GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1] 2
ผู้เขียน หัวข้อ: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?  (อ่าน 466 ครั้ง)
-─═┳ҳ̸Ҳ̸ҳยารุตะ_FFIҳ̸Ҳ̸ҳ ╬══→
Hero Member
*****
กระทู้: 6,741

ยารุตะคุง


มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« เมื่อ: 17-01-2010, 21:40:17 »


ก็อปเค้ามาครับ
น้ำหนักวิญญาณ

เชื่อหรือไม่คะว่าวิญญาณของพวกเราก็มี น้ำหนักด้วยเหม ือนกันนักวิทยาศาสตร์ทดลองชั่งน้ำหนักของวิญญาณโดยชั ่งน้ำหนักของคนในขณะที่มีชีวิตอยู่เปรียบเทียบกับน้ำ หนักหลังจากเสียชีวิตทันทีพบว่าน้ำหนักหายไป 21 กรัม จึงสรุปว่าดวงวิญญาณของพวกเรามีน้ำหนัก 21 กรัมด้วย

สารฆ่าความเจ็บปวด

เคยสังเกตไหมว่าทำไมบางครั้งนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บ ในระหว่างการแข่งขันยังสามารถลงแข่งขันได้จนจบหรือทห ารที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบยังคงทนต่อสู้ข้าศึกอยู่ไ ด้พวกเขาไม่เจ็บกันหรือนักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วค่ะ ว่าเมื่อมนุษย์เผชิญสถานการณ์ที่ตึงเครียดสมองจะปล่อ ยสารออกมายับยั้งความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ทำให้มนุษย์ ต่อสู้กับความเจ็บปวดได้

ไม่มีน้ำตา

รู้หรือปล่าวว่าตอนที่เราอายุ 4-5 เดือน เราร้องไห้ไม่มีน้ำตากันหรอกค่ะแม้จะร้องเสียงดังแค่ ไหนก็ตามที่เป็นเช่นนี้เพราะต่อมน้ำตาของคนเราจะพัฒน าขึ้นหลังจากเกิดมาแล้ว 4 -5 เดือนตอนนี้พวกเราคงจะร้องไห้มีน้ำตากันทุกคนแล้วนะค ่ะ

หิวเพราะกลิ่น

พอกลิ่นหอมของอาหารลอยมาพวกเราคงเคยรู้สึกหิวตามกลิ่ นนั้นไปด้วยใช่ไหมล่ะก็กลิ่นอาหารเข้าไปกระตุ้นระบบก ารย่อยอาหารของเราน่ะสิคะทำให้น้ำย่อยในปากและท้องทำ งานเราจึงรู้สึกหิวทั้งๆที่บางครั้งเราไม่ต้องการกิน อีกแล้ว

กระเพาะแข็งแกร่ง

ในกระเพาะอาหารของเรามีน้ำย่อยที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูงม าก จนสามารถละลายสังกะสีได้แต่กรดเหล่านี้ไม่สามารถละลา ยผนังกระเพาะของเราได้เนื่องจากทุกนาทีเซลล์ผนังกระเ พาะเก่า 5000 เซลล์จะถูกเซลล์ใหม่แทนที่และเปลี่ยนเป็นเซลล์ใหม่ทั ้งหมดทุกๆ 3 วัน

ท้องร้องจ๊อกๆ

เราเคยได้ยินเสียงท้องร้องเมื่อรู้สึกหิวบ้างไหมสาเห ตุที่ท้องร้องก็เพราะสมองซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมความร ู้สึกหิวของเราจะคอยจัดลำดับการทำงานของกระเพาะอาหาร และลำไส้ ถ้าในเลือดมีสารอาหารพอเพียงสมองก็จะสั่งให้ระบบย่อย อาหารทำงานช้าลงแต่เมื่อใดที่มีสารอาหารในเลือดน้อยร ะบบย่อยอาหารจะทำงานเร็วขึ้นเราจึงได้ยินเสียงท้องร้ อง

ตกใจจนหน้าซีด

เมื่อเราตกใจหน้าจะซีดเนื่องจากเลือดบริเวณแก้มจะไหล ย้อนกลับอย่างรวดเร็วเพื่อทำหน้าที่ฉุกเฉินคือให้สาร อาหารและออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อส่วนอื่นเนื่องจากร่าง กายไม่ได้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเผชิญความ ตกใจเมื่อเลือดจากแก้มไหลออกไป หน้าเราจึงซีด

เขินอาย

เมื่อเรารู้สึกเชินอายหน้าเราก็จะแดง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและลำคอเพราะขณะที่เราเขินอาย เซลล์ประสาทจะถูกกระตุ้นให้ปล่อยสารเคมีที่พลังงานสู งชื่อว่าเปปไตด์ (peptide) ออกมา ทำให้เส้นเลือดที่แก้มและลำคอขยายตัวหน้าของเราจึงแด งมากกว่าปกติ

