GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1]
ผู้เขียน หัวข้อ: 18 ฆาตกรโรคจิตสะท้านโลก!!  (อ่าน 3760 ครั้ง)
เหมี้ยวๆคุง
Jr. Member
**
กระทู้: 131


แมว...เหมี้ยวๆ ^ ^


18 ฆาตกรโรคจิตสะท้านโลก!!
« เมื่อ: 27-10-2009, 23:03:54 »

18 ฆาตกรโรคจิตสะท้านโลก
 
   ตอนนี้ขอใช้เวลาโม้เรื่องฆาตกรหน่อยครับ
   
   มีคนบอกไว้ว่านักเขียนนิยายแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะต่างคนต่างฝีมือ แนวการเขียนการดำเนินเรื่องต่างกัน นั้นก็ทำให้นิยายหลากหลาย ฆาตกรก็เช่นกัน บางคนชอบใช้ยาพิษ บางคนก็ชอบใช้ปืน แต่มีอยู่ฆาตกรกลุ่มหนึ่งที่ฆ่าคนธรรมดาเฉยๆ มันไม่สนุก มันเลยจัดศพคนให้พิสดารพันลึกด้วย แบบว่าถ้าคุณดูหนังฆาตกรหรือรู้จักฆาตกรแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ขอบอกว่าพวกนั้นชิดซ้ายไปเลยเมื่อเจอฆาตกรต่อไปนี้
   http://www.francesfarmersrevenge.com/stuff/serialkillers/scenes.htm#Berdella
   ความจริงแล้วเรื่องชีวประวัติฆาตกรนี้ ไทยเราฮิตมากๆ ครับ ไม่เชื่อก็ดูสิคุณไปแผงหนังสือเมื่อไหร่หนังสือแนวนี้หมดเมื่อนั้น(ล่าสุดเรื่องหมอนาซีโหดผมอดซื้อครับหนังสือหมดไปเสียก่อน) และหลายเล่มนั้นพิมพ์ใหม่หลายรอบมาก บางเล่มพิมพ์ไป 10 ครั้งแล้วก็ยังขาดตลาดหมดก็มี
   เว็บด้านบนนี้เป็นเว็บที่ผมอยากให้คนอื่นดูมานานแล้วละ (ก่อนเข้าก็ดูอายุหน่อยนะครับ ต่ำหว่า 18 ห้ามเข้า กลัวจะลอกเลียนแบบ) แต่ละคนนี้ฆ่าโหดจริงๆ นะครับ
 
(ไล่จากบนมาล่าง)
 
   
Robert  Berdella
 
Robert  Berdella อายุ 39 ปี  อาศัยในเมือง Kansas , Missouri, อาชีพนักธุรกิจ
พฤติกรรมสันดานชั่วของเริ่มต้นเมื่อ 2 เมษายน1988 วันนั้น, เพื่อนบ้านของ Berdella พบศพเปลือยแปลกหน้าที่หมอบบนหน้ามุขบ้านของเขา ศพนั้นสวมใส่ไม่มีสิ่งใดนอกจาก ปลอกคอสุนัขและมีหัวเข็มขัดรอบๆคอของเขา  เพื่อนรีบบ้านโทรโทรศัพท์ เพื่อเรียกตำรวจ แต่กว่าตำรวจจะจับกุมก็ปาไปถึงเดือนมีนาคมของ1981 ตำรวจทำการค้นบ้านของ Berdella ห้าวันต่อมา ในบ้าน, ตำรวจพบรูปภ่ายที่เป็นรูปศพของเหยื่อกว่า 200 ภาพ ซึ่งล้วนเป็นชายหมดถ่ายโดยเป็นรูปคนเปลือย, ถูกทรมาน,และใช้อุปกรณ์ ฯลฯ นอกจากนี้ตำรวจยังพบกะโหลกศีรษะเกี่ยวกับมนุษย์ในบ้านเขาอีก
Robert  Berdella ให้การว่าที่เขาเก็บกะโหลกนี้ไว้เพื่อ “มันประทับใจดีครับ เขามันเหมือนม้าzหนุ่มอิตาลีที่มีพลังทางเพศดี” Robert  Berdella สารภาพว่าเขาฆ่าเหยื่อไปทั้งหมด 33 ราย  แต่จากหลักฐานแล้ว ตัวเลขอาจมีขึ้นถึง 41 ราย
ผลสุดท้ายถูกจำคุกตลอดชีวิต(เพราะยกเลิกโทษประหาร) และตายด้วยโรคหัวใจไม่กี่ปีต่อมา
 
