักทอและหลอมรวมกันเป็นโซ่แห่งความผูกพันอันแน่นแฝ้น ซึ้งโซ่เส้นนั้นที่ไม่อาจถูกตัดขาดได้อย่างสบั้น เพราะคนเราแต่ละคนย่อมมีโซ่แห่งสายสัมพันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นจะคอยรักษา ดูแล และเห็นคุณค่าของสายสัมพันนั้นมากเพียงใด