บทที่1 ความบังเอิญ
ณ เดดวัลเล่ย์แถวหุบเขามังกรใน50ปีข้างหน้า
"แว๊กกกกกกกกก" เสียงตะโกนดังยาวไกลมาจากกลางหุบเขา
ในที่นี่มีเด็กหนุ่มที่แทบไม่มีความสามราถในการต่อสู้เลยเขาชื่อ
Rexxarหนีเดรกที่ไล่ฆ่าอยู่
เรกซ่า-ไหงพวกเดรกมันโหดจังฟระ ตามไม่หยุดเลย แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เดรก-แกว๊กๆๆๆ(ตามมันไปและเจี๋ยนมัน)
เหตุผลที่เรกซ่าโดนเดรกไล่งับอยู่นั้นเพราะเนื่องจากดันไปขุดฟอสซิลแถวเขตมังกรลึกเกินไป
เรกซ่าวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายจนรอดมาได้ เขาจึงมาแวะพักที่ป้อมเดดวอลเล่ย์ก่อนที่จะเดินทางไปเรดคลิฟ
ผู้พันลาวา(ผู้พันคาร์เตอร์ตายแล้ว)-อ้าวว่าไงเจ้าเรกซ่า!!!ไม่เห็นตั้งนานหายไปไหนเนี่ย
เรกซ่า-โถ่ผู้พัน ถ้าเดรกมันไม่วิ่งไล่กวดผมกว่าจะมาที่ป้อมนี่คงอีกนานแน่
ผู้พันลาวา-แหม เลือดร้อนจังนะสำหรับ
อาชีพนักขุดฟอสซิลอย่างเจ้า สกิลโจมตีจู่โจม หรือต่อสู้ไม่มีสักอย่างยังจะกล้าไปในที่แบบนั้น
เรกซ่า-แหมท่านผู้พันนี่ของฝาก
ว่าแล้วเรกซ่าก็หยิบฟอสซิลส่วนขาของเดรกรุ่นบรรพบุรุษมาให้
ผู้พันลาวา-แหมขอบใจมากแค่นี่ก็ครบชุดแล้ว นี่!!ค่าตอบแทน 20000บิลล่าหวังว่าไม่น้อยไปนะ
เรกซ่า-ขอบคุณมากครับ
บรรยากาศภายในป้อมเดดวัลเล่ย์สมัยนี้มีปืนใหญ่ตั้งอยู่ในป้อมเป็น10กระบอก ส่วนภายในมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากมีการขุดพื้นที่ใหม่และรื้อกรงขังเขี้ยวทมินออกไป
ส่วนเขี้ยวทมินก็โดนจับไปเป็นเป้าซ้อมยิงให้พวกทหารในลานคอนกรีตที่สร้างใหม่ เป็นการทดสอบความแม่นยำของทหารต่างๆโดยมีข้อกำหนดคือ
ห้ามยิงโดนเขี้ยวทมิน ในตอนนี้เขี้ยวทมินได้ตายนับร้อยแล้วเนื่องจากทหารแม่นไม่พอ
ส่วนทางพ่อควรรุ๊ชชี่(ลูกปุ๊ชชี่) กับ ผู้กอง ไมโน่(ลูกผู้กองโอโม่) ก็ถึงกับเปิดร้านใหญ่โตพ่อครัวรุ๊ชชี่เปิดเป็นโรงอาหารและมีคนมาช่วยเพิ่มคือ
ทอเนียร์พนักงานสาวสวย สวนผู้กองไมโน่ ก็เปิดเป็นร้านขายอาวุธแทนในที่เดิม
ป้อมเดดวอลเล่ย์ในเวลานี้ได้ขยายพื้นที่ออกไปมากในเขตมอนเตอร์เพื่อความกว้างขวาง และทำให้มีที่เก็บอาวุธและเสบียงเพิ่มมากขึ้น