Murder Black Dahlia
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=27)
   อลิซาเบธ ช็อท (1924 ~ 1947หรือ"แบล็คดาเรีย" ถูกฆาตกรฆ่าและทิ้งศพของเธอถูกพบในสภาพพิสดาร ผู้พบศพถึงกับออกปากว่า"นึกว่าเป็นหุ่นเสื้อเสียอีก" ศพอันเปลือยเปล่าที่ถูกถ่ายเลือดออกจนขาวโพลนนั้นถูกพบในสภาพขาดเป็นสองท่อนราวกับตุ๊กตาที่ถูกเด็กดึงทึ้ง ปากถูกกรีดตั้งแต่หูซ้ายจรดหูขวา
แผลและส่วนกระเพาะถูกล้างจนหมดจด ที่คอมีร่องรอยการถูกรัดด้วยของที่คล้ายเชือก แต่จากการชันสูตรพบว่าสาเหตุการตายโดยตรงคือแผลขาดสองท่อนกลางลำตัว เท่ากับว่าอลิซาเบธถูกหั่นสองท่อนทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่นี่เอง
อลิซาเบธก็เหมือนกับเด็กสาวหลายคนที่เข้ามายังฮอลลีวู้ดเพราะอยากจะเป็นดาราดัง แต่ชีวิตก็ไม่ง่าย แม้ว่าจะไปทดสอบหน้ากล้องหลายครั้ง เธอก็ยังไม่มีโอกาสได้ปรากฏตัวในจอหนังจริงๆเสียที อาชีพโฮสเตสในสโมสรทหารซึ่งเธอมีความสัมพันธ์กับชายหลายคนทำให้การสืบสวนยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก
1 อาทิตย์หลังจากพบศพ มีพัสดุส่งมาจากตู้ไปรษณีย์ใกล้โรงแรมบิลด์มัว ภายในมีสมุดบันทึก นามบัตร บัตรประจำตัว บัตรประกันสังคมซึ่งถูกระบุว่าเป็นของอลิซาเบธ แต่ทั้งหมดก็ถูกแช่น้ำมันมาจนไม่สามารถตรวจหารอยนิ้วมือได้
มีการสืบพยานและผู้ต้องสงสัยหลายราย แต่จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่พบตัวคนร้ายที่แน่นอน และ เรื่องของอลิซาเบธ ช็อทถูกนำมาเป็นต้นแบบในงานเขียน โทรทัศน์ ดนตรี รวมทั้งภาพยนตร์มากมาย ซึ่ง The Black Dahlia Movieกำกับโดยไบรอัน เดพาร์ม่า (จากหนังสือของเจมส์ เอลลอย)
 
