GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1]
ผู้เขียน หัวข้อ: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 24/10/52  (อ่าน 813 ครั้ง)
พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


[หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 24/10/52
« เมื่อ: 17-10-2009, 22:32:12 »

บอกไว้ก่อนนะคะ ว่านิยายที่ลงเนี่ย แต่งขึ้นมาด้วยฝีมือแบบ...=__=
อ่านแล้วช่วยบอกทีว่านี่คือนิยายแฟนตาซีจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงหลงผิดคิดว่าฆาตกรรมคือแฟนตาซีอีกนาน -_-!!

      ขอเทพเจ้าแห่งความตายจงประทานพร ลงโทษเหล่าผู้ลองดีที่ริอาจมาลองดีกับข้า ข้าขอสาปแช่งให้ท่านลงโทษอย่างสาสม ด้วยฤทธิ์เดชของข้า...
      จงลงโทษมันซะ!
      เปรี้ยง!
      สายฟ้าได้ผ่าลงมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางเป้าหมายของมัน เหล่าผู้คนต่างตื่นตกใจกับสายฟ้าอันอุกอาจที่บังอาจผ่าลงมากลางพระราชวังอันยิ่งใหญ่
      สายฟ้าที่เคยทำลายทุกอย่างที่บังอาจมาขวางได้ผ่าลงตรงร่างของเด็กน้อยที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของนางกำนัล สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้คนรอบข้าง ไฟฟ้าแล่นประจุรอบข้างตัวนางกำนัลและเด็กทารก เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากนางกำนัล ในขณะที่ผู้คนรอบข้างเริ่มตาลีตาเหลือกหาทางช่วย
      “พระธิดา!” เสียงของหญิงสาวร่างท้วมที่นำมือป้องปากมองไปยังเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของนางกำนัล สายฟ้ายังคงแล่นรอบตัวพร้อมกับทำลายเหล่าพ่อมดที่คิดจะมาช่วยให้ตายคาที่ทันที จนผ่านไปนานยังไม่มีคนกล้าเข้าไปย่างกรายใกล้สายฟ้านั่น...
      ปัง!
      “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” สุรเสียงก้าวของคนเป็นราชาดังขึ้น สายตาเย็นยะเยียบมองเหตุการณ์ตรงหน้า ในขณะที่ข้าราชบริพารคนหนึ่งรีบถลาตัวคุกเข่าลงต่อหน้า
      “ฝ่าบาท อยู่ๆ สายฟ้าก็ฟาดลงมา ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าพระธิดากับนางกำนัลที่อยู่ข้างในจะเป็นยังไงบ้าง ทางเราเองได้ส่งพ่อมดฝีมือดีสกัดไฟฟ้านั่นแล้วแต่ว่าไฟฟ้านั่นก็ไม่ยอมหายไป ซ้ำร้ายยังตายเสียด้วยซ้ำ” ด้วยความตกใจทำให้ลืมที่จะใช้คำราชาศัพท์ ฝ่ายพระราชาเพียงแค่ปรายสายตามองเพียงชั่วครู่ก็กลับมาสนใจกับสายฟ้าต่อ
      นั่นมัน...!
      เมื่อคิดได้ พระองค์ก็รีบเรียกคทาออกมา รีบร่ายคาถาออกมาอย่างรวดเร็ว สายฟ้าได้ฟาดฟันมาทางตัวพระราชาแต่ว่าพระองค์รีบหลบและยังร่ายคาถาต่อไป สายฟ้ายังคงรุกไล่เรื่อยๆ แต่พระองค์ยังคงหลบหลีกได้อย่างว่องไวและร่ายคาถาไม่ขาดตอน จนในที่สุดคาถาก็ร่ายสำเร็จ
      สายฟ้าที่กำลังกรีดร้องอยู่นั้นพลันเริ่มสงบลง ท้องฟ้าที่ส่องผ่านรูขนาดใหญ่บนเพดานจากการถูกสายฟ้าทำลายเริ่มมืดครึ้ม ร่างของนางกำนัลที่กอดพระธิดาอยู่ที่อกไหม้เกรียม ส่วนตัวพระธิดานั้นยังปลอดภัยดีทุกประการจนไม่น่าเชื่อว่าผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่
      ร่างของหญิงร่างท้วมที่อุทานมาเมื่อครู่รีบปรี่ตรงเข้าไปอุ้มพระธิดาของตน และส่งมาให้พระราชา พระองค์รีบอุ้มพระธิดาของตนก่อนจะออกคำสั่งที่สร้างความเคลือบแคลงใจแก่ผู้ฟัง
      “นับจากนี้ให้นำพระธิดาย้ายไปอยู่ที่ห้องบรรทมของข้า และหลังหกโมงเย็นเมื่อไหร่ห้ามย่างกรายเข้ามาในห้องของข้าไม่อย่างนั้นข้าจะสั่งประหาร!”

อยากบอกว่านี่ไม่เกี่ยวกับอสุราสักนิดนะคะ TT
ฝีมือข้าน้อยด้อย อ่านนิยายฆาตกรรมมากเกินไปเลยแต่งนิยายแฟนตาซีบ้าง =_=
ชื่อเรื่องสิ้นคิดมาก ใครคิดชื่อดีกว่านี้ก็บอกหน่อยนะคะ TT
ปอลิง.จะพยายามมาอัพให้เร็วๆ เท่าที่ำทำได้ -.-



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


Re: [นิยายเละๆ] Athopia Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย (ใครคิดชื่อดีก็นี้ได้ก็บอกหน่อยนะคะ - -)
« ตอบ #1 เมื่อ: 17-10-2009, 22:38:03 »

เพิ่งรู้ว่า Atophopai Curse ผิด
ต้องเป็น Curse of Athopia =[]=!!



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

• Who ?! •
Sr. Member
****
กระทู้: 1,969

?!


Re: [นิยายเละๆ] Athopia Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย (ใครคิดชื่อดีก็นี้ได้ก็บอกหน่อยนะคะ - -)
« ตอบ #2 เมื่อ: 17-10-2009, 22:41:15 »

มาลงเพิ่มอีกนะ


เมย์ รอ อ่านอยู่ นะ

ไม่ได้ ปั้ม ไม่ได้ เกรียน

แค่ เกรี๊ยน เกรียน เอง
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: [นิยายเละๆ] Athopia Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย (ใครคิดชื่อดีก็นี้ได้ก็บอกหน่อยนะคะ - -)
« ตอบ #3 เมื่อ: 18-10-2009, 01:07:31 »

อ้างจาก: {:Pimlodo:} ที่ 17-10-2009, 22:38:03
เพิ่งรู้ว่า Atophopai Curse ผิด
ต้องเป็น Curse of Athopia =[]=!!
ถ้าไม่เป้นการก้าวก่ายกัน ชั้นเปลี่ยนชื่อให้ไหมตามที่เธฮบอกว่ามันผิดอะ และเวลาที่มีบทใหม่ๆชั้นจะช่วยมาแก้เพิ่มเติม เช่น  Curse of Athopia บทที่1 อัพเดท 16/10/50 แบบนี้อะเอาไหม เพราะนิยายคนอื่นๆเราก็แก้อัพเดทให้อะ
พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


Re: [นิยายเละๆ] Athopia Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย (ใครคิดชื่อดีก็นี้ได้ก็บอกหน่อยนะคะ - -)
« ตอบ #4 เมื่อ: 18-10-2009, 01:51:35 »

อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 18-10-2009, 01:07:31
อ้างจาก: {:Pimlodo:} ที่ 17-10-2009, 22:38:03
เพิ่งรู้ว่า Atophopai Curse ผิด
ต้องเป็น Curse of Athopia =[]=!!
ถ้าไม่เป้นการก้าวก่ายกัน ชั้นเปลี่ยนชื่อให้ไหมตามที่เธฮบอกว่ามันผิดอะ และเวลาที่มีบทใหม่ๆชั้นจะช่วยมาแก้เพิ่มเติม เช่น  Curse of Athopia บทที่1 อัพเดท 16/10/50 แบบนี้อะเอาไหม เพราะนิยายคนอื่นๆเราก็แก้อัพเดทให้อะ
อ่า ขอบคุณมากๆ ค่ะ  Embarrassed



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


Re: [นิยายเละๆ] Curse of Athopia คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย (17/10/52)
« ตอบ #5 เมื่อ: 18-10-2009, 02:28:43 »

      “เบื่อ” คำพูดสั้นๆ จากเจ้าของเรือนเป็นลอนผมสีฟ้าน้ำทะเลที่ยาวถึงเข่ามีที่คาดผมสีขาวบริสุทธิ์ที่ประดับด้วยดอกไม้ ดวงตากลมโตเหมือนแมวสีชมพูหวานชวนน่าเอ็นดูกลับประกายแววความเบื่อออกมาเต็มๆ จมูกโด่งงุ้มแต่พองาม ริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ระเรื่อ ผิวขาวอมชมพู รูปร่างเล็กกะทัดรัดอย่างที่น่าเอ็นดู ความสวยงามของเค้าโครงนี้เรียกได้ว่าเทพธิดาหรือนางฟ้า เจ้าหล่อนน่ารัก...แต่สิ่งที่เจ้าหล่อนกำลังทำช่างขัดกับหน้าตาแสนน่ารักและร่างกายที่เล็กสันทัด
      โซฮาร์ เฟโลเอน่า ลูกสาวคนเดียวของตระกูลเฟโลเอน่าที่ปกครองอาณาจักรวู้ดเดิ้ลคูล ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่ามีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรทางธรรมชาติและหนาวที่สุด โดยรวมแล้วคนในอาณาจักรนี้จะใจเย็น มีความอดทนสูง เพียงแต่... มันไม่มาตกทอดให้เจ้าหญิงคนสำคัญคนนี้เองน่ะสิ
      ร่างบางเกาแขนตัวเองยิกๆ หน้าตาเริ่มเบ้ออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ขาที่ถูกฝึกให้นั่งนำขาแนบชิดอย่างมารยาทเริ่มถ่างออก จนคนที่กำลังสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารแทบลมจัด
      เจ้าหญิงแสนน่ารักที่ประชาชนเมืองนี้ภูมิใจนักหนา... เจ้าหญิงแสนฉลาดที่เป็นที่เลื่องลือ... เจ้าหญิงแสนงามที่เป็นที่เลื่องลือไปไกล... เจ้าหญิงที่ดูภายนอกแสนจะบอบบางเพราะรูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดู ภาพพจน์อันสวยงามพังทลายย่อยยับเพียงเพราะมารยาทของเจ้าหญิง!
      “เจ้าหญิงเพคะ บอกแล้วไงเพคะว่ามันไม่งาม”
      “บอกให้ใช้คำพูดธรรมดาไง ฉันก็เป็นมนุษย์เดินดินเหมือนคนทั่วไปที่เกิดมาในฐานะดีเฉยๆ พูดเหมือนคนธรรมดาก็ได้ อย่างที่กษัตริย์ฮาเวิร์ดเคยพูดตอนเสนาอำมาตย์ท่านหนึ่งชิงอำนาจเป็นใหญ่ว่า ‘ทุกคนก็คือมนุษย์เหมือนกัน ไม่มีใครเด่นกว่าใคร’ เพราะฉะนั้นพูดธรรมดากับฉันซะ คำพวกนั้นฟังแล้วแสลงหู”
    เรื่องฉลาดเธอพอยอมรับได้... แต่นิสัยกับมารยาทนี่สิ!
      “เจ้าหญิงเพคะ...พรุ่งนี้ต้องออกงานเลี้ยงแล้ว ทรงทำตัวดีๆ เถอะนะเพคะ เพราะไหนๆ ก็เป็นงานวันเกิดของเจ้าหญิงเอง”
      “เฮ้อ ก็สอนอะไรที่มันสนุกๆ อย่างฟันดาบ ใช้เวทย์มนตร์ ขี่ม้า รับรองว่าฉันจะตั้งใจเรียนอย่างสุดชีวิตเลย”
      “มันไม่งามเพคะ” ขณะที่กำลังจะอธิบายสิ่งที่สตรีควรจะกระทำประตูได้ถูกเปิดออก ร่างของชายผิวสีขาวดั่งหิมะสง่า ผมสีน้ำทะเลยาวถึงกลางหลังถูกรวบไว้ ดวงตาสีดำคมกริบดั่งเหยี่ยว การแต่งกายเต็มยศบ่งบอกให้เห็นว่ามียศมากแค่ไหน
      “ท่านพ่อ” เจ้าหญิงแสนงามที่เคยเบื่อรีบลุกขึ้น แย้มสรวลอย่างน่ารักชนิดที่ว่าใครเห็นคงจับไปกอด ก่อนจะวิ่งไปหาท่านพ่อของตนเอง ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะรับอ้อมกอดของผู้เป็นลูก
      “ขออภัยที่รบกวนการสอน แต่ฉันมีเรื่องจะพูดกับโซฮาร์”
      “ทำไมฝ่าบาทถึงได้ออกมาด้วยตัวเองเพคะ”
      “ออกมาเดินเล่นน่ะ”  คำตอบสั้นๆ ที่ทำให้คนถูกรบกวนการสอนพอจะเข้าใจว่าทำไมเจ้าหญิงคนงามถึงไม่ชอบพูดคำราชาศัพท์ ที่แท้ก็ได้เชื้อพ่อมาเต็มๆ นี่เอง
      “ยังไงวันนี้ก็ขอให้เลิกการสอนเพียงเท่านี้ เพราะฉันมีธุระสำคัญจะคุยกับโซฮาร์”
      “เพคะ” หญิงสาวรับคำ ถอนสายบัวอย่างสง่างามและเดินออกไป
      “ท่านพ่อ ยัยป้าแก่ๆ เมื่อกี๊สอนลูกฝึกมารยาทซะจนหูของลูกจะชาแล้ว” โซฮาร์ได้ทีรีบฟ้อง ดวงตากลมโตสีชมพูฉายแววอ้อนเหมือนลูกหมาที่ต้องการความช่วยเหลือ เห็นแล้วอดใจอ่อนตาไม่ได้
      “โซฮาร์ ลูกต้องหัดฝึกมารยาทซะบ้าง โตขึ้นใครจะมาเอาลูกไปเป็นภรรยาล่ะ”
      “ลูกจะไม่แต่งงาน จะอยู่กับท่านพ่อไปจนกว่าท่านพ่อจะตาย” คำตอบพร้อมรอยยิ้มสรวลน่ารัก ผู้เป็นพ่อถอนหายใจออกมา มือบางจูงมือพ่อของตนไปที่เก้าอี้ไม้โมรอค* ขนาดยาว เหมาะสำหรับการนั่งสองคน
      “ว่าแต่ท่านพ่อมีธุระอะไรเหรอคะ” โซฮาร์ถามในขณะที่กำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้ตามพ่อที่นั่งไปก่อน
      “พ่อจะบอกว่าพรุ่งนี้ลูกก็อายุสิบหกปีแล้ว พ่อจะให้ลูกไปสมัครสอบที่โรงเรียนกษัตริย์ที่เอโธเปียซะที” โซฮาร์กระพริบตาปริบๆ มองผู้เป็นพ่อ
      “ให้จริงเหรอ?”
      “ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ” โซฮาร์ก้มหน้านิ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น
      “ท่านพ่อ...แต่ลูกกลัว”
      “ไม่ต้องห่วงลูก.... ไปที่นั่นแล้วลูกจะปลอดภัย”

*เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในป่าดงดิบทางตอนใต้ของวู้ดเดิ้ลคูล เป็นไม้ราคาแพง คุณสมบัติคือเมื่อทำเป็นตัววัสดุแล้ว นำไฟเวทย์ชนิดพิเศษลนตรงบริเวณที่ต้องการจะนุ่ม ยิ่งลนนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งนุ่มมากขึ้นเท่านั้น และไม้ชนิดนี้ยังอยู่ทนทานได้ดีเป็นอย่างมาก

สั้นไปหน่อย แต่วางไว้ในเวิร์ดมันก็...สั้นๆ ประมาณ 1 หน้า A4 (ขนาดเอาฟ้อนต์าตรฐานหนังสือนิยายแล้ว)
มีคนบอกว่าสั้น อ่า...จะพยายามให้ยาวเต็มที่นะคะ ^^"
นิยายเรื่องนี้สั้นๆ จบค่ะ พล็อตมันสั้นๆ นิดเดียวเอง
แต่พอถามถึงเนื้อเรื่อง...อืม...หลายเดือนคงจะจบมั้งคะ ^^;;
ก็จะพยายามอัพเดทเรื่อยๆ ไม่ให้สะดุด เพราะเขียนตุนมาล่วงหน้าสักนิดสักหน่อยแล้ว
ไปก่อนล่ะจุ๊บๆ
เจอกันที่ทางช้างเผืิอก~



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


Re: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 18/10/52
« ตอบ #6 เมื่อ: 18-10-2009, 20:53:41 »

