โพลล์

คุณชอบเทพเจ้าองค์ไหน

ซุส/ซีอุส
5 (100%)
เฮรา/ฮีรา
0 (0%)
โครนัส/โครนอส
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: กันยายน 27, 2010, 15:38:42

ผู้เขียน หัวข้อ: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า  (อ่าน 1529 ครั้ง)

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 10:00:30 »
เอาครับจบเรื่องเทพเดียวคราวหน้าถ้ามีเวลาผมจะมาเล่าเรื่องเมดูซาครับ(ไปทำการบ้านก่อน อิ อิ)
อ้างอิงครับไปดูกันได้

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 10:04:32 »
มาละครับ(มะกี้ล้อเล่นอะ เดียวคราวนี้พิมพ์เสร็จไปจริงและ)
ในตำนานของกรีกนั้น เมดูซ่า (อังกฤษ: Medusa) เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงู และเมื่อมีคนมองมาที่ใบหน้าเธอ (จ้องตา) คนผู้นั้นจะกลายเป็นหิน ที่จริงแล้วก่อนที่เมดูซ่าจะมีความร้ายกาจดังที่เป็นที่เล่าขานกันมานั้น เมดูซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามมาก

เมดูซ่า เป็นลูกสาวของเทพแห่งท้องทะเล ฟอซิส และนางซีโต นางถือเป็นหลานของเทพีไกอาและเทพพอนทัส มีพี่น้องคือ สเธโน ยูริอาลี และกราเอีย อยู่มาวันหนึ่งเมดูซ่าที่เป็นสาวงาม มีชายหลายคนหมายปองเป็นเจ้าของ ก็ได้ไปบูชาเทพเอเทน่ายังวิหารของเอเทน่า แล้วเทพโพไซดอน (Poseidon) ก็เห็นเมดูซ่าที่มีหน้าตาสวยงามมาก จึงต้องการครอบครองเมดูซ่าเป็นของตน จึงใช้กำลังขืนใจเมดูซ่า อาเทน่าเห็นดังนั้นจึงใส่ความเมดูซ่าว่า ลบหลู่เอเทน่าในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และสาบเมดูซ่าให้กลายเป็นมารร้ายหน้าตาน่าเกลียด และสาบให้ผมสวยงามของเมดูซ่าเป็นงูเต็มหัวเมดูซ่า เมื่อเป็นเช่นนี้เมดูซ่าต้องได้รับความอับอาย โกรธแค้นจึงได้ใช้ความเกลียดชังนั้นมาเป็นพลังในการสาบคนที่มองหน้าเธอให้กลายเป็นหินไป เพื่อตอบแทนสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นเช่นนี้ เมดูซ่าจึงกลายเป็นมารร้ายที่สุดตนนึงในตำนานกรีก

สุดท้ายเมดูซ่าก็ถูกเพอร์ซีอุสฆ่าตายจากการถูกเพอร์เซอุสใช้ดาบและโล่ที่ได้ประทานมาจากเอเทน่าฟันคอขาดโดยมองเมดูซ่าจากโล่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเอเทน่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังในการตายของเมดูซ่า ที่เอเทน่าให้เพอร์เซอุสไปฆ่าเมดูซ่าแทนนั้นเพราะอาเทน่าเป็นเทพแล้วจึงใช้อำนาจในทางที่ผิดได้ไม่มาก จึงใช้มือของเพอร์เซอุสในการทำการเรื่องนี้

เมดูซ่าเคยปรากฎตัวในภาพยนต์หลายเรื่องเช่น สงครามมหาเทพประจัญบาณ
เดียวคราวหน้าต่อเรื่อง12 ภารกิจของเฮอร์คิวลิสครับ

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 10:07:38 »
มาละครับ
 ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
....เฮอร์คิวลิส <Hercules> หรือ เฮราคลิส เป็บุตรของนางอัลก์เมเนและจอมเทพซูส แต่ที่แท้จริง แอมฟิทริออนนั้นต่างหากที่เป็นสามีของนาง เพราะวันหนึ่งเมื่อแอมฟิทริออนไปทำสงคราม ซูสจึงจำแลงองค์เป็นเขาแล้วลักลอบสมสู่กับพระนางอัลก์เมเน ทำให้นางตั้งครรภ์ทั้งลูกของซูสและลูกของแอมฟิทริออน ครั้นเมื่ครบกำหนดคลอด นางจึงให้กำเนิดบุตรฝาแฝด บุตรที่เกิดแก่ซูส คือ เฮอร์คิวลิส ส่วนอีกคนชื่อว่า อิฟิคลิส


...ทารกทั้งสองถือกำเนิดในเมืองธีบส์ เฮอร์คิวลิสนั้นเป็นที่เกลียดชังของเฮรายิ่งนัก พยายามจะทำลายเขาอยู่บ่อยครั้ง เช่น เมื่อตอนที่พระมารดาของเขาจะคลอด พระเทพีก็สั่งให้ ลูไซนา <Lucina> เทพีที่ควบคุมการคลอดขัดครรภ์ของพระนางอัลก์เมเนไว้ ทำให้ทรมานยิ่งนัก


....ต่อมาเมื่อเฮอร์คิวลิสอายุแปดเดือน พระเทพีก็ส่งงูมาสองตัว เลื้อยเข้าไปในเปล เพื่อกัดเฮอร์คิวลิสให้ตายซะ ฝ่ายอิฟิคลิสตื่นขึ้นมาเห็นงูก็ร้องไห้จ้า แต่ฝ่ายเฮอร์คิวลิสนั้นกลับลุกขึ้นคว้างูมือละตัว และบีบคองูจนตาย....


