GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1] 2 3
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><  (อ่าน 1256 ครั้ง)
Sweet_berry จ๊ะจ๋าเจ้าขา
Hero Member
*****
กระทู้: 3,298

จ๊ะจ๋าเจ้าขา


เว็บไซต์
เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« เมื่อ: 30-10-2009, 16:44:46 »

ลิฟท์แดง ม. ธรรมศาสตร์
เรื่อง ลิฟท์แดงของธรรมศาสตร์นี้มีเรื่องเล่าว่าเมื่อตอนเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ พวกทหารได้บุกเข้ามาในมหาวิทยาลัย พวกนักศึกษาต่างหลบหนีเข้ามาในลิฟท์ตัวหนึ่ง พอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกทหารก็กระหน่ำยิงทุกคนเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้บูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทำความสะอาดยังไงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง   มีเรื่องเล่าตามมาว่าหลังจากที่ลิฟท์ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งมาขึ้นลิฟท์ตามลำพัง แต่เมื่อมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง หากแต่มีผู้โดยสารอยู่ด้วยมากมาย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายครั้งหลายหนที่เหล่านักศึกษา อาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ลิฟท์แดงตัวนี้เข้า ทำให้ทางมหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่ แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้นี้ยังตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ตึกคณะศิลปศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้
 
ศาลในห้องน้ำหญิง ม. เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง
เรื่อง เล่าเกี่ยวกับศาลเจ้าที่ติดอยู่บนผนังห้องน้ำหญิงตึกวิศวะฯ จะมีดอกไม้ธูปเทียนและน้ำแดงอยู่ด้วยเสมอ คนเก่าๆ จะรู้เรื่องราวเป็นอย่างดี เป็นเรื่องของนักศึกษาสาว         สถาปัตยฯ  อกหักจากหนุ่มวิศวะฯ จึงไปผูกคอตายที่ห้องน้ำดังกล่าว ปัจจุบันเป็นแหล่งลองของชั้นดีของผู้ที่ต้องการลองของ เพราะมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ใครอยู่รุ่นแรกก็จะได้เห็นรูปของเธอผู้นี้ในศาลด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่ศาลยังคงมีอยู่ ที่สำคัญห้องน้ำตรงนั้นยังเปิดใช้อยู่...
 
 พยาบาลชุดแดง ม. เชียงใหม่
เรื่อง พยาบาลในชุดแดงของคณะแพทย์ฯ ม. เชียงใหม่ เล่ากันว่าเคยมีนักศึกษาชายคนหนึ่งของคณะแพทย์ฯ ทำงานในตึกของฝั่งสวนดอกจนดึก เมื่อเสร็จจากงานจึงลงลิฟต์มา ระหว่างที่รอเขาก็ได้ยินเสียงเดินมาข้างๆ หันไปมองเห็นก็พยาบาลคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะพยาบาลกับแพทย์ต้องเจอกันบ่อยอยู่แล้ว ระหว่างรอลิฟต์นักศึกษาคนนี้ก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ เลยหันไปมองพยาบาลคนนี้ก็ไม่เห็นมีอะไร ซ้ำพยาบาลคนนี้ยังยิ้มให้ด้วย สักพักต่อมาเมื่อเข้าไปในลิฟต์แ พยาบาลคนนี้ก็ถามว่ามาทำอะไรดึกๆ เขาเลยตอบว่ามาศึกษาเรื่องการผ่าตัดภายใน เพราะว่าจะสอบ พยาบาลคนนั้นเลยบอกว่า “ ให้ฉันช่วยนะ ” นักศึกษาคนนี้ก็เลยงงและเริ่มสังเกตว่าที่คอของพยาบาลสาวเริ่มมีเลือดไหลออก มาจากคอเรื่อยๆ เขาตกใจมากและพยายามที่จะหนีออกมาจากลิฟต์ แต่ลิฟต์เหมือนค้าง หรืออะไรไม่ทราบได้ เลือดยังไหลนองไปทั่วชุดของนางพยาบาลคนนี้ แล้วเธอก็เริ่มสอนนักศึกษาแพทย์คนนี้ตั้งแต่ลำไส้ ปอด สมอง หัวใจ พร้อมทั้งควักส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ออกมา รุ่งขึ้นมีคนพบนักศึกษาชายคนนี้นอนอยู่ที่ประตูลิฟต์ซึ่งเปิดคาอยู่ เอาแต่พร่ำเพ้ออย่างกับคนบ้าว่า “ พยาบาลชุดแดง พยาบาลชุดแดง ”
 
