GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1] 2
ผู้เขียน หัวข้อ: นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก - ตอน 3  (อ่าน 3020 ครั้ง)
Hikari
Newbie
*
กระทู้: 37


นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก - ตอน 3
« เมื่อ: 22-07-2007, 18:51:24 »

เขียน fan fic เล่นๆค่ะ.. นานๆทีจะแวะมา

อารัมภบท
มันเป็นฤดูหนาวที่ยาวนานที่สุดปีหนึ่งของอาณาจักรแองเจลเลียตะวันตก
เป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วที่กองทัพของจักรวรรดิซอร์เรี่ยน อันยิ่งใหญ่ ได้บุกเข้ายึดครองพื้นที่เกือบทั้งหมดของอาณาจักร ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยความอดอยาก ซากศพ และความมืดมน

หมู่บ้านชนบท ถูกเผาราบเหลือแต่ตอตะโก
หอคอย ปราสาทใหญ่เหลือแต่เพียงแค่ซากไหม้
โบสถ์เต็มไปด้วยซากศพของชาวเมืองผู้ขัดขืน และถูกประหาร

รูปปั้นบูชาของเหล่าเทพถูกหักโค่น ล้มลงกลิ้งนอนกองกับพื้น
เสียงร่ำไห้ของผู้คนดังระงมตลอด
ที่นี่ ไม่มีทั้งความหวัง ความฝัน และเสรีภาพ

ไกลออกไปไม่ไกล คือกำแพงสูงใหญ่เทียมฟ้า ขวางกั้นยาวตลอดแนวแบ่งอาณาจักรแห่งเชื้อสายเทพเจ้านี้ออกเป็นสอง ปราการด่านสุดท้ายที่ปกป้องมนุษยชาติ บุตรที่ลูซิสมอบเสน่หาให้มากที่สุด เบื้องหลังกำแพงคืออาณาจักรตะวันออกที่เจริญรุ่งเรือง เหล่าเชื้อพระวงศ์ผู้สืบเชื้อสายจากเทพเจ้าต่างเสวยสุข ต่างกับอีกฟากหนึ่งอย่างลิบลับ

ต่อไปนี้คือบันทึกของข้า
ไรซ์, มหาเสนาบดีกลาโหมใหญ่แห่งนครเทพอาณาจักรแอลเจลเลียตะวันออก

บทที่ 1 : ข่าวลือ

"สาวพรหมจรรย์แห่ง ไออ้อน วิลล์ ?"
นั่นคือประโยคแรกที่หลุดออกจากปากข้า หลังจากที่นายกองที่ข้าส่งไปตรวจข่าวลือเรื่องของกลุ่มต่อต้านที่อยู่นอกกำแพงกลับมาจากภารกิจของเขา

หลายเดือนก่อนมีข่าวลือถึง การต่อต้านโดยกลุ่มคนที่อยู่ฝั่งตะวันตกต่อพวกซอร์เรี่ยนที่ยึดครองพื้น ซึ่งทุกทีมักจะจบลงด้วยการถูกฆ่าล้าง และตัดคอเสียบประจาน หรือใช้เครื่องดีดหิน ดีดศพข้ามกำแพงมาเพื่อไม่ให้พวกเราเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่คราวนี้มันกลับกันตรงที่พวกเขานั้นชนะ และขับไล่พวกซอร์เรี่ยนออกไปได้
ว่ากันว่า กลุ่มคนเหล่านั้นได้ค้นพบกับผู้นำสาน์สแห่งพระเจ้า, "สาวพรหมจรรย์" ผู้ได้รับนิมิตจากองค์เทพให้ปลดปล่อยมวลมนุษย์

ข่าวลือนี้สร้างความไม่สบายใจให้กับเหล่านักบวช และเชื้อพระวงศ์ผู้สืบเชื้อสายเทพเจ้า
การที่มี "ผู้นำสาน์ส" จากสามัญชน... ชนชั้นล่างผู้มิได้สืบสายเลือดเทพนอกเหนือจากพวกเขา ย่อมทำให้พวกเขาหวาดกลัว ข้ารู้ดี และก็อดสมเพชในความรักตัวกลัวตาย และห่วงอำนาจบารมีของ "ผู้สืบเชื้อสายเทพเจ้า" ไม่ได้

"เจ้าได้เจอนางหรือเปล่า ?" ข้าเอ่ยปากถาม นายกองที่ไปสืบข่าว
".. ขอรับ ข้าน้อยได้เจอนาง และ.. เอ่อ" นายกองแสดงท่าทีไม่แน่ใจว่าจะพูดต่อไปดีมั้ย
"ทันทีที่พบกับ สาวพรหมจรรย์.. นางเอ่ยปากทักข้าด้วยนามของข้า และกล่าวถึงใต้เท้าด้วยขอรับ"

