GAMEINDY: Asura Online
หน้า: [1]
ผู้เขียน หัวข้อ: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์  (อ่าน 799 ครั้ง)
Laurenz Lycablood
Jr. Member
**
กระทู้: 373



[FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« เมื่อ: 16-07-2008, 14:16:18 »

นิยายแต่งเอง Smiley

ก่อนอื่นก็....

คำเตือน : ผู้ใดทำการลอกเลียน เลียนแบบ ก็อปปี้ ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความนี้โดยมิได้กล่าวหรืออ้างอิงหรือขออนุญาตถึงผมผู้เป็นเจ้าของบทความ และนำไปใช้หาผลประโยชน์ในทางทรัพย์สินหรือการเงินและธุรกิจ จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย

....ฝนตกลงมาแล้ว....

....สายลมหวีดหวิว ดังก้องสะท้านไปทั่วผืนหญ้ากว้าง....

....คบเพลิงร้อนค่อยๆมอดดับ ด้วยวารีจากฟากฟ้า....

....ฝน คอยทำหน้าที่ชำระล้างผืนโลกที่เปรอะเปื้อน....

....เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่....

....ดั่งเพลงบรรเลงเปิดแห่งพงไพร....


Song of the Wild

เป็นเวลานานมาแล้ว ในทวีป Aeon ที่สิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ มนุษย์หลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ในทวีปแห่งนี้ ทั้งเผ่าพันธุ์ที่เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานในดินแดนอันรกร้างเป็นผู้แรก

เช่นดราโกนอยด์ที่มีร่างกายเป็นครึ่งสัตว์เลื้อยคลาน หรือเผ่าที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติตามครรลองอย่างสไปรท์

หรือแม้แต่มนุษย์ที่พัฒนาอารยธรรมและเทคโนโลยีของตนยิ่งขึ้นไป เหล่าสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ล้วนดำเนินไปตามเส้นทางของตน ดั่งโน้ตเพลงที่อยู่ในบรรทัดเสียงอันไร้สิ้นสุด เกิดเป็นเพลงที่ไพเราะและงดงาม

หากแต่ไม่ใช่ว่าความสงบสุขจะคงอยู่ตลอดกาลนาน

ความบาดหมางระหว่างมนุษย์และเผ่าอื่นๆ มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ จนความเป็นมิตรที่เคยมีอยู่ พลันหายไปจนหมด

เหล่ามนุษย์ แยกตัวเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าต่างๆในที่สุด เหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย ที่ถูกกันออกจากกลุ่มของพวกมนุษย์ ถูกเรียกรวมๆ ว่าวอเรียน (Wuarian) อันเป็นคำกล่าวแช่งในภาษามนุษย์หมายถึงผู้เป็นเดรัจฉาน

เป็นครั้งแรกที่สงครามเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในรอบ 500 ปี

และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหลาย ที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้...

สถานะ : กลับมาเล่นใหม่ ยังงงๆวุ้ย
Laurenz Lycablood
Jr. Member
**
กระทู้: 373



Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #1 เมื่อ: 16-07-2008, 14:18:15 »

สายลมพัดผ่านข้ามทุ่งหญ้าแห่งผืนไพรใหญ่ เสียงใบไม้เซ็งแซ่ดังขึ้นเป็นระยะๆตามจังหวะลมแรง ท้องฟ้าไร้เมฆาเต็มไปด้วยเหล่าดาราและส่องสว่างด้วยจันทร์เพ็ญสีนวล จนทำให้ผืนป่าเงียบสงัดนี้ ดูสว่างไสวในยามค่ำคืน

นอกจากแสงดาวและแสงเดือนแล้ว ยังคงมีอีกสิ่งที่ทำให้ไพรใหญ่สว่างขึ้น มันคือคบเพลิงที่อยู่ในมือของมนุษย์จำนวนนับสิบ ในมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือคบเพลิงนั้น เต็มไปด้วยอาวุธนานาชนิด ทั้งดาบ หอก ขวาน และเท่าที่หาได้ พวกเขาเดินทางอย่างเงียบเชียบ ไร้ซุ่มเสียงใดๆ ราวกับกลัวว่าจะมีผู้ใดรับรู้

ก่อนที่พวกเขาจะหยุดลงที่หน้ากระท่อมเล็กๆแห่งหนึ่ง...

และตามมาด้วยเสียงโหยหวนและกลิ่นคาวเลือด...
........................


Diary Book 1 : Part 1
First met



แซ่กๆๆ!

