ชินเซ็นงุมิ หมายถึง

เอ่อ...ยาวหน่อยนะ
ชินเซ็นงุมิ ความหมายตรงตามตัวอักษร แปลว่า กลุ่มคัดเลือกใหม่ (ชินเซ็น = ถูกคัดเลือกใหม่,งุมิ = กลุ่ม) คือเป็นกลุ่มซามูไรที่โชกุนโทกุกาว่าจัดตั้งขึ้น เป็นกองกำลังพิเศษ เพื่อปกป้องรัฐบาลบาคุฟุ รัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นโดยโชกุน และ กำจัดผู้ที่เป็นภัยต่ออำนาจของโชกุน ตำรวจพิเศษ ในช่วงก่อนหมดสมัยเอโดะ

หลังที่ญี่ปุ่นได้เปิดประเทศ เมื่อพลเรือจัตวาแมทธิว ซี เพอร์รี แห่งกองทัพสหรัฐ ได้เดินทางเข้ามาในปี 1853 พร้อมด้วย เรือรบ Black Ships 4 ลำ มาล้อมจอดยังอ่าวโตเกียว เพื่อกดดันรัฐบาลญี่ปุ่นให้เปิดประเทศ และก็ มีการทำสนธิสัญญาคานางาว่า จึงเกิดความยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ทำให้ประเทศเกิดการแบ่งแยกเป็นกลุ่ม ต่างๆมากมายที่มีความเห็นแตกต่างกัน จากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับซามูไรกลุ่มต่างๆทั่วญี่ปุ่น ที่มองว่ารัฐบาลบาคุฟุถูกสั่นคลอน และ เริ่มเสื่อมอำนาจ ทำให้ซามูไรกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจจึง พยายามเรียก ร้องอำนาจคืนให้กับจักรพรรดิ ซอนโนะ โจอิ ได้เกิดความคิดหนึ่งว่า "เคารพจักรพรรดิและขับไล่คนป่าเถื่อน" จึงได้สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนโดยเกิดความคิด เป็นฟันเฟืองที่คตินิยมนี้เริ่มให้ เกิดองค์กรที่ป่าเถื่อนและรุนแรงในเกียวโต

ในปี 1863 มีความหวังที่จะได้รับผลตอบรับในแนวคิดนี้ เมื่อโทกุงาว่า โชงุนาเตะ ได้เกิดความคิดจะตั้ง"โรชิน งุมิ"ขึ้นมาซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโรนิน ซามูไรไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ 234 คนรวมตัวกัน ภายใต้นามของมัตซึไดระ คาตา โมริ ไดเมียวแห่งไอสึผู้ครองเมืองเกียวโต และตำแหน่งหัวหน้าคือ คิโยกาว่า ฮาจิโร่ พวกเขาได้รับมอบหมาย ให้เป็นผู้คุ้มกัน โทกุงาว่า อิเอะโมชิ โชกุนคนที่ 14 ที่เตรียมการเดินทางสู่เกียวโต

-------------------

โรชิงุมิ คือสิ่งที่ถูกสำรองไว้ด้วยการปกครองของ โทคุงาวะ คิโยคาว่าถูกจับได้ว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อโชกุน และผล ตอบรับที่ได้คือ สมาชิก 13 คนของโรชิงุมิ ได้จัดตั้งกลุ่มใหม่คือ "ชินเซ็นงุมิ" และสมาชิกคนอื่นๆผู้จงรักภักดีต่อ การปกครองของโทกุงาว่าก็ได้กลับไปยังเอโดะและได้ตั้ง "ชินโจงุมิ"ขึ้นมา
------------- ------

ชื่อดั้งเดิมของ ชินเซ็นงุมิ คือ มิบุโรชิ ซึ่งมีความหมายว่า โรนินแห่งมิบุ โดยชื่อนั้นเอามาจากหมู่บ้านมิบุ เมือง เกียวโต เป็นสถานที่ตั้งกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของชินเซ็นงุมิมีด้านเสียอยู่มากทีเดียว และชื่อเล่นของเขาก็ ได้เปลี่ยนเป็น "หมาป่าแห่งมิบุ"

มีผู้นำ 3 คน คือ เซริซาวะ คาโมะ, นิอิมิ นิชิกิ และคอนโด้ อิซามิ แรกเริ่มแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายเซริซาวะ , ฝ่ายคอนโดะ และ ฝ่าย โทโนจิ

ฝ่ายเซริซาวะ
-เซริซาวะ กาโมะ
-นิอิมิ นิชิกิ
-ฮิรายามะ โกโร่
-ฮิริมะ จูสุเกะ
-โนกุชิ เคนจิ
-อารายะ ชินโกโร่
-ซาเอกิ มาตาซาบุโร่

