เอามาจากบทความของข้าน้อยใน Dek-d คงไม่ว่าอะไรเนอะ
[บท รักสีขาวแห่งวินโดเนีย] ตอน สงครามแห่งน้ำ “เออ........”
“.........หืม?........”
“เจ้าหญิงเมงุมิ ไม่สิเมคุมิ ออกมาตอนที่ เจ้าชายเซโร่ไปประชุม อย่างนี้อาจจะถูกโกรธเอาได้นะ”
“ไม่หรอก องค์ราชินี....จริงสิฉันลืมชื่อท่านไปแล้ว หรือว่ไม่ได้ถาม....”
“ก็นะ ฉันมีหลายชื่อน่ะ แล้วเธอก็ไม่ได้ถามฉันล่ะมั้ง เรียกฉันว่า ซาร่า”
ตอนนี้สาวสองคนกำลังแอบออกมาเที่ยวนอกปราสาท โดยองค์หญิงแห่งวินโดเนียได้พาองค์ราชินีผู้ไม่เคยเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์ พวกเธอก็มาเริ่มกันที่ไชร์
“อ่ะนี้ ถือขันนี้กับขวดน้ำนี้นะ”
“เออ......มันคืออะไรเหรอ เจ้า...เออ.....เมงุมิ”
เจ้าหญิงสองบุคลิกกำลังอยู่ในชุดเครลิคแต่สีตาเธอยังคงสีแดง แน่นอนว่าตัวเธอตอนตาสีฟ้าไม่มีทางทำอะไรนอกทางได้แน่นอน ซาร่าผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็มองขันน้ำกับขวด เธอสวมชุดของวิซาร์ดสาว แล้วมองดูรอบๆ เห็นผู้คนวิ่งไล่สาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน
“อยากเล่นแบบนั้นไหม”
หญิงสาวผู้ถือขันน้ำก็พยักหน้าให้เพื่อนสาว ซึ่งคนรับก็ยิ้มแล้วพาเธอไปยังขบวนรถไฟ ก๊อบลินสามตัว
“ท่านต้องการอะไร........?”
“เหมือนเดิม......ไปเรดคลิฟนะ”
“รับทราบ”
ทันใดนั้นใต้พื้นของทั้งสองสาวก็มีวงแหวนเวทย์แบบตอนที่พวกเธอใช้ใบวาร์ป พอถึงเรดคลิฟ ผู้คนจำนวนมากตั้งร้านขายของและรับซื้อของมากมาย ผู้คนจำนวนมาที่แวะเวียนดูกัน
“แล้วพวกเราจะไปไหนกันเหรอ?”
“ไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ไง จะพูดให้เข้าใจง่ายก็เอาน้ำเนี่ยไปรดน้ำให้ผู้ใหญ่เขาให้พร ฉันก็จำไม่ได้นะ เพราะไม่ได้มาเที่ยวตั้งแต่ที่เสียความทรงจำแล้วมาเป็นสามัญชนที่นี้น่ะ”
“งั้นเหรอ....ค่ะ”
“ทางนี้ๆ”
ว่าแล้วหญิงสาวผู้ที่เป็นเหมือนดั่งกบในกะลา (หรือไข่ในหินกันแน่) ก็พึ่งเห็นทะเลครั้งแรก น้ำสีฟ้าสวยพื้นทรายสีขาวสะอาดตา เธอกำลังตะลึงกับความสวยงามเหล่านี้อยู่ ก็ถูกเพื่อนสาวจูงมือ
“ถ้าอยากชมความสวยงามของทะเลล่ะก็หลังรดน้ำดำหัวเสร็จก็ได้”
“อะ....อืม.....”
พวกเธอเดินตามหาดทรายไปยั่งจุดที่แคบจุดหนึ่งมีลุงแก่ๆสกปรกนั่งอยู่บริเวณนั้น เมคุมินั่งลงเทน้ำในขวดลงในขัน ยื่นให้ลุงตรงหน้า
“คุณลุงค่ะ ของให้พวกเราได้รดน้ำดำหัวลุงหน่อยนะค่ะ”
“......................”