น่าสนใจ.. ผู้มีพลังหยั่งรู้เพราะนิมิต หรือเป็นแค่กลกระจอกๆของชาวบ้านที่มีเครือข่ายการข่าวดีข้าก็ไม่อาจจะรู้ได้

"เหลวไหล ! เจ้าคงเผลอไปคุยอวดล่ะสิว่าเป็นคนของข้าน่ะ ! ข้าบอกแล้วใช่มั้ยว่า การสืบข่าวของเจ้านั้นเป็นราชการลับ !" ข้าแกล้งขึ้นเสียงเพื่อกดดันนายกอง
"หามิได้ใต้เท้า ข้าน้อยมิกล้า ! ข้าทราบดีว่างานของข้านั้นเป็นเรื่องลับ"
"แต่ว่า ใต้เท้า นาง.. นางรู้จริงๆนะขอรับ ! นางยังบอกด้วยว่าข้าจะถูกใต้เท้าต่อว่าแบบนี้ ข้าถึงได้ไม่กล้า.." นายกองพูดเสียงสั่น
"เอาล่ะ เจ้าทำงานได้ดีมาก"
"คืนนี้ เจ้าจงเตรียมองค์รักษ์ฝีมือดีให้ข้าสักสิบนาย ข้าจะขอออกไปดูหน่อยสิว่า หญิงพรหมจรรย์นั้นแน่จริงสักเพียงใด"
"ขอรับ ใต้เท้า" นายกองโค้งให้กับข้า และเดินออกจากห้องพักของข้าไป

การลอบออกไปนอกกำแพง ถือเป็นเรื่องต้องห้าม.. และการยอมให้ใครที่อยู่นอกกำแพงเข้ามาฝั่งนี้นั้นเป็นเรื่องต้องห้ามกว่า ข้าเองก็ไม่เข้าใจความคิดของพวกพระ และพวกเชื้อพระวงศ์เหมือนกันที่จงใจปล่อยให้เพื่อนมนุษย์ที่อยู่ฝั่งนั้นต้องทนทุกข์ทรมานภายใต้การปกครองของพวกซอร์เรี่ยน
ทุกครั้งที่ข้าได้ยินเรื่องของการต่อต้านจากทางฝั่งนั้น ข้าเองก็อยากจะนำกองทัพของตัวเองกรีฑาเปิดประตูออกไปช่วยพวกเขาต่อสู้.. แต่ก็ติดเพราะถูกห้ามด้วยกฏข้อบังคับมากมาย ข้าต้องเฝ้ามองกองทัพชาวบ้านที่หยิบไม้ และก้อนหินต่อสู้กับพวกซอร์เรี่ยน คนแล้วคนเล่าที่ถูกปืนไฟเข่นฆ่า ถูกทรมาน ถูกเผา ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เลือดสีแดงไหลนองจนทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีแดง มีแต่ซากศพถูกขนมากองข้างกำแพงทุกวันๆ

"ปืนไฟ" เป็นของนอกรีต พวกพระระดับสูงได้ร่วมมือกับเชื้อพระวงศ์ออกกฏห้ามิให้เราใช้อาวุธนอกรีตนั้น
"เวทมนตร์" คือหนทางการต่อสู้ที่ถูกต้องของเหล่าเทพ.. จะมีสักกี่คนกันที่ใช้มันได้ กฏงี่เง่าที่ทำให้อาณาจักรตะวันตกต้องแพ้สงคราม

พวกพระต่างพากันอ้าง "นิมิต" และ "สานส์" อยู่เสมอมีคนท้วงถามถึงเจตนาของกฏเหล่านั้น
หาก "สาวพรหมจรรย์แห่ง ไออ้อน วิลล์" เป็น "ผู้นำสานส์" จริง นี่คงจะสั่นคลอนเจ้าพวกนักบวชขี้ขลาดนั่น และเปิดทางให้ข้าในนำกองทัพออกไปช่วยเหลือปลดปล่อยเพื่อนมนุษย์ได้เสียที..

บทที่ 2 : สาวพรหมจรรย์

การลักลอบข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ไม่ใช่สำหรับข้า ไรซ์ มหาเสนาบดีฯใหญ่ ผู้ควบคุมดูแลกองกำลังทหารประจำการตลอดแนวชายแดน

"เอี๊ยดดด อ๊าาดดดด"
เสียงของเชือกกระเช้าเหล็กที่ค่อยๆหย่อนตัวลงจากยอดกำแพงสูงนับสิบช่วงตัวคนที่แกว่งเพราะแรงลมพัดดังขึ้นท่ามกลางความมืดของคืนเดือนมืด ทำให้บรรดาทหารที่ค่อยๆผ่อนรอกต้องหยุดการปล่อยกระเช้าลงไป