ฝ่ายคอนโด้
-คอนโด้ อิซามิ
-ฮิจิคาตะ โทชิโซ
-อิโนอุเอะ เก็นซาบุโร่
-โอคิตะ โซจิ
-นางากุระ ชินปาจิ
-ไซโตะ ฮาจิเมะ
-ฮาราดะ ซาโนะสุเกะ
-โทโดะ เฮอิสุเกะ
-ยามานามิ เคอิสุเกะ

ฝ่ายโทโนจิ
-โทโนจิ โยชิโอะ
-อิเอซาโตะ สึคุโอะ
-อาบิรุ อาอิซาบุโร่
-เนงาชิ ยูซัน

--------------------
หลังจากโทโนจิ โยชิโอะ ถูกสังหาร และฝ่ายของเขาถูกขับไล่ จึงทำให้เหลือเพียงแค่ 2 ฝ่ายคือ เซริซาว่าและคอนโด้ ซึ่งฐานทัพของทั้งสองอยู่ที่หมู่บ้านมิบุ พวกเขาได้ส่งจดหมายไปที่ ไดเมียวของไอสึ เพื่อขอให้อณุญาติให้พวกเขาเป็นตำรวจของเกียวโต เพื่อขัดขวางไม่ให้เกิดการกบฏ และพวกเขาก็ได้รับการอนุญาติ

นิอิมิ ถูกเซริซาวะ หักหลังด้วยการให้ไปวางเพลิงโรงเตี๊ยม ทำให้เขาถูกลงโทษด้วยการคว้านท้องตัวเอง ต่อมา เซริซาวะ ก็ถูกกลุ่มของ คอนโด้ สังหาร จากคำสั่งของ มัตซึไดระ คาตาโมริ ไดเมียวแห่งไอสึ

ต่อมาคอนโด้ อิซามิ ขึ้นเป็นหัวหน้า เปลี่ยนชื่อกลุ่มใหม่เป็น ชินเซ็นงุมิ โดยมี ฮิจิคาตะ โทชิโซ เป็นรองหัว หน้า อิโต้ คาชิทาโร่ เป็นที่ปรึกษา
หัวหน้าประจำแต่ละหน่วยดังนี้
หน่วยที่ 1 คือ โอคิตะ โซจิ
หน่วยที่ 2 คือ นากาคุระ ชิมปาจิ
หน่วยที่ 3 คือ ไซโต้ ฮาจิเมะ
หน่วยที่ 4 คือ มัตสึบาระ ทาดาจิ
หน่วยที่ 5 คือ ทาเคดะ คันเรียวไซ
หน่วยที่ 6 คือ อิโนะอุเอะ เก็นซาบุโร่
หน่วยที่ 7 คือ ทานิ ซันจูโร่
หน่วยที่ 8 คือ โทโด เฮสุเกะ
หน่วยที่ 9 คือ ซุซุกิ มิกิซาบุโร่
หน่วยที่ 10 คือ ฮาราดะ ซาโนะสุเกะ

------------------------------

วีรกรรมที่เป็นที่กล่าวขานกันของเหล่าชินเซ็นกูมิ คือ การสังหารโหดกลุ่มกบฏ 7 คน เมื่อปี 1864 ซึ่งเนื่องมาจากเหล่าซามูไรจากโจชูได้รวมตัวกันวางแผนเผาเกียวโตและลักพาจักรพรรดิ ซึ่งกลุ่มชินเซ็น ก็ช่วยให้เกียวโตรอดพ้นจากการถูกเผา

ภายหลังโชกุนแห่งโทกุงาว่า ประกาศคืนอำนาจการปกครองให้กับสมเด็จพระจักรพรรดิ กลุ่มชินเซ็นงุมิก็เปลี่ยนสภาพ จากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่า จากผู้ปกป้องรัฐบาล กลายเป็นผู้ต่อต้าน สมาชิกกลุ่มชินเซ็นงุมิส่วนใหญ่ต้องจบชีวิตลง

ต่อมาในปี 1868 เกิดสงครามระหว่างฝ่ายโชกุน และ ฝ่ายสนับสนุนจักรพรรดิ เรียกว่า สงครามโบชิน คอนโด้อิซามิ ถูกตัดหัวระหว่างการต่อสู้ที่หาดซันโจ้ ที่เกียวโต และในปี 1869 ฮิจิคาตะ ถูกยิงเสียชีวิตบนเกาะฮ็อกไกโด และโอคิตะ เสียชีวิตด้วยวัณโรค