มาจากดวงดาว

ร่างกายของเราประกอบด้วยอะตอมจำนวนมาก อะตอมเหล่านี้มาจากไหนนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่ าอะตอมเกิดมาจากดวงดาวที่ดับแล้วเมื่อ 5000 ล้านปีก่อนที่จะมีพระอาทิตย์เกิดขึ้นและดวงดวงนี้เคย มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ก่อนเมื่อโลกเกิดขึ้นเซลล์ของ สิ่งมีชีวิตนี้ก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นคน

สารพัดสาร

เชื่อหรือไม่ว่าในร่างกายของเรามีสารอยู่มากมาย เช่นมีฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากพอจะทำหัวไม้ขีดไฟ 2,000 ก้าน มีไขมันพอที่จะทำสบู่ได้ 7 ก้อน มีเหล็กมากพอที่จะทำตะปูได้ 1 ตัวมีปูนขาวที่สามารถละลายน้ำแล้วนำไปทาห้องเล็ก ๆ ได้ 1 ห้อง มีซัลเฟอร์ 1 ช้อนชาและโลหะอีกประมาณ 30 กรัม

นอนแล้วสูง

การนอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลก กดลงการนอนช่วยให้แรงกดนี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้ อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม

พลังกาย

ร่างกายของคนเราแข็งแกร่งมากกว่าที่เราคิดเสียอีกโดย เฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการยกน้ำหนัก เช่น ถ้าเรานอนหลับโดยห่มผ้าหนัก 2.5 กิโลกรัม หายใจโดยเฉลี่ย 16 ครั้งต่อนาที และนอนนานประมาณ 8 ชั่วโมงทรวงอกของเราสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 20 ตัน

ฉันทำไม่ได้

สิ่งที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถทำได้ คือหายใจและกลืนอาหารไปพร้อม ๆ กันเพราะกระบวนการกลืนจะไปรบกวนกระบวนการหายใจด้วยกา รปิดกั้นอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปขณะที่อาหารเคลื่อนจาก ปากไปยังคอหอยและผ่านไปที่กระเพาะอาหาร

มนุษย์พลังงาน

เชื่อหรือไม่ว่าร่างกายของคนผลิตกระแสไฟฟ้าได้คนแต่ล ะคนจะมีพลังงานเทียบเท่ากับการเปิดหลอดไฟฟ้าขนาด 120 วัตต์เพราะคนที่กินอาหารเข้าไปปริมาณ 2,500 แคลอรีในแต่ละวันจะให้พลังงานความร้อน 104 แคลอรีต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากระแสไฟฟ้าที่มีพลังงาน 120 วัตต์

กระพริบตา

ตลอดชีวิตของคนเรานั้นเราต้องกระพริบตาถึง 250 ล้านครั้งทีเดียว เพราะเราจะต้องกระพริบตาทุก ๆ 6 วินาทีทำให้กล้ามเนื้อตาเคลื่อนไหวประมาณ 10,000 ครั้งต่อวันถ้าเปรียบกับการทำงานของกล้ามเนื้อขาแล้ว จะเท่ากับวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อวัน

สมองบริโภค

เชื่อหรือไม่ว่าตอนแรกเกิดสมองของเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 15 ปี สมองจะหนักถึง 1.4 กิโลกรัมและจะมีขนาดคงที่ สมองเติบโตได้เพราะใช้พลังงานจากอากาศที่เราหายใจเข้ าไป 20% และใช้เลือดหล่อเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมดในร่างกาย

กระบวนการคิด

นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า อิริยาบถต่าง ๆมีผลต่อการคิดและการตัดสินใจของมนุษย์ การนอนคิดจะทำให้ความคิดกว้างไกลการยืนทำให้ความคิดแ คบลงสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นส่วนการนั่งเป็นอิริยา บถที่เหมาะกับการตัดสินใจที่ไม่รีบร้อนเท่าใดนัก

ผมงอก

โดยปกติ ใน 1 สัปดาห์ผมจะงอกออกมา 2 มิลลิเมตรใน 1 วัน จะมีช่วงที่ผมงอกได้ดี 2 ช่วง คือ ระหว่างเวลา 10.00 11.00 น.และ 16.00 18.00 น. แต่ไม่ต้องเอากระจกไปส่องดูการงอกของเส้นผมหรอกนะเพร าะมันแทบจะมองไม่เห็นเลย

เส้นขนแข็งแรง

โดยเฉลี่ยแล้วคนเราจะมีเส้นขนประมาณ 5 ล้านเส้นทั่วร่างกาย ยกเว้นบริเวณริมฝีปากฝ่ามือและฝ่าเท้า เส้นขนที่แข็งแรงที่สุดคือหนวด เชื่อหรือไม่ว่าหนวดแข็งแรงพอ ๆกับลวดทองแดงที่มีขนาดเท่ากันเลยทีเดียว

ตาแหลมคม

ตาของเหยี่ยวสามารถมองเห็นแมลงวันที่อยู่ในระยะครึ่ง ไมล์ได้ส่วนเสือดาวก็สามารถมองเห็นคนกระพริบตาที่ระย ะห่าง 100 หลาได้ตาของคนก็มีความพิเศษเช่นเดียวกัน เพราะสามารถแยกแยะความแตกต่างของสีได้มากถึง 17,000 สี