ขาน้อยๆเร่งก้าวออกวิ่งเท่าที่ร่างกายอันบอบช้ำจะสามารถทำได้ ร่างเล็กๆของฉันก้าวเดินอย่างทุลักทุเล บาดแผลน้อยใหญ่ที่อยู่ตามตัวมีทั้งรอยฟกช้ำ แผลถูกฟัน และอีกเกินจะกล่าวหมด ทิ้งรอยโลหิตไว้เป็นทาง ตามทิศที่ก้าวออกไป

ในที่สุด ฉันก็ล้มลงอย่างหมดแรง ลมหายใจหอบถี่อย่างรวยริน โลหิตไหลรินเป็นสายน้ำ พร้อมๆกับดวงตาที่ใกล้จะปิดลง แม้ฉันจะพยายามอย่างไร แต่ร่างกายของฉันนั้นก็ถึงขีดจำกัดเสียแล้ว ภาพที่เห็นรอบด้านเริ่มค่อยๆมืดลง พร้อมๆกับสติที่เลือนรางจนใกล้จะหายไป

ในขณะที่ฉันมองไม่เห็น หรือไม่รู้สึกสิ่งใดอีกแล้ว ฉันได้ยินเสียงหนึ่งเรียกฉันอยู่ห่างๆ

“นี่!  เป็นอะไรหรือเปล่า!?”
........................

ฉันกระพริบตาปริบๆเมื่อตื่นขึ้น และมองเห็นเพดานที่ทำจากไม้สีน้ำตาลเป็นอย่างแรก ตามด้วยการขยี้ตาตนเองเพื่อดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าฉันไม่ได้ดูผิด พลางเค้นความทรงจำเท่าที่จำได้ว่าตัวเองมาที่นี่ได้อย่างไร แต่มันก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี เมื่อฉันนึกอะไรไม่ออก นอกจากเสียงที่เรียกฉันในตอนสุดท้าย

บางทีฉันคงถูกช่วย และพามาที่นี่โดยไม่รู้ตัวกระมัง...

เมื่อคลายข้อสงสัยได้แล้ว ฉันจึงเริ่มสำรวจตัวเองและรอบๆ ฉันเริ่มมองไปรอบๆห้องที่ฉันอยู่เพื่อสำรวจว่าฉันอยู่ที่ไหน มันเป็นห้องที่ทำด้วยไม้ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีโต๊ะและเก้าอี้อย่างละตัวตั้งอยู่ห่างจากเตียงที่ฉันนอนไม่มากนัก มีหน้าต่างสองบานที่เปิดให้ลมผ่านเข้าออก ฉันมองไปรอบๆ จนมาสะดุดอยู่ที่กระจกเงาบานหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้อง

สิ่งที่ฉันเห็นคือร่างของฉันซึ่งเป็นลูกมนุษย์หมาป่าขนสีครามตัวเล็กๆ ที่สภาพเหมือนลูกสุนัขที่โดนยัดอยู่ในก้อนผ้าพันแผลและผ้าห่ม ดวงตาสีแดงเหมือนทับทิมจ้องตอบฉันกลับมาอย่างสงสัย

 ด้วยความฉงนใจว่าฉันบาดเจ็บแค่ไหน ฉันจึงขยับแขนและขาเพื่อเช็คว่าพวกมันยังอยู่ดี

ความรู้สึกเจ็บเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อฉันออกแรงเกร็งแขนของตัวเอง ทำให้ฉันชะงักกึก แผลถลอกมากมายตามตัวทำให้ขนสีน้ำเงินครามของฉันหายไปเป็นหย่อมๆ ดูน่าเกลียดซะไม่มี แถมนอกจากแผลถลอกที่แสบๆคันๆเหล่านี้ ฉันยังรู้สึกปวดเมื่อยหลังของตัวเองมากๆ ซึ่งทำให้ฉันพอจะเอาได้ว่าฉันคงไม่ได้มานอนอยู่บนเตียงนี้แค่วันหรือสองวันแน่ๆ

สิ่งที่ฉันเริ่มทำต่อทันที ก็คือลุกขึ้นนั่ง เพื่อหวังจะให้อาการปวดหลังคลายลงบ้างซักหน่อย

ทันทีที่ออกแรงยันตัวขึ้น ความเจ็บปวดที่ค่อยๆถาโถมเข้าสู่ร่างกายของฉันแปลบๆ บวกด้วยการถูกพันด้วยผ้าพันแผลและผ้ากอซเต็มไปหมด ทำให้ฉันรู้สึกรำคาญใจอย่างเป็นที่สุด เพราะฉันแทบจะขยับตัวได้ลำบากเหลือเกิน

...ไอ้บ้าหน้าไหนฟะ...ทำแผลได้ห่วยแตกชะมัด

ฉันคิด และเริ่มจินตนาการหน้าของคนที่พันแผลให้ฉันไปต่างๆนาๆ...