      “ชิ!” เสียงบ่นออกมาอย่างดังจากปากของชายหนุ่มผิวขาว ผมสีน้ำตาลออกประกายทองประบ่า ดวงตาสีดำคมกริบ จมูกโด่งงุ้ม ปากเรียวชนิดที่ผู้หญิงเห็นยังต้องอาย โซฮาร์ส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ
      “พี่โซ เค้ามางานวันเกิดหนู เค้าก็ต้องมาอวยพรให้สิ พี่จะไปโกรธเค้าทำไม” ชายที่ชื่อโซทำหน้าไม่สบอารมณ์ตอบออกมา
      “ดูสายตาที่มันส่งให้โซฮาร์สิ”
      โซเรส เฟโอเลน่า พี่ชายแท้ๆ ของโซฮาร์ที่หวงน้องยิ่งกว่างูจงอางหวงไข่ตั้งแต่ที่แม่ของทั้งสองเสียชีวิตลงจากการลอบปลงพระชนม์ของกบฏในวันที่เกิดของโซฮาร์อายุครบรอบหนึ่งปี
      “โธ่ งั้นพี่ก็ต้องโกรธทุกคนที่อยู่ในงานนี้สิ เพราะว่าทุกคนในงานนี้ส่งสายตาแบบเมื่อกี๊มาหมดเลย” โซฮาร์ว่าอย่างขำๆ พลางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ ภาพของชายหญิงหลายวันที่กำลังจับจ้องเธออยู่
      “ยังไง” โซเรสทวนอย่างไม่เข้าใจ
      “ก็สายตาไหนๆ มันก็อ่านออกว่าต้องการตัวหนูทั้งนั้นแหละ” พูดพร้อมกับมองไปยังกลุ่มผู้ดีกลุ่มหนึ่งที่ยิ้มมาทางเธอและเข้ามาอวยพรวันเกิด พอเหล่าผู้ดีกลุ่มนั้นเดินจากไปเธอก็เริ่มพูดต่อทันที
      “อย่างคุณป้าอ้วนๆ ทางซ้ายมือนั่นแกมีลูกชายอยู่คนหนึ่งเลยอยากได้หนูไปเป็นว่าที่สะใภ้ คุณป้าทางขวามือที่ใส่เครื่องเพชรมาซะเยอะแยะนี่แกมองด้วยสายตาเสียดายที่ลูกชายของแกแต่งงานไปซะก่อน ส่วนผู้หญิงที่สวยที่สุดในกลุ่มแกยังไม่มีลูก เลยมองด้วยสายตาเอ็นดูอยากได้ไปเป็นลูก เห็นมั้ยดูยังไงก็มีแต่สายตาต้องการตัวหนูทั้งนั้น” ว่าพลางหัวเราะคิกคักอย่างน่าเอ็นดู โซเรสจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ก่อนจะพูดออกมาให้ได้ยินเพียงสองพี่น้องและกระชับวงแขนที่คล้องของน้องสาวยิ่งขึ้น
      “ถ้าอย่างนั้นพี่คงต้องออกกฎห้ามให้มองด้วยสายตาแบบนั้นมั้ยเนี่ย”
      “อย่าเลย ถึงหนูอยากจะขึ้นคาน แต่ก็อยากให้คนมาจีบบ้างนา” โซฮาร์พูดติดตลก มือบางจัดการกับที่คาดผมสีขาวประดับด้วยดอกไม้ที่กำลังจะหลุดออกจากหัวของเธอ
      ที่คาดผมสีขาวประดับดอกไม้ชิ้นนี้เป็นของเพียงอย่างเดียวของท่านแม่ของเธอที่เธอพอจะใส่ได้ เพราะว่าชุดเก่าๆ ของท่านแม่นั้นเธอตัวเล็กเกินไปจนไม่อาจใส่ได้ พอใส่เครื่องประดับบางอันก็หลวมเกินไปเพียงเพราะว่าเธอตัวเล็กกว่าแม่เธอมาก ด้วยความสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบกว่าๆ ของเธอ กับความสูงและความท้วมของแม่ เธอจึงใส่ของๆ แม่เธอแทบไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่สร้อยที่เป็นรูปดาวที่ทำจากทองชิ้นเล็ก ส่วนตัวสายสร้อยจะเป็นไข่มุกสีขาวนวลที่พอตกอยู่ในความมืดจะส่องประกายเป็นสายรุ้งสมบัติประจำตระกูลของฝ่ายแม่ล่ะมั้ง ที่เธอพอจะใส่ได้
      ตอนนี้พี่ชายของเธอถูกเสด็จพ่อนำตัวไปแนะนำในฐานะองค์รัชทายาทเสียแล้ว เธอเลยมีโอกาสได้ชมงานเลี้ยงวันเกิดของเธอแบบส่วนตัวเสียที สายตาของโซฮาร์กวาดมองคนทั่วบริเวณ จะว่าไปเธอก็เบื่องานเลี้ยงนี่เหมือนกัน แต่ก็ได้แต่ส่ายหัวปลงๆ เพราะท่านพ่อของเธอนานๆ ครั้งถึงจะจัดงานเลี้ยง เลยพอทนที่จะมางานเลี้ยงได้บ้าง
      ฉับพลันสายตาของเธอหยุดไปที่ประตูอันใหญ่มโหฬารที่กำลังเปิดอ้าออก เป็นสัญญาณว่ามีคนเข้ามาใหม่ แต่คนที่ก้าวเข้ามานั้นกลับหยุดทุกสายตาให้หันมาจ้องมองได้
      คนที่เดินนำมานั้น ถ้าจำไม่ผิดคือองค์รัชทายาทของอาณาจักรไดมอนด์ อาณาจักรที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุด เพราะทางเมืองมีเหมืองแร่และมีอัญมณีเยอะ แถมสินค้าส่งออกแต่ละชนิดล้วนเป็นของชั้นดี จนร่ำรวยมหาศาล ชายที่เลื่องชื่อไปไกลเพราะว่าในการแข่งขันประลองดาบที่ทุกอาณาจักรจะส่งยอดฝีมือมาแข่งนั้นเขาเป็นผู้ชนะเลิศ... ยังไม่รวมทั้งพระปรีชาความสามารถแบบล้นเหลือ จะบอกว่าถ้านับรวมทุกอาณาจักร คนที่มีแววจะครองอาณาจักรได้ดีที่สิ้นก็คงจะเป็นรัชทายาทองค์นี้
      บุรุษหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มยาวคลอเคลียบ่า ดวงตาสีอำพันทอประกายแววสง่างาม ร่างกายกำยำสูงสง่าแบบไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ใบหน้ารูปสลักราวกับเทพบุตร ชายหนุ่มหันมองไปรอบงาน ก่อนจะมาหยุดที่เธอและเดินตรงเข้ามา
      “เนื่องจากเสด็จพ่อของกระหม่อมติดธุระ จึงไม่ได้มางานเลี้ยงด้วยตัวเอง กระหม่อมขออภัย” โซฮาร์แย้มรอยยิ้มออกมา ก่อนจะพูดอย่างนุ่มนวล
      “ไม่เป็นไร หม่อมฉันว่าคนที่พระองค์ควรขออภัยคือเสด็จพ่อของหม่อมฉันดีกว่า เพราะหม่อมฉันยังไงก็ได้เพคะ” คำตอบพร้อมเสียงหัวเราะนิดหน่อย โซฮาร์พยายามที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของเธอดูเรียบร้อยที่สุด เพราะว่าคงไม่เป็นการดีหากแสดงกริยามารยาทที่ไม่ดีออกไป
      จริงอยู่ เธอเกลียดวิชามารยาท แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าจะปฏิบัติจริงเธอก็ทำได้ยอดเยี่ยมอย่างไร้ที่ติ ใบหน้าของเธอต้องปรับเข้ากับทุกสถานการณ์ จะกระดิกคิ้วอันแสดงมารยาทไม่ดีแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้
      ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าเธอแม้จะฉายแววนิ่งสงบแต่ก็พยักหน้าและเดินไปหาเสด็จพ่อของเธอต่อไป โซฮาร์ได้แต่ถอนหายใจเฮือก และเดินออกไปนอกงาน
      ชุดที่โซฮาร์ใส่วันนี้คือชุดราตรีสีขาวแขนยาวเรียบๆ ที่ยาวตกพื้น มีสายคาดเอวสีฟ้าประดับด้วยสร้อยไข่มุกที่นำมาพันล้อมรอบสายคาดเอว รับกับสร้อยประจำตระกูลของแม่เธอและที่คาดผลประดับดอกไม้ที่เธอใส่ประจำ เป็นชุดที่ดูหรูและเรียบง่ายในเวลาเดียวกันถ้าเทียบกับการแต่งตัวของบรรดาแขกที่ท่านพ่อของเธอเชิญมา
      โซฮาร์เคยหวังไว้ว่าวันเกิด ท่านพ่อของเธอจะไม่จัดงานเลี้ยงที่ดูหรูหรา จะไม่ต้องส่งบัตรเชิญคนไปทั่ว หรือไม่ต้องเปลืองงบประมาณประชาชนในการจัดแต่งพระราชวัง แต่เธออยากให้ท่านพ่อเพียงกอดเธอพร้อมกับพูดว่าสุขสันต์วันเกิดเพียงเท่านั้น...แต่นั่น...ท่านพ่อของเธอเพียงแค่ยิ้มและพูดสุขสันต์วันเกิดเพียงเท่านั้น
      สงสัยเธอจะคาดหวังเกินไปจริงๆ นั่นแหละ
      ระหว่างที่โซฮาร์เหม่ออยู่นั้นลมได้พัดแรงขึ้น ด้วยแรงของลมทำให้ที่คาดผมที่หลุดง่ายนั้นต้องปลิวว่อนไปติดกับกิ่งไม้ โซฮาร์เบิกตามองเพียงน้อยนิด แต่ก่อนที่จะร่ายเวทย์ให้ที่คาดผมกลับมาก็มีคนตัดหน้าชิงร่ายเวทย์เคลื่อนที่ของตัดหน้าเธอไปก่อน
      โซฮาร์หันไปมองด้านหลังของตัวเธอ เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเวทย์ ที่คาดผมสีขาวสะอาดตาประดับด้วยดอกไม้นานาชนิดยังอยู่ในมือของเขา เจ้าชายของเมืองไดมอนด์นั่นเอง
      “ขอบพระทัยเพคะ” โซฮาร์ย่อตัวต่ำลง ก่อนจะยื่นมือรับที่คาดผมของเธอมาคาดที่หัวเหมือนเดิม
      “ได้ข่าวว่าพระองค์กำลังจะไปเรียนที่โรงเรียนกษัตริย์เหมือนกับหม่อมฉัน”
      โซฮาร์เพียงจ้องหน้าผู้ถาม ก่อนจะยิ้มออกมาและตอบออกไป
      “ถ้าเช่นนั้น ขออนุญาตไม่ใช้คำราชาศัพท์ก็แล้วกัน ไหนๆ ก็จะเป็นเพื่อนกันแล้ว” โซฮาร์มองไปที่ท้องฟ้า เมื่อพบว่าท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้ว เธอจึงตัดสินใจขอเอ่ยลา
      “ถ้าเช่นนั้นขอตัวก่อนก็แล้วกัน ยินดีที่รู้จักเจ้าชายแห่งไดมอนด์” คำตอบพร้อมเสียงหัวเราะจากหญิงสาวร่างเล็กพร้อมกับเดินจากไปทิ้งให้บุรุษหนุ่มผู้อยู่ที่นอกงานนี้เกิดอาการสงสัย
      หรือว่าข่าวลือที่เจ้าหญิงชอบกลับห้องก่อนเวลาหกโมงเย็นจะเป็นเรื่องจริง... แปลก...
      รวมถึงเรื่องเวลาไหนจัดงานเลี้ยงจะต้องจัดเมื่อเวลาเช้าหรือเวลาบ่ายด้วย...