ตาที่สาม

เชื่อหรือไม่ว่ามนุษย์มีสามตาตาที่สามนี้ก็คือต่อมไพ เนียลซึ่งอยู่ด้านหลังของกะโหลกศีรษะภายในต่อมมีสารเ คมีที่มีชื่อว่าเซโรโตนินอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อกันว่าสารชนิดนี้ช่วยส่งผลให้มนุษย์มีการคิดอย่ างสมเหตุสมผลนักวิทยาศาสตร์จึงเปรียบต่อมนี้ว่าเป็นต าที่สามของมนุษย์

ฮัดเช้ย!

เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำให้จมูกของเราเกิดการระค ายเคืองเราจะจามออกมาโดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่เราจามจะมีน้ำลายฟุ้งกระจายออกมาถึง 100,000 หยด ด้วยอัตราเร็ว 152 ฟุตต่อวินาที

ริมฝีปาก

เคยสงสัยกันหรือไม่คะว่าทำไมริมฝีปากของเราจึงมีสีแด งมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะผิวหนังบริเวณริมฝี ปากบางกว่าส่วนอื่น ๆ นั่นเองจึงทำให้สามารถมองเห็นสีของเลือดใต้ผิวหนังได ้

ยิ้มแย้ม

ร่างกายของเราประกอบด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 650 มัดหากเราหน้าบึ้งจะต้องใช้กล้ามเนื้อประมาณ 400 มัด ในขณะที่การยิ้มใช้กล้ามเนื้อ 15 มัด เท่านั้น และพลังงานที่ใช้ก็น้อยกว่าการขมวดคิ้ว 1 ครั้งเสียอีกเชื่อกันว่าการขมวดคิ้ว 200,000 ครั้ง ทำให้เกิดรอย กา 1 รอย

ฟันปลา

เชื่อกันว่าเมื่อประมาณ 1 ล้านปีที่แล้วฟันของมนุษย์มีลักษณะคล้ายกับฟันปลาเพร าะมีการค้นพบฟันลักษณะเดียวกันกับของมนุษย์อยู่ในกรา มของปลาฉลามยุคก่อนประวัติศาสตร์ดังนั้น ฟันของมนุษย์และปลาฉลามจึงมีโครงสร้างพื้นฐานเหมือนก ันแต่ฟันของมนุษย์ได้พัฒนาจนมีรูปร่างเหมือนในปัจจุบ ัน

การทรงตัว

เชื่อหรือไม่ว่าหูมีผลต่อการทรงตัว อวัยวะที่ช่วยให้เราสามารถทรงตัวอยู่ได้คือเซมิเซอร์ คิวลาร์ คาแนล (semicir-cular canel) ในหูซึ่งภายในมีของเหลวที่ไวต่อการกระตุ้นของเหลวนี้ จะทำหน้าที่ในการรับรู้สมดุลหากเราหมุนไปรอบ ๆ ตัวเร็ว ๆ หลาย ๆ ครั้ง จะทำให้อวัยวะนี้เกิดความสับสนเราจึงรู้สึกเวียนศีรษ ะ

เสียงกรน

เสียงกรนเป็นเสียงที่สร้างความรำคาญแก่ผู้ได้ยินเพรา ะดังพอ ๆกับเสียงของสว่านไฟฟ้าซึ่งดังถึง 70 เดซิเบล

พลังปอด

เชื่อหรือไม่ว่าปกติเราจะหายใจเอาอากาศเข้าไปประมาณ 6 ลิตรต่อนาทีแต่ระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกาย ใหม่ ๆ เราอาจหายใจเอาอากาศเข้าไปได้มากถึง 100 ลิตรต่อนาที

หัวใจที่รัก

ในช่วงชีวิตของมนุษย์นั้น หัวใจจะสูบฉีดโลหิตประมาณ 500 ล้านลิตรและเต้น 2,000 ล้านครั้ง ดังนั้น ใน 1 วัน หัวใจจะสูบฉีดโลหิตมากกว่า 13,500 ลิตร และเต้น 100,000 ครั้งแต่ละวันหัวใจจึงต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้พลังง านมากพอเชื่อหรือไม่ว่าพลังงานที่ได้นี้สามารถยกรถยน ต์ได้สูงถึง 15 เมตรเลยทีเดียว

เรื่องของผิวหนัง

เชื่อหรือไม่ว่าพื้นที่เพียง 1 ตารางนิ้วบนผิวหนังของเรานั้นประกอบไปด้วยเซลล์ถึง 19 ล้านเซลล์ ขน 60 เส้นต่อมน้ำมัน 90 ต่อม ต่อมเหงื่อ 625 ต่อม เส้นเลือดยาว 19 ฟุต และเซลล์รับความรู้สึก 19,000 เซลล์

