GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1]
ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )  (อ่าน 2866 ครั้ง)
┆ί┊ Nίģђ† mäяỀ ┊ί┆
Hero Member
*****
กระทู้: 2,733

22 DeCember 2012 มนุษย์จะกลายเป็นอาหารปลา ~


ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )
« เมื่อ: 29-05-2010, 01:09:34 »


       อิ๊คคิวซังแค่การ์ตูนหรือตำนานที่มีอยู่จริง?หนึ่งใน 'การ์ตูนญี่ปุ่น' ที่ติดมานาน ย่อมมี 'อิ๊คคิวซัง' อยู่ด้วยชอบทั้ง 'อิ๊คคิวซัง...คับผม' ...จนถึง 'จะรีบไปไหนๆ..'  รวมทั้งชอบ 'ปุจฉา' กับ 'วิสชันา' ที่ 'สอน' อะไรเรามากมาย 

       อิ๊กคิวซัง' Ikkyu-san  มีตัวตนจริงๆท่านมีชื่อในวัยเด็กว่า 'เซนงิกามารุ' เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1349 (พ.ศ.1892) เมืองซะกะโน ใกล้เมืองเกียวโต 'อิ๊คคิวซัง' มีพ่อเป็นจักรพรรดิฝ่ายเหนือ ส่วนมารดา ที่การ์ตูนเรียก 'ท่านแม่' ของเณรน้อย เป็นเจ้าหญิงในราชวงศ์ฝ่ายใต้ และถูกขับจากวังตั้งแต่อิ๊กคิวซังยังไม่คลอด สาเหตุที่ 'ท่านแม่' ที่เป็นเจ้าหญิงถูกขับออกจากวัง เพราะถูกฝ่ายตรงข้ามใส่ร้ายป้ายสี




วัดอังโกะกุจิ

       'ท่านแม่'ทรงให้'อิ๊กคิวซัง'บวชที่วัดอังโกะกุจิ เมื่ออายุ 6 ขวบ เพื่อหนีภัยการเมือง ซึ่งเณรน้อยได้ฉายาตอนนั้นว่า 'ชูเคน'

       เมื่อบวชเป็นเณร อิ๊คคิววังตั้งอกตั้งใจศึกษาพระธรรม และฉายแวว 'คนเจ้าปัญญา' มากขึ้นตามอายุ     เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ อิ๊กคิวซังแต่งกลอนวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุนิกายหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมกอบโกยทรัพย์สิน หลงไหลยศฐาบรรดาศักดิ์บนความทุกข์ยากของชาวบ้าน

       กระทั่งอายุได้ 13 ปี 'อิ๊คคิวซัง' จึงมีโอกาสเข้าพบแม่ทัพใหญ่ในยุคนั้น คือ 'อาซิคะงะโยชิมิสึ' เป็นแม่ทัพคนเดียวกับที่ปรากฎในการ์ตูนคือ'ท่านโชกุน' นั่นเอง
       เมื่ออายุได้ 17 ปี 'อิ๊กคิวซัง' ออกจากวัดอังโกะกุจิแล้วไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ 'หลวงพ่อเคนโอ' ที่วัดไซกอนจิ พร้อมได้ฉายา 'โชจุน'  ที่วัดแห่งนี้ หลวงพ่อเคนโอ เน้นการปฏิบัติธรรม โดยพระและเณรในวัด ต้องทำงานหนัก และอยู่กับสิ่งสกปรกเสียส่วนใหญ่

       เมื่อหลวงพ่อเคนโอมรณภาพ   'อิ๊กคิวซัง' จึงเดินทางไปวัดอิชิยามา และปฏิบัติธรรมด้วยการอดอาหาร 7 วัน 7 คืน พร้อมสวดมนต์อุทิศส่วนบุญส่วนกศลให้อาจารย์ต่อหน้าพระโพธิสัตว์

       มีเรื่องเล่ากันว่า การมรณภาพของหลวงพ่อเคนโอ ทำให้อิ๊คคิวซังเสียใจมาก ถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย 'อิ๊คคิวซัง' ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการเดินลงไปในแม่น้ำเซตะ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานจิตว่า  'ถ้าพระโพธิสัตว์ต้องการให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ ก็ขอให้ข้าพเจ้าฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ แต่หากชีวิตข้าพเจ้าไร้ซึ่งคุณค่าเสียแล้ว ข้าพเจ้าขออุทิศสังขารให้เป็นอาหารของปลาและสัตว์น้ำ'

       ระหว่างที่ดำดิ่งลงในท้องน้ำ 'อิ๊กคิวซัง' พลันนึกถึงใบหน้า 'ท่านแม่' และรำลึกถึงคำสอนของท่านขึ้นมา คำสอนนั้นคือ 'เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ย่อท้อ'

       'อิ๊กคิวซัง' จึงตะเกียกตะกายกลับขึ้นฝั่ง เมื่อท่านอายุได้ 23 ปี 'อิ๊คคิวซัง' จึงไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคะโซ แห่งวัดโคอัน พร้อมได้ฉายาใหม่เป็น 'พระโซจุน'