.... เมื่อท้าวแอมฟิทริออนและพระมารดาของเฮอร์คิวลิสเห็นดังนั้นก็คอยปกป้องดูแลพระโอรสไม
่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เฮร์คิวลิสจึงปลอดภัยไปได้ช่วงนึง...
....เฮอร์คิวลิสนั้นได้รับการศึกษาศิลปวิทยาในสำนักของอาจารย์ต่างๆ เช่น

1.ราดามันทัส เป็นคนคนเดียวกับที่เป็นตุลาการแห่งนรกนั้นแหละ เป็นอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทปัญญาและคุณธรรม


2.ไครอน เซนทอร์ผู้สอนพละ และ การกีฬา


3.ไลนัส <Linus> สอนวิชาดนตรี


....แต่สงสัยว่าเอฮร์คิวลิสจะไม่มีใจรักด้านดนตรี ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่ชอบอาจารย์ที่สอนก็เป็นได้ เรื่องเหล่านี้จึงบังเกิดขึ้น


....วันหนึ่งอาจารย์ไลนัสลงโทษหนูน้อยเฮอร์คิวลิสของเราในความบกพร่องอย่างหนึ่ง เจ้าตัวก็ยอมซะที่ไหน และด้วยความที่ไม่ได้คิดถึงพละกำลังมหาศาลของตน ศิษย์ผู้น่ารักจึงเอาคันพิณโขกหัวอาจารย์ตายเลย โดยมิได้ตั้งใจ เฮ้อ...


....เฮอร์คิวลิสจึงได้รับโทษโดยถูกไล่ออกไปอยู่เขา ความยากลำบากที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้น และเมื่อมีอายุเพียง 18 ปี เขาจึงได้สำแดงพลังออกมา โดยการฆ่าสิงโตตังหนึ่งที่เกเรลงด้วยตัวคนเดียว


....วีรกรรมต่อไปได้แก่การกำราบชนเผ่ามิเนียน ซึ่งในขณะนั้นกำลังรุกรานเมืองธีบส์อย่างหนัก เขาจึงมาสมทบด้วยจนสำเร็จ ท้าวเอมฟิทริออนจึงได้ขอนางเมการาธิดาของท้าวเครออน ให้เป็นคู่ครองของเฮอร์คิวลิส คนทั้งสองได้วิวาห์อย่กินกันอย่างมีความสุขแล้วมีบุตรด้วยกัน 3 คน แต่เฮราก็กลับมาอีกครั้งพร้อมแผนการครั้งใหญ่..... .....เมื่อนางเมการาให้กำเนิดบุตร 3 คนแล้วนั้น เฮราก็บันดาลให้เฮอร์คิวลิสเป็นบ้าอาละวาดฆ่าลูกของตัวเองตายหมด รวมทั้งนางเมการาด้วย เฮอร์คิวลิสจึงได้สติกลับมา เห็นภาพหน้าสลด เห็นศพเกลื่อน ก็ตกใจ ไม่รู้อะไรเกิดขึ้น ในขณะที่ยืนตะลึงอยู่นั้น ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์และท้าวแอมฟิทริออนจึงได้เข้าไปบอกความจริงทั้งหมด ครั้นเมื่อเฮอร์คิวลิสทราบเหตุแล้ว ก็ตั้งใจจะฆ่าตัวตายตามไปด้วย


....แต่เฮอร์คิวลิสก็ทำไม่ได้ ด้วยเธซีอุส เพื่อนของเขามาพบเข้าพอดี จึงได้ขัดขวางไว้ได้ทันกาล ยื่นมือไปจับมือที่เปื้อนเลือดของเพื่อน การกระทำนี้มีความหมายว่า จะขอแบ่งบาปมารับไว้บ้าง...