      “กรี๊ดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างที่เป็นทุกวันอีกครั้ง โชคดีที่ห้องที่เธอกรีดร้องอยู่นี้เป็นห้องเก็บเสียงที่ทำให้ไม่มีผู้ใดได้ยินได้ แม้กระทั่งใช้เวทย์มนตร์!!
      ร่างเล็กของหญิงสาวดิ้นทุรนทุราย เส้นผมสีฟ้าท้องทะเลปลิวสยายไปทั่วเตียงนอน ดวงตาสีชมพูกลายเป็นดวงตาสีแดงฉานที่ฉายแววความเจ็บปวด มือบางเหมือนพยายามไขว่คว้าหาบางสิ่งที่อยู่เบื้องบน แม้มันจะไม่มีอะไรเลย
      เจ็บปวด...ทุรนทุราย...
      โซฮาร์ได้แต่กรีดร้องไปทั่วเตียงเพื่อหวังว่าจะระบายความเจ็บปวดนี้ได้ แต่เปล่าเลย มันยังคงเจ็บเหมือนเดิม และมีท่าจะเจ็บต่อไปอีกด้วย
      โรคที่รักษาไม่หาย...ไม่มีทางแก้...
      “กรี๊ดดดดดดดดดดด” ครานี้เจ็บมากขึ้นกว่าเดิม จนน้ำตาต้องไหลรินออกมา
      ดั่งคำสาปร้าย...ที่มีคนอยากให้เธอเจ็บปวด...
      “กรี๊ดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง มือบางมิได้นำมือมาไขว่คว้าหาสิ่งที่ไม่มีด้านบนแล้ว หากแต่นำมากอดตนเอง เนื่องจากอาการเจ็บปวดแล้ว ตอนนี้ยังหนาวมากอีกด้วย
      “กรี๊ดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายดังขึ้น พร้อมกับร่างบางที่ชักกระตุกพร้อมสลบไปกับความเจ็บปวด
   
    มีคนเล่ามาว่า...หากเวลาหกโมงเย็นเมื่อใด จะมีผู้ถูกคัดเลือกเพียงคนเดียวในอาณาจักรวู้ดเดิ้ลคูลที่จะกรีดร้อง
      เป็นตราบาป...ที่ต้องทนทุกข์ไปจนตาย...
      เป็นคำสาปร้ายประจำอาณาจักรที่จะมีผู้เคราะห์ร้ายเพียงหนึ่งคน...
      คำสาปร้ายนี้...วู้ดเดิ้ลคูลต้องชดใช้ไปจนกว่าอาณาจักรจะล่มสลาย!!
      คำสาปจะต้องติดเป็นตราบาปอยู่ไปตลอดกาล...!!
      แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องเล่า...ที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป...
 
ความจริงมันควรชื่อคำสาปร้ายแห่งวู้ดเดิ้ลคูลมั้ยเนี่ย  Shocked
อ่า ช่างมันเถอะเนอะ
ไม่มีคนเม้นท์แอบเศร้า T_T
วิจารณ์หน่อยงับ เรื่องนี้แฟนตาซีเรื่องแรกที่แต่งมา TOT



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

MEŁA[И]CHOLIĈ’κ №MA[Ұ]
Sr. Member
****
กระทู้: 1,530

Procopmer Rankking: 213 Point: 281,417,583,294


Re: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 18/10/52
« ตอบ #7 เมื่อ: 18-10-2009, 21:30:58 »

ไม่ว่างคอมเมนต์หรอกนะ
เพราะพออ่านจบก็อารมณ์เสีย ที่ไม่มีให้อ่านต่อแล้วหน่ะ ^_^
อยากอ่านต่อมากๆ เลย

เนื้อเรื่องสนุกดีนะ ใช้คำไม่สูงเกินไป
จนคนอ่าน อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง

ไม่เหมือนนิยายที่บางคนแต่ง ใช้ศัพท์สูงเกินเนื้อเรื่อง
อ่านแล้วหงุดหงิดมากเลย ไม่น่าติดตามด้วย

ปล.ขอบคุณที่มีนิยายดีๆให้อ่านนะ จะติดตามต่อไป เรื่อยๆ
พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


Re: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 18/10/52
« ตอบ #8 เมื่อ: 20-10-2009, 20:09:15 »

     “พ่อจัดการสมัครเป็นนักเรียนให้แล้วนะลูก แต่ลูกต้องไปทดสอบอีกทีว่าลูกมีคุณสมบัติที่จะเป็นนักเรียนมั้ย” โซฮาร์พยักหน้ารับคำ ก่อนจะกอดลาท่านพ่อของเธอ
     “ครั้งนี้อีกนานกว่าหนูจะกลับมา ท่านพ่อก็รักษาตัวด้วยนะคะ” คำพูดพร้อมรอยยิ้มหวานที่ใครเห็นใครก็หลง ฝ่ายบุรุษหนุ่มยิ้มก่อนจะก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมนของแก้วตาดวงใจ
     “พ่อส่งพี่โซเรสไปเรียนแล้วยังส่งหนูไปเรียนด้วยอีก แอบใจหายนะเนี่ย” โซฮาร์หัวเราะออกมานิดหน่อย ก่อนจะผละตัวออกจากอ้อมกอดพร้อมกับเดินไปที่รถม้า หากแต่ก่อนจะถึงตัวรถม้าหญิงสาวก็หันหน้ากลับมา
     “ไปก่อนนะคะท่านพ่อ” หญิงสาวบอกลาพร้อมกับเดินขึ้นรถม้าไปตามพี่ชายของเธอที่นั่งรออยู่ในรถแล้ว
     “พี่โซ ที่โรงเรียนกษัตริย์ดีมั้ย” โซฮาร์เอ่ยขึ้นมาหลังจากที่รถม้าผ่านออกไปนอกเมืองแล้ว โซเรสเลิกคิ้วกับคำถามก่อนจะตอบออกมา
     “บอกตามตรงนะ พี่ว่าน่าเบื่อตรงที่วิชาเรียนมันเยอะ” เมื่อได้ยินคำตอบโซฮาร์ถึงกับทำหน้าถมีงทึง
     “ตอบดีๆ เรื่องเรียนเยอะหนูรู้อยู่แล้ว แต่หนูหมายถึงสภาพของโรงเรียน”
     “น้องจะเจอแต่พวกอยากพึ่งพาอำนาจถ้าไปในแบบเจ้าหญิง” โซเรสพูดยิ้มๆ โซฮาร์พยักหน้าก่อนจะยิ้มกริ่ม
     “เข้าใจแล้ว ว่าแต่พี่อยู่ในอาชีพอะไร...”
     “ลูกชายของพ่อค้ารายใหญ่ที่วู้ดเดิ้ลคูล” โซฮาร์พยักหน้าก่อนจะยิ้มออกมาแบบมีเลศนัยน์
     “งั้นหนูเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ก็แล้วกัน”
     โซฮาร์และโซเรสคุยตลอดการเดินทางถึงโรงเรียนกษัตริย์ที่กำลังจะไปถึง แน่นอน...เธอเตรียมพร้อมกับพี่ชายผู้แสนดีไว้แล้ว
     เธอจะปลอมตัวเป็นแม่ค้าไปเรียนโรงเรียนกษัตริย์!!
     ส่วนคนที่รู้จักใบหน้าที่แท้จริงของเธอน่ะเหรอ?...
     ปิดปากซะก็สิ้นเรื่องนี่