ป๊อก...ป๊อก...ครืด   ม. เชียงใหม่
เรื่อง ผีอันดับหนึ่งของ มหาลัยเชียงใหม่ ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไม่ทราบแน่ชัด แต่สถานที่เกิดคือ หอหญิง ในสมัยที่ยังเป็นที่รกร้างอยู่มาก ถนนยังเป็นลูกรัง เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ของหอหญิงเจ็ด ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกัน มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำ รูมเมทชวนไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่ จึงไปไม่ไหว พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองแล้วจะห่อมาฝาก เพื่อนคนที่ไม่สบายก็ฝากซื้อราดหน้า(หรืออะไรซักอย่าง) หลังจากที่เพื่อนออกไป เมทคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้นจึงนอน ตอนนอนอยู่นั้นสลึมสลือ แต่มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว ทำไมเพื่อนยังไม่กลับมาซะที ซักพักได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่างจากทางบันได ป๊อก … ป๊อก … ป๊อก … เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนเป็น ครืด …. ครืด … เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง นักศึกษาหญิงเริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบ อึดใจนึงก็มีเสียงเคาะห้อง “ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ” แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่ พอเห็นห่อลาดหน้า ก็งง ว่าเพื่อนอยู่ไหน ทำไมต้องเอามาแขวน ทำไมมีแต่รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได รุ่งเช้ามีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว นักศึกษาหญิงคนนั้นถูกฆ่าข่มขืน ตรงพงหญ้าข้างทาง คาดว่าเหตุเกิดประมาณหัวค่ำ ลักษณะศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี นักศึกษาหญิงที่ตายกำลังเดินทางกลับจากตลาดหลังจากทานข้าวเสร็จ ลักษณะเสียงที่ได้ยิน สันนิษฐานได้ว่าเพื่อนคนนั้นใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันได ลากตัวเองขึ้นมาเป็นเสียง   ป๊อก ป๊อก เสียง ครืด คือเสียงลากตัวเองจากบันไดมาจนถึงหน้าห้องปรากฎเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกัน หลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง … ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่า แต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นก็ได้ยินเสียงดังกล่าวเช่นกัน
 
 
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สถานที่เกิดเหตุ : ทางเดินระหว่างตึกของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ทาง เดินที่ว่านี้มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีคู่สามีภรรยานักการฯ ของคณะสถาปัตย์ ทะเลาะกัน ฝ่ายภรรยาควักปืนยิงสามีจนเสียชีวิต และมีเลือดสาดไปทั่วทั้งทางเดิน ต่อมาทางคณะมีการปรับปรุงพื้นบริเวณนี้ แต่แปลกที่เฉพาะทางเดินนี้เท่านั้นที่ปูนไม่ยอมแห้งส ักที ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้ หรือที่ห้องซ้อมดนตรีไทย คณะครุศาสตร์ เวลาที่มีคนแอบเข้าไปนอนหลับในห้องซ้อมดนตรีไทย จะรู้สึกเหมือนมีใครมาดึงขา ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินไปเดินมา และได้กลิ่นธูป เมื่อถามรุ่นพี่ๆ ว่าเป็นอะไร คำตอบคือ เป็นฝีมือของเจ้าที่ที่ไม่ชอบให้ใครเข้ามานอนในห้องที่ใช้ซ้อมดนตรี ซึ่งเหตุการณ์นี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ กับนักศึกษาปี 1

มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ . นครปฐม
สถานที่เกิดเหตุ : หอเพชรรัตน์
หอ เก่าแก่ในมหาวิทยาลัย ที่เล่าขานกันมาว่าครั้งหนึ่งมีนักศึกษานอนอยู่ในห้องพักคนเดียวได้ยินเสียง คนเดินมาช้าๆ จนเสียงนั้นเดินเข้ามาใกล้ๆ ห้องพัก นักศึกษาคนนั้นจึงมองลอดช่องตาข่ายมุ้งลวดออกไปดู ปรากฏว่าเห็นคนนุ่งโจงกระเบนสีแดงลากโซ่ตรวนเดินผ่านไป

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
สถานที่เกิดเหตุ : ชั้น 15 ตึกคณะนิเทศศาสตร์
เมื่อ 10 กว่าปีก่อนมีนักศึกษาหญิงถูกข่มขืนและถูกฆ่าตายที่ชั ้น 15 ตึกคณะนิเทศศาสตร์ ทำให้ปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้าขึ้นไปชั้นนั้นคนเดียวในช่วงเย็น เพราะวันดีคืนดีอาจได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ หรือบางครั้งเข้าห้องน้ำแล้วมองออกไปที่กระจกก็จะเห็นผู้หญิงผมยาวยืนก้ม หน้าอยู่ แต่พอเปิดประตูออกไปก็ไม่พบใคร

มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สถานที่เกิดเหตุ : บริเวณป่ารกข้างหอ 9 หลัง
เป็น จุดที่ไม่มีใครผ่าน มีเรื่องเล่าว่า เคยมีผู้หญิงถูกข่มขืนจนตายบริเวณนี้มาก่อน ทำให้บางคืนหากมีใครขับรถผ่านมา จู่ๆ รถก็จะกระตุกแล้วก็หยุดไปเลย เหมือนมีใครดึงรถอยู่ข้างหลัง เมื่อหันไปดูจะเห็นผู้หญิงหน้าขาวๆ ซีดๆ ดึงรถไว้

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
สถานที่เกิดเหตุ : โต๊ะตรงคณะอุตสาหกรรม
ใน บริเวณนั้นมักมีคนได้กลิ่นหอมของดอกไม้โบราณหอมแบบ เย็นๆ นอกจากนั้นยังได้ยินเสียงกระพรวนที่เท้าเด็กดัง   เหมือนเล่นอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ หันไปหันมาจะเจอเด็กผมจุกนั่งอยู่บนต้นไม้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะเขาแค่อยากชวนเล่นด้วย หรือที่ตึกคณะนิเทศศาสตร์ ดึกๆ จะมีคนเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวเดินไปเดินมา อาจเพราะบริเวณนี้ของมหาวิทยาลัยเป็นรั้ววังตั้งแต่ส มัยรัชกาลที่ 5 ครั้งที่ปลูกสร้างเสร็จใหม่ๆ ว่ากันว่าสวยงามราวเมืองสวรรค์ ภายในรอบบริเวณพระราชวังอบอวลไปด้วยหมู่ไม้ดอก ไม้ผล ร่มครึ้ม ทั่วบริเวณ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
สถานที่เกิดเหตุ : หอพักนักศึกษา
มี หอหนึ่งเคยเป็นโรงพยาบาลสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงคนเดินลากโซ่ตรวน และห้องน้ำหญิงรวมบางคืนจะมีเสียงคนอาบน้ำ แต่พอเดินไปดูไม่มีคนเลยสักคน และที่หอใน ชั้น 2 เคยมีนักศึกษาเสียชีวิตเนื่องจากเป็นไข้ทับฤดูตอนปิดซัมเมอร์ พอเปิดเทอมถึงมีคนเพิ่งจะพบศพ แต่หลังจากนั้นก็มีคนเห็นว่านักศึกษาคนนี้ยังมานั่งซักผ้าที่ห้องน้ำหน้า ห้องอยู่เลย
 
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
สถานที่เกิดเหตุ : ลิฟต์ที่อาคาร 9
ใคร ที่ขึ้นลิฟต์นี้ตอนดึกๆ จะมีคนกดเรียกลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบนสุด พอเปิดมาไม่เจอใคร แต่จะรู้สึกเหมือนมีคนเดินเข้ามา ตอนนั้นให้รู้ไว้เลยว่าเป็นคนงานที่ตกลิฟต์ลงมาตาย แต่เค้าจะขอลงด้วย หรือที่วิทยาเขตรังสิต ก็มีตำนานแกรนด์คอนโด เป็นที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องผี ถ้าอยากเจอ กลางคืนให้หาเรื่องอยากกินนั่น นู่น นี่ แล้วเดินลงบันไดดู

มหาวิทยาลัยนเรศวร
สถานที่เกิดเหตุ : คณะวิทยาศาสตร์
คำ บอกเล่าจาก อ . คณะวิทย์ ว่าหลังจากที่มียามถูกแทงตายเพราะทะเลาะกัน ก็มีการจับภาพวิญญาณไว้ได้ในกล้องวงจรปิดของคณะ โดยที่ยามคนนี้ยังแวะไปเยี่ยมเยียนนิสิตบางส่วนที่ชอบอยู่ดึกๆ ในตึกอีกด้วย อีกเรื่องเล่ารุ่นต่อรุ่นว่า ในวันบวงสรวงรับน้องใหม่ในปีหนึ่งมีน้องที่คณะพยาบาล เป็นลมเพราะเห็นกองทัพพระนเรศวรเดินทัพลอยมาจากบนฟ้า

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
สถานที่เกิดเหตุ : ศาลาเขียว
คณะ มนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มีศาลาประจำเอกคือ ศาลาเขียว ศาลานี้มีตำนานเล่าขานถึงที่มาของแผ่นป้ายที่ติดอยู่ ในศาลานั้นว่าทำมาจากต้นตะเคียน วันดีคืนดีจะมีผู้หญิงผมยาวๆ มานั่งอยู่เดียวดายในศาลา