แอ๊ด...

แต่ก่อนที่ฉันจะเริ่มนึกไปได้ไกล เสียงประตูห้องลั่นขึ้นเบาๆ และบานประตูก็ค่อยๆเปิดออก พร้อมกับร่างที่เล็กพอๆกับฉันเดินเข้ามาในห้อง เธอเป็นมนุษย์จิ้งจอกตัวน้อยๆ ขนสีน้ำตาลแดง ไว้ผมยาวสีทองถึงกลางหลัง หน้าตาคงจะน่ารัก...ถ้าตอนนี้เธอไม่ได้ทำหน้าบูดบึ้งราวกับโมโหหรือรำคาญอะไรซักอย่าง

จิ้งจอกน้อยถือสิ่งหนึ่งมาพร้อมกับเธอด้วย มันคือกระบะน้ำใบใหญ่เกินตัวเธอ ซึ่งบรรจุน้ำอยู่เต็ม ดูจากท่าทางของเธอแล้วคงต้องใช้แรงกายอย่างมากในการยกมันมาที่นี่ จิ้งจอกน้อยแบกมันมาวางบนโต๊ะในห้องอย่างทุลักทุเล โดยไม่ได้สนใจฉันที่นั่งมองอยู่ ก่อนที่เธอจะสบถออกมาด้วยเสียงดังฟังชัด

“...ทำไมฉันจะต้องมานั่งดูแลเจ้าหมาฟ้าตัวนี้ด้วยนะ...”

แล้วเธอก็หยิบผ้าขนหนูในอ่างมาบิด ตามด้วยหันขวับมาที่ฉัน พร้อมๆกับดวงตาสีเขียวของเธอและดวงตาสีแดงของฉันประสานกัน

มันกลายเป็นความเงียบขึ้นทันทีทันใด จิ้งจอกน้อยดูจะอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเธอเห็นว่าฉันไม่ได้หลับอยู่ ฉันเองก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ได้แต่ยิ้มบางๆที่มุมปากอย่างอดขำไม่ได้กับท่าทางเหวอๆ ของเธอ

และแล้วก็เป็นเธอที่ทำลายความเงียบก่อน

“…เอ่อ...ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่...?” เธอถามด้วยสีหน้าตื่นๆ ฉันหัวเราะนิดๆ ก่อนจะตอบกลับไป

“ก็นานพอจะได้ยินเธอบ่นนั่นแหละ”
------------------

ฉันชื่อลอเรนซ์ ลูน่าเรซ ไลก้าบลัด

ฉันเป็นวูล์ฟแฟรม(Wolffram) เผ่าสมิงรูปร่างคล้ายหมาป่ายืนสองขา หรือที่ชาวมนุษย์มักเรียกเรารวมๆกับเผ่าอื่นๆอย่างดูแคลนว่า วอร์เรียน

และชาวมนุษย์เช่นกันนี่เอง ที่ทำให้ท่านพ่อและแม่ของฉัน... ทำให้ทั้งสองต้องตาย และทำให้ฉันต้องพลัดพรากจากน้องชายของฉัน

และขณะนี้ ที่นี่ ที่ๆฉันอยู่คือหมู่บ้านไลก์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าใหญ่ ฉันมาอาศัยอยู่ที่นี่ได้หลายเดือนแล้ว หลังจากที่บ้านของครอบครัวของฉันกลางป่า โดนมนุษย์บุกเข้าทำลาย

ฉันที่หนีหัวซุกหัวซุนอย่างไร้ทิศทาง ล้มลงข้างๆตัวหมู่บ้านในขณะที่จิ้งจอกน้อยผู้อยู่ตรงหน้าตอนนี้กำลังเดินตากลมอย่างสบายอารมณ์อยู่พอดี ฉันจึงกึ่งถูกแบกถูกลากเข้ามารักษาตัวในหมู่บ้านได้ทันก่อนจะสิ้นลมไปจริงๆ