เซลล์เม็ดเลือด

มีผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่าถ้านำเซลล์เม็ดเลือดของเร ามาต่อเป็นสายยาวจะสามารถพันรอบเส้นศูนย์สูตรได้ถึง 4 รอบเลยทีเดียว

น้ำในร่างกาย

ร่างกายของเรามีสถานะใดตามหลักวิทยาศาสตร์ หลายคนอาจจะคิดว่า มีสถานะเป็นของแข็งแต่น้อง ๆ รู้หรือไม่ว่าร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำถึง 2 ใน 3 ด้วยเหตุนี้ตลอดชีวิตของคน 1 คนจึงต้องดื่มน้ำเป็นจำนวนมากถึง 70,000 ลิตร

ความสำคัญของเกลือแร่

เกลือแร่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะช่วยทำ ให้กระดูกแข็งแรง หากนำเกลือแร่ออกจากกระดูกโดยนำกระดูกไปแช่ในน้ำกรดเ กลือแร่จะละลายออกมาจนสามารถนำกระดูกนั้นมาผูกให้เป็ นปมได้

หนาวสั่น

อาการหนาวสั่นเป็นอาการที่ร่างกายแสดงออกมาเพื่อรักษ าอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมหลังจาก ที่ได้รับความเย็นมากเกินไปเพราะความเย็นจะทำให้กระบ วนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานช้าลงและเป็นอันตรายได้หากอุณหภูมิลดต ่ำลงมาก ๆ ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงผลิตความร้อนด้วยการทำให้กล้ามเ นื้อหดตัวไปมาอย่างรวดเร็ว

สูงและต่ำ

ตอนกลางวันอุณหภูมิในร่างกายของเราอาจสูงขึ้นได้มาก ๆ หากเรารับประทานอาหารมื้อใหญ่อยู่ในที่อากาศร้อน หรือออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ตอนกลางคืนอุณหภูมิในร่างกายของเราจะค่อย ๆลดลงจนต่ำที่สุดเมื่อเรานอนหลับเพื่อเป็นการรักษาสม ดุล

ลูกผู้ชาย

การที่ผู้ชายเชื่อว่าลูกผู้ชายต้องไม่หลั่งน้ำตานั้น ส่งผลกระทบให้ผู้ชายเป็นโรคเครียดได้ง่ายกว่าผู้หญิง เพราะมีโอกาสปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกกดดันได้น้อยรู้อย่ างนี้แล้วใครที่กำลังเครียดก็ลองหาโอกาสปลดปล่อยอารม ณ์บ้างก็ดีนะคะแต่ไม่ใช่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ล่ะการ ออกกำลังกายก็สามารถช่วยคลายเครียดได้เช่นกัน

ตัวยารักษาโรค

การฉีดยาเป็นวิธีการรักษาโรคอีกวิธีหนึ่งที่แพร่หลาย ทราบหรือไม่ว่าแพทย์ได้ตัวยามาจากไหนในยาฉีดนั้นมีส่ วนประกอบของแบคทีเรียที่ทำให้มีฤทธิ์อ่อนลงซึ่งได้มา จากเชื้อโรคของผู้ป่วยรายอื่นที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับ เรานอกจากนำไปทำเป็นยาฉีดแล้วเชื้อโรคเหล่านั้นยังสา มารถนำไปทำเป็นวัคซีนป้องกันโรคได้อีกด้วยโดยวัคซีนจ ะเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันโรคชนิดนั้น ๆในร่างกาย

หาวนอน

อาการง่วงเหงาหาวนอนเกิดจากการที่เรารู้สึกเหนื่อยหร ืออ่อนเพลียระบบทางเดินหายใจของเราจึงทำงานช้าลงเป็น ผลให้กล้ามเนื้อคอหอยปิดโดยอัตโนมัติทำให้ร่างกายต้อ งการอากาศเพิ่มขึ้นเราจึงต้องหาวเพื่อเอาอากาศเข้าไป ใช้ในกระบวนการหายใจ

ใบหน้า

วันหนึ่ง ๆเราอาจมีอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นถูกถ่ายทอดออก มาบ่อยครั้งทางใบหน้าเชื่อหรือไม่ว่ากล้ามเนื้อทั้งท ี่เป็นวงกลมและเป็นเส้นบนใบหน้าสามารถแสดงอารมณ์ที่ห ลากหลายได้มากกว่า 1,000 รูปแบบ

นอนหลับ

ขณะนอนหลับเราสามารถเรียนรู้ได้หรือไม่ในสมัยก่อนนัก วิทยาศาสตร์เชื่อว่ามนุษย์ไม่สามารถเรียนรู้ในขณะนอน หลับได้แต่จากการทดลองอย่างละเอียดของนักวิทยาศาสตร์ รุ่นหลังพบว่ามนุษย์จะไม่สามารถเรียนรู้ได้ในขณะที่น อนหลับสนิทแต่จะสามารถเรียนรู้ได้ในขณะที่อยู่ในช่วง สะลึมสะลือ