ชายชรายื่นมือขึ้นเหนือขันน้ำ พวกเธอได้หยิบขันเล็กในขันน้ำพร้อมตักน้ำในนั้นรดมือของชายชราพวกเธอต่างอวยพรให้คุณลุงคนนั้น ฝ่ายที่รับพรแล้วก็ใช้มือจุ่มน้ำและสะบัดใส่พวกเธอโดยเมคุมิก้มหัวพร้อมประนมมือรับซาร่าก็ทำตาม (จำไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าทำกันแบบนี้หรือเปล่า แต่ทางบ้านของคนแต่งเขาจะทำกันประมาณนี้และให้ผู้ใหญ่ผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือพร้อมให้พรค่ะ ถ้าผิดยังไงก็ข้ออภัยนะค่ะ ^/l\^)
“ขอคุณมากนะค่ะ คุณลุง”
“........พวกเจ้ารีบไปๆให้พ้นซะ”
เมคุมิกับซาร่าก็เดินจากคุณลุงมา ซาร่ายังงงอยู่ว่าทำไมชายชราที่ทำท่าทางไม่พอใจพวกเธอขนาดนั้นทำไมเมคุมิยังไปทำความเคารพคนแบบนั้น
“ทำไมต้องเป็นชายชราสกปรกคนนั้นล่ะ?”
“ก็คุณลุงคนนั้นคือคนที่ฉันคิดว่าอาวุโสที่สุดแล้ว ถึงท่านจะสกปรกแต่ท่านก็อายุมากกว่าเรา มากประสบการณ์มากกว่าเรานะ........จะว่าไป นี่ซาร่า”
“คะ?”
“ไปเที่ยวหมู่บ้านบางกระท่อมไหม ?”
“เอ๋!?”
ว่าแล้วเมคุมิก็ใช่ยันต์เดินทางหรือใบวาร์ปพาตัวเองไปหมู่บ้านบางกระท่อมแล้วใช้ใบเรียกซาร่ามา.......
“อ่ะ....เจ้า.......เมคุมิ? เจ้ามายังหมู่บ้านเราได้เยี่ยงไร?”
“พี่สาว ตอนนั้น...คือพี่ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันมียันต์เดินทางที่พวกท่านให้มาตอนจากมา อ่ะนี่เพื่อนของฉันเอง เธอชอบเรื่องราวของพวกพี่มากเลยนะ”
พอเมคุมิแนะนำซาร่า พวกอสูราหลายคนยืนล้อมพวกเธอแล้วเหมือนดมกลิ่นพวกเธออยู่ พวกเขาค่อนข้างเป็นมิตรเพราะพวกเธอไม่ได้ร้าย พวกเขาพาพวกเธอไปบ้านผู้อาวุโสเมคุมิเห็นพวกเข้ากำลังรดน้ำดำหัวพอดีเธอก็รีบไปต่อแถวทันที พร้อมดึงซาร่าไปต่อแถวด้วย
“อ้าว...คราวเจ้าไม่มากับพ่อหนุ่มคนนั้นรึ สาวน้อย”
“คือเขาไม่ว่างฉันเลยพาเพื่อนมา งั้นขอรดน้ำดำหัวหน่อยนะค่ะ”
ว่าแล้วเธอก็ทำตัวกลมกลืนเร็วมาก ไม่นานเธอก็ได้สวมชุดของเผ่าอสูราอีกครั้ง โดยมีซาร่าได้สวมด้วย ถึงจะอายแต่ก็ใส่กัน
“ทำไมให้พวกเราใส่ชุดของพวกคุณล่ะ?”
“ก็พวกเจ้าจะได้เล่นสงกรานต์โดยไม่ต้องกังวลว่าชุดสวยๆของพวกเจ้าจะเปียกไง”
“ขอบคุณค่ะ ป่ะไปเล่นน้ำสงกรานต์กัน อากาศร้อนๆแบบนี้ต้องสนุกแน่ๆ”
ว่าแล้วพวกเธอก็เห็นความแตกต่าง ชาวอสูราจะไม่สาดน้ำอย่างรุนแรงเหมือนที่ไชร์แต่จะค่อยเข้าไปขอคนอื่นรดน้ำอย่างเบา ดูอ่อนโยนมาก
“ที่นี่เข้าใจความแตกต่างระหว่างอสูรากับพวกเรายัง”
“ทั้งรูปร่าง วัฒนธรรม วิถีชีวิต จริงอยู่ที่พวกเขาค่อนข้างจะหัวโบราณแต่มัน...ดูอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก”
“เมื่อก่อนพวกเราอาจจะเหมือนพวกเขานะ.......จะกลับเลยไหม จะเย็นอยู่แล้ว”
“อืม งั้นเราไปเปลี่ยนชุดและไปลาพวกเขาเถอะ”
พวกเมคุมิมาเที่ยวได้ไม่นานก็บอกลาชาวอสูราแถม เธอยังได้ยันต์เดินทางคืนมาด้วย พวกเธอเดินทางกลับไปที่เรดคลิฟเพื่อจะได้ให้ซาร่านั่งชมทะเลแสนสวยนี้ เมคุมิเองก็คิดถึงที่นี้เหมือนกัน
“ว่าไงสาวๆ โว้ว เครลิคกับวิซาร์ดสาว ไปเที่ยวกับพวกพี่ไหมจ๊ะ”
“.......น่าขนลุกชะมัด.......เมาแล้วกลับบ้านไป๋!!!”