"ทำต่อไปสิ" ข้าตะโกนบอกทหาร ระหว่างที่ยืนอยู่บนกระเช้า
"แต่ว่า ใต้เท้า มันเสี่ยงนะขอรับ !?"
"นี่เป็นคำสั่ง" ข้ายืนยันคำสั่ง ทหารที่คุมรอกอยู่ทำหน้าลังเลอยู่สักพักก่อนที่เขาจะค่อยๆ หมุนรอกต่อ

ไม่กี่อึดใจต่อมากระเช้าก็ลงถึงพื้นดิน ข้าและบรรดาองค์รักษ์ฝีมือดีอีกราวสิบคนแต่งกายพรางตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำรีบกรูวิ่งออกจากกระเช้าทันทีที่เท้าของพวกข้าเหยียบพื้นดินของอีกฝั่ง กลิ่นของซากศพ... กลิ้นไหม้... ความตาย... ก็ลอยเข้ามาเตะจมูกทันที
โดยไม่มีม้า และพาหนะข้าและองค์รักษ์อาศัยความมืดของยามค่ำคืนเดินลัดเลาะไปตามแนวคันดิน หลีกเลี่ยงการตรวจการณ์ของพวกหน่วยลาดตระเวนไกลซอร์เรี่ยนที่อาจจะบังเอิญมาพบเข้า อย่างช้าๆและทุลักทุเล เป็นเวลานานราว 2 ชั่วยามในที่สุด องค์รักษ์ที่นำทางก็ชี้ให้ข้าดูแสงไฟจากค่ายๆเล็กๆที่อยู่ข้างหน้า เสียงของการเหวี่ยงอาวุธ เสียงหัวเราะ... และถ้าข้าหูไม่ฝาดไปเสียก่อน เสียงดนตรี.. ดังลอยออกมาจากทางค่าย

"อย่าทำตัวเด่น ทำตามที่ตกลงกันไว้" ข้ากำชับเหล่าองค์รักษ์
"ขอรับ ใต้เท้า"

พวกข้าค่อยๆเดินตรงเข้าไปที่ประตูค่าย เมื่อเข้าใกล้ๆ ข้าก็เห็นได้ว่าค่ายนี้เป็นเพียงค่ายชั่วคราวอย่างลวกๆ ที่สร้างกำแพงขึ้นด้วยไม้ซุงมามัดติดกันมีเพียงหอรักษาการณ์และเวรยามไม่กี่คนยืนเฝ้าอยู่ ขณะที่ข้าเข้าใกล้หน้าประตูนั้นเอง ยามที่เฝ้าประตูอยู่ด้านบนกำแพงก็ส่องแสงจากคบเพลิงลงมาหาข้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า

"ยินดีต้อนรับขอรับ ท่านเสนาบดี, ท่านลูเซียกำลังรอท่านอยู่"

คำทักทายของเขาทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจไม่ใช่น้อย ราวกับว่าพวกเขารู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว
เมื่อพูดจบประตูค่ายก็ถูกเปิดออก และก็มีบรรดาชายฉกรรจ์ราว 6 คนพร้อมอาวุธและเสื้อเกราะง่ายๆยืนเข้าแถวเหมือนรอต้อนรับช่างเป็นการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้วจริงๆ ข้าคิดระหว่างเดินเข้าไป ชายฉกรรจ์ 6 คนโค้งให้กับข้าด้วยความเคารพ และเปิดทางนำพวกข้าไปยังเต็นท์ หลังหนึ่ง

"ต่อจากนี้ ขอเชิญเพียงท่านเสนาบดี ผู้เดียว"
"ไม่ได้เด็ดขาด !" องค์รักษ์ของข้าขึ้นเสียง
"ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรหรอก" ข้าพยายามปราบพวกเขา
"ท่านลูเซียรอพบท่านอยู่" ชายฉกรรจ์ว่า
"แต่ว่า ใต้เท้า !?" องค์รักษ์แสดงท่าทางไม่เห็นด้วย
"ข้าเป็นถึงเสนาบดีกลาโหม ถ้าในเต็นท์นี้มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่ง ใยเล่าพวกเจ้าต้องกลัว" ข้าบอกกับพวกเขา ก่อนจะเดินเปิดผ้าประตูเต็นท์เข้าไป

ภายในเต็นท์นั้น แม้จะมีเพียงแสงสลัวๆ ของเทียนไม่กี่เล่มที่ปักอยู่ แต่ข้ากับรู้สึกว่าในห้องนั้นสว่างไสวราวกับมีไฟฟ้าเหมือนในพระราชวังก็ไม่ปานที่ตรงหน้าข้านั้น คือเด็กสาวแรกรุ่นนางหนึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวคล้ายกับชุดนอนของสุภาพสตรีชั้นสูง นี่น่ะหรือคือหญิงพรหมจรรย์ผู้นำสานส์ข้าพินิจพิจดูผู้ที่อยู่เบื้องหน้า.. เด็กสาวรูปร่างเล็ก ผิวขาวเนียน ผมสีบลอนด์ยาวสลวยจรดปลายเท้า เธอมีดวงตาสีน้ำเงินเข้มเป็นประกายเหมือนน้ำทะเล
เด็กสาวยิ้มให้กับข้า ขณะที่ข้าจ้องมองเธอ.. พริบตานั้น ทันทีที่สบตากับเธอ ข้าก็รู้สึกเหมือนกับถูกจ้องมองล้วงลึกไปจนถึงรากฐานแห่งความทรงจำ