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
สถานที่เกิดเหตุ : ลานจอดรถยนต์เก่า และป่าละเมาะ
ลาน จอดรถยนต์ข้างศูนย์บรรณาสาร ( หอสมุด ) นี้ว่ากันว่าเป็นแดนประหารเก่า และว่ากันมาว่ามีพนักงานรักษาความปลอดภัยกะดึกคนหนึ่งเคยเห็นผีคอขาด เดินลากโซ่เสียงดังเกรียวกราวไปมา และถ้าดึกๆ ใครขับรถผ่านก็จะขนลุกโดยไม่มีสาเหตุ

มหาวิทยาลัยรังสิต
สถานที่เกิดเหตุ : หอชายเก่า
ที่ หอชายเก่าในช่วงที่ใกล้จะสร้างหอเสร็จ มีการติดตั้งลิฟต์ และคืนนั้นมีคนงานกินเหล้ากันตามปกติ จนกระทั่งตี 1 มีคนงานคนหนึ่งตกลงไปที่ชั้นล่างใต้ลิฟต์แล้วปีนขึ้น มาไม่ได้ เพราะความเมา และคนงานคนนั้นก็เลยถูกลิฟต์ทับ ในเวลาต่อมาหลังจากที่หอเปิดได้ไม่นานก็มีนักศึกษาเข้าอยู่เต็ม และหอนี้ไม่เคยปิดเป็นเวลา จึงมีนักศึกษาเข้า - ออกเป็นประจำ จนตี 2 ของคืนหนึ่ง มีนักศึกษากลับมาจากข้างนอกแล้วเดินขึ้นลิฟต์ตามปกติ หลังจากกดชั้นที่พัก ลิฟต์ก็เคลื่อนที่ไปได้สักพักแล้วก็หยุด พร้อมๆ กับไฟดับและมีเสียงร้องดังออกมาข้างนอก จากนั้นลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมฝุ่นตลบ มีเสียงใครคนหนึ่งตะโกนว่าอย่ายืนทับที่ หลังจากนั้นก็มีการทำบุญหอกันมาทุกๆ ปี



Sweet_Berry [เกรียน,เบอร์รี่์ No.1]: ไม่หาเรื่องใคร แต่ไม่ยอมคนที่มาหาเรื่องก่อนค่ะ
พงษ์ศักดิ์ ไชยชนะ
Sr. Member
****
กระทู้: 1,513

รีบอร์น


เว็บไซต์
Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #1 เมื่อ: 30-10-2009, 16:56:30 »

 Sad Sad

-─═┳ҳ̸Ҳ̸ҳยารุตะ_FFIҳ̸Ҳ̸ҳ ╬══→
Hero Member
*****
กระทู้: 6,741

ยารุตะคุง


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #2 เมื่อ: 30-10-2009, 18:38:24 »

ว้าว ไม่เคยรู้มาก่อน เเทมหนังเอามาทำ  Evil

เซงมาก,,
Hero Member
*****
กระทู้: 2,655

เซงมาก >,<


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #3 เมื่อ: 30-10-2009, 18:42:33 »

มันน่ากลัวมาก อ่านได้ 2 เรื่องพอดีกว่า พรุ่งนี้ต่อ วันนี้นอนคนเดี่ยว ไม่


~ ต่อจากนั้นชั้นก้อล้มทั้งยืน ไม่มีเหลือเรี่ยวแรงที่จะเดิน ~
Gintoki!
Hero Member
*****
กระทู้: 2,318


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #4 เมื่อ: 30-10-2009, 19:38:41 »

ฟังข้อเขียนแล้วรู้สึกหลอนกว่าดูหนังอีก-_-'
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #5 เมื่อ: 30-10-2009, 20:04:48 »

ลิฟท์แดง ม. ธรรมศาสตร์
เรื่อง ลิฟท์แดงของธรรมศาสตร์นี้มีเรื่องเล่าว่าเมื่อตอนเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ พวกทหารได้บุกเข้ามาในมหาวิทยาลัย พวกนักศึกษาต่างหลบหนีเข้ามาในลิฟท์ตัวหนึ่ง พอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกทหารก็กระหน่ำยิงทุกคนเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้บูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทำความสะอาดยังไงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง   มีเรื่องเล่าตามมาว่าหลังจากที่ลิฟท์ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งมาขึ้นลิฟท์ตามลำพัง แต่เมื่อมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง หากแต่มีผู้โดยสารอยู่ด้วยมากมาย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายครั้งหลายหนที่เหล่านักศึกษา อาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ลิฟท์แดงตัวนี้เข้า ทำให้ทางมหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่ แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้นี้ยังตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ตึกคณะศิลปศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้