-----------------
กฎเหล็กของชินเซ็นงุมิ ตราขึ้นโดยฮิจิคาตะ โทชิโซ

1.ต้องปฏิบัติตนตามวิถีนักรบอย่างเคร่งครัด
2.ไม่อนุญาตให้หลบหนีจากกลุ่ม
3.ห้ามรับเงินตราโดยไม่ได้รับอนุญาต
4.ห้ามลงมือสะสางเรื่องใดๆตามอำเภอใจ
5.ไม่อนุญาตให้ต่อสู้ด้วยเรื่องส่วนตัว

**ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎทั้งห้าข้อนี้จะต้องคว้านท้องตนเองโดยไม่มีการอุทธรณ์ใดๆ

สิ่งที่สมาชิกของชินเซ็นกุมิจะต้องยึดถือเป็นบรรทัดฐาน

“กรณีที่หัวหน้าหน่วยได้รับอันตรายถึงชีวิต สมาชิกในหน่วยจะต้องต่อสู้จนกว่าตัวจะตาย”

“ในการต่อสู้ที่มีผู้เสียชีวิต ไม่อนุญาตให้นำศพกลับ เว้นแต่ศพของหัวหน้าหน่วยเท่านั้น”

"ถ้าหากสมาชิกของกลุ่มต้องปะทะกับคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะอยู่ในหน้าที่หรือไม่ หากปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้แม้จะเป็นในสภาพที่บาดเจ็บ หรือกระทั่งถูกแทงที่กลางหลัง ผู้นั้นก็จะได้รับคำสั่งให้คว้านท้อง”

-------------

สรุปโครงสร้างการบริหารของชินเซ็นงุมิ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ชินเซ็นงุมิ ในช่วงแรกเรียกว่า โรชิงุมิ หัวหน้าคือ โยชิคาวะ ฮาจิโร่ ซึ่งแท้จริงแล้ว โยชิคาวะเป็นฝ่ายปฏิวัติ ที่ แกล้งทำเป็นภักดีต่อ โชกุน ทำให้สมาชิกของกลุ่ม 13 คน จึงแยกตัวออกมาตั้งกลุ่มใหม่ เรียกกันว่า มิบุโรชิ ซึ่ง เป็นชื่อที่ใช้ในช่วงที่ 2

ชินเซ็นงุมิ ในช่วงที่ 2 นี้ ตอนแรกเรียกว่า มิบุโรชิ เนื่องจากที่ตั้งกลุ่มอยู่ที่หมู่บ้านมิบุ ภายหลังเรียกชื่อกลุ่มใหม่ ว่า ชินเซ็นงุมิ ในช่วงนี้มีหัวหน้า 3 คน คือ เซริซาวะ คาโมะ, นิอิมิ นิชิกิ และคอนโด้ อิซามิ ซึ่งในช่วงนี้แบ่งออก เป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเซริซาวะ กับ ฝ่ายคอนโดะ ต่อมา นิอิมิ ถูกเซริซาวะ หักหลังด้วยการให้ไปวางเพลิง โรง เตี๊ยมแล้วกลายเป็นแพะรับบาป จนต้องทำเซปปุกุ (คว้านท้องตัวเอง) และ เซริซาวะ ก็ถูกสังหารโดยกลุ่มของ คอนโด้

ชินเซ็นงุมิ ในช่วงที่ 3 นี้ มีหัวหน้าคือ คอนโด้ อิซามิ รองหัวหน้ากลุ่มคือ ฮิจิคาตะ โทชิโซ และที่ปรึกษา คือ อิโต้ คาชิทาโร่ โดยมีหัวหน้าประจำแต่ละหน่วยดังนี้

หน่วยที่ 1 คือ โอคิตะ โซจิ

หน่วยที่ 2 คือ นากาคุระ ชิมปาจิ

หน่วยที่ 3 คือ ไซโต้ ฮะจิเมะ

หน่วยที่ 4 คือ มัตสึบาระ ทาดาจิ

หน่วยที่ 5 คือ ทาเคดะ คันเรียวไซ

หน่วยที่ 6 คือ อิโนะอุเอะ เก็นซาบุโร่

หน่วยที่ 7 คือ ทานิ ซันจูโร่

หน่วยที่ 8 คือ โทโด เฮสุเกะ

หน่วยที่ 9 คือ ซุซุกิ มิกิซาบุโร่

หน่วยที่ 10 คือ ฮาราดะ ซาโนะสุเกะ

ขอบคุณเครดิตคุณ kekudi ด้วยครับ