หลังจากนั้นเรกซ่าจึงเดินทางไปที่หมู่บ้านวิดเดิ้ลวู้ดเพื่อเยี่ยม อาคาเดมี เอออต้าที่ประจำอยู่ที่นั้น
เรกซ่า-เอออต้าจ๋า ผมมาเยี่ยมแล้ว(เรกซ่าพูดซะดังลั่นหมู่บ้าน)
เอออต้า-แหมเบาๆหน่อยสิตะโกนซะดังลั่นฉันอายนะ(ขณะนี้เอออต้าหน้าแดงแล้ว)
เรกซ่า-ก็แฟนกันจะอายทำไมละ
เอออต้า-ตาบ้า(เอออต้าหน้าแดงมากขึ้นกว่าเดิมอีก)
เคง วิล ริน(ลูกเคงจางริน)-แหมสวีตกันเชียวนะพี่ๆ
เรกซ่า-เอาหน่าก็แฟนกันนี่
แต่เอออต้าเผ่นแน่บไปแล้วเรียบร้อยเพราะความอาย
เคง ซูล ซาน-โวยวายกันจริงดังหนวกหูข้าไปหมด
เรกซ่า-สวัสดีครับท่าน เคง ซูล ซาน นี่ของฝากครับ
ว่าแล้วเรกซ่าก็ยื่นกระดูกฟอสซิลของบลาววูฟให้
เคง ซูล ซาน-แหมถูกใจข้าจริง ข้าไม่มีเงินตอบแทนหรอกนะแต่มีสิ่งหนึ่งจะให้
ว่าแล้วเคง ซูล ซาน ก็หยิบแหวนหมั้นที่สลักชื่อเรกซ่ากับเอออต้าไว้แล้วยื่นให้เรกซ่า
เรกซ่า-ขอบคุณท่านมาก(เรกซ่าพูดไปหน้าแดงไป)
วิดเดิ้ลวู้ดในสมัยนี้บ้านไม่ใช่กระโจมแล้วเป็นบ้านไม้ที่แข็งแรงแม้สิ่งก่อสร้างจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายแต่ก็มีเทคโนโลยีบางชนิดเข้ามาใช้เช่นโทรศัพท์
จำนวนประชากรชาวสมิงก็เพิ่มขึ้นมีชาวสมิงที่ยังเด็กอยู่มาวิ่งเล่นกันอยู่ตามทางขณะนี้หัวหน้าหมู่บ้านก็ยังเป็น เคง ซูล ซานเหมือนเดิม
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเรกซ่าก็ดังขึ้นอย่างกระทันหัน
เรกซ่ารีบรับโทรศัพท์แล้วพูดอยู่2-3นาที
เรกซ่า-ผมขอตัวนะท่าน เคง ซูล ซาน ทางป้อมปราการเรียกผมอย่างโดยด่วนหนะครับ
เคง ซุล ซาน-งั้นดูแลตัวเองดีๆด้วยละอย่ารีบไปตายซะที่ไหนล่ะ (ว่าแล้วเคง ซูล ซาน ก็หัวเราะอย่างดัง)
เรกซ่า-เอ่อ งั้นผมไปก่อนนะ
ระหว่างที่เดินทางไปได้กลางทางรถไฟดันรางหักทำให้ไปถึงแค่เนินเขาเซาเทิร์นฟอทเขตวุ้นเมเปิ้ล
เรกซ่า-รถไฟดันรางหักซวยจริง
ระหว่างที่เรกซ่ากำลังเดินเท้าไปป้อมปราการอยู่นั้น เรกซ่าก็เดินไปเข้าอีกมิติหนึ่ง ที่ไม่เหมือนเนินเขาเซาเทิร์นฟอร์ท แต่เหมือนป้อมที่ใช้ในการสู้รบมากกว่า
ทำให้เรกซ่ายืนงงไปซักพักก่อนจะเดินเข้าไปในป้อมแห่งนั้นอย่างช้า
ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่มจะเกิดอะไรขึ้นตามมาไม่มีใครรู้.....