ล้มตัวลงนอน

เชื่อหรือไม่ว่าในบรรดาสิ่งมีชีวิต มีสัตว์เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น ที่นอนหลับโดยเอนหลังแนบกับพื้นและสัตว์ชนิดหนึ่งที่ สามารถทำเช่นนี้ได้ก็คือมนุษย์

น้ำหนักลด

ไม่ว่าเราจะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใดก็ตาม น้ำหนักของเราจะสามารถลดลงได้ 300 กรัมทุกวันในขณะที่เรานอนหลับแต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะทันทีที่ตื่นขึ้นมาน้ำหนักของเราก็จะเท่าเดิม

อาณาจักรแห่งความฝัน

นักวิทยาศาสตร์พบว่าถ้าวันหนึ่ง ๆ เรานอนหลับประมาณ 8 ชั่วโมง เราจะฝัน 3-5 ครั้งต่อคืนโดยช่วงความฝันแต่ละครั้งใช้เวลานานประมา ณ 10-30 นาทีและถ้าเราถูกปลุกขึ้นมาในระหว่างที่กำลังฝันอยู่ เราอาจจะจำความฝันนั้นได้หรือไม่ได้ก็ได้

ความฝัน

เชื่อหรือไม่ว่าความฝันช่วยทำให้จิตใจของเราสดชื่นเบ ิกบานได้ไม่ว่าเราจะจำความฝันนั้นได้หรือไม่ก็ตามเพร าะความฝันจะแสดงถึงสิ่งที่เราอยากทำเมื่อตื่นแต่เราไ ม่สามารถทำได้ด้วยเหตุผลนานาประการ

เวลาของความฝัน

ผู้เชี่ยวชาญแสดงทัศนะเกี่ยวกับเวลาในช่วงของความฝัน ไว้ว่าเวลาที่เราตื่นอยู่ประสาทความรู้สึกเกี่ยวกับเ วลาของเราจะเป็นแนวตั้ง ดังนั้นเราจึงรับรู้แต่ขณะปัจจุบันเท่านั้น แต่เมื่อเราหลับมันจะกลายเป็นเส้นแนวนอนทำให้เราสามา รถเดินทางไปในอดีตและอนาคตได้

สร้างความฝัน

ถ้าอยากให้ความฝันสวยงามลองงดดื่มเครื่องดื่มทุกชนิด ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนเข้านอนสิครับ เพราะผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจะทำให้ความฝันยิ่งใหญ่และ ถ้าใครเห็นความฝันของตนเองเป็นสีต่าง ๆ ละก็แสดงว่าเป็นคนที่ไวต่อการกระตุ้นต่างๆ รอบตัวมากทีเดียว

จมูกของมด

ใครรู้บ้างว่ามดใช้อะไรในการดมกลิ่นคำตอบก็คือใช้เท้ านั่นเองการใช้เท้าดมกลิ่นช่วยให้มันสามารถตามกลิ่นท ี่เพื่อนของมันทิ้งไว้ตามทางได้นอกจากนี้มันยังสามาร ถใช้ข้อต่อที่หนวดรับกลิ่นได้อีกด้วย

นายช่างใหญ่

บีเวอร์เป็นสัตว์ที่ชอบสร้างเขื่อนและบ้านของมันมากม ันจะคาบกิ่งไม้และกินไม้เป็นอาหาร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะถ้าไม่ได้กัดไม้ทุกวันฟันของมั นก็จะงอกและยาวขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มันกินอาหารไม่ไ ด้และอดตายในที่สุด

อูฐลื่น

อูฐเป็นสัตว์ที่ขาแต่ละข้างประกอบด้วยนิ้วขนาดใหญ่ 2 นิ้วปกคลุมด้วยแผ่นรองเท้าที่หนาและเหนียวทั้งยังมีแ ผ่นหนังบาง ๆเชื่อมนิ้วเท้าให้ติดกัน ทำให้เท้าอูฐแข็งแรงเหมาะสำหรับเดินในทะเลทรายแต่หาก จับอูฐมาอยู่ในโคลนละก็เท้าแบบนี้ก็ไร้ประโยชน์เพราะ จะทำให้อูฐลื่นไถลได้ง่าย

หางเก็บอาหาร

มีสัตว์อยู่หลายชนิดที่มีหางและหางของมันก็ใช้ประโยช น์ได้แตกต่างกันไป อย่างเช่นแกะพันธุ์หนึ่งที่ใช้หางของมันทำหน้าที่เก็ บหญ้าซึ่งเป็นอาหารของมันไว้เมื่อหญ้าขาดแคลนหญ้าที่ ถูกสะสมไว้ที่หางก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันเพื่อให้พลังงา นแก่ร่างกาย

หูหนวกเต้นระบำ

หากใครเคยชมภาพยนตร์อินเดียคงจะเคยเห็นงูที่เต้นระบำ เมื่อได้ยินเสียงปี่ จริง ๆแล้วมันไม่ได้เต้นระบำเพราะเสียงปี่หรอกค่ะงูเป็นสั ตว์ที่หูหนวกจึงไม่ได้ยินเสียงปี่แต่ที่มันเต้นส่ายไ ปส่ายมาก็เพราะจังหวะการเคลื่อนไหวของหมองูต่างหากถ้ าลองใช้ไม้แทนปี่ งูก็ยังคงเต้นระบำได้เหมือนกัน