     โซฮาร์ไม่ใช่คนไม่รอบคอบ ทุกอย่างที่ทำลงไปนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการคิดคำนวณถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นในเมื่อมีข่าวครึกโครมว่าเจ้าหญิงแห่งเมืองวู้ดเดิ้ลคูลจะไปเรียนที่โรงเรียนกษัตริย์ แต่การที่หายตัวไปนี่สิเรื่องแปลก ดังนั้นโซฮาร์จึงเลือกที่จะให้คนรู้จักของเธอแสดงเป็นเธออยู่ที่ปราสาท เพื่อให้ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ข่าวลือ
     นิ้วเรียวยาวของหญิงสาวคนเดียวในรถม้าแบออกมา พลันกล่องลังไม้ดูคร่ำครึก็ปรากฏขึ้นมา โซฮาร์เพียงแค่เปิดกล่องและหยิบเอกสารมาอ่าน จากนั้นจึงยิ้มอย่างพอใจ
     “ข่าวการหายตัวของพี่หนาหูจริงๆ ด้วย แต่พอผ่านไปชาวบ้านก็หยุดเล่าเรื่องนี้เอง” คำพูดเรียกรอยยิ้มน้อยๆ ของโซเรสออกมา
     “แล้วเราจะดีเหรอ ยกตำแหน่งให้คนอื่นไปแบบนี้”
     “แค่เฉพาะเวลาหนูไม่อยู่น่า” คนที่โซฮาร์วางใจให้จัดการกับเรื่องนี้คือเอว่าเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอเพราะเจ้าหล่อนเป็นคนรับใช้ส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก สตรีเจ้าของเรือนผมสีฟ้าน้ำทะเลเหมือนของเธอ รูปร่างก็พอๆ กับโซฮาร์ โครงหน้าก็แทบเหมือนกัน หากแต่ดวงตาของเอว่านั้นเป็นสีเลือดหมู ดังนั้นจึงต้องให้เอว่าใส่กระจกตาให้ตาเปลี่ยนเป็นสีชมพูก่อน ใส่ชุดเหมือนเธอและปิดหน้าหน่อยก็แจ่มแล้ว
     เรื่องนี้เธอทูลขอกับท่านพ่อเรียบร้อย ซึ่งตอนแรกท่านไม่ยอม แต่พอเจอลูกไม้อ้อนผ่านผ่านตัวหนังสือก็ต้องใจอ่อน ยอมให้แก่ความพิเรนท์ของลูกสาวคนนี้
     แถมเรื่องการเรียนการสอน ให้บอกว่าตอนนี้เธอป่วยเป็นโรคประหลาด ที่ทำให้ออกมาพบเจอแสงแดดไม่ได้ หมดปัญหาไปอีก
     คิดแล้วคนเจ้าเล่ห์อย่างโซฮาร์ก็ฉีกยิ้มกับความคิดนี้
     “พี่ งั้นหนูเปลี่ยนสีตากับสีผมเป็นสีอะไรดี” โซเรสทำท่าครุ่นคิดเพียงสักครู่ ก่อนจะกล่าวออกมา
     “ผมสีเหมือนพี่ก็แล้วกัน ส่วนตาก็สีแดงก็ได้นี่” โซฮาร์พยักหน้า ร่ายคาถาออกมาอย่างสั้นๆ พลันสีผมที่เคยเป็นสีน้ำทะเลไสวกลายเป็นสีน้ำตาลทองประกายรับกับแสงแดด ดวงตากลมโตที่เคยสีชมพูดูอ่อนหวานกลายเป็นสีแดงดูขึงขังจริงจัง
     “เปลี่ยนเป็นคนละคนมั้ย?” โซฮาร์หันไปถามโซเรส บุรุษหนุ่มพยักหน้าก่อนจะพูดต่อ
     “แค่เปลี่ยนนิดหน่อย จากคนที่ดูดื้อกลายเป็นคนจริงจังได้อย่างไม่น่าเชื่อ” โซฮาร์ส่งสายตาค้อนพี่ชายของตน ก่อนจะเสหน้ามองออกไปดูวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง

     การสอบเข้าโรงเรียนกษัตริย์แห่งเอโธเปียง่ายกว่าที่คิดไว้หลายขุม เพราะเพียงแค่ทำข้อสอบว่าด้วยเรื่อง ‘กฎหมาย’ ที่ทางโรงเรียนใจดีให้นักเรียนอ่านก่อนเข้าห้องสอบเพียง 5 ชั่วโมง...
     ย้ำนะว่า 5 ชั่วโมง แต่หนังสือกฎหมายมีหมื่นกว่าหน้า!!
     โซฮาร์ได้แต่ปลงตก เธออ่านแต่ประเด็นใจความสำคัญที่ควรออกตามที่พี่ของเธอบอกตอนเดินทางมาเท่านั้น ถ้าไม่ได้พี่ชาย...เธอคงไม่ผ่านด่านนี้ไปได้แน่ๆ
     ด่านที่สองต้องผจญอีกทีนี้เป็นด่านทดสอบความสามารถในการใช้อาวุธและเวทย์มนตร์ โดยทางโรงเรียนจะจับคู่นักเรียนด้วยกันเอง และจะประเมินความสามารถ ใช่ว่าชนะก็จะได้เรียน... ใช่ เป็นคำพูดที่เธอต้องคิดหนัก
     ที่ทางโรงเรียนพูดแบบนี้ แสดงว่าจะดูที่ฝีมือมากกว่ามันสมอง ถ้าเธอชนะด้วยกลโกงเธอก็อาจจะไม่ผ่าน คิดแล้วก็เริ่มปลงตกอีกแล้ว
     โซฮาร์เงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มจะมืดครึ้ม ตอนนี้เธออยู่ในเวทีประลองเรียบร้อยแล้ว และบุรุษที่ได้มาประลองกับเธอนั้นน่ะเหรอ...?
     ดวงตาสีอำพันสวยกำลังพินิจพิเคราะห์หญิงสาวแม่ค้ารายใหญ่อยู่ตรงหน้าราว เส้นผมสีน้ำเงินเข้มคลอเคลียบ่าปลิวไสวตามแรงลม ใบหน้ารูปสลักราวเทพบุตรที่เทพเจ้าจงใจแต่งปั้นมองคู่ต่อสู้ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา
     หญิงสาวผมสีน้ำตาลทองประกายพร้อมกับดวงตาสีแดงสนิทราวกับเลือดตรงหน้านี้ดูคุ้นหน้านัก
     แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะสนใจเท่าใดนัก...เพราะเขาต้องชนะหญิงสาวคนนี้ เพื่อผ่านเข้าไปเรียนให้ได้!
     “จะไม่ชักอาวุธออกมาหน่อยเหรอ?” เสียงหวานใสของคนตรงหน้าเอ่ยเตือน ใบหน้าหวานติดจะออกไปทางขึงขังยิ้มออกมาน้อยๆ แลดูมีเสน่ห์
     “ถามแล้วเงียบเชียว สงสัยนายเป็นผู้ใช้เวทย์สินะ?” ชายหนุ่มพยักหน้าเพียงเล็กน้อย
     “งั้นก็คล้ายๆ กันงั้นสิ...สิ่งที่เหมือนไม่มีตัวตนเหมือนกัน” หญิงสาวหัวเราะตบท้าย
     การสนทนาที่เหมือนกับจะไม่จึงเครียด แต่หากสัมผัสดูดีๆ ไอสังหารกับจิตแผ่ออกมาอย่างไม่ยอมใคร
     สิ้นเสียงสัญญาณ ไอสังหารที่ถูกเก็บอย่างพอประมาณเริ่มปล่อยออกมาเต็มที่ ชายหนุ่มเพียงแค่ร่ายคาถาเพียงครู่เดียวคทาก็มาปรากฏที่มือ ดวงตาสีอำพันยังจับจ้องหญิงสาวที่ยังปล่อยรังสีของไอสังหารออกมาตลอดเวลา
     “ถ้าไม่เริ่ม ฉันก็เริ่มก่อนแล้วกัน!” สิ้นเสียงหวาน ร่างกายที่เคยอยู่ตรงหน้าตลอดได้หายตัววับไป ไร้รอยจิตสังหารและจิตให้ติดตาม ราวกับจงใจปิดเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าอยู่ไหน
     ชายหนุ่มเพียงขมวดคิ้ว รีบร่ายคาถาตรึงอาณาเขตเพื่อกั้นเขตแดนของตนทันที แต่ทันทีที่ร่ายคาถาเสร็จอาการเจ็บปวดก็เริ่มรุมเร้าเข้ามาทันที
     ชายหนุ่มเพียงขมวดคิ้ว ไม่ได้แสดงอาการออกมา มองรอยขีดข่วนรอบตัวที่มีมาได้อย่างไรไม่ทราบ ดวงตาสีอำพันหันไปมองรอบตัว
     ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในอาณาเขตของเขาไม่เคยมีใครรอด!!
     “ขอดลบันดาลให้พายุโหมทะลายลวง!” ชายหนุ่มตะโกนก้อง พายุเริ่มหมุนรอบออกมาทั่วบริเวณ มีเสียงขาดผึงของสิ่งของบางอย่างดังขึ้นดั่งเสียงของสายเปียโนที่ขาด
     “อย่าคิดว่ามีแต่นายที่ใช้เวทย์ได้นะ” โซฮาร์บ่นอย่างหงุดหงิด ร่ายคาถาเรียกคทาที่ซ่อนอยู่ออกมา
     “ข้าแต่เทพเจ้าแห่งสายลม จงดลบันดาลพายุออกมากำจัดเหล่าอริศัตรูของข้า!”
     สายลมปะทะสายลมเป็นวงกว้าง โซฮาร์หรี่ตาลงมองผลสรุปของสายลมที่ปะทะกันอย่างไม่ลดละ ก่อนจะมองขึ้นไปบนฟ้า
     ให้ตายเถอะ...หกโมงเย็นซะแล้ว
     อึ๊ก! ความเจ็บปวดแวบแรกฉายขึ้นมาทันที
     โซฮาร์ใช้คทาขนาดเล็กเสกให้กลายเป็นไม้เท้านำมาค้ำตนเองมิให้ล้มลง ริมฝีปากบางขบเข้าหากันอย่างข่มความเจ็บปวด ดวงตาสีแดงฉานที่เคยแดงอยู่แล้วยิ่งแดงเข้าไปใหญ่
     เธอคงทนไม่ให้กรีดร้อง...ได้อีกไม่นานแล้ว
     โซฮาร์ตัดสินใจร่ายเวทย์มหามนตราครั้งสุดท้าย สร้างม่านหมอกปกคลุมทุกสิ่ง ฝ่าตนเองเข้าไปในดงพายุเพื่อไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
     “เธอ...” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว มองสภาพของหญิงสาวที่หน้าขาวซีด ผมที่เคยสีน้ำตาลทองเริ่มมีผมสีฟ้าน้ำทะเลให้เห็นเป็นระยะๆ หญิงสาวแสดงสีหน้าเจ็บปวดก่อนจะพูดออกมา
     “ช่วยหน่อยนะคะ...ท่าน” คำพูดสุดท้าย ก่อนที่ดวงตาสีแดงฉานจะกลายเป็นสีชมพู และผมกลายเป็นสีฟ้าน้ำทะเลดังเดิม
     “เจ้าหญิงโซฮาร์...”