.....แล้วเฮอร์คิวลิสก็เดินทางออกจากเมืองธีบส์ไปกับเธซีอุสสู่นครเอเธนส์ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานนัก จิตใจยังคงไม่ลืมเหตุการณ์นั้นได้ เวรกรรมที่ทำ โดยเฉพาะกับภรรยาและบุตรของตน จึงออกเดินทางสู่สถานพยากรณ์เดลฟี


....เมื่อย่างก้าวเข้าไปนั้น เขาได้พบกับภิกษุณีนางหนึ่ง นางพยากรณ์ว่า ให้เฮอร์คิวลิสเดินทางไปหาท้าวยูริทิอุส เจ้านครไมซิน เพื่อประกอบภาระตามที่เขาสั่ง เพื่อเป็นการล้างบาป
....เมื่อได้เข้าพบท้าวยูริทิอุสตามคำพยากรณ์แล้วนั้น เขาบอกว่า "บาปฆ่าลูกเมียนี้หนัหนัก สุดที่จะลบล้างได้ แต่ถ้าทำการที่ยากยิ่งนี้สิบสองประการสำเร็จจึงจะล้างบาปได้ เฮอร์คิวลิสก็ตอบว่า "จะทำภาระนั้นให้สำเร็จ แม้จะสูญเสียชีวิตก็ยอมยินดีทำทุกประการ ตามสำนวนภาษาอังกฤษภาระทั้ง 12 นี้ คือ The Labours of Hercules" มีดังนี้


ประการที่ 1 จะต้องไปฆ่าสิงโตมี่หุบเขาเนเมีย ซึ่งเป็นสิงโตที่ไม่มีอาวุธใดฆ่ามันได้


ประการที่ 2 จะต้องเดินทางไปที่เมืองเลอร์นา ที่เมืองนี้ มีสัตว์ประหลาดชื่อ ไฮดรา มีหัวเก้าหัวอาศัยอยู่ในบึง เมื่อหัวใดถูกฟันขาด มันก็จะงอกกลับออกมาเกิดเป็นสองหัว


ประการที่ 3 ให้ไปจับกวางทองคำของเทพีอาร์เทมิสมาถวาย


ประการที่ 4 ให้ไปจับหมูป่ามาถวาย ซึ่งวิ่งเร็วมาก ไม่เคยมีใครตามพบ


ประการที่ 5 จะต้องไปทำความสะอาดคอกวัวของราชาเอจิอัสให้เสร็จภายในวันเดียว ซึ่งสกปรกมากไม่ได้ทำความสะอาดมานาน มีอึวัวกองสูงเลย......


ประการที่ 6 ให้ไล่นกที่เมืองสติมฟาลุส ซึ่งมีนับหมื่นตัว


ประการที่ 7 ให้ไปเอาวัวที่เทพโพเซดอนประทานแก่ราชาไมนอส


ประการที่ 8 ให้ไปเอา วัว/ม้า <ยังสับสนอยู่> ที่กินเนื้อคนแทนหญ้า ซึ่งราชาไดโอมีดีสเลี้ยงไว้



ประการที่ 9 ให้ไปนำสายรัดเอวของของหัวหน้าเผ่าอะเมซอน


ประการที่ 10 ไปเอาวัวซึ่งอสูรสามร่างเลี้ยงมาถวาย


ประการที่ 11 ไปเอาแอปเปิลทองคำ


ประการที้ 12 ไปจับสุนัขสามหัวจากนรก 

อ้างอิงอะ

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 10:09:20 »
อ้างจาก: pittawat2542 ที่ กันยายน 12, 2010, 10:04:32
มาละครับ(มะกี้ล้อเล่นอะ เดียวคราวนี้พิมพ์เสร็จไปจริงและ)
ในตำนานของกรีกนั้น เมดูซ่า (อังกฤษ: Medusa) เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงู และเมื่อมีคนมองมาที่ใบหน้าเธอ (จ้องตา) คนผู้นั้นจะกลายเป็นหิน ที่จริงแล้วก่อนที่เมดูซ่าจะมีความร้ายกาจดังที่เป็นที่เล่าขานกันมานั้น เมดูซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามมาก

เมดูซ่า เป็นลูกสาวของเทพแห่งท้องทะเล ฟอซิส และนางซีโต นางถือเป็นหลานของเทพีไกอาและเทพพอนทัส มีพี่น้องคือ สเธโน ยูริอาลี และกราเอีย อยู่มาวันหนึ่งเมดูซ่าที่เป็นสาวงาม มีชายหลายคนหมายปองเป็นเจ้าของ ก็ได้ไปบูชาเทพเอเทน่ายังวิหารของเอเทน่า แล้วเทพโพไซดอน (Poseidon) ก็เห็นเมดูซ่าที่มีหน้าตาสวยงามมาก จึงต้องการครอบครองเมดูซ่าเป็นของตน จึงใช้กำลังขืนใจเมดูซ่า อาเทน่าเห็นดังนั้นจึงใส่ความเมดูซ่าว่า ลบหลู่เอเทน่าในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และสาบเมดูซ่าให้กลายเป็นมารร้ายหน้าตาน่าเกลียด และสาบให้ผมสวยงามของเมดูซ่าเป็นงูเต็มหัวเมดูซ่า เมื่อเป็นเช่นนี้เมดูซ่าต้องได้รับความอับอาย โกรธแค้นจึงได้ใช้ความเกลียดชังนั้นมาเป็นพลังในการสาบคนที่มองหน้าเธอให้กลายเป็นหินไป เพื่อตอบแทนสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นเช่นนี้ เมดูซ่าจึงกลายเป็นมารร้ายที่สุดตนนึงในตำนานกรีก