Lizzie Borden
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=47)
ลิซซี่ (1860 ~ 1927) เกิดที่นิวอิงแลนด์ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นบุตรสาวคนรองของแอนดรูว์ เบอร์เด็นซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในฟอลรีเวอร์ หลังจากการตายของภรรยาคนแรกซึ่งเป็นมารดาของลิซซี่ แอนดรูว์ได้แต่งงานใหม่กับแอบบี้ เบอร์เด็น ซึ่งภายหลังการแต่งงาน มีคำยืนยันว่าลิซซี่และแอบบี้มีปากเสียงกันหลายครั้ง
วันที่ 4 สิงหาคม 1892 เวลา เวลา 11.05 น. ลิซซี่แจ้งว่าเธอได้พบศพของแอนดรูว์ถูกฆ่าตายบนโซฟา เขาถูกทุบด้วยขวานเข้าที่ศีรษะขณะกำลังงีบหลับอยู่ถึง 11 แผล เป็นการฟาดอย่างไม่ยั้งมือจนขนาดหูถึงกับขาด และตาทั้งสองหลุดทะลุออกมาจากเบ้าตา และหลังจากที่ตำรวจและแพทย์มาถึงบ้านเลขที่ 92 เซคันด์สตรีทของตระกูลเบอร์เด็น พวกเขาก็ได้พบกับอีกศพ แอบบี้ถูกฆ่าตายอยู่ในห้องพักแขกชั้นสอง เธอถูกทุบที่ศีรษะด้านหลังถึง 19 แผล
จากการชันสูตรศพพบว่าแอบบี้ถูกฆ่าตายประมาณ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป นั่นก็เท่ากับว่าเธอถูกฆ่าตายก่อนแอนดรูว์อย่างน้อย 2 ชั่วโมงทีเดียว ความเป็นไปได้ว่าคนร้ายจะเป็นคนนอกดังที่ลิซซี่กล่าวไว้จึงมีน้อยมาก และเมื่อการสืบสวนพบว่าลิซซี่เคียดแค้นแม่เลี้ยงเป็นอย่างมาก รวมทั้งเรื่องที่ว่าเธอพยายามหาซื้อไซยาไนด์เมื่อ 2 วันก่อนเกิดเหตุ(แต่หาซื้อไม่ได้) และพ่อแม่ของเธอมีอาการปวดท้องมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว ทำให้ตำรวจสรุปได้ว่าลิซซี่นี่แหละที่คือคนร้าย
ลิซซี่ เบอร์เด็นถูกจับและนำตัวขึ้นศาล สุดท้ายก็ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดและปล่อยตัวออกมา เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติจนกระทั่งเสียชีวิตไปด้วยอายุ 67 ปี
ปัจจุบันเรื่องของลิซซี่มีชื่อเสียงมากขนาดมีการเขียนเป็นหนังสือและทำละครหลายครั้ง บ้านเลขที่ 92 เซคันด์สตรีทได้กลายมาเป็นโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อของฟอลรีเวอร์ แขกผู้มาพักสามารถเลือกพักในห้องต่างๆซึ่งรวมไปถึงห้องของลิซซี่เองหรือห้องพักแขกที่แอบบี้ถูกฆ่า นอกจากนี้ยังมีบริการเสิร์พอาหารเช้าเมนูเดียวกับที่บ้านเบอร์เดนรับประทานในเช้าวันเกิดเหตุ บนโซฟาที่แอนดรูว์ถูกฆ่าด้วยครับ
 
Ted Bundy
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=188)
   เท็ด บันดี (Ted Bundy) ชายหนุ่มหน้าตาดี ท่าทางมีความรู้ เป็นฆาตกรโหดในอาชญากรรมทางเพศ เขาถูกตัดสินโทษประหารในคดีฆาตกรรม 30 ราย หากในความจริงแล้วเชื่อกันว่าเหยื่อของเขามีไม่ต่ำกว่า 100 ราย !! โดยในระหว่างปี พ.ศ.2517 – พ.ศ.2521 บันดีทำการข่มขืนและฆาตกรรมหญิงสาวในรัฐโคโลราโด, ฟลอริดา, ยูทาห์, วอชิงตัน, โอเรกอน, ไอดาโฮ ไปทั้งสิ้น 36 ราย(ที่จริงมีมากกว่านี้)
          นอกจากนี้บันดีเป็นผู้มีการศึกษาและเป็นคนมีเสน่ห์ เพื่อนๆและคนรู้จักจดจำเขาได้ในฐานะที่เขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีและพูดจาเก่ง และด้วยบุคลิกนี้ทำให้เขาถูกนำมาเป็นแบบฆาตกรในโลกภาพยนตร์นาม ฮันนิบาล เล็คเตอร์ ในที่สุด
          บัดดี้ฆ่าข่มขืนผู้หญิงมาเรื่อยๆ และพวกเธอทุกคนต่างก็มีผมยาว เขาฆ่าไปเรื่อยๆราวกับไม่รู้จักเบื่อ
          น่าแปลกที่มีเหยื่อซึ่งรอดมาได้โดยเห็นหน้าของเขาแท้ๆ แต่การสืบหาตัวเขากลับไม่มีการคืบหน้า นักวิจัยกล่าวว่าเท็ดเป็นคนหน้าตาดีก็จริง หากก็ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่เปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนแบบเสื้อ ไว้หนวดเคราเสียหน่อยก็ไม่มีใครจำหน้าเขาได้แล้ว
การขึ้นศาลของเท็ดถูกถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ เขากางตำรากฎหมายว่าความสู้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยตัวเอง มีบันทึกว่าเท็ดอยู่ในศาลราวกับเป็นเวทีของเขาก็ไม่ปาน เขาหัวเราะ โกรธ และโวยวายตามแต่ใจนึก
          และแล้ววันที่ 23 กรกฎาคม 1979 เท็ดถูกตัดสินว่ามีความผิดและลงโทษประหารชีวิต
 