=w=....
ไร้คำบรรยายกับตอนนี้
เพราะในที่สุดก็มีคนเม้นให้สักที (โอ๊ส)
ไม่ได้เล่นตัวนะคะ แต่อยากจะบอกว่า...
จากนี้ไปสองวันต่อหนึ่งตอนนะ
คือว่าตอนที่กักตุนทั้ง 11 หน้า A4 ของเวิร์ดเนี่ย
มันหมดแล้ว =-="
 Cry
เจอกันใหม่อีกสองวันข้างหน้านะคะ TT

 



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 20/10/52
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-10-2009, 20:59:37 »

อ่า...เม้มๆ นุกดี ต่อไวๆละกัน ^^

พิมโลโด้ ๕๕๕'
Full Member
***
กระทู้: 872


69 แปลว่าหยินหยางนะจ๊ะเด็กๆ


Re: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 20/10/52
« ตอบ #10 เมื่อ: 24-10-2009, 09:51:16 »

     อา...
     โซฮาร์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อปรับให้ชินกับแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามา ก่อนที่ร่างบางจะลุกขึ้น หันซ้ายหันขวาเพื่อมองสภาพห้อง
     ภาพภายในห้องเป็นภาพห้องสี่เหลี่ยมธรรมดา ที่มีเพียงแค่ตู้เสื้อผ้า ตู้หนังสือ โต๊ะเรียน และโต๊ะกระจกเท่านั้น มองไปบริเวณมุมอับใกล้หน้าต่างก็มีห้องเล็กๆ ที่เธอคาดว่าเป็นห้องน้ำ
     นี่คงจะเป็นห้องพักของที่นี่ ดูหรูเกินไปสำหรับอยู่คนเดียวด้วยซ้ำ...
     โซฮาร์มองไปรอบๆ ห้องก่อนจะคิดได้ว่าเหตุการณ์ก่อนสลบเป็นยังไง หญิงสาวรีบจับเส้นผมของตนขึ้นมาดูพบว่าเป็นสีน้ำตาลทอง และเมื่อหันไปมองในกระจกจากเตียงนี่ตาเธอก็เป็นสีแดงดั่งเลือดเหมือนเดิม
     แอ๊ด...
     เสียงเปิดประตูโดยพลการทำให้โซฮาร์ต้องหันไปมองอย่างตำหนิ แต่เมื่อพบว่าคนทีเข้ามาเป็นใครโซฮาร์ก็รีบพูดทันที
     “ขอบคุณมากๆ เลยนะที่ช่วยฉันแถมยังลงเวทย์เปลี่ยนสีผมกับสีตาให้อีก”
     “ไม่เป็นไรฝ่าบาท” เมื่อได้ฟังคำตอบ โซฮาร์ก็เผลอเบะปากอย่างที่ชอบทำกับพี่ชายออกมา
     “เคยบอกแล้วไงว่าไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์” ชายหนุ่มพูดอะไร แต่ย่างก้าวเข้ามาหาโซฮาร์อย่างสุขุม ก่อนจะยื่นแก้วที่บรรจุน้ำสีฟ้าอ่อนให้ร่างบางที่อยู่บนเตียง
     “นี่อะไรน่ะ?”
     “ยาแก้อาการอ่อนเพลีย ทางห้องพยาบาลบอกว่าเธออ่อนเพลียเพราะดันฝืนใช้มหามนตรา” โซฮาร์รับแก้วมาก่อนจะทำหน้าพะอืดพะอำเมื่อได้กลิ่น
     “กลิ่นฉุนจัง”
     “ดื่มเถอะนะ จะได้หายดี” โซฮาร์ทำท่าลังเลชั่วครู่ ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มอย่างรวดเร็ว ความหวานปนเปรี้ยวแล่นเข้ามาในปาก เธอหันไปมองเจ้าของแก้วทันที
     “ขอสูตรได้มั้ย ฉันชอบ อร่อยดี” ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนจะพูดต่อ
     “มันดื่มบ่อยๆ ไม่ดีต่อร่างกายหรอก เพราะร่างกายก็ต้องการการพักผ่อนบ้าง ไม่ใช่พึ่งยา” โซฮาร์เบะปากอย่างขัดใจ คืนแก้วให้เจ้าของ ก่อนจะเริ่มพูดต่อทันที
     “คุยกันมาตั้งนานแล้ว ฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลย” โซฮาร์ถามออกมา เพราะตั้งแต่งานเลี้ยงครั้งก่อน เธอได้ยินแต่กิตติศักดิ์เขา แต่สมองของเธอดันจำชื่อเขาไม่ได้สักที
     “กระหม่อมชื่อรีออส ไดอาโมเร่อ ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าหญิงโซฮาร์อันเป็นที่เลื่องลือ” รีออสกระตุกยิ้มที่มุมปากเพียงน้อยนิด
     “บอกแล้วไงว่าห้ามใช้คำราชาศัพท์”
     “จะพยายาม ว่าแต่ว่า...” รีออสเว้นช่วง ดวงตาสีไพลินจ้องมองร่างบางตรงหน้า
     “พอบอกสาเหตุของอาการเจ็บปวดมาได้ไหมคุณโซฮาร์?”
   