"สงสัยในตัวข้านั้นท่านไซร้ไม่ควรคิด สดับฟังวัจนะข้าไซร้พึงกระทำ" เด็กสาวกล่าวกับข้า

บทที่ 3 : คำทำนาย
ท่ามกลางแสงสลัวๆจาก เปลวเทียน และกลิ่นหอมของกำยาน และสมุนไพรบางอย่างที่จุดลอยคละคลุ้งในเต็นท์ผ้าผืนนั้น ข้า ไรซ์, มหาเสนาบดีกลาโหมฯ กำลังยืนประจันหน้ากับสตรีนางหนึ่งนางผู้ซึ่งงดงามราวกับนางฟ้าจากเทพนิยาย

เด็กสาวยิ้มอย่างมีเลศนัย และเดินกรีดกรายวนรอบตัวข้า.. แววตาของนางจ้องมองตัวข้าไม่กระพริบ..

"สง่างาม"
"เข้มแข็ง"
"และสว่างไสว"

วลีไร้ความหมายถูกเด็กสาวกล่าวขึ้นมาอย่างลอยๆ ตลอดเวลาที่นางก้าวเดินวนรอบๆตัวข้า

"เจ้าน่ะหรือคือ สาวพรหมจรรย์แห่ง ไออ้อน วิลล์" ข้าเอ่ยถามพลางพยายามข่มจิตใจให้เงียบสงบ

"สงสัยไซร้ไม่ควรคิด.."
"บุตรแห่งลูซิส เอ๋ย.. จงสดับ เสียงเพรียกแห่งมารดาเจ้า.. เทวีผู้เป็นใหญ่เหนือทุกสรรพสิ่ง"
"จงสดับ" เด็กสาวหยุดเดินและตะโกนใส่หน้าข้า.. ท่าทีของนางเปลี่ยนไปคล้ายกับถูกสิง นางหยุดเดินและเดินตรงไปยังเตียงและนั่งลง

"บอกไว้ก่อนนะว่า ข้าไม่เชื่อพวกนอกรีต และไม่เชื่อเรื่องการเข้าทรงของพวกหมอผี.."
"ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ" นางหัวเราะ
"เชื่อหรือไม่ท่านตัดสิน นำสานส์มานั้นข้ากระทำ.." เด็กสาวลุกขึ้นและตะโกนใส่ข้า
"ขับไล่บุตรแห่งอาทรัม เจ้าจะทำ !!" นางชี้หน้าข้า พร้อมๆกับจังหวะที่จู่ๆ ไฟจากเปลวเทียนก็ลุกพุ่งขึ้นสูงอย่างแปลกประหลาด
"ถ้าหมายถึงพวกซอร์เรี่ยน ข้าต้องทำแน่ ทำโดยไม่ต้องให้คนทรงเยี่ยงเจ้ามาบอกหรอก ! ข้าจะ.."
"ชู่วววว.. เด็กน้อย" นางใช้นิ้วแตะริมฝีปากข้า
"ราชาไซร้เจ้าจะเป็น เพื่อการนั้น.." นางใช้มือจับที่แก้มข้า
"ผู้เหมาะสม หาใช่ใครแต่คือเจ้า..."
"สามหาวนัก !! ละเมอเพ้อพกคำทำนายอะไร !! ราชงราชาที่ไหน !! ถึงข้าจะเป็นผู้กุมกองทัพใหญ่ !!"
"แต่จะให้ข้าคิดคดทรยศต่อราชวงศ์นั้นไม่มีทาง !! ข้ารู้พวกชาวบ้านอย่างเจ้าเกลียดชังเชื้อพระวงศ์ รวมทั้งริษยา.."
"เบื้องหน้าเทพไซร้ ราชา นักบวช ชาวนา มิแตกต่าง" นางกระซิบข้างหูข้า
"ผู้ถูกเลือกแล้ว คือเจ้า หาได้ใช่ผู้ใดอื่น"

