En-Em
Chapter 4.5 + 4.6
By Bigyoyo
...
“เอาไง...ดี”เอ็นพูดเบาๆ มองซ้ายขวา ไม่เห็นทางหนีเลย จะกลับเข้าบ้านก็ไร้ประโยชน์ ขณะที่เรย์คิดๆอยู่ว่า ถ้ารู้ตัวก่อนหน้านี้ซักนาทีหนึ่งก็คงดี แต่ยังไงเรื่องจับสัมผัสคงจะยากในเมื่อ พวกปิศาจเคลื่อนไหวกันอย่างช้ามากๆ จนจับไอวิญญาณไม่ได้ เขาก็ไม่ได้เก่งในเรื่องจับไอวิญญาณซะด้วย
“ฟูจิน...”เรย์พูดเบาๆ ก่อนที่คู่หูจะกลายสภาพเป็นบูมเมอร์แรง แม้ว่าในใจจะคิดว่ายังไงก็คงทำอะไรไม่ได้ บูมเมอร์แรงนี้ใช้ได้แค่ป้องกันการโจมตีเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้กำจัดปิศาจได้ สภาพเขาตอนนี้ไม่เหลือพลังเวทย์มากพอจะใช้เคียวซะด้วย
แทบจะทันทีที่ฟูจินกลายสภาพเป็นบูมเมอร์แรงปิศาจบางตนที่อยู่ใกล้ที่สุดก็กระโจน เข้ามาจู่โจมทันที
บูมเมอร์แรง จัดการให้มันค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะหล่นบนพื้น ด้วยการหมุนเฉือนร่างของปิศาจด้วยความแม่นยำที่สุดก่อนจะหมุนกลับมาหาเจ้าของ
เรย์จับบูมเมอร์แรงให้แน่นมือ เตรียมจะโจมตีอีกครั้ง หากมีปิศาจจู่โจมเข้ามา เป็นอย่างที่เขาคิด เป้าหมายของพวกปิศาจไม่ได้อยู่ที่เขาแต่อยู่ที่เอ็น ตอนนี้บางกลุ่มเริ่มหยุดชะงักเมื่อเห็นเขาโจมตี ปิศาจที่พึ่งโดนโจมตีไปนั้นลุกขึ้นแล้ว ก่อนจะค่อยๆถอยไป ราวกับรู้ดีว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจู่โจมเข้ามาด้วยลำพัง
เป็นเวลาครู่หนึ่งที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เรย์ตั้งสมาธิให้แน่นิ่งที่สุด หากมีการจู่โจมเมื่อไหร่ จะได้โจมตีกลับทันที เด็กชายก้าวมาข้างหน้าเล็กน้อยยืนให้เอ็นอยู่ด้านหลังเขาพอดี เอ็นทำอะไรไม่ได้ซักอย่างนี่นะ
ยังไงให้อยู่ด้านหลังถึงจะดีที่สุด ว่าแต่ จะอยู่ต่อได้อีกซักกี่วินาทีกันนะ
แปลกจังทำไมมันไม่จู่โจมเข้ามาล่ะ ปกติมันไม่สนใจเรื่องจะเป็นจะตายด้วยซ้ำ แต่จะโจมตีเข้ามาอย่างเดียว อย่างน้อยง่ายที่สุดมันก็จะร่ายเวทย์โจมตีระยะไกลไม่ใช่เหรอ
“เอ็น อย่าขยับนะ”เรย์พูดก่อนจะขยับตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ให้เอ็นอยู่ด้านหลังเขาพอดี
ความรู้สึกเอ็นตอนนี้เหมือนกับครั้งก่อนๆที่ เผชิญหน้ากับปิศาจ ความรู้สึกเวิ้งว้าง ว่างเปล่า เหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ขาทั้งสองข้างตอนนี้อย่างกับจะขยับไปเอง ขยับเดินไปข้างหน้า ไปหาปิศาจกลุ่มนั้น
สติของเด็กชายขาดไปเรื่อยๆ ครั้งแรก มันตัดขาดโดยสิ้นเชิงจนทำอะไรไม่ได้ซักนิด ครั้งที่สอง มีสติส่วนหนึ่งยังคงอยู่ และพยายามห้ามในสิ่งที่ไม่ควรจะทำ ครั้งนี้สติ ครึ่งหนึ่ง เหมือนจะควบคุมตัวเองอยู่ได้ และสั่งการให้ขาอยู่กับที่ ไม่ขยับ
จู่ๆปิศาจตนหนึ่งจู่โจมเข้ามา แน่นอนเรย์ขว้างบูมเมอร์แรงออกจากมือหยุดให้ปิศาจตนนั้นค้างอยู่กลางอากาศเหมือนกับครั้งก่อน และ สั่งการให้บูมเมอร์แรงกลับมาเหมือนเดิม เพียงแต่ว่า ก่อนที่บูมเมอร์แรงจะกลับถึงมือ รากไม้จากต้นไม้ใกล้ๆ ก็เลี้ยงเกี่ยวรัดมันไว้กลางอากาศได้อย่างแม่นยำ เป็นเวทย์มนต์ของใครคนหนึ่ง
“ฟูจิน...”เรย์ร้องเบาๆ แย่ล่ะ ว่าแต่...