สุดท้ายเมดูซ่าก็ถูกเพอร์ซีอุสฆ่าตายจากการถูกเพอร์เซอุสใช้ดาบและโล่ที่ได้ประทานมาจากเอเทน่าฟันคอขาดโดยมองเมดูซ่าจากโล่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเอเทน่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังในการตายของเมดูซ่า ที่เอเทน่าให้เพอร์เซอุสไปฆ่าเมดูซ่าแทนนั้นเพราะอาเทน่าเป็นเทพแล้วจึงใช้อำนาจในทางที่ผิดได้ไม่มาก จึงใช้มือของเพอร์เซอุสในการทำการเรื่องนี้

เมดูซ่าเคยปรากฎตัวในภาพยนต์หลายเรื่องเช่น สงครามมหาเทพประจัญบาณ
เดียวคราวหน้าต่อเรื่อง12 ภารกิจของเฮอร์คิวลิสครับ

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 10:11:31 »
ผมไปละ ใครอยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตำนานกรีกก็โพสต์ไว้นะเดี๋ยวจะมาตอบ

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:39:35 »
ต่อละน้าเอาละต่อไปผมจะเล่าเรื่องเพอร์ซิอุสครับ
เพอร์ซิอุส (อังกฤษ: Perseus; กรีก: Περσεύς) เป็นบุคคลในตำนานเทพปกรณัมกรีกซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแคว้นไมซีนีและราชวงศ์เปอร์เซีย เขาเป็นวีรบุรุษคนแรกในปกรณัมกรีกที่มีชื่อเสียงจากการปราบสัตว์ประหลาดโบราณมากมาย ในยุครุ่งเรืองเทพโอลิมปัสทั้ง 12 องค์ เพอร์ซิอุสเป็นผู้สังหารเมดูซา และเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหญิงอันโดรเมดาจากปีศาจทะเล นามว่า ซีตัส
ต่อจากเพอร์ซิอุสก็จะเป็นเรื่องม้าในตำนานม้าเพกาซัสครับ
เพกาซัส (อังกฤษ: Pegasus, ภาษากรีก: Πήγασος, เปกาซอส หมายถึง แข็งแรง) เป็นสัตว์ในเทพนิยายกรีก เป็นม้าร่างกำยำพ่วงพีสีขาวบริสุทธิ์ และมีปีกอันกว้างสง่างามเหมือนนกพิราบ

เพกาซัสเกิดมาจากนางกอร์กอน เมดูซ่า ถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอุสฟันคอขาดตาย ในขณะที่นางสิ้นใจตายนั้น เพกาซัสก็กระโจนออกมาจากลำคอของนาง ไม่มีใครสามารถปราบเพกาซัสได้เลยซักคน ตอนที่มันเกิดมาใหม่ ๆ และออกวิ่งอย่างคึกคะนองนั้น น้ำที่กระเซ็นจากรอยเท้าที่มันวิ่งก่อให้เกิดน้ำพุสวยงามที่กวีและศิลปินชื่นชมกันนักหนา คือน้ำพุฮิปโปครีนี (Hippocrene) ที่เป็นที่รู้จักกันในวรรณคดีกรีกโบราณ ว่ากันว่าใครได้ดื่มน้ำพุนี้แล้ว โอกาสที่จะเป็นกวีเอกอยู่แค่เอื้อมทีเดียว

เพกาซัสโดนปราบโดยเด็กหนุ่มรูปงามชาวเมืองโครินทร์มีนามว่า "เบลเลอโรฟอน" (Bellerophon) เบลเลอโรฟอนเป็นโอรสของเจ้าเมืองโครินทร์ที่มีนามว่า พระเจ้ากลอคุส (Glaucus) ซึ่งต่อมาเบลเลอโรฟอนได้ขี่เพกาซัสปราบไคเมร่า

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:42:50 »
ต่อไปก็จะเล่าเกี่ยวกับสัตว์วิเศษนะครับ

กรินดี้โลว์ (Grindylow)
กรินดี้โลว์เป็นปีศาจน้ำตัวสีเขียวซีดและมีเขา พบได้ตามทะเลสาบทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์ กินปลาตัวเล็กๆเป็นอาหาร กรินดี้โลว์ดุร้ายกับพ่อมดและมักเกิ้ลพอๆกัน แต่ชาวเงือกจะทำให้กรินดี้โลว์เชื่องได้ กรินดี้โลว์มีนิ้วยาวมาก ซึ่งแม้จะใช้ยึดจับอะไรได้เหนียวแน่นแต่ก็หักได้อย่างง่ายดาย

กริฟฟิน (Griffin) 
กริฟฟินมีกำเนิดในประเทศกรีซ ขาคู่หน้าและหัวเป็นนกอินทรียักษ์ ลำตัวและขาคู่หลังเป็นสิงโต พ่อมดมักให้กริฟฟินคอยเฝ้าสมบัติ เช่นเดียวกับสฟิงซ์ แม้ว่ากริฟฟินจะดุร้าย แต่พ่อมดที่เก่งกาจจำนวนหนึ่งก็สามารถปราบมันได้ กริฟฟินกินเนื้อดิบๆเป็นอาหาร