แม่ฟองต์เคยขึ้นมาแล้ว Evil



~•Hot New•~
Jr. Member
**
กระทู้: 427

กั๊ชเบลเจ้าหนูยอดนักสืบ


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #6 เมื่อ: 31-10-2009, 11:15:03 »

มีประวัติเยอะจังแต่ละมหาลัย  Sad Sad

แบงค์ แบงค์
Full Member
***
กระทู้: 883

• • ♀ ○ รอเธอ ○ ♀ • •


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #7 เมื่อ: 31-10-2009, 11:51:39 »

จ๋า ชวน ขนลุก

La lluvia
Full Member
***
กระทู้: 524

ได้อย่าง เสียอย่าง


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #8 เมื่อ: 31-10-2009, 15:11:05 »

อันนี้ที่จะเล่าเปนเรื่องจริงของ "มหาวิทลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย"
ผมประสบมาเองกับเพื่อนๆ อีกหลายคน รวมทั้งอาจารย์ด้วย

คืนหนึ่งหลังจากสอบมิดเทอมเสร็จ ตอนนั้นผมก็อยู่ปี 3 เเล้ว สอบเสร็จปุ๊บตั้งวงเหล้าทันที หอที่ผมพักอยู่ในรั้วมหาลัย เเต่เป็นที่ของเอกชน ตกกลางคืนเลยตั้งวงเหล้าร่ำสุรากับเพื่อนๆ 5-6 คน เเล้วก็อาจารย์ที่ในสาขาอีก 2 คน ที่ชวนมาเพราะเเกจบโทรคมนาคมรุ่นเเรก ส่วนพวกผมโทรคมนาคมรุ่นที่ห้า ก็ตามปกติครับ ชวนรุ่นพี่มากินเหล้าเพราะมันนอกเหนือเวลาเรียนเเล้ว
พวกผมกินเหล้าร้องรำทำเพลงกันตั้งเเต่ทุ่มกว่าๆ จนถึงสี่ทุ่ม ตอนนั้นกับเเกล้มก็หมดเเล้ว เลยพากันไปปักเบ็ด(คือการเอาไม้เล็กๆ มาทำเป็นเบ็ด ไปปักเเถวๆตลิ่งริมน้ำ ปลาที่ได้จะเป็นพวกปลาที่อยู่ขอบสระเช่น ปลาช่อน ปลาดุก ปลาไน)ที่ริมสระน้ำภายในมหาลัย ด้วยความเมาครับ(จะไม่เมาได้ยังไงครับ เล่นเหล้าขาวเลย)
พอปักเสร็จก็กลับมากินเหล้าต่อ โดยเเวะซื้อกับเเกล้มมากินด้วย จับเวลาไปกู้เบ็ด(เก็บเบ็ด)ตอนเที่ยงคืน เเต่กินไปกินมาเพลินจัดเลยพากันไปซะตอนตีหนึ่งเลย ตอนนั้นไปด้วยกัน 5 คนมีผมกับเพื่อนอีก 3 คน เเล้วก็อาจารย์อีก 1 คน
พอถึงที่ก็เเยกย้ายกับไปเก็บเบ็ด เราปักไว้เยอะครับประมาณยี่สิบกว่าอัน ได้ปลามาเกือบทุกอัน พอเก็บเสร็จก็เหลืออีกอันนึงตรงหัวสระทางด้านตึกวิศวะไฟฟ้าเลยพากันขับรถไปเก็บอันสุดท้าย เบ็ดอันนั้นจะมีขนาดใหญ่เท่าเบ็ดทั่วไป เพราะปลาที่ขึ้นมาเเถวนี้มักจะเป็นปลานิลกับปลาทับทิม พอไปถึงก็เห็นว่าสายเบ็ดถูกลากไปไกลมากเกือบกลางสระ ในใจคิดว่าได้ตัวใหญ่เเน่ๆ เลยดึงสายเบ็ดกลับพอเอาขึ้นมาได้ครับ เป็นปลาทับทิม ตัวใหญ่มาก พวกผมดีใจกันใหญ่เพราะปลาทับทิมเป็นปลาที่พวกวิศวะโยธาชอบเอามาปล่อย ซึ่งไม่ค่อยลงรอยกับคณะไฟฟ้า-อิเล็กอย่างพวกผมสักเท่าไหร่
ดีใจได้ไม่นานครับ ก็มีฟองน้ำผุดออกมาตรงที่ห่างจากจุดพวกผมยืนลงไปสักสิบเมตร ลักษณะเหมือนมีอะไรกำลังจะขึ้นมาน่ะครับ เพื่อนผมส่องไฟฉายไปดูตรงนั้นทันที เเล้วมันก็ขึ้นมาจริงๆ เล่นเอาพวกผมเเทบช๊อกไปเลย
ทีเเรกมันขึ้นมาเป็นสีขาวๆ ฟูๆ เหมือนเส้นผมของผู้หญิงที่อยู่ในน้ำ เเล้วมันก็เเผ่ออกเรื่อยๆ เเล้วก็ค่อยๆผุดขึ้นมาเหนือน้ำ ใช่ครับ เส้นผมของผู้หญิงจริงๆ สักพักไม่ขึ้นมาเเค่ผมครับ เริ่มขึ้นมาทั้งหัวเลย เห็นชัดมากๆ เพราะอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ เเล้วไฟฉายก็เทพมาก ส่องสว่างจนเห็นทุกกระเบียดนิ้ว เป็นผู้หญิงค่อยๆผุดขึ้นมาจากน้ำ ผมยาวสีขาว หน้าซีดๆอมเขียว ที่สำคัญ ไม่มีลูกตาครับ เบ้าตาลึกเข้าไปเเล้วมีเศษเนื้อเเดงๆอยู่ด้านใน !!! ไม่ทันเห็นว่าเค้าใส่ชุดอะไรเพราะเเค่นั้นพวกผมก็กระโจนขึ้นรถทันทีครับ คนขับไม่ใช่ใคร อาจารย์ของผมนั่นเอง
คืนนั้นได้ปลามาเยอะจริง เเต่ไม่มีใครกล้ากินเลยสักคน (เพื่อนคนหนึ่งมันไวมาก โยนปลาขึ้นรถก่อนเลย)