       หลวงพ่อคะโซ เป็นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ แต่พอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างสมถะและพอใจในวัตรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและหนักหน่วง

       ดังนั้น เมื่อมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ อิ๊กคิวซังจึงต้องทำงานทั้งวัน และปฏิบัติธรรมอย่างหนักหน่วง

       นอกจากใช้แรงงานในวัดแล้ว อิ๊กคิวซังยังต้องสานรองเท้า เย็บเสื้อผ้าตุ๊กตาผู้หญิง รวมทั้งออกไปขายแรงงานในหมู่บ้านละแวกนั้น ที่สำคัญคือ อิ๊คคัวซังโดนพระรุ่นพี่ที่ไม่ชอบหน้ากลั่นแกล้ง ทำร้าย เตะต่อยอยู่เสมอ แต่ท่านก็อดทน ในที่สุด ความเพียรพยายามที่จะค้นหาสัจธรรมของท่านอิ๊คคิววังก็สำเร็จ

       โดยสามารถแก้ปริศนาธรรมที่หลวงพ่อคะโซตั้งไว้ได้ขณะมีวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น และ 'พระโชจุน' ก็ได้รับฉายาใหม่ว่า 'อิ๊กคิว โซจุน' ซึ่งหมายความว่า

'รู้พ้นจากโลกสมมติตามบัญญัติของลัทธิเซน'



รูปปั้นอิ๊คคิวที่วัด Ikkyuji Temple

        ตำนานญี่ปุ่นระบุว่า 'อิ๊กคิวซัง' น่าจะเป็นพระภิกษุที่บรรลุธรรมเมื่ออายุยังน้อยที่สุดรูปหนึ่งในพระพุทธศาสนา เพราะท่านสามารถบรรลุธรรมในขณะที่นั่งสมาธิบนเรือริมฝั่งทะเลสาบ
        'เหตุแห่งความทุกข์และความเศร้าหมองที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนเกิดจากจิตที่เต็มไปด้วยอัตตา'
        นี่คือคือแก่นธรรมที่ท่านอิคคิวค้นพบ !!!  ในหนังสือ'ปล่อยวางอย่างเซน' ของคุณ ละเอียด ศิลาน้อย ได้กล่าวถึงการสอนธรรมของท่านอิ๊คคิวซังไว้

        โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ท่านนินากาวะจะจากไป (ตาย) ซึ่ง 'อิ๊กคิวซัง' ได้แวะมาเยี่ยมแล้วถาม 'จะให้ผมนำทางให้ไหม?'

        นินากาวะตอบ 'ฉันมาที่นี่แต่เพียงลำพังคนเดียว และฉันก็จะไปคนเดียว คุณจะช่วยอะไรฉันได้?'

        อิ๊กคิวซังจึงตอบกลับไปว่า 'ถ้าคุณคิดว่าคุณมาและไปจริงๆ แล้วนั่นเป็นโมหะ (ความหลงผิด) ของท่านละ ขอให้ผมได้แสดงทางซึ่งไม่มีการมาและไม่มีการไปให้ท่านดูสักหน่อยเถิด'

        ด้วยคำพูดเพียงเท่านี้ 'อิ๊กคิวซัง' ก็ได้ช่วยเปิดเผยเส้นทาง (แห่งธรรม) ให้แก่นินากาวะ ทำให้นินากาวะยิ้มแล้วจากไปอย่างสงบ  ความเรื่อง 'อิ๊กคิวซัง' บรรลุแก่นธรรมทราบถึง 'หลวงพ่อคะโซ' ทำให้ท่านประสงค์จะมอบใบสำเร็จเปรียญธรรม และตำแหน่งเจ้าอาวาสให้อิ๊กคิวซังสืบทอด  แต่'อิ๊กคิวซัง'ปฏิเสธ !!!   ท่านให้เหตุผลว่า 'ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมติ' ท่านจึงออกธุดงค์

        กระทั่งอายุ 34 ปี 'อิ๊กคิวซัง' จึงมีโอกาสเข้าเฝ้าท่านพ่อ ซึ่งเป็นองค์จักรพรรดิและเป็นช่วงที่ท่านถูกกล่าวถึง และเป็นที่ขยาดหวาดกลัวและเกลียดชังจากภิกษุด้วยกัน
เพราะท่านไม่พอใจกับการ 'ยึดติด' ของบรรดาพระทุกรูป

        ครั้งหนึ่ง 'อิ๊กคิวซัง' ไปร่วมงานครอบรอบวันมณภาพของพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งด้วยสภาพมอมแมมสกปรก จีวรหลุดลุ่ย และด่าทอพระที่มือถือสากปากถือศีล เนื่องเพราะมีพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากที่ทำตัวเคร่งพระวินัย ถึงขนาดบอกว่าผู้หญิงเป็นมารศาสนา
        แต่เบื้องหลังกลับลักลอบให้แม่เล้านำโสเภณีมาบำเรอถึงในกุฏิ ท่านด่าทอพระผู้มีอิทธิพลมีหลายรูป ที่หลอกชาวบ้านว่าจะสามารถบรรลุธรรมได้หากบริจาคปัจจัยให้พระมากๆ รวมทั้งทำทุกอย่างที่ถือว่าเป็นอาบัติ ทั้งดื่มสุรา เล่นการพนัน ฉันเนื้อสัตว์ ไม่โกนผมและไว้หนวดเครา รวมถึงเดินเข้าออกซ่องโสเภณีอย่างเปิดเผย