Richard Trenton Chase
                 
(ลงไปแล้ว)
   
Andrei Chikatilo
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=140)
   แองเดรย์ จิกาทีโล่เกิดที่หมู่บ้านยาโบลชนอย(Yabolchnoye) ในยูเครน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1936 เป็นฆาตกรที่มีชื่อเสียงของรัสเซียฆ่าคนไป 53 ศพ เหยื่อมีทั้งผู้หญิงและเด็ก แถมฆ่าแล้วกินศพอีกด้วย โดยเริ่มไล่ล่าฆ่าคนตั้งแต่ปี  1978  ถึง 1992 โดยปกติเหยื่อของเขาจะเป็นผู้คนไม่มีบ้าน หรือผู้ซึ่งพักรอบๆทาง ซึ่งบางรายถูกควักตาในขณะที่ยังมีชีวิต ถูกกัดหัวนม บางรายถูกผ่าท้องในขณะที่เป็นๆ และมีอวัยวะบางส่วนถูกกินอย่างสยดสยอง  ก่อนจะถูกจับได้ในปี 1992 ต่อมา และถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า เมื่อวันที่ 14กุมภาพันธ์1994
 
Richard Cottingham
               
                Richard  Cottingham ชายสายตาสั้น อายุ สามสิบ-สามปี เป็นพ่อของเด็กสาม เขาอาศัยอยู่ในLodi, Cottingham ทำงานเป็นโอเปอร์เรเตอร์คอมพิวเตอร์ เริ่มสังหารคนในปี 1977 -1979 มีการพบศพต่อเนื่อง ผู้หญิงโสเภณีเปลือยศพของเธอหัวขาด  สำหรับสีน้ำเงินข้าม/สีน้ำเงินโล่เป็นเวลาสิบสามปี,   สิ่งซึ่งผู้ที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด Cottingham จนกระทั้งถูกจับได้ เขาเคยพยายามการฆ่าตัวตายแต่ล้มเหลว
 
Jeffrey Dahmer
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=77)
เจฟฟรีย์ ดาห์มอร์ เขาเป็นพวกรักรวมเพศตั้งแต่อายุ14เขามีแฟนคนแรกหลังเรียนจบไฮสคูลปี1978ชื่อ สตีเว่น ฮิคส์และเป็นเหยื่อรายแรกของเขาด้วยเนื่องจากฮิคส์คิดจะเลิกกับเขาจากนั้นมาเขาก็เริ่มฆ่าพวกรักรวมเพศโดยเหยื่อของเขามีรวมกว่า12รายบางรายงานว่า17ราย ในบรรดาเหยื่อเป็นชายผิวดำเยอะที่สุด ส่วนเด็กสุดคือเด็กชายชาวลาวอายุเพียง14ปีชื่อโคเนรัค นอกจากนี้เขายังเก็บสะสมหัวกะโหลก บางหัวยังทาสีเทาให้เหมือนพลาสติก และยังดองอวัยวะเพศของเหยื่อที่เขาฆ่าอีกด้วย มีรายงานว่าเขายังได้รวมเสพสุขกับร่างของศพทุกศพที่เขาฆ่า ต่อมาตำรวจใช้เวลาตามตัวและจับกุมเขาถึง13ปี หลังเขาถูกจับและถูกศาลพิพากษาจับคุกเป็นเวลา957ปี เขาถูกส่งตัวไปที่ ทัณฑสถาน โคลัมเบียในพอร์เทจ วิสคอสซิน ที่นี่เองที่เขาถูกนักโทษชายผิวดำฆ่าในคุกเนื่องจากไม่พอใจที่เจฟฟรีย์ฆ่าคนผิวดำมากมายซึ่งคนที่ฆ่าเขามีชื่อว่า คริสโตเฟอร์ สคาร์เวอร์ ต้องคดีค้ายาเสพติด และนี้เป็นจุดจบของนักล่าหัวมนุษย์
 