อีกสองสามวันต่อมาเลยไปถามช่างประปาที่เค้าทำงานในมหาลัยมานานตั้งเเต่ก่อตั้ง เค้าบอกว่า สระนั้นมันเคยเป็นสระธรรมชาติ เเล้วมหาลัยสั่งให้ขุดเพิ่ม เค้าบอกว่าตอนกลางคืนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงเล่นน้ำในสระ บางทีก็เห็นว่ายไปว่ายมา ผลุบๆ โผล่ๆ เเต่จะเห็นหลังจากเที่ยงคืนไปเเล้ว เค้าหวงที่มาก ถึงขนาดตอนขุดคนขับรถเเบ๊กโฮลเกือบตาย เพราะดินทรุดรถตกลงไปในสระ พอเอาคนขับขึ้นมาได้เค้าก็โวยวายใหญ่ บอกว่ามีผู้หญิงมากอดเขาในน้ำเเลวพยายามจะพาลงไป

นี่เเหละครับไม่ใช่เรื่องเล่า เเต่เป็นเรื่องจริงครับ
ไว้คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องเจ้าที่ในบ้านพักหลังมหาลัยให้ฟังครับ สยองไม่เเพ้กัน

เกรียนจัง ตังอยู่ครบ
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #9 เมื่อ: 31-10-2009, 15:23:33 »

เรปบน น่ากลัวอ่า

ไม่กล้าเรียนหมาลัยแว้ว Wink



一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #10 เมื่อ: 31-10-2009, 15:23:49 »

อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 31-10-2009, 15:23:33
เรปบน น่ากลัวอ่า

ไม่กล้าเรียนหมาลัยแว้ว Wink
เอ้ย! มหาลัย= =



• Who ?! •
Sr. Member
****
กระทู้: 1,969

?!


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #11 เมื่อ: 31-10-2009, 17:30:41 »

แต่ที่ละที่ เรื่อง โหดๆ ทั้งนั้น

ธรรมศาสตร์ ก็น่ากลัว

ลาดกระบัง ก็ สยอง ไม่แพ้กัน


 Cry

แล้ว จะ ไปเรียนที่ไหน ดี

ไม่ได้ ปั้ม ไม่ได้ เกรียน

แค่ เกรี๊ยน เกรียน เอง
La lluvia
Full Member
***
กระทู้: 524

ได้อย่าง เสียอย่าง


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #12 เมื่อ: 31-10-2009, 19:49:59 »

อ้างจาก: はるはね ที่ 31-10-2009, 15:11:05
นี่เเหละครับไม่ใช่เรื่องเล่า เเต่เป็นเรื่องจริงครับ
ไว้คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องเจ้าที่ในบ้านพักหลังมหาลัยให้ฟังครับ สยองไม่เเพ้กัน