วัดคิมิโอช
        โดยส่วนตัว 'อิ๊กคิวซัง' ก็คบหาและปฏิบัติกับโสเภณีอย่างเปิดเผยสุภาพและให้เกียรติ  ท่านเคยแบ่งส้มจากบาตรให้โสเภณีอดอยากทาน เคยปีนเขาเสี่ยงตายไปหาสมุนไพรมารักษาโสเภณีที่ป่วยหนักแม้ว่าจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา  กระทั่งเมื่อท่านอายุได้ 75 พรรษา ระหว่างที่ธุดงค์เร่ร่อนหลบภัยสงครามในประเทศไปอยู่ที่เมืองซึมิโยชิ

       ท่านได้พบกับ 'โมริ' ศิลปินขอทานตาบอด และท่านได้รับนางเป็นภรรยา ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันคืนเดียว 'โมริ' ก็หนีไปเพราะเกิดความอับอายและเกรงว่าตนจะทำให้ท่านอิ๊กคิวซังเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่นางก็กลับมาหาอิ๊กคิวอีกหน เพราะไม่สามารถดำรงชีวิตลำพังได้ในสภาวะสงคราม


       เมื่ออายุได้ 85 ปี จักรพรรดิทรงแต่งตั้งให้ 'อิ๊กคิวซัง' เป็นเจ้าอาวาสวัดไดโตะกุจิ ซึ่งเป็นวัดหลวงที่สำคัญที่สุดในสมัยนั้น เมื่อไม่สามารถขัดพระราชประสงค์ได้ อิ๊กคิวซังจึงยอมรับตำแหน่ง แต่ท่านรับตำแหน่งเพียงแค่วันเดียวก็ลาออก และกลับไปอยู่วัดเมียวโชจิ ที่ท่านสร้าง
       'อิ๊คคิวซัง' มรณภาพหลังจากกลับมาอยู่วัดเมียวโชจิได้เพียง 2 ปี  โดยท่านป่วยเป็นมาลาเรีย และละสังขารในท่านั่งสมาธิในอ้อมกอดของโมริ ภรรยาของท่าน ในเวลา 21 พฤศจิกายน ค.ศ.1481(พ.ศ.2024) 'อิ๊คคิวซัง' มรณภาพเมื่ออายุ 88 ปี



เครดิต : www.teenee.com

- > ξ ή έ м ч  σ ғ  м ч   ё ή έ м ч   ї ṩ   м ч   ℓ я ї έ и Ð < -
naygue
Hero Member
*****
กระทู้: 6,405


เว็บไซต์
Re: ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )
« ตอบ #1 เมื่อ: 29-05-2010, 08:15:59 »

อิคคิวซัง งง ง  รัก


อภิมหานันทนาการรูปและคำประพันธ์โดย —DэmønîcPrî€sŧ™—
┆ί┊ Nίģђ† mäяỀ ┊ί┆
Hero Member
*****
กระทู้: 2,733

22 DeCember 2012 มนุษย์จะกลายเป็นอาหารปลา ~


Re: ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )
« ตอบ #2 เมื่อ: 29-05-2010, 09:35:08 »

อ้างจาก: naygue ที่ 29-05-2010, 08:15:59
อิคคิวซัง งง ง  รัก

คร้าบผม...

 Smiley Smiley Smiley

- > ξ ή έ м ч  σ ғ  м ч   ё ή έ м ч   ї ṩ   м ч   ℓ я ї έ и Ð < -
SHUT UP
Hero Member
*****
กระทู้: 7,692

Kami Korosu !!!!!


Re: ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )
« ตอบ #3 เมื่อ: 29-05-2010, 13:04:39 »

วัดน่าเที่ยว -.-



สนใจจิ้มเลย >0<



David Villa
Hero Member
*****
กระทู้: 3,755

<~.Barca.~>


Re: ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )
« ตอบ #4 เมื่อ: 29-05-2010, 13:07:51 »

เราเคยอ่านเจอว่าอิคคัวฃังมีจริงจากหนังสือโดเรม่อนอะ - -



-─═┳ҳ̸Ҳ̸ҳยารุตะ_FFIҳ̸Ҳ̸ҳ ╬══→
Hero Member
*****
กระทู้: 6,741

ยารุตะคุง


Re: ความเป็นมา "อิคคิวซัง" ( ประวัติยาว - -ll )
« ตอบ #5 เมื่อ: 29-05-2010, 16:42:00 »

อ้างจาก: ┋ ┄ Ŗ Ҹ μ ┄ ┋ ที่ 29-05-2010, 09:35:08
อ้างจาก: naygue ที่ 29-05-2010, 08:15:59
อิคคิวซัง งง ง  รัก

คร้าบผม...

 Smiley Smiley Smiley
'จะรีบไปไหนๆ..'

ป้าย:
หน้า: [1]