     ใบหน้าหวานที่ต้องตาต้องใจบุรุษเพียงแค่สบตากำลังหรี่ตาลง ดวงตาสีแดงฉานเหมือนเลือดที่เต็มไปด้วยความแค้นกำลังจ้องมองภาพของหญิงสาวที่กำลังทำท่าทางอ้ำอึ้งในลูกแก้ว
     เจ้าหล่อนสะบัดผมสีน้ำตาลทองที่ปรกหน้าตนออกไป หากใครมาพินิจดูลูกแก้วเช่นเดียวกับเธอ คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสาวในลูกแก้วและตัวเธอนั้นเหมือนกันแค่ไหน
     ตระกูลเฟโอเลน่า...ให้กำเนิดลูกสาวคล้ายๆ เธอเลยนี่...
     ร่างบางของสตรีเหยียดกายขึ้น สองตาจ้องมองภาพของสตรีคนหนึ่งที่มีรูปร่างเหมือนเธอทุกประการ หากแต่ดวงตาของสตรีคนนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยความแค้นเหมือนเธอ แต่มันเต็มไปด้วยความอบอุ่น
     คำสาป...ที่บรรพบุรุษของเธอได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายสาปแช่งทั้งอาณาจักรเช่นนี้...ดินแดนเอโธเปีย...
     คงไม่มีใครเชื่อถ้าเธอจะบอกว่าเจ้าของคำสาปเป็นสตรีที่มีแววตาอบอุ่นเช่นนี้?
     หญิงสาวพึมพำเวทย์เสียงเบา พลังสีดำก็ปรากฏขึ้น พลังนั่นมุ่งตรงไปที่อัญมณีสีเขียว สีทอง และสีฟ้าคราม เมื่อแสงสีดำพุ่งเข้าใส่อัญมณีทั้งสามก็ส่องแสงเรืองรอง
      วันนี้หน้าที่ของเธอก็จบลงแล้ว...

     “โรคประจำตัว?” รีออสทวนคำ สายตาจับจ้องไปที่ร่างบางที่ยิ้มหวาน ดวงตาไร้ซึ่งความล่อกแล่ก แต่หากถ้าสังเกตดูดีๆ นิ้วก้อยข้างซ้ายมันกระดกขึ้นแปลกๆ
     “ใช่ ฉันเป็นโรคนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งพออายุเยอะเท่าไหร่ความเจ็บปวดก็จะเพิ่มมากขึ้น” โซฮาร์ปั้นเรื่องขึ้นมาได้อย่างหน้าตาเฉย ซ้ำร้ายยังแสดงสีหน้าออกมาอย่างที่ควรจะเป็น นี่แหละหนา ผลของการแอบไปเที่ยวจึงต้องแสดงละครตบตาบ่อยๆ
     ทำไมคนอย่างโซฮาร์จะไม่รู้เรื่องคำสาปล่ะ เธอรู้ดีมากจนบอกใครไม่ได้ต่างหาก เพราะคนเขาคิดว่านี่เป็นนิทาน หนำซ้ำยังเป็นนิทานที่เกือบจะหายสาบสูญไปเสียแล้วด้วยซ้ำ
     และที่สำคัญ...ทำไมเธอต้องมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนที่เพิ่งเจอกันด้วยล่ะ?
     “เธออย่าโกหกฉันดีกว่านะ” รีออสยิ้มที่มุมปาก มือหนาของเขายกขึ้นมาลูบหัวของร่างบาง โซฮาร์ปัดมันออกอย่างขัดใจ
     “ฉันไม่ได้โกหก นายดูสีหน้าสิ สีหน้าแบบนี้เป็นสีหน้าของคนโกหกเหรอ” โซฮาร์แกล้งยื่นหน้าเข้าใกล้รีออส แต่ไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่อรีออสไม่ได้หน้าแดงอย่างที่เธอคาด
     “คำสาป...ใช่มั้ย?”
     ดวงตาสีแดงฉานชะงักไปชั่วครู่ โซฮาร์นั่งเหยียดหลังตรง ปัดผมสีน้ำตาลทองที่แสนเกะกะออกพ้นใบหน้า แต่หากว่าปัดเท่าไหร่มันก็ดั่งเหมือนมีคนแกล้งให้ลมพัดปลิวมาโดนหน้าทุกที โซฮาร์จึงเริ่มอารมณ์เสีย
     “รอก่อนนะ” โซฮาร์เดินไปเปิดกระเป๋าที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เพื่อหาที่คาดผมประดับดอกไม้มาคาดผม ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ อารมณ์ดีเพราะไม่มีผมมารบกวนใบหน้า
     “นายพูดถึงอะไรกัน? คำสาปงั้นเหรอ?” โซฮาร์ทวนคำอย่างขำๆ แต่หากจับสังเกตดีๆ นิ้วก้อยข้างซ้ายของเธอเย็นยะเยือกไปเสียแล้ว
     ดวงตาสีอำพันสวยจ้องมองใบหน้าของเจ้าหญิงคนงาม ก่อนจะกระตุกยิ้มออกมาทำให้สีหน้าของร่างบางแดงระเรื่อเพียงวูบเดียว มือหนาของรีออสยกมือซ้ายของเจ้าหล่อนมา พร้อมกับลูบบริเวณนิ้วก้อยที่เย็นยะเยือก
     “วันนี้ฉันจับการโกหกของเธอได้ หวังว่าคราวหน้าคงจะไม่ถูกจับง่ายแบบนี้” ชายหนุ่มปล่อยมือออก เดินไปที่ประตู ก่อนจะหันกลับมาพูดอีกที
     “พรุ่งนี้จะมีการคัดเลือกหอช่วงบ่ายที่ด้านล่าง” รีออสกระตุกยิ้มอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวหน้าแดงออกมา
     มีคนบอกหมอนี่มั้ยว่ายิ้มแล้วดูดีน่ะ!!



ของ "สำคัญ" ที่แท้จิงเนี่ย...
คนที่ไม่มีกลับรู้ค่า กว่าคนที่มีในครอบครองซะอีก...

/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: [หัดแต่งค่ะ] Athopia of Curse คำสาปร้ายแห่งเอโธเปีย อัพเดท 20/10/52
« ตอบ #11 เมื่อ: 24-10-2009, 09:57:04 »

มาก่อนอ่านก่อน อิอิ^^

ป้าย: นิยาย แฟนตาซี แก้เครียด 
หน้า: [1]