เมคุมิถึงขั้นว่าไล่สองหนุ่มนักฆ่าที่ท่าทางจะโรคจิต เธอนึกได้ว่ามีพวกที่ชอบสาดน้ำใส่หญิงสาวเพื่อดูฉากหวิว (ในสังคมไทยเรามีเยอะมากเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่ฝ่ายหญิงอยากโชว์ไม่ก็ฝ่ายชายอยากเห็นก็เลยใช่ช่วงงานนั้นทำเรื่องเสื่อมๆขึ้นเป็นข่าว) ว่าแล้วชายสองคนก็สาดน้ำมาทางเมคุมิซึ่งเธอใช้ทักษะของนักฆ่ากระโดดหลบและถอดชุดเครลิคออกปาใส่ชายสองคน
“เฮ้ย เล่นถอดชุดแบบนี้เดี๋ยว......แอ่กกกก!!!!!”
“เดี๋ยวอะไรมิทราบ เจ้าพวกโรคจิต”
ว่าแล้วเมคุมิใส่ชุดนักฆ่า แล้วลงมาเหยียบใบหน้าของชายนักฆ่าคนหนึ่งเต็มๆบาทา เธอกระโดดถอยหลังไปหาซาร่า เพื่อป้องกันเธอ
“ซาร่า....ร่ายเวทย์ จัดการพวกนั้นที่ ไม่งั้นเธอกับฉันต้องโดนน้ำของพวกนั้นสาดใส่ เห็นเป็นฉากหวิวแน่ ระหว่างนั้นติดต่อกับไวท์ด้วย ฉันจะถ่วงเวลาให้”
“ไม่ได้นะ เมคุมิ ฉันร่ายเวทย์ใส่คนไม่ได้”
“ถ้าเธอไม่ร่ายเวทย์ ฉันกับเธอกลายเป็นเหยื่อเจ้าคนหื่นพวกนั้นแน่ รีบทำซะ”
ทันใดนั้น เมคุมิก็ชักมีดคู่ของเธอปะทะกับมีดของนักฆ่าทั้งสอง เธอกระโดดหลบอย่างคล่องแคล่ว พร้อมเตะและสะบัดตัวเพื่อไม่ให้สองชายหนุ่มนั้นจับตัวเธอได้ ซาร่าก็กล้ากลัวๆว่าเวทย์ของเธอจะโดนเมคุมิ ขนาดเดียวกันนั้นเมคุมิก็ติดต่อกับเซโร่ เธอสาดน้ำใส่สองหนุ่มนั้น
“สมน้ำหน้า!!! อ่ะ!!!”
“จับแมวน้อยได้แล้ว.....”
“บ้าชิบ อ่ะ!!! หืม!!!”
เมคุมิพยายามสะบัดตัวขาเธอตะเกียกตะกายสุดแรง แต่เพราะแขนทั้งสองของเธอโดนล็อคอยู่ ทำให้ชายอีกคนเข้ามาจับขาทั้งสองของเธอกางแยก (นึกภาพแล้วค่อนข้างส่อหน่อยนะ) ทันใดนั้นคนที่จับขาเธอก็สาดน้ำใส่เต็มๆร่างเธอ ทันทีที่พวกนั้นเปิดช่องว่างเธอก็ใช่ท้ถีบร่างของคนที่จับขาเธอ
“อย่าดิ้นนักน่า อยู่นิ่งๆดีๆ”
“เรื่องสิ!!! ซาร่า!!!”
“สายลมเหมันต์!!!!”
ทันใดนั้นผนึกน้ำแข็งก็พุ่งขึ้นมารอบตัวเธอ ทำให้นักฆ่าหนุ่มทั้งอึ้ง เมคุมิก็สะบัดจนแขนของเธอหลุดจากพันธนการ ร่างส่วนบนเธอถูกปล่อยร่วง มือทั้งสองแตะพื้นทรายน้ำหนักถูกทิ้งไว้ที่ฝ่ามือเพื่อแบกรับร่างที่เหลือ เธอดึงขาออกจากพันธนการแล้วกางขาเตะที่หัวหนุ่มทั้งสองก่อนจะกระโดดหลบผลึกน้ำแข็งนั้นทันอย่างเฉียดฉิว
“ยอดเยี่ยมมากเลย ซาร่า”
“เมคุมิ มะ..ไม่เป็นไรนะ”
“ก็นะ.....เปียก.....ตัวเปียกซะได้ ประมาทไปนิด.........”