เด็กสาวถอยออกห่างจากตัวข้า กลับไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิม
"เหลวไหล.. ข้าอุตส่าห์เสียแรงเสี่ยงลอบออกมา ก็แค่มาพบกับเด็กสาวหมอดูร่างทรงหรือนี่ !!" ข้าพูดอย่างเสียอารมณ์
การลอบออกมานอกกำแพงในช่วงเวลาเช่นนี้เป็นความเสี่ยงมาก.. ข้าเดิมพันชีวิตตัวเองและลูกน้องกับหมอดู.. หมอดูไร้สาระ ที่ทำตัวเหมือนคนบ้า ระหว่างที่ข้านึกสำนึกผิดในความเลอะเลือนชั่ววูบของข้าที่พยายามไขว่คว้าโอกาสเพียงน้อยนิดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

"เกิดเรื่องแล้ว ใต้เท้า !!!" เสียงองค์รักษ์คนสนิทของข้าตะโกนขึ้น
ข้ารีบวิ่งออกจากเต็นท์ไปทันที ด้วยเพราะรู้ว่าต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นแน่ๆ หากองค์รักษ์ของข้าตะโกนแบบนั้น.. และก็จริงดังคาด.. ที่ข้างนอกกำลังเกิดความวุ่นวายภายในค่าย ผู้หญิงและเด็กต่างวิ่งตรงมาที่เต็นท์ที่ข้ายืนอยู่.. ส่วนผู้ชายวิ่งคว้าเอาอาวุธทั้งดาบ หอก ธนูและปืนไฟ
"เกิดอะไรขึ้น ?" ข้าถามองค์รักษ์
"พวกซอร์เรี่ยน ใต้เท้า !! พวกซอร์เรี่ยนเป็นร้อยๆ กำลังล้อมค่ายนี้ไว้.."

"ตูม !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

ยังไม่ทันที่องค์รักษ์จะพูดจบเสียงระเบิดก็ดังขึ้น.. ท่อนไม้ท่อนใหญ่ปลิวลอยกระเด็นข้ามไปอีกฟาก พร้อมๆกับเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นไม่ไกลนัก
"กำแพงพังแล้ว !! กำแพงพังแล้ว !! พาคนแก่และเด็กหนี !!"
"ปกป้อง !! ท่านลูเซีย"

ความโกลาหลเกิดขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ พวกผู้ชายจับอาวุธวิ่งกรูตรงไปยังจุดเกิดเหตุ เสียงคำรามดังไปทั่วทั้งบริเวณ
"เอายังไงดีขอรับ.. ถ้าเราไม่รีบ" องค์รักษ์บอกกับข้า
"หนีตอนนี้ก็ไม่พ้นหรอก.. ลองมีปืนใหญ่มาด้วย พวกมันคงมีทหารม้าเร็ว" ข้าบอกกับองค์รักษ์
"มีแต่ต้องสู้เพื่อรักษาเกียรติของเราเท่านั้นแหละ" ข้าชักดาบในฝักออก

เป็นที่รู้กันดี.. พวกซอร์เรี่ยนไม่เคยปราณี พวกมันจะฆ่าไม่เว้นแม้แต่เด็ก หรือคนแก่.. ราวกับอสูรจากนรกกระหายเลือด..
อสูร.. ที่ข้าจะต้องเผชิญแม้จะรู้ว่าต้องเอาชีวิตมาทิ้ง

"กรรรรรรรรรรรรรรร" เสียงคำรามดังลั่น พร้อมๆกับการปรากฏตัวของครอกโคเดี้ยนร่างยักษ์ร่วม 2 เมตรครึ่ง
ทหารเลวกองหน้าสุดของพวกซอร์เรี่ยน
"อย่าปล่อยมันเข้าไปที่อยู่ของท่านลูเซียยยย !!" เสียงร้องตะโกนของคนแถวนั้น

ข้าเห็นชายราว 4-5 คนวิ่งถือดาบตรงเข้าใส่เจ้า ครอกโคเดี้ยน และก็ถูกมันกวาดแขนครั้งเดียวเหวี่ยงร่างของพวกเขาปลิวราวกับตุ๊กตาผ้าก็ไม่ปาน.. มันค่อยๆเดินตรงมาทางข้าและเต็นท์อย่างช้าๆ บรรดาองค์รักษ์ของข้ากรูกันเข้ามาล้อมตัวข้าเอาไว้
"ถึงพวกเราจะต้องตาย ก็จะขอปกป้องใต้เท้าให้ได้ !!" องค์รักษ์ของข้าตะโกนข่มความกลัวในใจตัวเอง
"ไม่หรอก.. ข้าก็จะสู้ด้วย"
"ไม่ได้ใต้เท้า !! พวกข้าจะถ่วงเวลามันไว้เอง ท่านรีบหนี !!"
"ไม่ได้ !! ไม่ได้ !! จะให้ข้าทิ้งพวกเจ้าได้ยังไง.."