กลัมบัมเบิ้ล (Glumbumble)
กลัมบัมเบิ้ลพบได้ในแถบยุโรปตอนเหนือ เป็นแมลงบินได้ ตัวสีเทา ขนปุกปุย มันจะผลิตน้ำหวานที่มีสรรพคุณช่วยลดความเศร้าสร้อยได้ น้ำหวานนี้ใช้เป็นยาแก้โรคประสาทที่เกิดจากการกินใบอลิฮอทซี่เข้าไป บางครั้งกลัมบัมเบิ้ลอาจบุกเข้าไปอยู่ในรังผึ้ง ทำให้น้ำผึ้งมีสรรพคุณแปลกๆ กลัมบัมเบิ้ลทำรังอยู่ตามที่มืดๆ และห่างไกลจากผู้คน เช่นตามโพรงต้นไม้และถ้ำ มันกินต้นเน็ทเทิลเป็นอาหาร


ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:45:30 »
กัปปะ (Kappa)
 กัปปะเป็นปีศาจน้ำญี่ปุ่น อาศัยอยู่ตามบ่อน้ำตื้นๆและแม่น้ำ คนมักจะมองว่ากัปปะคล้ายลิง แต่มีเกล็ดปลาอยู่ตามตัวแทนที่จะเป็นขน มันมีแอ่งเว้าใส่น้ำอยู่กลางกระหม่อม
  กัปปะกินเลือดมนุษย์ แต่ถ้าโยนแตงกวาที่สลักชื่อคนให้มัน กัปปะก็จะไม่ทำร้ายคนๆนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับกัปปะ พ่อมดควรล่อหลอกให้มันโค้งตัวลงซึ่งจะทำให้น้ำที่อยู่บนหัวหกลงมา แล้วกัปปะก็จะสูญสิ้นเรี่ยงแรงทั้งหมด

แกรปฮอร์น (Graphorn) ตัวแกรปฮอร์นพบได้ตามบริเวณที่เป็นภูเขาในยุโรป ร่างกายใหญ่โต ผิวสีม่วงเทา หลังค่อม มีเขายาวและแหลมคมมากสองเขา เท้าใหญ่โตมีนิ้วข้างละสี่นิ้ว และมีนิสัยดุร้ายตามธรรมชาติ บางครั้งอาจเห็นโทรลล์ภูเขาขี่หลังตัวแกรปฮอร์น แต่ฝ่ายหลังจะไม่ค่อยชอบใจนักที่มีผู้พยายามทำให้มันเชื่อง จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นโทรลล์มีบาดแผลเต็มตัวจากฝีมือของแกรปฮอร์น เขาของแกรปฮอร์นที่บดเป็นผงแล้วใช้ปรุงยาได้หลายชนิด แต่ก็มีราคาแพงลิบเพราะได้มาอย่างยากลำบาก หนังของแกรปฮอร์นเหนียวยิ่งกว่าหนังของมังกร และป้องกันเวทมนตร์คาถาได้

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:48:52 »
ครัป (Crup)
ครัปมีต้นกำเนิดอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ รูปร่างคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์แจ็ก รัสเซลล์ เทอร์เรียร์มาก ยกเว้นที่หางซึ่งเป็นง่ามๆ ครัปแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสุนัขของพ่อมดโดยแท้ เพราะมันซื่อสัตย์ต่อพ่อมดมากและดุร้ายต่อมักเกิ้ลที่สุด ครัปเป็นนักเขมือบตัวยง มันกินทุกอย่างตั้งแต่ตัวโนมไปถึงยางรถยนต์เก่าๆ พ่อมดอาจขอใบอนุญาติเลี้ยงครัปได้จากกองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษ โดยต้องผ่านการทดสอบง่ายๆ เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ขอสามารถควบคุบดูแลครัปได้ในบริเวณที่มีมักเกิ้ลอาศัยอยู่ เจ้าของครัปมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องกำจัดหางของมันด้วยคาถาตัดที่ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดเมื่อครัปมีอายุได้หกถึงแปดสัปดาห์ เพื่อไม่ให้พวกมักเกิ้ลสังเกตเห็น
ควินทาเพ็ด (Quintaped)
ควินทาเพ็ดเป็นสัตว์กินเนื้อที่อันตรายมากชื่นชอบเนื้อมนุษย์เป็นพิเศษ ร่างกายที่เตี้ยม่อต้อของมันและขาทั้งห้าข้างล้วนมีขนสีน้ำตาลแดงขึ้นอยู่ดกหนา ขาแต่ละข้างมีเท้าบิดผิดรูป ควินทาเพ็ดพบได้เฉพาะที่เกาะเดรียร์ซึ่งอยู่นอกแหลมตอนเหนือสุดของสกอตแลนด์ ด้วยเหตุนี้ เกาะเดรียร์จึงถูกทำให้ไม่ปรากฏในแผนที่