นับว่าโชคดีที่วิ่งจนหนีมาถึงที่นี่ได้

จิ้งจอกน้อยผู้มีพระคุณของฉันเธอชื่อ เฟร่า ฮาวด์ สตาร์ฟอล เธอเป็นมนุษย์จิ้งจอกหรือฟอเซีย(Foxia) อันเป็นเผ่าสมิงที่รูปร่างเป็นกึ่งๆสุนัขจิ้งจอก เฟร่ามีขนสีแดงน้ำตาลและผมสีทองสยายยาวเป็นเอกลักษณ์ และเมื่อขนและผมของเธอสะท้อนกับแสงแดดก็จะเปล่งประกายสวยงามจนติดตา ต่างจากฉันที่มีขนฟ้าอ่อนเกือบขาว และผมสีน้ำเงินเข้มอันไม่ใช่ลักษณะของชาวสมิงทั่วไป

ด้วยฉันไม่มีที่อยู่และที่พึ่งพิง ท่านเรวิส หัวหน้าหมู่บ้านไลก์ พ่อของเฟร่า จึงอาสาที่จะเลี้ยงดูฉันด้วยตนเอง

และด้วยเพราะว่าฉันนั้นเป็นเพียงคนนอกแถมยังมีขนสีประหลาดไม่เหมือนคนอื่น ฉันจึงมักมีเรื่องกับเด็กในหมู่บ้านเป็นประจำอยู่เนืองๆ

และเมื่อเกิดเรื่อง คนที่จะทำแผลให้ฉันทุกครั้งก็คือเฟร่า

"นี่ อยู่นิ่งๆสิ ชั้นทำแผลไม่ถนัดนะ!"

ใครมันจะอยู่นิ่งๆได้ ในเมื่อจิ้งจอกแดงไม่มีการยั้งมือแม้แต่นิด เห็นตรงไหนมีแผลก็กดยาทาลงไปเต็มแรงจนฉันร้องจ้าก แถมดูเธอจะไม่ค่อยสนใจเสียงของฉันเอาเสียเลย

อีกครั้งที่ฉันทะเลาะกับคนในหมู่บ้าน คราวนี้เจ้าตัวคู่กรณีเป็นเจ้ากริเซอร์ ไกรด์ เจ้านั่นเป็นเด็กที่ตัวใหญ่ที่ตัวใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านแถมยังแข็งแรงไม่น้อยเพราะเป็นสมิงเผ่าบาเรย์(Baerey)ที่มีลักษณะออกไปทางหมี ฉันจึงได้แผลกลับมามากกว่าปกติบวกกับรอยฟกช้ำดำเขียวมากมาย

ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับหมอนั่นนักหรอก เพราะมันชอบทำตัวเป็นอันธพาลประจำหมู่บ้านอยู่แล้ว ถ้ายุ่งเกี่ยวกับมันจะมีปัญหาเยอะ ถ้าหากว่ามันไม่หันมาแขวะถึงพ่อกับแม่ของฉันเสียก่อน

เพียงแค่สามคำเท่านั้นที่มันด่าว่าพวกท่าน ฉันก็พวกว่าคมเขี้ยวของฉันงับเข้าที่แขนของมันเข้าจมเขี้ยวให้เสียแล้ว

หลังจากช่วงการทำ(ทรมาณทรกรรม)แผล ฉันจึงหายใจอย่างทั่วท้องอีกครั้ง ผ้าพันแผลมากมายที่ถูกพันนั้นทำให้แผลดูเรียบร้อยและสะอาดตา แต่ก็ยังรัดแน่นจนขยับตัวได้ลำบาก

"เรื่องจริงๆ" จิ้งจอกน้อยเอ่ยบ่นพลางถอนหายใจอย่างเสียมิได้ "คิดยังไงไปฟัดกับเจ้าหมีนั่น นายก็รู้ว่ามันนิสัยอันธพาลแถมยังโมโหร้ายแค่ไหน ดีนะที่จบแค่แผลเหวอะ"

"ชั้นก็ไม่ได้คิดจะยุ่งกับมันนี่ มันยุ่งกับฉันก่อน" ฉันเถียงกลับด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ยังคุกกรุ่น "ถ้ามีใครมาว่าท่านเรวิสให้เธอได้ยินเหมือนกับที่มันว่าพ่อชั้น เธอจะโมโหมั้ย...โอ๊ย!"

