Else World - Project ONE #2 (Fan Fiction)

อย่าลืมอ่านภาคแรกกันก่อนนะคะ - -/
index_t20606.0.html

คราวนี้จะเป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆของ Else World นะคะ
1.เรื่องของสองทวีป
ทวีปในโลกของ ProjectONE ถูกแบ่งออกเป็นสองทวีปใหญ่คือ ทวีปทางเหนือ และ ทวีปทางใต้ โดยทั้งสองนั้นมีจุดเชื่อมต่อเป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีเกาะกั้นกลาง

หลายคนที่เคยดูแผนที่ คงเคยสงสัยใช่มั้ยคะว่า

"ทำไมพวกซอร์เรี่ยนถึงถูกหยุดได้เพียงแค่กำแพงยักษ์ที่กั้นแบ่งทวีปทางใต้ ?"

ทั้งๆที่ถ้าเราดูแผนที่กันจริงๆแล้วจะพบว่า แค่สร้างเรือแล้วล่องเรือข้ามมหาสมุทรมาก็สามารถยกพลขึ้นฝั่งทวีปทางใต้ได้สบายๆ ?
จากบรรยายเมืองในตอนที่แล้วจะสังเกตได้ว่า แทบไม่มีเมืองไหนที่มีการบรรยายพูดถึงท่าเรือน้ำลึกเลย(ยกเว้น Western Fort) ทั้งนี้ก็เพราะว่าในโลกของ ProjectONE นั้นท้องทะเลเปิด จะเต็มไปด้วยพายุที่รุนแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณมหาสมุทรตรงกลางระหว่างสองทวีปนั้น มีพายุหมุนใหญ่ที่เล่ากันว่าใหญ่โตกว่าเมืองเมืองหนึ่งคอยหมุนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการจะเดินทางข้ามทะเลระหว่างสองทวีปนอกจากจะผ่านทางช่องแคบทางตะวันตกแล้วจึงไม่สามารถเป็นไปได้เลย

มีข่าวลือ(ตั้งใจว่าถ้าอยู่ต่อจะใช้เป็นพลอตเดินเรื่อง)ว่าพวกซอร์เรี่ยนกำลังค้นคว้าอย่างหนักเพื่อหาเทคโนโลยีที่ดีพอที่จะทำให้พวกมันสามารถข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่และผ่าพายุบุกลงชายฝั่งตอนเหนือของทวีปทางใต้ให้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข่าวลือที่ว่านี้ก็ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ดังกันปากต่อปากจากเหล่านักเดินทางที่กลับมาจากแดนทางเหนือ

2.อาณาจักรแองเจลเลียตะวันออก
เนื่องด้วยแองเจลเลียเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ และอยู่มาอย่างยาวนานกว่า 500 ปี ประกอบกับศาสนาเอวาเลี่ยนนั้นบูชาเอลฟ์ สถาปัตยกรรมของอาณาจักรแองเจลเลียก็เลยออกไปในทางรูปแบบสิ่งก่อสร้างโบราณของชาวเอลฟ์ที่พบได้ประปรายตามป่าเขาและพื้นที่รกร้างในทวีป
ส่วนมากจะเป็นปราสาทหิน หอคอยและวิหาร รวมไปถึงการแกะสลักภูเขาทั้งลูกให้เป็นปราสาท มีรูปปั้นใหญ่ยักษ์ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าทั้งสี่ อิกนัส อควา เทอร์ร่า และ เวนทัส
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่วนมากในฝั่งตะวันตกจะถูกทำลายทิ้งไปเกือบหมดโดยพวกซอร์เรี่ยน และ ชาวจักรวรรดิที่มาภายหลัง แต่จะยังคงพบเห็นได้ในฝั่งตะวันออก

ชาวตะวันออกเป็นพวกหัวอนุรักษ์นิยม ไม่ต้อนรับเทคโนโลยีใหม่ๆ การแต่งกายจะดูค่อนข้างโบราณกว่าชาวจักรวรรดิมาก พวกเขาจะยังใช้เครื่องมือที่ทำจากหินและเหล็กเหมือนโบราณ แต่จุดเด่นของฝั่งตะวันออกก็คือเรื่องความเจริญก้าวหน้าด้านเวทมนตร์และการบูชาเทพเจ้าทั้งสี่ที่พวกเขาทำได้ดีมาก

อาณาจักรตะวันออกยังคงปกครองด้วยระบอบศักดินาโบราณ มีเจ้าผู้ครองปราสาทเป็นขุนนางคอยปกครองท้องที่แต่ล่ะแห่ง ซึ่งบางครั้งก็แย่งชิงตำแหน่งและเข่นฆ่ากันเองโดยมีกษัตริย์เลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือห้ามปรามก็ได้

ศาสนจักรเอวาเลี่ยนมีอำนาจมาก ทำให้นักบวชถูกเคารพดุจตัวแทนเทพเจ้า มีอำนาจสั่งเป็นสั่งตาย และกษัตริย์หรือเจ้าผู้ครองปราสาทเองก็ต้องยอมเคารพและเชื่อฟังนักบวช อีกทั้งสันตะปาปายังเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจคัดเลือกกษัตริย์องค์ต่อไปอีกด้วย