ข้านึกสมเพชตัวเองในใจ เมื่อนึกถึงคำทำนายเมื่อครู่.. ปราบซอร์เรี่ยน เป็นราชา.. น่าตลกนัก ข้าจ้องมองมัจจุราชร่างยักษ์ที่ค่อยๆเดินอย่างช้าๆและใจเย็นตรงมา.. เป็นศพล่ะสิไม่ว่า
"ห้าวหาญเช่นนี้แหละ ที่ข้าปรารถนา.." เสียงของเด็กสาวดังขึ้น

จู่ๆ เด็กสาวประหลาดที่ใครๆก็เรียกกันว่าท่านลูเซีย ก็เดินออกมาจากเต็นท์ นางเดินตรงไปยังเจ้าครอกโคเดี้ยนร่างยักษ์โดยไม่มีท่าทีว่าจะหวาดกลัว
"ท่านลูเซีย !!!" ชาวบ้านร้องตะโกนอย่างตกใจ
"กรร.." ครอกโคเดี้ยนครางเบาๆอย่างสงสัย มันคงแปลกใจที่เห็นเด็กสาวตัวเล็กๆท่าทางบอบบางคนหนึ่งเดินตรงมาหามัน
"ช่างอัปลักษณ์นัก.. บุตรแห่งอาทรัม.." เด็กสาวเปรยขึ้นก่อนที่นางจะแหงนหน้ามองเจ้าครอกโคเดี้ยน ด้วยสายตาแสดงความรังเกียจ
"กรรรรรรรรร !!" แม้จะไม่เข้าใจภาษามนุษย์ แต่เจ้าครอกโคเดี้ยน ก็รับรู้ได้ถึงการแสดงออกรังเกียจของเธอ มันคำรามลั่นอย่างโกรธแค้นและเงื้อแขนขึ้นหมายจะใช้แขนที่โตเหมือนซุงของมันทุบร่างเด็กสาว

"สิ่งที่น่าเกลียด.. จงหายไปซะ !!" เด็กสาวเอ่ยขึ้น เสี้ยววินาทีก่อนที่แขนของครอกโคเดี้ยนจะตกลงถึงศีรษะของเธอ..
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นตาย..
สิ้นคำพูดในเสี้ยววินาทีนั้น..
แสงสว่างวาบก็เปล่งออกมาจากร่างของเด็กสาว.. และภาพที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏต่อสายตาของข้า
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Asura Special
Hero Member
***
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #1 เมื่อ: 22-07-2007, 19:08:21 »

เอามาลงต่อเลยเจ๊ฮิอ่านจบไป1ตอนละ
พิภัทร์ เตชัย
Jr. Member
**
กระทู้: 167


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #2 เมื่อ: 22-07-2007, 19:34:08 »

เขียนได้ดีมากๆคับ รัก เขียนดีพอๆกับคุณmint ที่เขียนนิยาย pj1 เลย
ช่วยทำส่วนที่เหลือต่อด้วยนะคับจะคอยเป็นกำลังใจ
Hikari
Newbie
*
กระทู้: 37


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #3 เมื่อ: 22-07-2007, 19:43:03 »

อ้างจาก: mint2004 ที่ 22-07-2007, 19:08:21
เอามาลงต่อเลยเจ๊ฮิอ่านจบไป1ตอนละ

พึ่งเขียนเสร็จสดๆ เอง = =/
ว่าแต่ ? แต่งตัวไฮโซ ไปไล่แทงป็อกกี้ทำไมน่ะ
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Asura Special
Hero Member
***
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #4 เมื่อ: 22-07-2007, 19:49:18 »

อ้างจาก: Hikari ที่ 22-07-2007, 19:43:03
อ้างจาก: mint2004 ที่ 22-07-2007, 19:08:21
เอามาลงต่อเลยเจ๊ฮิอ่านจบไป1ตอนละ

พึ่งเขียนเสร็จสดๆ เอง = =/
ว่าแต่ ? แต่งตัวไฮโซ ไปไล่แทงป็อกกี้ทำไมน่ะ
กำ รู้ได้ไง ที่ไปแทงเพราะมีสาเหตุจำเป็นบางประการTT ไม่อาจเล่าในนี้ได้ ไว้จะPM~ไปบอกว่าทำไมถึงไปแทงป๊อกกี้TT
~Shuffle~
Asura Tester
Hero Member
*
กระทู้: 3,088

= ω =.