ฉันยังไม่ทันจะพูดจบเฟร่าก็บีบแผลยาวตรงแขนของฉันอย่างแรงจนฉันต้องสงบปากสงบคำ ดวงตาสีเขียวมองหน้าฉันอย่างโมโหๆและขุ่นเคือง ทำให้ฉันต้องหลบสายตาเธอและเงียบลง เฟร่าติดนิสัยใจร้อนและทำอะไรเอาแต่มาจากท่านเรวิส จิ้งจอกน้อยมักหงุดหงิดกับเรื่องง่ายๆ อย่างเช่นการขัดใจเล็กๆน้อยๆ หรือการไม่เชื่อฟัง และการที่ฉันเถียงเธอกลับไปเมื่อกี้ก็ทำให้เฟร่าดูจะหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว

ฉันเลียแผลตัวเองที่เลือดซิบแผล่บๆ ขณะที่เฟร่าเริ่มเทศนาฉันต่อ

เอาเถอะ หวังว่าวันพรุ่งนี้คงจะไม่เจอเรื่องเจ็บหนักแบบนี้อีกนะ...
...
ขอเปิดเรื่องส่วนแรกด้วยการเล่าชีวิตประจำวันก่อนละกัน งิ ต่อไปเราจะได้พบกันว่าหมู่บ้านไลก์สงบสุขเพียงใด

สถานะ : กลับมาเล่นใหม่ ยังงงๆวุ้ย
What Time is it....
Hero Member
*****
กระทู้: 5,137


นามเดิม SLEEP...zzzZZZ


เว็บไซต์
Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #2 เมื่อ: 16-07-2008, 14:48:26 »

    หนุกดีคับ ถ้ามีรูปประกอบไปด้วยเป็นตอนๆก็จะสนุกไปอีกแบบ^^"   
    เฟร่า ฮาวด์ สตาร์ฟอล คงจะเป็นจิ้งจอกในรูปที่ถือธนู
    ส่วนลอเรนซ์ ลูน่าเรซ ไลก้าบลัด คงเป็นหมาที่ถือดาบ Smiley  (ในความคิดผม)     
   
   

    index_t8437.75.html

Who am I...?
นามใน Asura - คิล(คิว)
นามบุพการีตั้งให้ - ป๊อป
แล้วแต่จะเรียก ตามสะดวกครับ ^^

Status:ออนได้แต่บอร์ด

พวกคุณบางคนบอกว่าเกลียดการล่าแม่มด
นั่นเป็นเพราะว่าคุณเป็นคนถูกล่ามาตลอด
แต่พอคุณได้เป็นผู้ล่าบ้าง
ก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับคนที่คุณเกลียดเลย



matic
Laurenz Lycablood
Jr. Member
**
กระทู้: 373



Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #3 เมื่อ: 16-07-2008, 15:30:57 »

ทายถูกด้วย  Shocked

สถานะ : กลับมาเล่นใหม่ ยังงงๆวุ้ย
-[Elixir]-
Asura Special
Hero Member
***
กระทู้: 2,000

[The best Dammn thing!!!~]


Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #4 เมื่อ: 19-07-2008, 18:25:45 »

มาช่วยโฟมขุด  สู้ๆนะ (อยากได้ภาพประกอบ >,,<")
 
ลำบากหน่อยนะ บอร์ดมันแก้ไขไม่ได้น่ะ

(ทำระบบไร้สาระจริงๆ เฮ้อเซ็ง)

Laurenz Lycablood
Jr. Member
**
กระทู้: 373



Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #5 เมื่อ: 21-07-2008, 10:49:13 »

แสงแดดร้อนจ้าของยามสาย ส่องผ่านร่องหลังคาฟาง ตกกระทบบนหน้าของฉันซึ่งมองผ่านร่มเงาหลังคาออกไปข้างนอก ต้นไม้ผลัดใบเขียวสะท้อนกับแสงแดดดูสวยงาม แต่ไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของฉันที่แย่ลงเพราะความเบื่อ ดีขึ้นเสียเท่าไหร่นัก

โป๊ก!

แต่แล้วสิ่งหนึ่งก็กระแทกข้างขมับของฉันเข้าอย่างจัง สิ่งนั้นมีรูปร่างเป็นทรงกระบอกยาวอันเล็กๆสีขาว

มันคือชอล์ค....

"นี่ไม่ใช่วิชาพฤกษาศาสตร์นะ ลอเรนซ์ ไลก้าบลัด ถึงจะได้มานั่งสังเกตต้นไม้"

และผู้พูดตรงหน้าคือหมาป่าขนสีทรายผู้ใส่แว่นตา
........................