เคลปี้ (Kelpie)
ปีศาจน้ำแห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ชนิดนี้สามารถเปลี่ยนร่างได้หลายแบบ ส่วนมากจะแปลงเป็นม้า และใช้ต้นกกทำเป็นขนแผงคอ เคลปี้จะล่อหลอกให้คนมาขี่หลัง แล้วก็จะดำลงไปก้นแม่น้ำหรือทะเลสาบทันที จากนั้นมันก็จะกินเหยื่อแล้วปล่อยให้ตับไตไส้พุงลอยสู่ผิวน้ำวิธีที่ถูกต้องในการปราบเคลปี้ก็คือ คล้องบังเน่าร้ากกกยนรอบหัวของมัน แล้วร่ายคาถายึดแน่น ซึ่งจะทำให้เคลปี้สงบและไม่ดุร้ายอีกต่อไป

เคลปี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ในทะเลสาบล็อกเนส ประเทศสกอตแลนด์ รูปร่างที่มันชอบคือ งูทะเล

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:53:15 »
ยูนิคอร์น (Unicorn)
เป็นสัตว์ในตำนาน เชื่อว่าพบได้ตามป่าทางตอนเหนือของยุโรป ตัวโตเต็มที่มีลักษณะเป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ สง่างาม มีเขาหนึ่งเขาที่กลางหน้าผาก (โดยมากเขาจะเป็นเกลียวด้วย) ลูกยูนิคอร์นเเรกเกิดมีขนสีทอง เเละจะเปลี่ยนเป็นสีเงินก่อนที่จะโตเต็มวัย เขา เลือด เเละขนของยูนิคอร์นมีคุณสมบัติทางเวทมนตร์สูง
โดยทั่วไปยูนิคอร์นจะหลีกเลี่ยงการข้องเเวะกับมนุษย์ เเละจะยอมให้เเม่มดเข้าใกล้มากกว่าพ่อมด นอกจากนั้น ยูนิคอร์นยังวิ่งได้เร็วมาก จึงยากที่จะจับตัวได้ ในโลกตะวันตก ยูนิคอร์นถือเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายและรักความสันโดษ เรื่องเล่าของยุโรประบุว่าการจับยูนิคอร์นนั้นต้องใช้สาวพรหมจรรย์เป็นผู้จับยูนิคอร์น ซึ่งยูนิคอร์นจะลืมสัญชาตญาณป่าเถื่อนและเชื่องราวกับเป็นม้าธรรมดา แต่ในประเทศจีนยูนิคอร์นเป็นสัตว์ที่มีความสุภาพ อ่อนโยน รักสงบ
การกล่าวถึงยูนิคอร์นในโลกตะวันตก มีขึ้นครั้งแรกในหนังสือของอินเดีย ซึ่งเขียนโดยนักประวัติศาสตร์ชาวกรีก เมื่อประมาณ พ.ศ. 14 บรรยายไว้ตอนหนึ่งว่า "ในประเทศอินเดีย มีลาป่าชนิดหนึ่ง มีขนาดใหญ่เท่า ๆ กับม้า ลำตัวของพวกมันมีสีขาว ศรีษะมีสีแดงเข้ม และมีดวงตาสีน้ำเงิน พวกมันมีเขาอยู่บนหน้าผากเขาหนึ่ง ซึ่งมีความยาวประมาณครึ่งเมตร" กล่าวกันว่า ยูนิคอร์นเป็นสัตว์ผสมระหว่างแรด ละมั่งหิมาลัย และลาป่า เขาของมันมีความแหลมคมมาก โดยมีพื้นสีขาวตรงกลางสีดำ และตรงยอดเป็นสีแดงเลือดหมู

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:54:46 »
สฟิงซ์ (อังกฤษ: Sphinx) เป็นสัตว์ที่มีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิดรวมอยู่ในตัวเดียวกันตามความเชื่อของคนแต่ละท้องถิ่น ทั้งนี้ สฟิงซ์เป็นความเชื่อที่มีอยู่ในหลายวัฒนธรรม
สฟิงซ์ของกรีd
สฟิงซ์ของกรีกเป็นหนึ่งในลูก ๆ ของอีคิดนาและไทฟอน สฟิงซ์มีใบหน้าและทรวงอกของหญิงสาว ท่อนล่างเป็นสิงโตและมีปีกแบบนกอินทรี มีลักษณะนิสัยชอบทรยศหักหลัง ก้าวร้าวรุนแรง และกระหายเลือด และพวกนี้ยังชอบกินคนเป็นอาหารด้วย

ลักษณะที่เด่นชัดของสฟิงซ์ กรีกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความคล้ายแมว หรือจะว่าอีกทีก็คล้ายผู้หญิงด้วย นั่นคือ มันจะพูด คุยหยอกเหยื่อของมันก่อนที่จะกินเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเกิดเหยื่อหนีรอดไปได้ สฟิงซ์จะบินดิ่งทิ้งตัวกระแทกพื้นหรืออะไรสักอย่าง ด้วยความโกรธเกรี้ยวจนตายไปเอง

