En-Em
Chapter 2.3
By Bigyoyo
...
แต่ที่แปลกที่สุดคงจะเป็น เด็กชายคนหนึ่งที่วิ่งตามท้ายมา การวิ่งที่เขายังต้องตกใจ เมื่อเด็กคนนี้เคลื่อนที่ได้เร็วกว่า นักวิ่งเก่งๆด้วยซ้ำ แต่จู่ๆก็หยุดลงเมื่อกำลังจะผ่านศาลาไป จากลักษณะหอบ เหมือนกับจะหมดแรง
“ทำไมเร็วขนาดนี้นะ เมื่อไหร่จะจัดการได้ล่ะนี่”คำพูดเหนื่อยๆ ดังมาจากเด็กชาย เอ็นคิดว่า คงไม่เหนื่อยละมั้ง เล่นวิ่งซะเร็วขนาดนั้น และคงไม่ใช่วิ่งใกล้ๆด้วย ราวกับพึ่งวิ่งมาทั่วหมู่บ้านงั้นแหละ
เมื่อสายตามาสบกัน เขาก็ต้องหยุดนิ่ง สายตาสีฟ้าคู่นั้น ไม่เหมือนกับจะเป็นสายตาของเด็กๆทั่วไป
แม้ว่ารูปร่างแทบไม่ต่างจากเขาเลย ให้เดาอายุคงน้อยกว่าเขาด้วยซ้ำ ผมสีดำค่อนข้างสั้นซักหน่อยเหมือนกับเด็กเล็กๆ
แต่จู่ๆเขาก็แปลกใจ เมื่อเด็กคนนั้นส่งยิ้มให้ ทำเอ็นงงกับที่ ก่อนที่จะวิ่งไปข้างหน้า หายไปจากสายตา
ตาคู่นั้น มันไม่ต่างจากตาของฆาตกรเลยนะ สายตาแน่วแน่ และเหมือนจะเยือกเย็น เอ็นขนลุกเมื่อนึกถึง นี่เขางงไปหมดแล้วนะ หมู่บ้านตอนนี้ เป็นอะไรไป เงียบสนิทอย่างกับเป็นหมู่บ้านร้าง ตอนนี้ก็ราวๆเก้าโมงเช้าแล้วด้วยไม่เห็นใครเลย รึว่าเขาฝันอยู่รึไงกัน
ถ้าออกจากศาลา เขาก็จะง่วงนอน นี่ก็ไปแปลกไปอย่าง แต่ตอนนี้คิดๆแล้ว อยากพบกับเด็กคนเมื่อกี้มากกว่า เหมือนเขาน่าจะให้คำตอบได้ เพียงแต่ เขาวิ่งเร็วออกขนาดนั้น มีหวังตามแล้ว คงไม่มีทางทันแน่
ทางที่ทำได้คือ รอ หากว่าเขาออกนอกศาลาเดินกลับบ้าน เขาไม่แน่ใจว่าจะกลับถึงบ้านรึไม่ บางทีอาจจะหลับระหว่างทางอีก
แล้วคนที่ใส่ผ้าคลุมสีดำน่ะ ทำไม... มันรู้สึกแปลกๆเวลานึกถึงด้วย
“เฮ้อ... เร็วจริง ไปไหนแล้วเนี่ย”เขาพูดหอบๆ ตามมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ยังวิ่งไล่ไม่ทันซักที ปิศาจที่ไหนมันเร็วขนาดนี้มั่ง
“ฟูจิน มานี่หน่อย”เด็กชายร้องเรียก แล้วแทบจะทันที อะไรบางอย่างก็ปรากฏขึ้นข้างๆเขา รูปร่างเหมือนกับแมวในจินตนาการของเด็กเล็กๆ ดวงตาสามดวงสีฟ้า กับขนสีขาว หางสั้นๆ และการที่สื่อสารได้
“เรย์คุง”ฟูจินตอบ ด้วยเสียงแหลมๆ ขณะลอยอยู่กลางอากาศ
“ตามไม่ทันเลย ถึงตามทันแล้วจะจัดการได้รึเปล่ายังไม่รู้ ทำไงดี รึว่าจะเรียกคนอื่นมาดีไหม” เรย์ถามทันที ดูเหมือนเขาจะจัดการไม่ได้ด้วยตนเองเร็วแบบนี้ ขนาดวิ่งสุดชีวิตยังไม่ทัน ถึงตามทันแล้วจะจัดการยังไง ปล่อยไว้เฉยๆก็ผิดกฎอีก
“ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องเรียกคนอื่นมานั่นแหละ ปล่อยไว้ไม่ได้นี่นา ที่นี่จะมีคนอื่นๆ อยู่ใกล้ที่สุดที่ไหนล่ะ”ฟูจินตอบ
“ไม่รู้สิ จับสัมผัสไม่ได้เลย”เรย์ตอบตามตรง ที่นี่น่าจะมีอยู่ซักคน แต่กลับจับสัมผัสไม่ได้ ก็แสดงว่าตอนนี้ที่นี่ไม่มี ยมทูตคนไหนอยู่เลย นอกจากเขา แต่ก็ถูกแล้ว ถ้ามีคนอื่นอยู่ ปิศาจคงถูกจัดการตั้งแต่ เมื่อคืนแล้ว
ไม่ใช่ให้ ยมทูตตัวกะเปี๊ยกแบบเขามาวิ่งไล่อยู่ ปิศาจอะไรก็ไม่รู้วิ่งเร็วมาก ตามไม่ทัน
เท่าที่รู้ มันจะปล่อยไอแห่งความง่วงออกมา ปกคลุมหมู่บ้าน จนผู้คนหลับกันไปหมด มนุษย์ธรรมดาคงทนไอแห่งความง่วงนี่ ไม่ได้สินะ เว้นซะแต่จะมีภูมิต้านทาน
เอ...แล้วเด็กคนเมื่อกี้ ทำไมทนได้นะ ถึงจะอยู่ในโดมศักดิ์สิทธิ์ก็เถอะ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาก็ไม่น่าจะทนได้อยู่ดี การที่ทนได้แสดงว่าโดมมีปฏิกิริยากับเด็กคนนั้นด้วย
รึว่าเด็กคนนั้นจะเป็นยมทูต ก็น่าแปลกที่จับสัมผัสไม่ได้เลย
“เอาไงดีล่ะ”เรย์ถามอย่างจนปัญญา
...
มาเงียบๆ ว่าแต่มีคนจะอ่านไหมนี่
โอ้ หนูเรย์ ปรากฎตัวแล้ว