Diary Book 1 : Part 2
Eye-glasses wolf


หลังจากเมื่อวานที่ฉันพบศึกหนักระหว่างหมีกับหมา ร่างกายของฉันยังไม่หายดีนัก แต่ฉันก็กึ่งโดนบังคับให้มาทีนี่ เหมือนกับตัวอื่นๆ

ที่นี่คือโรงเรียน...ไม่สิ ต้องเรียกว่ามันเป็นกระท่อมไม้ที่ถูกทำไว้ลวกๆเพียงแค่เป็นร่มเงา และมีกระดานดำแผ่นใหญ่ตั้งเอาไว้พร้อมกับกันสาดสำหรับนั่งง่ายๆ เป็นที่ที่เดียวที่ชาวบ้านทุกบ้าน ส่งลูกหลานมานั่งหาความรู้ กับครูตัวเดียวในหมู่บ้าน รวมถึงฉันที่ไม่วายถูกท่านเรวิสส่งมาเป็นเพื่อนเฟร่าอีกตัว

ส่วนเขาตัวนี้ ผู้กำลังทำหน้าที่เป็นครูให้กับทั้งหมู่บ้านคือ เดคิน โบการ์ด สตาร์ฟอล..

ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมนามสกุลของเขาเหมือนกับจิ้งจอกน้อยเฟร่า นั่นก็เพราะเดคินมีสายเลือดตระกูลเดียวกันกับท่านเรวิส แต่จะนับเป็นญาติข้างไหนก็สุดจะคาดเดา เอาเป็นว่ารู้ว่าเป็นญาติห่างๆก็แล้วกัน

"เอาล่ะ ว่าไง...ลอเรนซ์ การศึกษาต้นไม้ทำให้เธอรู้เรื่องประวัติศาสตร์สงครามระหว่างพวกเรากับมนุษย์มากขึ้นหรือเปล่า"

เดคินถามพลางจ้องหน้าฉัน แว่นตาทรงกลมแบบตั้งบนจมูกสะท้อนกับแสงแดดวับๆ ในขณะเดียวกับที่ฉันทำหน้าแหยๆ โดยไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี

"เย็นนี้อยู่เก็บกวาดกระท่อมเรียนด้วย"

"............เอ่อ"

แต่ที่ชั้นอยากจะบอกคือ....ปกติแล้วชั้นก็อยู่อยู่แล้วนี่นา

-------------------------

พระอาทิตย์กำลังตกดิน ฟ้าสีเหงืองอมส้มเป็นสีเดียวกับสีใบไม้หลายๆต้นที่เริ่มผลัดใบทิ้งในฤดูใบไม้ร่วง ศาลาเรียนตอนนี้ไม่มีเด็กชาวหมู่บ้านตัวไหนอยู่เพราะเย็นมากแล้ว นอกจากฉันที่มักอยู่เก็บศาลาเป็นประจำ กับเฟร่าที่มีเรียนเสริมกับเดคินตามคำสั่งของบิดา

เสียงของไม้กวาดดังแซ่กๆบนพื้นเมื่อฉันลากมันไปตามพื้นดิน กวาดเอาใบไม้แห้งกรอบไปกองรวมกัน หากแต่ตาของฉันจับจ้องอยู่ที่จิ้งจอกน้อยซึ่งกำลังขมักเขม้นตั้งใจเรียนโดยมีเดคินซึ่งสูงใหญ่กว่ามากคอยนั่งดูและสอนอยู่ข้างๆ บางครั้งคำพูดของเดคินนั้นก็ลอยมาเข้าหูฉันบ้างเหมือนกัน ก็เหมือนกับได้ความรู้เพิ่มในหลายๆอย่าง

ฉันแอบลอบมองหมาป่าแว่นเป็นบางครั้ง เดคินเป็นหมาป่าขนสีทรายออกเหลืองทองอร่าม รูปร่างสูงโปร่ง ดูสง่า ผมยาวถึงกลางหลังถูกรวบไว้ลวกๆเพียงเพื่อไม่ให้รำคาญตา  สิ่งที่ทำให้หมาป่าทรายดูแตกต่างจากตัวอื่น ก็เพราะเขาสวมแว่นตาแบบตั้งบนจมูกไว้ด้วย ซึ่งปกติวอเรี่ยนอย่างเราๆแม้สายตาจะสั้นแค่ไหนก็ไม่นิยมใส่กันนัก เลยทำให้หาตัวเขาง่ายที่สุดเพราะทั้งหมู่บ้านไม่มีใครสวมแว่น ปกติแล้วเดคินจะดูเป็นคนสุขุมและรอบคอบมาก และเป็นกันเองกับทุกคน แต่เวลาที่เป็นครู เดคินจะกลายเป็นอาจารย์ที่เข้มงวดทันทีทันใด แต่กระนั้นหมาป่าแว่นก็เป็นที่รักของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ฉันกับเฟร่าด้วย