เรื่องราวเกี่ยวกับสฟิงซ์ของกรีก ที่โด่งดังเรื่องหนึ่งคือ เรื่องของ เจ้าแม่เฮรา (Hera) ซึ่งมอบหมายหน้าที่ลงโทษชาวเมืองธีบีส (Thebes) เพราะความเมามายไร้สติของพวกเขา หลังจากที่ ไดโอนิซุส เทพแห่งเมรัยได้มาสอนการทำไวน์ ให้แก่ชาวเมืองนี้ ตามปกติสฟิงซ์จะไม่เข้าขย้ำเหยื่อ ที่ผ่านมาในทันทีทันใด แต่จะให้โอกาสเหยื่อด้วยการถามปัญหา ที่เรียกกันว่าปัญหาของตัวสฟิงซ์ (The Riddle of the Sphinx) ซึ่งสัญญาจะปล่อยเหยื่อเป็นอิสระ หากตอบปัญหาของนางได้ ตามท้องเรื่องที่จะกล่าวถึง เอดิปุส (Oedipus) แห่งโครินท์ผ่านมาในเมืองธีบีสพอดิบพอดี สฟิงซ์กระโดดออกมา จากหลังพุ่มไม้ แลบลิ้นเลียปากด้วยความอยากกินเนื้อ ก่อนจะส่งเสียงคำรามให้ขวัญหาย เข้าใส่เอดิปุสและถามปัญหา "อะไรเอ่ยเดินสี่ตีนในยามเช้า เดินสอง ตีน ในยามสาย และเดินสามตีนในยามเย็น….? "อ๋อ มันก็คือมนุษย์นั่นแล ย่อมเดินด้วยการคลานทั้งมือและเข่า เมื่อยังเป็นเด็ก ยืนด้วยขาสอง ข้าง เมื่อโตเต็มที่ และต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเอง เป็นขาที่สามในยามสายัณห์ของชีวิต" เอดิปุสตอบอย่างไม่ลังเล สฟิงซ์เมื่อได้ฟังคำตอบ ที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากมนุษย์หน้าไหนเลย ถึงกับกรีดร้องด้วยความเจ็บใจ นางโผบินขึ้น บนฟ้า แล้วทิ้งตัวดิ่งลงฆ่าตัวตายในทะเล

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #26 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 15:56:04 »
สฟิงซ์ของอียิปต์
 
เป็นพันธุ์ที่เราเรียกว่า แอนโดรสฟิงซ์ (Andro-Sphinx) เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ ของฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้ชัดเจน คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูจงอางแผ่แม่เบี้ย และมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบกษัตริย์โดยรอบ ว่ากันว่า สฟิงซ์ คือ รูปเหมือนขนาดใหญ่กว่าร่างจริงสองเท่าของฮาร์มาชิส เทพแห่งรุ่งอรุณ เมื่อตอนที่แปลงร่าง เป็นสิงโต มีเศียร เป็นฟาโรห์อียิปต์หรือ "sphingein" แปลว่า "การบีบรัด"

รูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) บริเวณใกล้กับพีระมิดคาเฟร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ หมู่เกาะพีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramid Complex) S
สฟิงซ์ของตะวันออกกลาง
เป็นสัตว์ที่ได้ชื่อว่าฉลาด ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะมันจะเปิดเผยสิ่งที่มันรู้ยากมาก มันพอใจที่จะนอนผึ่งแดด อย่างเป็นสุข ท่ามกลางการเคารพบูชาของผู้ที่เทิดทูนมัน

นอกจากนี้ยังมีสฟิงซ์แบบอื่นๆซึ่งแตกมาจากพวกอียิปต์อีกเช่นกัน เช่น ครีโอสฟิงซ์ (Crio-Spninx) ที่มีหัวเป็นแกะบ้าง หรือเป็นนกเหยี่ยว บ้าง ในเปอร์เซีย (Persia) , แอสซีเรีย (Assyria) , และฟีเนียเซีย (Phoenicia) มีสฟิงซ์ทั้งสองเพศ ตัวผู้จะมีหนวด และผมหยักศก ส่วนของโรมโบราณเป็นผู้หญิง และอาจจะเป็นแบบ ที่ส่งผ่านมาให้ กับอียิปต์ก็ได้ เพราะว่าตัวนี้สวมงูแอสพ์ (Asp) คาดอยู่ที่หน้าผากด้วย