สำหรับอาณาจักรตะวันออกนั้น , จักรวรรดิคือศัตรูร้ายของพวกเขา ด้วยความแค้นหลังเหตุปฏิวัติใหญ่และการหักหลังเชื้อพระวงศ์ของจักรพรรดิไรซ์ที่ 1 ทำให้แม้จะไม่มีการประกาศสงครามอย่างออกตัวแต่อาณาจักรตะวันออกก็ถือว่าจักรวรรดิเป็นศัตรู บ่อยครั้งที่อาณาจักรตะวันออกจะจ้างเหล่าโจรสลัด หรือ ทหารรับจ้างชาวนัล ที่ไร้ศีลธรรมให้ออกปล้นสะดมหรือก่อความไม่สงบตามบริเวณชายแดนฝั่งตะวันออกอยู่เสมอๆ

3.จักรวรรดิซอร์เรี่ยน
เป็นจักรวรรดิที่มีอายุยาวนานย้อนหลังไปนานนับพันปี , ชาวซอร์เรี่ยนเชื่อว่าตัวเองคือผู้สืบสายเลือดจากเผ่ามังกรโบราณที่ปัจจุบันได้สูญหายไปจากโลกแล้ว

ชาวซอร์เรี่ยนแบ่งเป็นสามชนชั้นตามแต่ลักษณะของเผ่าพันธุ์หลักอันได้แก่
3.1 ครอกโคเดี้ยน
เป็นซอร์เรี่ยนที่สติปัญญาต่ำ มีแต่พละกำลัง มักถูกใช้ในงานแรงงาน เป็นทหารเดนตายในแนวหน้า พวกครอกโคเดี้ยนมีชีวิตอยู่ไปวันๆ เพื่อตอบสนองความอยากพื้นฐาน เพียงแค่มีอาหารให้พวกมันก็พร้อมจะทำตามคำสั่งทุกอย่าง

3.2 ลาเซอร์เตี้ยน
เป็นซอร์เรี่ยนที่พอมีสติปัญญาบ้าง พวกนี้สามารถยืนได้เกือบตัวตรง มีนิสัยป่าเถื่อนดุร้าย ลาเซอร์เตี้ยนนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องมนต์ดำเพราะพวกมันบูชาเทวีอาทรัมด้วยการบูชายัญ แม้แต่ในหมู่ซอร์เรี่ยนเองก็ยังรู้สึกว่าลาเซอร์เตี้ยนนั้นป่าเถื่อนและโหดเหื้ยม
สำหรับในกองทัพนั้น ลาเซอร์เตี้ยนจัดได้ว่าเป็นทหารชั้นยอดในเรื่องของการใช้อาวุธระยะประชิด การรอบเล้นแฝงกายแทรกซึมเข้าแดนศัตรู และการโจมตีแบบมีกลยุทธ์
โดยมากจะพบลาเซอร์เตี้ยนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งทวีปทางเหนือ และทางใต้ในบางจุด โดยมากจะพบลาเซอร์เตี้ยนอิสระที่ อาศัยอยู่แบบชนเผ่า

3.3 ซอร์เรีย
เป็นซอร์เรี่ยนที่มีจำนวนมากที่สุด และเป็นประชากรหลักของจักรวรรดิ ซอร์เรี่ยนพวกนี้เป็นพวกเดียวที่สามารถยืนได้ตัวตรงบนสองขาหลัง และมีสติปัญญาไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์เลย
ซอร์เรียเป็นซอร์เรี่ยนจำพวกเดียวที่สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดทั้งตัว พวกเขามักจะแต่งกายด้วยเสื้อที่ย้อมด้วยสีม่วงหรือดำดั่งความมืดของอาทรัมเทวีผู้ให้กำเนิดพวกเขา และมีขลิบหรือขอบสีทองคำประดับอยู่ตามเสื้อเหล่านั้น
วิทยาการของซอร์เรียนั้นก้าวหน้ากว่ามนุษย์มาก และเป็นพวกแรกที่ริเริ่มการใช้ปืนไฟในการสงคราม

ว่ากันว่าซอร์เรียอาศัยอยู่ในเมืองที่ถูกขุดลึกลงไปใต้ดินเพื่อหนีอากาศที่หนาวทารุณของทวีปทางเหนือ และใช้พลังงานหล่อเลี้ยงเมืองจากความร้อนใต้พิถพ

ชาวซอร์เรี่ยนมีความเชื่อฝังหัวว่าตัวเองคือเผ่าพันธุ์ที่ดีเลิศที่สุด สมควรจะได้ปกครองโลกใบนี้ เป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่ได้รับสืบทอดสายเลือดแห่งมังกรอันยิ่งใหญ่ มีหน้าที่จะต้องปกครองและควบคุมเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่าและป่าเถื่อน พวกซอร์เรี่ยนจึงออกล่าอาณานิคมนับตั้งแต่ช่วงอรุณแห่งจักรวรรดิซอร์เรี่ยน

จุดอ่อนเดียวของซอร์เรี่ยน โดยเฉพาะซอร์เรียก็คือ พวกเขาให้กำเนิดลูกออกมาเป็นไข่ และไข่นั้นจำต้องได้รับการดูแลอย่างดีเป็นเวลานานหลายอาทิตย์ อีกทั้งเพราะซอร์เรี่ยนมีอายุขัยเฉลี่ยราว 300 ปี และกว่าจะสามารถเริ่มมีลูกได้ก็ต้องเข้าช่วงวัยรุ่นซึ่งกินเวลาถึง 50 ปี ทำให้ซอร์เรี่ยนนั้นมีปัญหาในเรื่องการเพิ่มประชากร

วันนี้ขอเอาเท่านี้ก่อนนะคะ ง่วงล่ะ เอาไว้คราวหน้าจะมาเก็บๆของที่ตกๆเหลือๆ กับดองนิยายต่อ