แต่ไม่รู้ว่าทำไม ฉันรู้สึกเหมือนความสัมพันธ์ของเฟร่ากับเดคินนั้นดูมากกว่าแค่ญาติห่างๆ บางทีอาจเป็นเพราะเดคินนั้นอายุราวๆพี่ชายของจิ้งจอกน้อย และเฟร่าเองก็ไม่มีพี่ชาย แถมด้วยว่าหมาป่าแว่นไม่มีพ่อแม่และพี่น้องอยู่ด้วยกับตัวเอง ทั้งคู่คงต่างเห็นอีกฝ่ายเสมือนพี่น้องของตนเองกระมัง

พวกเราอยู่ด้วยกันที่นั่นจนพระอาทิตย์ตกดิน เมื่อพระอาทิตย์ลับฟ้าไป แสงคบเพลิงก็ไม่เพียงพอต่อการอ่านหรือเขียนอีกต่อไป หมาป่าทรายจุดคบเพลิงอันหนึ่งแล้วนำมาถือไว้ ก่อนจะพาพวกเราทั้งสองเดินฝ่าความมืดมาส่งยังที่บ้าน แต่เมื่อครั้นฉันจะตามเฟร่าเข้าไปในบ้าน เดคินแตะไหล่ฉันเบาๆ ก่อนจะส่งหนังสือเล่มหนาเตอะให้

บนหน้าปกของมันเขียนเอาไว้ว่า 'สารานุกรมมอนสเตอร์'

"ลอเรนซ์ เอานี่ไปนั่งอ่านในห้องนะ เธอต้องได้ใช้มันแน่"

ฉันไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เดคินพูดหมายความว่าอย่างไร ไม่รู้เลยจนกระทั่งในวันรุ่งขึ้น

เย็นวันถัดมา หลังจากที่เรียนประจำเสร็จ พวกเด็กๆทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระของตน ดูแล้วสนุกสนานกันตามนิสัยของวัยเยาว์ บ้างก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง เพราะมีงานที่บ้านรอยู่ บางส่วนจับกลุ่มกันเล่นเสียงหัวเราะดังลั่น และเนื่องจากวันนี้เดคินมีธุระด่วนต้องออกจากหมู่บ้านไปข้างนอก เฟร่าจึงไม่มีเรียนเสริมในช่วงเย็นเหมือนดังปกติ วันนี้ จิ้งจอกน้อยจับกลุ่มร่วมกับเด็กๆ เล่นสนุกไปเรื่อยตามประสา

ต่างจากฉันที่ชอบอยู่คนเดียวปลีกวิเวก เนื่องจากเด็กๆในหมู่บ้านไม่ชอบเข้าหาฉันซักเท่าไรนัก ฉันจึงเพียงแต่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งห่างๆ จ้องมองเฟร่านั่งเล่นกับเด็กๆเหล่านั้นเสียงดังลั่น หนังสือเล่มที่เดคินให้ยังคงอยู่ในกระเป๋าสะพายเฉียงใบประจำ ฉันพกพามันไปอ่านในเวลาว่างตามที่หมาป่าแว่นเคยสั่งไว้ แม้ว่ามันจะหนักจนแบกไปไหนมาไหนลำบากก็ตาม

ฉันลองสำรวจหนังสือที่เดคินให้มาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเมื่อคืนที่ได้มันมานั้นค่อนข้างดึกแล้ว ฉันจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมันมากเท่าไหร่นัก

สารานุกรมมอนสเตอร์ของเดคินเป็นหนังสือปกแข็งเล่มหนาสีน้ำเงินเข้ม ขอบปกและมุมสันหนังสือรุ่ยๆเนื่องจากความเก่าคร่ำคร่า เช่นเดียวกับหน้ากระดาษของหนังสือที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มๆและแห้งกรอบจนกลัวว่าเพียงเปิดก็จะขาด บนหน้าปกมีเพียงตัวอักษรเรียบๆสีทองเขียนคำว่า "สารานุกรมมอนสเตอร์ โดย เรลัส เอซาเลี่ยน"

เมื่อลองพลิกหน้ากระดาษอ่านดูแบบลวกๆ ภาพประกอบพร้อมชื่อของสัตว์ประหลาดมากมายปรากฏขึ้นต่อหน้าของฉัน ซึ่งหนึ่งในหน้านั้น มีหน้าหนึ่งถูกพับไว้พร้อมกับกระดาษโน้ท

มันคือหน้าของ "เซเบอร์ ทูธ" เสือเขี้ยวดาบที่มีเขี้ยวโง้งยาว และมีเขาแหลมอยู่บนหัว

และข้อความในกระดาษโน้ทนั้นเป็นข้อความจากเดคินเขียนเอาไว้

'อ่านหน้านี้แล้วจำให้ขึ้นใจ'