Ed Gein
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=6)
   Ed Gein หรือ Edward Theodore Gein เกิดเมื่อ วันที่ 27 สิงหาคม 1906 และเสียชีวิตเมื่อ 26 กรกฏาคม 1984
Ed Gein นั้นได้รับฉายาเป็น ฆาตกรโรคจิตที่สุดเท่าที่เคยมีมา ก็ว่าได้ แม้ว่าเขาจะฆ่าคนจริงๆ ไปเพียง 2 คนก็ตาม แต่ด้วยพฤติกรรมด้านความเชื่อ ทำให้เขาได้รับฉายานี้ขึ้นมา , และการฆาตกรรมของเขาได้ทำให้เกิดหนังเรื่อง Phycho , The Texas Chainsaw Massacre และ Silence of the Lambs(พบกับตอนใหม่ เขียนใหม่สำหรับเอ็ดเร็วๆ นี้)
 
Stranglers  Hillsids
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=46)
   ก็ไม่รู้จะย่อไงดี เอาเป็นว่าไปดูเถอะครับ
 
Jack The Ripper
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=10)
เขียนไปก็เมื่อยมือเพราะรู้ๆ กันอยู่แล้ว ไปดูเถอะครับ
 
 Randy Kraft
 
ฆาตกรต่อเนื่องจากแคลิฟอร์เนีย  มีนิสัยโรคจิตชอบฆ่า นักศึกษาวิทยาลัย Claremont โดยเฉพาะพวก หนุ่มๆ สาวๆ ด้วยการรัดคอให้ตาย โดยเริ่มฆ่าคนมาตั้งแต่ ปี 1967
ตอนเช้าฤดูร้อนใน 1983 เจ้าหน้าที่ หาดทราย Huntington  พบรถของเขาน่าสนใจ จึงขอหยุดตรวจตำรวจทำการค้นพบซากศพของผู้ชาย(ภายหลังทราบชื่อ Terry ) เขาถูกรัดคอ ด้วยเข็มขัด
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่รถก็พบของต่างๆ จากรถของ Kraft  มากมาย อาทิรูปถ่ายศพคนหนุ่มสาวและภาพเปลือยจำนวนหนึ่ง,สมุดบันทึก และพบศพอีกจำนวนหนึ่งที่ระบุจำนวนไม่ได้ที่บ้านของ Kraft
ภายหลัง Kraft ถูกตัดสินประหารชีวิต โดยมีความผิดฐานฆ่าคน 9 ชีวิต ปัจจุบันเขายังต้องรอวันประหารชีวิตในคุกรัฐแคลิฟอร์เนียจนถึงทุกวันนี้
 
Manson Family
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=161)
 