สุนัขน้ำร้อน

สุนัขเป็นสัตว์ที่คนนิยมเลี้ยงกันโดยทั่วไป เพราะนอกจากจะใช้เฝ้าบ้านแล้วสุนัขยังทำหน้าที่ได้หล ายอย่างนานมาแล้วชาวอินเดียนแอซเทคนำสุนัขพันธุ์เม็ก ซิโกซึ่งตัวเล็กนิดเดียวและมีขนสั้นบางมาใช้แทนกระเป ๋าน้ำร้อนเพื่อสร้างความอบอุ่นแก่เท้าเจ้าของเมื่ออา กาศหนาว

ช้างนักกิน

ช้างแอฟริกามีขนาดใหญ่มากหนักถึง 7 ตัน ที่ตัวใหญ่ขนาดนี้เพราะมันใช้เวลาในการกินประมาณ 18-20 ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน โดยกินพืชผักประมาณวันละ 350 กิโลกรัมและกินน้ำ 90 ลิตร

กินทางตา

โดยปกติสัตว์จะกินอาหารทางปาก แต่สำหรับคางคกและกบแล้วพวกมันจะกินอาหารทางตา เมื่อกินอาหารมันจะปิดตาแน่นดันลูกตาที่แข็งให้ชนเพด านปากทำให้เพดานปากถูกกดลงมาแนบกับลิ้นแล้วดันอาหารล งสู่กระเพาะอาหารนอกจากนี้มันยังดื่มน้ำโดยการดูดซึม น้ำผ่านทางผิวหนังด้วย

ปลิงป้องกันตัว

ปลิงทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกมีวิธีป้องกันตัวเองที่แปล กคือเมื่อถูกทำร้ายมันจะหดตัวทันทีและจะดันอวัยวะภาย ในของมันออกมา แต่มันก็ยังไม่ตายอวัยวะเหล่านั้นจะเป็นอาหารของผู้ท ี่ทำร้ายมัน แล้วมันจะค่อย ๆ หลบหนีไป จากนั้น 2 3 สัปดาห์อวัยวะภายในของมันก็จะงอกใหม่

ตาเคลื่อนที่

ปลาลิ้นหมาไม่ได้มีตาเดียวอย่างที่พวกเราเห็นกัน ตอนแรกที่มันเกิดมามันจะมี 2 ตาแต่เมื่ออายุมากขึ้น ตาของมันจะย้ายตำแหน่งมารวมกันโดยเคลื่อนที่ไปรวมกับ ตาอีกข้างหนึ่งซึ่งอยู่บนหัว

ระเบิดควัน

ปลาหมึกยักษ์มีวิธีการป้องกันตัวคล้ายการสร้างระเบิด ควันของทหารเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู มันจะพ่นหมึกดำในถุงด้านหลังลำตัวออกมาทำให้น้ำบริเว ณรอบ ๆขุ่นดำ แล้วมันจะรีบหนีไปนักวิทยาศาสตร์พบว่ามันสามารถเปลี่ ยนสีหมึกของมันให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ด้วย เช่นสีแดง สีเหลือง สีเทา เป็นต้น

กบหดตัว

กบพาราดอกซิคัล (Paradoxical) ในอเมริกาใต้มีความพิเศษคือยิ่งมันเจริญเติบโตขึ้นตั วก็ยิ่งเล็กลงเมื่อเป็นลูกอ๊อดมันมีลำตัวยาวถึง 10 นิ้วแต่เมื่อโตเป็นกบลำตัวจะหดลงจนเหลือขนาดไม่เกิน 3 นิ้วเท่านั้น

หนอนกระสือ

หนอนกระสือตัวเมียจะมีอวัยวะที่เรืองแสงอยู่บริเวณใต ้ท้องซึ่งใช้ส่งสัญญาณไปยังปีกของตัวผู้ที่บินอยู่ด้ านบนหนอนกระสือตัวเมียสามารถควบคุมการเปล่งแสงได้โดย จะใช้แสงต่อเมื่อต้องการดึงดูดตัวผู้เท่านั้น

แสงนำทาง

รู้ไหมทำไมผีเสื้อกลางคืนจึงชอบบินเข้าหาแสงไฟในตอนก ลางคืนเพราะปกติผีเสื้อกลางคืนจะใช้แสงจันทร์นำทางแต ่แสงอื่นทำให้มันสับสนและประสาททางด้านทิศทางเสียไป ดังนั้นมันจึงพยายามปรับแสงจันทร์ปลอมให้ทำมุมเดียวก ันกับแสงจันทร์จริง ๆโดยการบินเป็นวงกลมเข้ามาใกล้แสงนั้นมากขึ้น