ฉันที่ฉงนอย่างไม่เข้าใจ ได้แต่อ่านหนังสือหน้านั้นอย่างงุนงงซ้ำไปซ้ำมา

เมื่อนึกคิดถึงสีหน้าของเดคินตอนที่ให้หนังสือเล่มนี้กับฉันมาแล้ว ฉันก็สงสัยว่าหนังสือเล่มนี้ทำไมถึงได้สำคัญนัก สายตาของหมาป่าทรายผู้ให้แฝงแววของอะไรบางอย่าง ราวกับว่าเป็นห่วงหรือเคร่งเครียดจนผิดสังเกต

แต่หลังจากนั่งอ่านไปได้ซักพัก เสียงคุ้นหูของเฟร่าก็ขัดจังหวะฉัน จิ้งจอกน้อยเดินเข้ามาหาพลางสั่งให้ฉันลุกขึ้น ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด

"มัวแต่นั่งอ่านหนังสืออยู่นั่นแหละ เราจะไปกันแล้วนะ"

"ไปไหน?" ฉันถามอย่างแปลกใจ

และเมื่อฉันได้รู้ว่าที่ไหน ฉันก็ต้องตกใจ

สถานะ : กลับมาเล่นใหม่ ยังงงๆวุ้ย
-[Elixir]-
Asura Special
Hero Member
***
กระทู้: 2,000

[The best Dammn thing!!!~]


Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #6 เมื่อ: 21-07-2008, 12:18:48 »

รออ่านตอนต่อ ว่าจะ"ไปไหน"

สู้ๆ รออ่านนะครับ >,,<"

What Time is it....
Hero Member
*****
กระทู้: 5,137


นามเดิม SLEEP...zzzZZZ


เว็บไซต์
Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #7 เมื่อ: 21-07-2008, 19:26:46 »

รอตอนต่อไป  Smiley

Who am I...?
นามใน Asura - คิล(คิว)
นามบุพการีตั้งให้ - ป๊อป
แล้วแต่จะเรียก ตามสะดวกครับ ^^

Status:ออนได้แต่บอร์ด

พวกคุณบางคนบอกว่าเกลียดการล่าแม่มด
นั่นเป็นเพราะว่าคุณเป็นคนถูกล่ามาตลอด
แต่พอคุณได้เป็นผู้ล่าบ้าง
ก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับคนที่คุณเกลียดเลย



matic
SeSSiE
Asura Special
Hero Member
***
กระทู้: 3,050


(">,,<)(◡‿◡✿) ~ `


Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #8 เมื่อ: 21-07-2008, 19:41:37 »


วันนี้หัวโล่งๆ เลยพร้อมทีจะมานั่งอ่าน แบบว่า .. เห้นหลายวันแระ แต่ใจมานไม่เปิด งิ >//<


ติดตามอ่านอยู่น๊า ~



ps. Diary Book 1 : Part 2 มีติดเซนเซอร์อยู่เล็กน้อย, บางจุดพิมพ์ผิดนิดหน่อยนะคะ

แต่เยี่ยมเรย.. กิฟอ่านแล้วก็อดไม่ไหว แอบจิตนาการตามไปด้วย ^^
Im'Nan
Sr. Member
****
กระทู้: 1,306


เว็บไซต์
Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #9 เมื่อ: 24-07-2008, 19:05:32 »

สถานะ : มึน ข่ะ !!

วัน หลัง ค่อย อ่าน

ดู อนิ เม ก่อน แก้ มึน  Smiley Smiley 


http://nanjb.myminicity.com/ ช่วยกดหน่อยนะ ><

Click here to feed m
อดิศักดิ์ พันธ์เกษกรณ์
Sr. Member
****
กระทู้: 1,096

อุจิวะ ซาซึเกะ


Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #10 เมื่อ: 25-07-2008, 18:50:17 »

 Evil

/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #11 เมื่อ: 14-02-2009, 22:14:11 »

สู๊ดดดดดด ยอด


คำต่างๆแต่งได้สุดยอดเลยทีเดียว

การใช้คำพูด การใช้อารมณ์ การใช้หลายสิ่งหลายอย่าง มันดีจริงๆ ภาษาที่ใช้ สุดยอดจริงๆเลย>,,<

เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: [FiC] Song Of The Wild : สมุดบันทึกของลอเรนซ์
« ตอบ #12 เมื่อ: 23-10-2009, 05:54:40 »

แบบว่า ภาษาบรรยาย ได้ดีมากเลย>_<
อัพต่อนะค่ะ สู้ๆ^O^
ป้าย:
หน้า: [1]