Issei Sagawa
 
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=75)
ซาคาว่า อิทเซย์เกิดเมื่อ 11 กรกฎาคม 1949 ตำนานมนุษย์กินคนของซาคาว่าเปิดฉากขึ้นขณะเขาไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยปารีส ก่อนจะเกิดคดี เขาเคยพาหญิงโสเภณีมายังห้องพักหลายหนเพื่อที่จะกินพวกเธอ แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือเสียทีเพราะความลังเล
วันที่ 11 กรกฎาคม 1981 (วันเกิดครบ 32 ปี)ซาคาว่าเชิญเรเน่ ฮาร์เทเวลท์ นักศึกษาชาวดัชต์มาที่ห้องพักของเขาโดยอ้างว่าต้องการจ้างเธอมาอ่านบทกวีภาษาเยอรมันให้ฟัง และเมื่อเธอมาถึง เขาก็ใช้ปืนยิงที่ศรีษะของเรเน่จนเสียชีวิต
หลังจากที่ซาคาว่ายิงเรเน่ เขาหมดสติด้วยความช็อคไปครู่หนึ่งก่อนจะตื่นขึ้นมาวางแผนว่าจะกินเธอยังไงต่อ เขาเริ่มที่ส่วนสะโพกซึ่งเขาให้ความเห็นในภายหลังว่าชั้นไขมันที่สะโพกนั้นมีสีเหมือนกับข้าวโพด และเมื่อทานก็พบว่ามันนุ่มเหมือนกับมาคุโร่ (ทูน่า) เขาใช้เวลา 2 วันหลังจากนั้นค่อยๆลิ้มลองเนื้อในส่วนต่างๆ มีการปรุงรสด้วยเกลือ พริกป่นและพริกไทย ก่อนจะตัดสินใจว่าถึงเวลานำชิ้นส่วนที่เหลือไปทิ้งแล้ว (ศพที่ถูกพบของเรเน่มีร่องรอยถูกข่มขืนหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว แต่ตอบได้ยากว่าเขาข่มขืนก่อนหรือหลังจากที่เขากินเธอ)
ซาคาว่าตัดร่างของเรเน่เป็นชิ้นๆในห้องน้ำก่อนจะยัดใส่กระเป๋าเดินทาง 2 ใบ เขานำกระเป๋าออกจากบ้านโดยหมายจะไปทิ้งที่บึงในสวนสาธารณะใกล้ๆ แต่ก่อนจะทิ้งนั่นเองก็มีผู้พบเห็นเสียก่อน ซาคาว่าจึงโยนกระเป๋าเข้าไปในพุ่มไม้และหนีไป  เนื่องจากซาคาว่าขนกระเป๋ามาด้วยรถแท็กซี่ หลังจากนั้นเพียง 4 วัน ตำรวจก็สืบไปถึงตัวเขาได้ในที่สุด
ในปี 1983 ซาคาว่าถูกตัดสินว่ามีความบกพร่องทางจิตจนไม่สามารถรับผิดชอบคดีได้ เขาถูกตัดสินให้ต้องเข้ารับการบำบัดทางจิตจนตลอดชีวิต ก่อนจะถูกส่งตัวกลับญี่ปุ่น ที่โตเกียวนั้น ครอบครัวตัดสินใจให้เขาอยู่ที่บ้านโดยปกติและไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลตามนัดหมายแทน ปัจจุบัน ซาคาว่า อิทเซย์ ใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระออกหนังสือหลายเล่มและเคยได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ในฐานะแขกกิตติมศักดิ์หลายครั้ง

               Gerald  Stano
 
(ขี้เกียจแปลครับ http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=177)
 
    William Suff
                   
William  Suff  จากแคลิฟอร์เนีย เริ่มฆ่าคนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974 หลังจากที่เขาถูกปล่อยตัวจากคุกโดยมีทัณฑ์ และถูกจับอีก เมื่อ 19 กรกฎาคม1995 ในข้อหาฆ่าโสเภณีมากกว่าสิบสองคน(ซึ่งความจริงฆ่าไป 22 ราย) โดยข่มขืนก่อนฆ่าด้วยการ แทง รัดคอ และบางครั้งตัดแขนหรือขาหรือส่วนสำคัญของร่างกาย ซึ่งส่วนมากเขามักล่าเหยื่อในเขต Riverside ในอเมริกา เขาสารภาพว่าที่ทำลงไปทั้งหมดนั้นเพราะ ความสนุกสนาน
 
Sunset Strip Killers
               
(ลงไปแล้ว http://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=153)
ไม่ขอย่อครับ เพราะเป็นตอนที่ผมชอบที่สุด เท่าที่เขียนมาก็ว่าได้ เลยอยากให้ทุกคนไปอ่านอีกครั้ง พร้อมดูภาพศพประกอบ
 
The Vampire Clan
(เป็นแก๊งสัทธิอะไรสักอย่างนี้แหละครับ ผมก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน)+ + 

ปล.ต้องขอโทษจริงๆด้วยนะครับที่ไม่ได้ลงรูปให้ ดูชื่อก็รอ้งอ๋อแล้วหล่ะครับ หรือไม่ก็อยากดูประวัติก็ตามลิงค์เลยครับ

Gintoki!
Hero Member
*****
กระทู้: 2,318


Re: 18 ฆาตกรโรคจิตสะท้านโลก!!
« ตอบ #1 เมื่อ: 28-10-2009, 19:49:47 »

ภาพศพรูปหายทั้งนั้นเลยอ่ะ(เป็นแค่เครื่องผมปล่าว) Sad
MaCus_KP
Hero Member
*****
กระทู้: 5,558


Re: 18 ฆาตกรโรคจิตสะท้านโลก!!
« ตอบ #2 เมื่อ: 28-10-2009, 19:56:55 »

ก้อ่านแล้วก้

งงๆ

เข้าใจบ้าง

ไม่เข้าใจบ้าง

แต่บางตอนก้หนุกดีนะ


ป้าย:
หน้า: [1]