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #5 เมื่อ: 23-07-2007, 00:27:23 »

แวะมาเยี่ยมชม XD

ปล.ใส่ชุดใฮโซใล่แทงป๊อกกี้? = ="



Gaius Appuleius Diocles
Sr. Member
****
กระทู้: 1,472

ถ้าคุณทำให้ผมโกรธ แต่ผมจะไม่ทำให้คุณโกรธผม


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #6 เมื่อ: 23-07-2007, 08:20:21 »

เกี่ยวกับโปรเจควันเปล่าอะ ตะวันตกพอดี ตอนนี้ก็มีเมืองใต้เซาท์เทิร์น ไชร์ ตะวันออกแองเจิลเลีย

ปล.เดานะ อิอิ

ความคิดกำหนดการกระทำ
การกระทำกำหนดนิสัย
นิสัยกำหนดความเคยชิน
ความเคยชินกำหนดชะตากรรม

คนดีชะตากรรมก็ดี คนเลวชะตากรรมก็เลว
SMOTOKING ~~"
Full Member
***
กระทู้: 922


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #7 เมื่อ: 23-07-2007, 13:52:05 »

ดีงับเจ๊ฮิ ไม่เจอนานเลย   


อิอิ  ว่างๆแวะมานรกมั่งเน้อ Cool Cool

€ ~ o น่ า ร๊ า ก ใ ช่ มั๊ ย o ~ €


คลิกหน่อยน๊าาาาาา



กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #8 เมื่อ: 23-07-2007, 17:50:25 »

เจ้าของกระทู้นี้ไคอ่ะม่ะรุ้จัก
อิอิ
พูดเล่งคับอย่าเพิ่งโกดไป
แวะมาบ่อยๆก็ดีน่ะคับ
แล้วจาตามอ่าน^^



กูลภักดิ์ แสนชนะ
Hero Member
*****
กระทู้: 3,707

ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรอัน แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #9 เมื่อ: 23-07-2007, 21:22:46 »

อ้างจาก: กร็วก ที่ 23-07-2007, 21:16:55
โย่วะ!!เบบี๋ การ์ตูนสนุกน่าติดตามดีงั้บ Cool Cool
เฮือก!!
เรียกเจ้ฮิว่าเบบี๋ยังม่ะเคยเหงนรกแหงๆ

ปล.เค้าเรียกว่านิยายม่ะไช้การ์ตูน



~PuNKuN~
Hero Member
*****
กระทู้: 2,846

>w<.~


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #10 เมื่อ: 28-07-2007, 09:39:08 »

เจ๊ฮินี่คือคนนั้นรึเปล่า



ปล.ไม่ได้เข้าบอดนาน


kakalot_zaa
บุคคลทั่วไป
Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #11 เมื่อ: 07-08-2007, 21:18:16 »

แต่งสดหรอคับ Smiley
¤MԾդщΊN¤
Hero Member
*****
กระทู้: 3,921

۩~♥ถ้าไม่รักเธอแล้วจะให้ไปรักใคร♥~۩


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก
« ตอบ #12 เมื่อ: 07-08-2007, 21:24:00 »

อ้าว เจ้ ฮิ มาแล้วรึ นึกว่าจาบินลับนอกโลกสะอีก  Evil
Hikari
Newbie
*
กระทู้: 37


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก - ตอนที่ 2
« ตอบ #13 เมื่อ: 11-08-2007, 02:23:38 »

บทที่ 2 : สาวพรหมจรรย์

การลักลอบข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ไม่ใช่สำหรับข้า ไรซ์ มหาเสนาบดีฯใหญ่ ผู้ควบคุมดูแลกองกำลัง
ทหารประจำการตลอดแนวชายแดน

"เอี๊ยดดด อ๊าาดดดด"
เสียงของเชือกกระเช้าเหล็กที่ค่อยๆหย่อนตัวลงจากยอดกำแพงสูงนับสิบช่วงตัวคนที่แกว่งเพราะแรงลมพัดดังขึ้นท่ามกลางความมืด
ของคืนเดือนมืด ทำให้บรรดาทหารที่ค่อยๆผ่อนรอกต้องหยุดการปล่อยกระเช้าลงไป

"ทำต่อไปสิ" ข้าตะโกนบอกทหาร ระหว่างที่ยืนอยู่บนกระเช้า
"แต่ว่า ใต้เท้า มันเสี่ยงนะขอรับ !?"
"นี่เป็นคำสั่ง" ข้ายืนยันคำสั่ง ทหารที่คุมรอกอยู่ทำหน้าลังเลอยู่สักพักก่อนที่เขาจะค่อยๆ หมุนรอกต่อ

ไม่กี่อึดใจต่อมากระเช้าก็ลงถึงพื้นดิน ข้าและบรรดาองค์รักษ์ฝีมือดีอีกราวสิบคนแต่งกายพรางตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำรีบกรูวิ่งออกจากกระเช้า
ทันทีที่เท้าของพวกข้าเหยียบพื้นดินของอีกฝั่ง กลิ่นของซากศพ... กลิ้นไหม้... ความตาย... ก็ลอยเข้ามาเตะจมูกทันที
โดยไม่มีม้า และพาหนะข้าและองค์รักษ์อาศัยความมืดของยามค่ำคืนเดินลัดเลาะไปตามแนวคันดิน หลีกเลี่ยงการตรวจการณ์ของพวกหน่วยลาด
ตระเวนไกลซอร์เรี่ยนที่อาจจะบังเอิญมาพบเข้า อย่างช้าๆและทุลักทุเล เป็นเวลานานราว 2 ชั่วยามในที่สุด องค์รักษ์ที่นำทางก็ชี้ให้ข้าดู
แสงไฟจากค่ายๆเล็กๆที่อยู่ข้างหน้า เสียงของการเหวี่ยงอาวุธ เสียงหัวเราะ... และถ้าข้าหูไม่ฝาดไปเสียก่อน เสียงดนตรี.. ดังลอยออกมาจากทางค่าย