เครื่องขยายเสียง

จิ้งหรีดตัวผู้จะใช้เสียงเพลงซึ่งเกิดจากขาหน้าเสียด สีกันการดึงดูดตัวเมียแต่จะไม่ดังนัก มันจึงสร้างเครื่องขยายเสียงชนิดพิเศษโดยการขุดรังใต ้ดินให้มีอุโมงค์ทางเข้าสองทางแล้วก็ยืนส่งเสียงไพเร าะอยู่ทางอุโมงค์ด้านหนึ่ง แต่ที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือหูที่ไวต่อเสียงของมันไ ม่ได้อยู่ที่หัวแต่ที่อยู่ที่ขา

สัตว์มีเหงื่อหรือไม่

สุนัขก็มีเหงื่อครับแต่เหงื่อของมันจะออกบริเวณฝ่าเท ้า นอกจากนี้สัตว์อื่น ๆ เช่น วัวจะมีเหงื่อออกทางจมูกส่วนเหงื่อของฮิปโปโปเตมัสจะ ออกมาจากทุกส่วนของร่างกายและจะเป็นเหงื่อสีแดงลองสั งเกตนะคะว่าสัตว์อื่น ๆมีเหงื่อออกที่ส่วนใดของร่างกาย

เครดิต http://www.thaigaming.com/forward-mail/78681.htm#post963437

มีนา รุ่งอุทัย
Jr. Member
**
กระทู้: 164

S*ry, i won't die of deception...


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #1 เมื่อ: 17-01-2010, 21:42:34 »

 Smiley Smileyข้อมูลยาวมากๆค่ะ เเต่น่าสนใจทั้งนั้นเลย ขอบคุณน๊า...
!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #2 เมื่อ: 17-01-2010, 21:56:51 »

สุนัขก็มีเหงื่อครับแต่เหงื่อของมันจะออกบริเวณฝ่าเท ้า นอกจากนี้สัตว์อื่น ๆ เช่น วัวจะมีเหงื่อออกทางจมูกส่วนเหงื่อของฮิปโปโปเตมัสจะ ออกมาจากทุกส่วนของร่างกายและจะเป็นเหงื่อสีแดงลองสั งเกตนะคะว่าสัตว์อื่น ๆมีเหงื่อออกที่ส่วนใดของร่างกาย

_____________________________________________________________________________________________________________________________________
ทำไมไม่ลบคำว่า คะ ออกหว่า มันดูคล้ายๆ....
//me เจอพี่ยารุตะกระโดดถีบออกไปอย่าวรวดเร็ว

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
-─═┳ҳ̸Ҳ̸ҳยารุตะ_FFIҳ̸Ҳ̸ҳ ╬══→
Hero Member
*****
กระทู้: 6,741

ยารุตะคุง


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #3 เมื่อ: 17-01-2010, 22:00:59 »

อ้างจาก: !=ตัวป่วนบอร์ด=! ที่ 17-01-2010, 21:56:51
สุนัขก็มีเหงื่อครับแต่เหงื่อของมันจะออกบริเวณฝ่าเท ้า นอกจากนี้สัตว์อื่น ๆ เช่น วัวจะมีเหงื่อออกทางจมูกส่วนเหงื่อของฮิปโปโปเตมัสจะ ออกมาจากทุกส่วนของร่างกายและจะเป็นเหงื่อสีแดงลองสั งเกตนะคะว่าสัตว์อื่น ๆมีเหงื่อออกที่ส่วนใดของร่างกาย

_____________________________________________________________________________________________________________________________________
ทำไมไม่ลบคำว่า คะ ออกหว่า มันดูคล้ายๆ....
//me เจอพี่ยารุตะกระโดดถีบออกไปอย่าวรวดเร็ว


ผมไม่ว่างขนาดนั้นเลยเขียนตัวสีเเดงว่าก็อปเค้ามาไงครับ = =*

What Time is it....
Hero Member
*****
กระทู้: 5,137


นามเดิม SLEEP...zzzZZZ


เว็บไซต์
Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #4 เมื่อ: 17-01-2010, 22:18:54 »

ทนอ่านจนจบ  laugh
สงสัยเราต้องนอนเยอะๆซะแล้ว (หลับไม่ตื่น)
จะได้สูงกับเค้าซักที ตอนนี้ยังสูงไม่ถึง 170 เลย  Cry

Who am I...?
นามใน Asura - คิล(คิว)
นามบุพการีตั้งให้ - ป๊อป
แล้วแต่จะเรียก ตามสะดวกครับ ^^

Status:ออนได้แต่บอร์ด

พวกคุณบางคนบอกว่าเกลียดการล่าแม่มด
นั่นเป็นเพราะว่าคุณเป็นคนถูกล่ามาตลอด
แต่พอคุณได้เป็นผู้ล่าบ้าง
ก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับคนที่คุณเกลียดเลย



matic
xล่:อ่ou -Pv- -NDR- เชียงไหม่
Full Member
***
กระทู้: 951

ดีที่เป็นคน


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #5 เมื่อ: 18-01-2010, 11:54:10 »