เด็กชายหันไปมองผู้ที่ร่ายเวทย์ แต่ก็ต้องยืนแข็งเมื่อสายตาปะทะกัน ราวกับพลังเวทย์ของผู้นั้นจะกินทั้งใจไปจนหมด
อะไรกันนี่...พ่อมดดำ...แค่ยมทูตวัยเยาว์สองคนถึงกับมีพ่อมดดำมาด้วย ว่ากันว่าความสามารถระดับพ่อมดดำน่ะ ฆ่ายมทูตประสบการณ์น้อยได้ในพริบตา ไม่คิดเลยว่า แค่เขากับเอ็นที่เป็นยมทูตอายุไม่ถึง 15 ด้วยซ้ำจะโดนถึงขนาดพ่อมดดำตามล่าด้วย เหตุผลคงอยู่ที่เอ็น เรย์หันไปมองเพื่อนที่อยู่ข้างหลัง ดวงตาของเอ็นเหมือนจะเลื่อนลอยไร้ความรู้สึก ราวกับไม่รู้สึกอะไรเลยในขณะนี้
รากไม้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพันธนาการตัวเรย์ไว้ ร่างของเด็กชายสูงจากพื้นเกือบฟุต มันรัดแน่นจนไร้หนทางจะปลดออก ได้แต่ปล่อยให้มันรัดอยู่อย่างนั้น
เอ็นตอนนี้แม้จะรู้ว่าเพื่อนกำลังโดนรากไม้รัดแน่นมากจนอาจจะหายใจไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ร่างการกลับขยับตามใจคิดไม่ได้ จะพูดซักคำยังไม่ได้เลย ความรู้สึกที่ขาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนจะควบคุมไม่ได้อีกแล้ว เท้าค่อยๆขยับย่างไปทีละก้าว แม้ว่าจะควบคุมยังไงขาก็ไม่ทำตามคำสั่ง
“เอ็น...นาย...”เรย์พูดหอบๆ เมือสังเกตว่าจู่ๆ เอ็นเดินย่างเท้าไปข้างหน้า อะไรน่ะเอ็น ออกไปทำไม...
มือของเอ็นยกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ปิศาจที่อยู่ใกล้ที่สุดยกมือขึ้นเช่นกัน และเหมือนกับจะรอคอยให้เอ็นเข้ามาแตะ เรย์พยายามฝืนร่ายเวทย์ทุกอย่างที่นึกออก ทั้งเวทย์ลม
เวทย์น้ำแข็ง หรือไม้กระทั่งเวทย์ควบคุมสิ่งของง่ายๆเพื่อหยุดเอ็นไว้ แต่...รากไม้นี่มันดูดพลังเวทย์ได้ด้วย พลังเวทย์ปกติก็ไม่เหลือแล้ว... ด...ดูดพลังเวทย์ยังไม่พอ สติก็เริ่มเลือนรางด้วย
ช...ชิ
...
อ้า...จบบท 4 ด้วยความตกใจ
แย่แว้ว ใครจะช่วยหนูเอ็นกับหนูเรย์ละนี่
><