กระทรวงวัฒนธรรมช็อก "เขมร" ย่องจดลิขสิทธิ์ "ท่าจีบ" เตรียมล้อมคอกจดลิขสิทธิ์ท่ารำไทย-วรรณกรรมพื้นบ้านกว่า 1,600 เรื่อง สำรวจภูมิปัญญหาไทยตีทะเบียนเป็นมรดกชาติ หวั่นศิลาจารึกพ่อขุนฯ แม่ไม้มวยไทย ถูกต่างชาติชุบมือเปิบ ยูเนสโกเตือนเร่งจดลิขสิทธิ์ศิลปะการแสดงพื้นบ้านก่อนโดนก๊อบปี้
นาง ปริศนา พงษ์ทัตศิริกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เข้าร่วมประชุมทางวัฒนธรรมของคณะกรรมการองค์การยูเนสโกที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพว่าด้วยเรื่อง "วัฒนธรรมที่จับต้องในด้านการแสดงพื้นบ้านประเพณีและนิทานพื้นบ้านในประเทศ ที่สาม ตอนนี้กำลังถูกประเทศที่พัฒนาแล้วนำไปเป็นต้นแบบและผลิตภัณฑ์ยี่ห้อบาง ประเภทนำไปจดลิขสิทธิ์ของบริษัทนในประเทศของตน ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้ประเทศสมาชิกสำรวจว่าศิลปะชิ้นไหนเป็นของดั้งเดิมใน ประเทศของตน ให้ทำการจดทะเบียนเป็นมรดกของชาติ
สำหรับประเทศ ไทย มีศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้สำรวจในระดับลึกอย่างจริงจังว่ามีอะไรอยู่บ้างและอะไรที่สูญหาย ไป นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีวัฒนธรรม จึงเห็นควรตั้งคณะกรรมการวัฒนธรรมขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อศึกษาข้อมูลศิลปะพื้น บ้านทุกแขนงนำมาขึ้นมาทะเบียน ที่น่าตกใจมากคือเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชานำศิลปะการแสดงท่ารำมาตรฐานเฉพาะท่า จีบไปจดลิขสิทธิ์ขึ้นเป็นมรดกของชาติกัมพูชาไปเรียบร้อยแล้ว
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า เห็นด้วยที่นำศิลปะพื้นบ้านมาจดทะเบียนเป็นมรดกของชาติ อย่างตอนนี้ทางสำนักหอสมุดแห่งชาติได้รวบรวมรายชื่อวรรณกรรมพื้นบ้านทั่ว ประเทศได้แล้วเกือบ 1,600 เรื่อง ประกอบด้วยสมบัติชาติที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น หลักศิลาจารึกหลักที่ 1 ไตรภูมิพระร่วง ลิลิตยวนพ่าย ลิลิตพระลอ ชินมาลีปกรณ์ โครงนิราศหริภุญไชย รวมไปถึงศิลปะการแสดงทุกสาขา เช่น โขน เป็นต้น ส่วนศิลปะการแสดงอย่างแม่ไม้มวยไทย ต้องรีบจดทะเบียนเช่นกัน
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า
ตอนนี้ช่างแกะสลักไม้บานประตู 4 ชั้นของวัดทั่ว ๆ ไป แทบจะไม่มีผู้สืบสาน ตรงนี้เราต้องหาผู้สืบสาน
เพราะหลายอย่างที่ผ่านมา ต่างประเทศนำภูมิปัญญาของเรา เช่น ข้าวหอมมะลิ รถตุ๊กตุ๊ก ผัดไทย อย่างมวยไทย ญี่ปุ่นนำไปเลียนแบบตั้งชื่อว่า "K 1" ไปจดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าของเขา จึงไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอย
ที่มา : คัดลอกจาก น.ส.พ. กรุงเทพธุรกิจ