"อย่าทำตัวเด่น ทำตามที่ตกลงกันไว้" ข้ากำชับเหล่าองค์รักษ์
"ขอรับ ใต้เท้า"

พวกข้าค่อยๆเดินตรงเข้าไปที่ประตูค่าย เมื่อเข้าใกล้ๆ ข้าก็เห็นได้ว่าค่ายนี้เป็นเพียงค่ายชั่วคราวอย่างลวกๆ ที่สร้างกำแพงขึ้นด้วยไม้ซุงมามัดติดกัน
มีเพียงหอรักษาการณ์และเวรยามไม่กี่คนยืนเฝ้าอยู่ ขณะที่ข้าเข้าใกล้หน้าประตูนั้นเอง ยามที่เฝ้าประตูอยู่ด้านบนกำแพงก็ส่องแสงจากคบเพลิงลงมาหาข้า
พร้อมกับพูดขึ้นว่า

"ยินดีต้อนรับขอรับ ท่านเสนาบดี, ท่านลูเซียกำลังรอท่านอยู่"

คำทักทายของเขาทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจไม่ใช่น้อย ราวกับว่าพวกเขารู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว
เมื่อพูดจบประตูค่ายก็ถูกเปิดออก และก็มีบรรดาชายฉกรรจ์ราว 6 คนพร้อมอาวุธและเสื้อเกราะง่ายๆยืนเข้าแถวเหมือนรอต้อนรับ
ช่างเป็นการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้วจริงๆ ข้าคิดระหว่างเดินเข้าไป ชายฉกรรจ์ 6 คนโค้งให้กับข้าด้วยความเคารพ และเปิดทางนำพวกข้าไปยัง
เต็นท์ หลังหนึ่ง

"ต่อจากนี้ ขอเชิญเพียงท่านเสนาบดี ผู้เดียว"
"ไม่ได้เด็ดขาด !" องค์รักษ์ของข้าขึ้นเสียง
"ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรหรอก" ข้าพยายามปราบพวกเขา
"ท่านลูเซียรอพบท่านอยู่" ชายฉกรรจ์ว่า
"แต่ว่า ใต้เท้า !?" องค์รักษ์แสดงท่าทางไม่เห็นด้วย
"ข้าเป็นถึงเสนาบดีกลาโหม ถ้าในเต็นท์นี้มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่ง ใยเล่าพวกเจ้าต้องกลัว" ข้าบอกกับพวกเขา ก่อนจะเดินเปิดผ้าประตูเต็นท์เข้าไป

ภายในเต็นท์นั้น แม้จะมีเพียงแสงสลัวๆ ของเทียนไม่กี่เล่มที่ปักอยู่ แต่ข้ากับรู้สึกว่าในห้องนั้นสว่างไสวราวกับมีไฟฟ้าเหมือนในพระราชวังก็ไม่ปาน
ที่ตรงหน้าข้านั้น คือเด็กสาวแรกรุ่นนางหนึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวคล้ายกับชุดนอนของสุภาพสตรีชั้นสูง นี่น่ะหรือคือหญิงพรหมจรรย์ผู้นำสานส์
ข้าพินิจพิจดูผู้ที่อยู่เบื้องหน้า.. เด็กสาวรูปร่างเล็ก ผิวขาวเนียน ผมสีบลอนด์ยาวสลวยจรดปลายเท้า เธอมีดวงตาสีน้ำเงินเข้มเป็นประกายเหมือนน้ำทะเล
เด็กสาวยิ้มให้กับข้า ขณะที่ข้าจ้องมองเธอ.. พริบตานั้น ทันทีที่สบตากับเธอ ข้าก็รู้สึกเหมือนกับถูกจ้องมองล้วงลึกไปจนถึงรากฐานแห่งความทรงจำ

"สงสัยในตัวข้านั้นท่านไซร้ไม่ควรคิด สดับฟังวัจนะข้าไซร้พึงกระทำ" เด็กสาวกล่าวกับข้า
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Asura Special
Hero Member
***
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย : บทบันทึกของ ไรซ์ แห่งแองเจลเลียตะวันออก - ตอน 2
« ตอบ #14 เมื่อ: 11-08-2007, 02:30:40 »

นึกว่าจะไม่มาเขียนต่อละ^^ สู้ๆๆ
ป้าย:
หน้า: [1] 2