ว่าแล้วเจ้าหนุ่มนักฆ่าก็ตายยากเสียจริงๆ เมคุมิตั้งท่าเตรียมสู้เต็มที่ แต่เจ้าสองคนนั้นก็ถูกของขนาดใหญ่บางอย่างปัดใส่จนกระเด็นขึ้นไปไกลกลายเป็นดาวเสียแล้ว หญิงสาวทั้งสองก็อึ้ง จนหมอกของน้ำแข็งจางลงนั้นคือ สองหนุ่มแห่งปราสาทขาวและปราสาทดำนั้นเอง ดูท่าเจ้าคนจากปราสาทดำจะอารมณ์ไม่ดีมากๆ
“เออ....เซโร่ กำลังโมโห แหะๆ”
“ยังมาแหะๆอะไรอีกล่ะพวกเธอเนี่ยออกมากโดยไม่บอกพวกเรารู้ไหมว่าพวกเธอเป็นห่วงแค่ไหน...”
“งั้นขอถามหน่อยรู้ไหมว่าพวกเราหน่ะ อยู่ในปราสาทมันน่าเบื่อแค่ที่ต้องทำหน้าที่ หญิงสาวที่แสนดีที่ต้องนั่งรอนั่งเฝ้าพวกนายโดยไม่มีอะไรทำ ทั้งที่พวกเราอยากออกมาเที่ยวแบบคนอื่นๆกับพวกนายแท้ๆ แต่เราก็เข้าใจว่าพวกนายไม่ว่าง พวกเราก็เลยออกมากันเอง แล้วมันผิดด้วยเหรอไง!!!”
“ผิดสิ!!!”
“งั้นนายก็ว่ามา ฉันมันผิดอะไร? ทำหน้าที่ไม่ดีพอ ออกไปไหนมาไหนไม่บอกกล่าวเหมือนนักโทษที่ต้องมีผู้คุมอย่างพวกนายตามเป็นเงาตลอดเหรอ!!!”
“ก็....เธอ...ทำให้ฉันเป็นห่วง....มากเลยนี่”
“นั้นฉันเข้าใจ แต่ฉันเคยเป็นสามัญชน ฉันรู้ว่าอะไรอันตรายอะไรไม่อันตราย และอีกอย่างพวกนายก็ช่วยเรารอดจากอันตรายแล้วไง จะอะไรอีก”
การโต้เถียงของคู่เจ้าชายเจ้าหญิงก็ทำให้ทุกอย่างเงียบ......แสงพระอาทิตย์หายไปแล้ว ทั้งสองคู่ต่างพากันกลับปราสาทฟอททันที แต่เซโร่กับเมคุมิเหมือนยังโกรธกันอยู่ หญิงกอดตัวเองเพราะตัวเปียกต้องลมกลางคืน ชายหนุ่มข้างๆก็ถอดเสื้อคลุมของตน แต่เหมือนหญิงสาวปฏิเสธ
“ไม่ต้องเลย ถ้าจะเอาให้เพราะสงสารหรือสังเวชล่ะก็...”
“.....เปล่า.......ฉันทำเพราะ นั้นคือฐานะคนรัก ที่ยังเป็นห่วงต่างหาก”
ว่าแล้วหญิงสาวก็ไม่อาจจะปฏิเสธ เสื้อคลุมนั้นได้ ใบหน้าของเธอหายจากการบึ้งตึงเป็นยิ้มแย้มร่าเริงได้อีกครั้ง ความจริงชายหนุ่มไม่อยากเห็นสภาพเสื้อผ้าเปียกติดเนื้อของเธอเสียมากกว่า..........
ปล. สวัสดีค่ะ นี้เป็นตอนที่สองของ บท รักสีขาวแห่งวินโดเนีย คราวนี้มาพร้อมกับเทศกาลสงกรานต์ ที่ได้ยกเอาเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในเทศกาลปีใหม่ไทยนี้ ไม่ว่าจะเรื่องไม่ดี และการเปรียบเทียบเทศกาลแบบนี้อย่างใหม่และเก่า ขอให้ทุกท่านสนุกกับงานปีใหม่ไทยปีนี้นะค่ะ (คนแต่งขอบายค่ะ ไม่ชอบเล่นสาดน้ำ แต่ขอสาดน้ำในเกมส์อสูราแทน ^ ^ ) เล่นน้ำกันแล้วระวังอย่าให้เป็นหวัดนะค่ะ คนแต่งเป็นห่วง.....
อันนี้รูปวาดเมื่อปีก่อนโน้น ตอนฝีมือยังไม่มี ยังไม่ได้เรียนวาดรูป และรูปนี้เคยเอามาลงบอร์ด(Project One) นานมากแล้ว
ภาพไม่สวยและดูขัดตาก็ขออภัยค่ะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะค่ะ