หนูถูกข่มขืนควรทำอย่างไรดีคะ
วันนี้ได้นำเอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องหลังจากข่มขืนควรทำอย่างไร เพราะคิดว่าสติสัมปะชัญญะคงกระเจิดกระเจิง ให้รวบรวมสติ คิดว่าเสียแล้วเสียไป โยนให้สุนัขมันรับประทานก็แล้วกันครับ และควรทำดังนี้ครับ
1. บอกผู้ใหญ่ให้รับรู้ ( ผู้ใหญ่ที่รับฟังก็ควรตั้งสติให้ดีๆ อย่าใช้อารมณ์ สอบถามรายละเอียด )
2. พยายามนึกถึงสถานที่ๆ รูปร่างหน้า จุดสังเกต ชื่อ และที่พอจะนึกได้
3. ไปหาตำรวจที่อยู่ในท้องที่ถูกข่มขืน จดชื่อตำรวจร้อยเวรที่รับแจ้ง และขอให้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุจะได้ตรวจเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุ เพื่อเอาผิดกับผู้ข่มขืน เช่น ร่องรอย คราบอสุจิ ขนเพชร เสื้อผ้า อุปกรณ์ ที่ใช้ ถ้าจำหน้าได้และเป็นคนแถวนั้นก็ชี้ให้ตำรวจจับได้เลย
4. ถ้าผู้ถูกข่มขืนอายุไม่เกิน 18 ปี ในการสอบสวนของตำรวจร้อยเวรจะต้องปฏิบัติตาม ป.วิ.อ. (ประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความอาญา) มาตรา ๑๓๓ ทวิ ดังนี้
4.1 จะต้องมีผู้ร่วมฟังการสอบสวนด้วยคือ ผู้ปกครอง หรือผู้มีอำนาจปกครอง หรือบุคคลอื่นตามที่ผู้เสียหายร้องขอให้มีไม่ว่าจะเป็นทนายความ หรือญาติคนอื่นๆ
4.2 อัยการ นักจิตวิทยา หรือสังคมสงเคราะห์ ( ต้องมีตามกฏหมาย )
4.3 ตำรวจต้องส่งผู้เสียหายไปตรวจหาร่องรอยการข่มขืน เช่น คราบอสุจิ บาดแผล
4.3 ในการสอบปากคำผู้เสียหายทุกครั้งต้องมีบุคคลตามข้อ 4.1 - 4.3 ทุกครั้ง จะสอบสวนเองในห้องตัวต่อตัวผู้เสียหายไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ควรขอให้มีนายตำรวจที่เป็นตำรวจหญิงทำการสอบจะดีที่สุด
4.4 หลังจากที่มีการสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จ ถ้าร้องเวรเอาบันทึกการสอบปากคำให้ผู้เสียหายลงชื่อผู้ปกครองควรจะต้องอ่านดูให้ละเอียดว่า . ตำรวจลงข้อความครบถ้วนตามที่ผู้เสียหายบอกหรือไม่ก่อน ถ้าเห็นว่ายังไม่ถูกต้อง ก็บอกให้ตำรวจผู้สอบลงให้ถูกต้อง ....ย้ำ... ถ้าตำรวจไม่ทำก็อย่าลงชื่อเด็ดขาด และควรบอกผู้ที่ร่วมฟังให้รับรู้ทุกคน ถ้าผู้ที่เข้ารวมฟังยังไม่ทักท้วงให้ตำรวจลงข้อความ ตามที่เป็นจริง ก็ควรไปร้องกับหัวหน้าสถานีตำรวจทันที
4.5 ต่อมาถ้ามีญาติของผู้ต้องหามาพบ เพื่อขอเจรจาจ่ายค่าเสียหาย ควรป้องกันการถูกหลอกเพื่อให้มีผลเสียหายต่อรูปคดีควรปฏิบัติดังนี้
4.5.1 ให้มีผู้ที่รู้กฏหมาย หรือทนายความ ร่วมอยู่ด้วย
4.5.2 จดชื่อ นามสกุล ผู้มาเจรจาทุกคน ถ้าขอดูบัตรได้จะดีที่สุด
4.5.3 นายตำรวจเจ้าของคดีเรียกไปหา ให้พาบุคคลตามข้อ 4.1 ไปด้วย ถ้านายตำรวจเป็นผู้เจรจาแทนผู้ต้องหา หรือญาติผู้ต้องหา ในลักษณที่ให้ยอมความกันและให้ผู้เสียหายเสียเปรียบด้วย แสดงได้ว่าตำรวจผู้นั้นมีพฤติกรรมที่เข้าข้างผู้ต้องหา หรือรับอาสามาเจรจาแทนเพื่อช่วยผู้ต้อง ควรร้องขอให้เปลี่ยนตัวนายเจ้าของคดีทันที เพื่อไม่ให้เสียหายทางคดี
่ข้อสำคัญของทางแก้นี้ ต้องทำให้มีหลักฐาน พอที่จะเอาความผิดทางคดีได้ครับ เพราะถ้ามันคิดว่าไม่มีหลักฐานอะไรที่จะเอาความผิดได้ .. มันก็จะยิ่งได้ใจมากขึ้น อาจถึงขนาดทำร้ายเอาได้
------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณแหล่งที่มา :กฎหมายชาวบ้าน, thailaw.net เป็นอย่างสูงครับ
ปล. เอ๊ะ..พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ น่าจะนำมาใช้ในกรณีนี้นะครับ
ขอให้ทุกท่านจงระวังรักษาสุขภาพ อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน จะจนใจตัวครับผม ลูกบางคนที่หนีออกจากบ้าน ไม่ใช่เสียใจที่ถูกข่มขืนครับ แต่คนในบ้านไม่ให้กำลังใจ และใช้ภาษาที่ผิดครับ "บอกแล้วว่าอย่าไปก็ไม่เชื่อ, ก็แต่งตัวอย่างนี้ถึงได้โดนข่มขืน และอื่น ๆ อีกมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ ครับ เขากลับมาบ้านเขาต้องการขวัญและกำลังใจครับ อย่าได้ซ้ำเติมแม้แต่จะคิดครับ ถ้าหากอยากเห็นลูกของคุณมีชีวิตอยู่ ผมขอฝากเอาไว้ครับ