ยาวไปไหมครับท่าน

ประธานสมาพันธ์เลสเบี้ยนนานาชาติ
Hero Member
*****
กระทู้: 5,802

ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #6 เมื่อ: 18-01-2010, 14:27:42 »

อ้างจาก: ยารุตะ คุง  HaxthegosMan ที่ 17-01-2010, 21:40:17

ไม่มีน้ำตา

รู้หรือปล่าวว่าตอนที่เราอายุ 4-5 เดือน เราร้องไห้ไม่มีน้ำตากันหรอกค่ะแม้จะร้องเสียงดังแค่ ไหนก็ตามที่เป็นเช่นนี้เพราะต่อมน้ำตาของคนเราจะพัฒน าขึ้นหลังจากเกิดมาแล้ว 4 -5 เดือนตอนนี้พวกเราคงจะร้องไห้มีน้ำตากันทุกคนแล้วนะค ่ะ


อันนี้สังเกตจากน้องจากหลาน ที่เป็นทารกอ่อนๆ

ไม่มีน้ำตาจิงด้วย

แหกปากซะดังลั่น

จงภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคน
I ♥ THAILAND

มีนา รุ่งอุทัย
Jr. Member
**
กระทู้: 302

Rebron 277/277 รอตอนไหม่ ^^


เว็บไซต์
Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #7 เมื่อ: 18-01-2010, 14:45:18 »

 Evil

-_PrInCe of *~•.The EmpeROR$.•~* นักถูกฆ่าเเห่ง *~•.The EmpeROR$.•~* .
เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #8 เมื่อ: 18-01-2010, 14:51:25 »

ยาวแบบนี้ ท่านยารุอ่านเองจบหรือป่าวเหอะ=O=
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-01-2010, 18:08:36 »

นอนแล้วสูง

การนอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลก กดลงการนอนช่วยให้แรงกดนี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้ อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม


หุหุ ไปนอนดีกว่า จะได้สูงขึ้น (ป.6 สูง 135 ซม. หนัก 28 - -.)



7็—•Rease•—7็ & ~•
Jr. Member
**
กระทู้: 248


~Hey เธอ~ @_@~ -/\-


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #10 เมื่อ: 18-01-2010, 22:33:12 »

 laugh laugh อ่านสนุกดี

7็—•D3STROY3[R]•—7็ & ~•
                                    ไปตๅeซะ
                                        -/\-
~THE GIG~
Jr. Member
**
กระทู้: 159

=w=


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #11 เมื่อ: 18-01-2010, 22:58:01 »

กลัว ๆ ๆ ๆ ๆ

T T

นู๋ นอน คนเดียวววว- -" Cry   
Hayato_14
Jr. Member
**
กระทู้: 201

go .... yourself,,!!


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #12 เมื่อ: 19-01-2010, 00:21:39 »

นอนแล้วสูง

การนอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลก กดลงการนอนช่วยให้แรงกดนี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้ อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม



อยากสูงอีก8 มิล เราต้องนอน ลัลลา(หลังยาว)55+
 laugh laugh

ไม่ใช่พ่อ อย่ามาสั่ง อย่ามาแส่ จะทำอะไร ก้อเรื่องของ_ เอาเวลาไปยุ่งเรื่องของตัวเองเหอะ อย่าคิดว่า ตัวเองใหญ่โตนัก ก้อแค่...ละวะ
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #13 เมื่อ: 20-01-2010, 23:52:29 »

อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 18-01-2010, 18:08:36
นอนแล้วสูง

การนอนช่วยให้เราสูงขึ้นได้เพราะเมื่อเรายืนหรือนั่ง แผ่นกระดูกอ่อนที่กระดูกสันหลังจะถูกแรงดึงดูดของโลก กดลงการนอนช่วยให้แรงกดนี้หายไป แผ่นกระดูกอ่อนที่ถูกกดก็จะพองตัวทำให้เราสูงขึ้นได้ อีก 8 มิลลิเมตรแต่เมื่อตื่นมาเราก็จะสูงเท่าเดิม


หุหุ ไปนอนดีกว่า จะได้สูงขึ้น (ป.6 สูง 135 ซม. หนัก 28 - -.)
28ตันเหรอทั่น Evil



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
~:•悪魔猫。<แมวปีศาจ>•:~
Asura Tester
Hero Member
*
กระทู้: 16,568


ทำไมพักนี้ดราม่าเยอะจังฟะ - -*


Re: มาดูสิ่งที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน?
« ตอบ #14 เมื่อ: 21-01-2010, 00:46:12 »

สุดยอดเลยต้อม  Shocked
ได้กลิ่นแล้วหิวเนี่ย  ของจริง ชัวร์ป้าด  ฟันเฟิร์ม (ฟันธง+คอนเฟิร์ม) Evil

ว่าแต่  มีใครได้กลิ่นหมูผัดกระเทียมกรอบที่ชั้นกินอยู่นี่บ้างรึป่าวเนี่ย ?  Evil


ป้าย:
หน้า: [1] 2