ต่อครับ

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมกับรูมเมทอีก 1 คน (รูมเมทผู้ชาย) ตอนอยู่ปี 3 ครับ
ที่หลังมทร.ล้านนา ชร. ไม่สิ จะเรียกว่าหลังก็ไม่ถูก เเต่ทางเข้าบ้านพักมันอ้อมวกมาด้านหลังของมหาลัยได้

บ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านสร้างใหม่ ชั้นเดียว สองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้องครัวเเละมีห้องนั่งเล่นห้องรับเเขก มีทีวีตู้เย็นสเตอริโอ เครื่องเสียงพร้อม (ที่เรียกว่าบ้านสวนนั่นเเหละครับ ที่ได้ขนาดนี้เพราะเจ้าของรู้จักกันกับพ่อของผม) ข้างบ้านมีสระเลี้ยงปลานิลกับปลาจาละเม็ด รอบๆตัวบ้านเป็นสวนมะม่วงเเละป่าไผ่ บริเวณนั้นมีบ้านอยู่อีกสองหลังเเต่ห่างกันมากมาย
บรรยากาศดีมากเลยครับ ยามเช้าๆ หมอกสีขาวลอยเป็นปุย ให้อาหารปลาบ้าง ตัดเเต่งกิ่งมะม่วงบ้าง บางทีเดินเล่นเก็บหน่อไม้ในป่าไผ่มาเเกงกินเอง ดูเเล้วเป็นที่ๆ สันโดษมากเลยครับ เเละในทางกลับกันก็เป็นที่ๆ ค่อนข้างน่ากลัวมากเลยทีเดียว เพราะห่างไกลผู้คนอย่างเเรง
เเต่ถึงกระนั้นผมก็ชอบกลับบ้านดึกๆ เพราะผมเองไม่ใช่คนกลัวผีมากมาย เเค่เห็นได้ป้องกันตัวได้(เเต่อย่าเห็นจะดีกว่า) กลับไวสุดก็ 6 โมงเย็น ดึกสุดก็เที่ยงคืนตีหนึ่ง ทางเปลี่ยวเเบบไร้ที่ติเลยล่ะครับ ใครขับรถไปเเล้วดับกลางทางต้องร้องไห้เเน่ๆ กลางป่า มืดสนิทเเม้คืนเดือนหงาย

เหตุการณ์เริ่มต้นจากก่อนหน้าจะเกิดเรื่องหนึ่งวัน คุณอาเจ้าของบ้านกับผมเห็นว่าศาลพระภูมิที่บ้านมันเก่าเเล้ว เเละมันอยู่ใกล้ชายคาเกินไป เพราะชาวเหนือเชื่อว่าถ้าเงาบ้านตกกระทบศาลพระภูมิ เจ้าที่จะอยู่ไม่ได้ เลยย้ายศาลออก เเล้วไปตั้งใหม่บริเวณจอมปลวกหลังบ้าน(ใกล้ๆกับที่เดิม เเค่เขยิบออกมาหน่อยนึง) ขุดเสร็จลงเสาเสร็จ ก็ทำการบวงสรวงอัญเชิญเจ้าที่ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี
ตกเย็นอาก็กลับบ้าน ส่วนผมก็ออกหอเพื่อนเพราะต้องทำเเบบเสนอโปรเจค ช่วยกันคิดช่วยกันทำจนได้ข้อสรุปว่าจะเอาโปรเจคอะไรดี เสร็จเเล้วก็ตามฟอร์มครับเพื่อนสุดที่รักหิ้วเหล้าขาวสองขวดกับเนื้อย่างร้อนๆ ที่พวกเพื่อนชั้นล่างเตรียมมาเรียบร้อยวิ่งปุเลงๆ ขึ้นมา คืนนี้ช่างยาวนานนัก เลยเมาหลับคาห้องเพื่อน
วันต่อมาเป็นวันเสาร์ ผมเลยชวนเพื่อนอีกคนมานอนค้างที่บ้าน เพราะตามหน้าที่กลุ่มมีผมกับมันที่จะต้องพิมพ์เเบบเสนอส่งอาจารย์ เเละเรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้นจากนี้...

เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ฝนตกหนักมาก หนักเเบบสุดๆ เลยล่ะครับ จนถึงสามทุ่มก็ยังไม่เบาลง เเละเรื่องต่อไปนี้สาบานได้เลยว่าเป็นเรื่องจริงครับ พอถึงสี่ทุ่มเป๊ะ ไฟในบ้านดับพรึบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ผมคิดในใจว่าสงสัยฟิวส์ขาด หรือเซฟตี้คัทเด้งมั้ง เลยกะจะออกไปดูซะหน่อย เเต่ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงลอยมาตามสายลมเบาๆ ผมกับเพื่อนผมหน้ากันเลิ่กลั่ก ใช่ครับ เพื่อนก็ได้ยิน ยังนึกในใจสี่ทุ่มเเล้วใครจะมาร้องไห้เเถวนี้หวะ สักพักนึงไม่ใช่เเค่เสียงเบาๆเเล้วครับ เสียงเค้าดังขึ้นเรื่องๆ เเละจางลง เเล้วขึ้นมาใหม่ รู้ได้เลยว่าเธอคนนั้นกำลังเดินร้องไห้รอบบ้านอยู่ !!!
เสียงฝนตกดังขึ้นเรื่อยๆ เเต่เสียงของเธอก็ดังขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ผมกับเพื่อนเริ่มขยับเข้าหากัน ในใจคิดว่าคืนนี้จะรอดมั้ยหว่า นะโมพุทโธ พุทโธ่พุทถัง อะไรต่อมิอะไรมนต์ศักดิ์สิทธิ์บ้าง ไม่ศักดิ์สิทธิ์บ้างออกมาจากเพื่อนผมอย่างไม่ขาดสาย ส่วนผมเองนั่งเฉยๆ ก็ตูเป็นคริสต์นี่หว่า นึกบทสวดไม่ออก ฮ่าๆ
อีกพักหนึ่ง คราวนี้ไม่ใช่เเค่เสียงผู้หญิงร้องไห้ครับ เป็นเสียงกระดิ่งไม้ที่เเขวนคอวัวดังก๊องแก๋งๆ มาเป็นฝูงเลยครับ เเถมด้วยเสียงร้อง มอๆ ระคนกับเสียงร้องไห้บอกเลยครับว่าหลอนสุดๆ
จนกระทั่งฝนหยุดตก ประมาณเที่ยงคืน พอฝนหยุดปุ๊บ ไฟมาปั๊บ ทีนี้ล่ะครับ ที่เราเห็นมันติดตาไปจนวันตาย มีเงาสลัวๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งตัวสูงติดเพดานจนหลังค่อม ผมยาวๆปกหน้าปกตาไปหมด ท่อนบนไม่ใส่อะไรเลย ปล่อยพุ่มพวงให้ยานโตงเตงเป็นจังหวะโซล เเขนยาวมือยาวกว่าคนปกติ เเละไม่มีท่อนล่าง !!! กำลังเดิน(เรียกว่าลอยจะถูกกว่า)ออกมาจากห้องน้ำของบ้าน ซึ่งอยู่ตรงกับประตูห้องผมพอดี เเล้วประตูห้องผมก็เปิดไว้ซะด้วย เธอลอยไปลอยมาระหว่างห้องน้ำกับห้องครัว เเล้วก็เลือนหายไปตรงมุมบ้าน
เพื่อนผมมันร้องจ๊าก ตั้งเเต่เห็นเงาเเล้วครับ ส่วนผมน่ะเหรอ นิ่งครับ กลัวจนทำอะไรไม่ถูก ได้เเต่มองเฉยๆเเล้วล่ะครับตอนนั้น

เช้าวันต่อมา ข้าวของทั้งหมดของผมก็ถูกย้ายออกไปโดยด่วน อยู่ไม่ได้เเล้วครับ

จากการสันนิษฐานคาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณที่อยู่เเถวๆจอมปลวก พอผมเอาศาลเจ้าที่ไปตั้ง เค้าเลยไม่มีที่อยู่ครับ

สุดท้ายนี้เพื่อนๆ ที่กำลังจะเข้าเรียนต่อ หรือต้องไปอยู่บ้านพัก หรือต้องไปต่างจังหวัด เเนะนำว่าถ้าต้องนอนบ้านที่ไม่ใช่ของตัวเอง อย่าไปย้ายข้าวย้ายของนะครับ เดี๋ยวจะเจออย่างผมเเล้วจะช็อคตายเอา

โอกาสหน้าจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์ขนหัวลุกที่หอพักบัณฑิต เเละวิญญาณเร่ร่อนในหอพักภูตะวัน มาให้ฟังครับ

เกรียนจัง ตังอยู่ครบ
.NooYuiizZ.
Sr. Member
****
กระทู้: 1,792

อย่าอารายมากมาย .*


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #13 เมื่อ: 31-10-2009, 20:10:01 »

น่ากัวแฮะ

 Cry

.o-O.l3allOon.O-o.
MaCus_KP
Hero Member
*****
กระทู้: 5,558


Re: เรื่องเล่าของแต่ละมหาลัย อาจเคยเห็นกันบ้างแล้ว ><
« ตอบ #14 เมื่อ: 31-10-2009, 20:34:12 »

.......


ป้าย:
หน้า: [1] 2 3