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #27 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 16:01:05 »
ยูนิคอร์น = สัตว์ในตำนานเทพนิยายตะวันตกเป็นม้าที่มีเขาเดียวอยู่กลางหน้าผาก
ลูกยูนิคอร์นตัวจะเป็นสีทองมันจะกลายเป็นสีเงินเมื่ออายุ 2 ปีและมีเขางอกเมื่ออายุ4 ปี มันจะมีสีขาวบริสุทธิ์เมื่อโตเต็มที่ตอนอายุ 7 ปี
เซ็นทอร์ = สัตว์ครึ่งคนครึ่งม้าในเทพปกรณัมกรีก
โทรลล์ = เป็นอมนุษย์ที่มีพลังอำนาจวิเศษมีทั้งดุร้ายและไม่ดุร้าย ร่างแคระหรือร่างยักษ์อาศัยอยู่ในถ้ำหรือตามภูเขาในนิทานปรัมปราของชาวยุโรปตอนเหนือ
สเตาต์ = สัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายแมวหางเป็นพวง
แบนชี = มีหน้าที่กรีดร้องแจ้งข่าวการตายที่กำลังจะมาถึงในตำนานปรัมปราของชาวไอริช
เยติ = เป็นมนุษย์หิมะครึ่งคนครึ่งสัตว์ขนรุงรังเชื่อว่าอาศัยอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย
เฟเร็ต = สัตว์คล้ายพังพอนเลี้ยงไว้ไล่กระต่ายและหนู
โนม = เป็นชายชราตัวเล็ก ผิวหนังเน่าร้ากกก่ยวย่นอยู่ หัวล้านตะปุ่มตะป่ำเหมือนหัวมันฝรั่งอาศัยอยู่ใต้ดินและมักเฝ้าทองคำ เงิน หรือเพชร ในนิทานสำหรับเด็กชาวตะวันตก
ก็อบลิน =สัตว์ตัวเล็กน่าเกลียดในเทพนิยายตะวันตกชอบก่อความเดือดร้อน
บ็อกการ์ต = สิ่งที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างได้มันสามารถแปลงเป็นอะไรก็ได้ที่เรากลัวแพ้เสียงหัวเราะ
บาสิลิสก์ = ราชางูเกิดจากไข่ของแม่ไก่ที่ฟักตัวอยู่ใต้ตัวคางคกอาจโตจนมีขนาดใหญ่ยักษ์และมีชีวิตยืนยาวได้หลายร้อยปีเสียงขันของไก่โตงจะทำให้มันตายทันที และใครที่มองตามันจะตัวแข็งเหมือนหิน
ฮิปโปกริฟฟ์ = มีลำตัวขาหลังและหางอย่างม้า แต่มีขาหน้า ปีก และหัวเหมือนอย่างกับนกอินทรียักษ์มันจะมีจะงอยปากสีเหล็ก นัยน์ตาโตสีส้มเจิดจ้ากรงเล็บที่ขาหน้ายาวครึ่งฟุต
คัปป้า = ผีน้ำน่าขนลุกขนพองที่ดูเหมือนลิงมีเกร็ด มือของมันเป็นพังผืด คอยยื่นมือบีบคอคนที่ล่วงล้ำเข้าไปในสระ
เร้ดแค็พส์ = อมนุษย์ประหลาดขนาดเล็กคล้ายก็อบลิน ชอบซุ่มซ่อนอยู่ทุกๆที่ที่เกิดการนองเลือดเพื่อคอยหลอกหลอนคนหลงทางที่เข้ามา
ฮิงกี้พังก์ = สัตว์ประหลาดตัวเล็กมีขาข้างเดียวดูราวกับว่าร่างกายของมันทำมาจากกลุ่มหมอกควัน นักล่อเหยื่อเข้าไปในป่าพรุ
พิกซี่ = ชาวฟ้าจำพวกหนึ่งมีขนาดเล็ก ชอบแกล้งมนุษย์ ผิวสีน้ำเงินสด ใบหน้าเสียมแหลมเสียงสูงแหลมเหมือนนกแก้วเล็กๆทะเลาะกัน
ข้าน้อยล = เป็นผีที่ชอบขุดศพขึ้นมากินในเรื่องเล่าแถบยุโรปตะวันอก
เคลบปี = ผีพรายน้ำรูปร่างเป็นม้าและมักล่อให้คนจมน้ำตาย
ไบคอร์น = สัตว์ในเทวตำนานมีสองเขาเป็นสัตว์ร้ายรูปร่างอ้วนผิดปกติ มีนิสัยชอบกินสามีจึงมักอยู่ตามลำพัง
นิวท์ = สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำตัวยาวบางทีมีขาสั้นคล้ายกบ
สข้าน้อย๊ตตเรอ์ปะทุไฟ = พ่นไฟได้ มีเดื่อยหางยาวอยู่บนหลัง มีหนังหนา
ค็อกคาทริส = สัตว์ในนิทานตัวเป็นไก่ หางเป็นงู
เงือก = มีผิวสีอมเทาและผมยาวสีเขียวเข้มรกรุงรัง ตาสีเหลือง มีหางสีเงินทรงพลัง
สพิงซ์ = ลำตัวเป็นสิงโต ขนาดมหึมา มรกรงเล็บขนาดใหญ่ และหางยาวสีอมเหลือง ตรงปลายหางเป้นป่ยสีน้ำตาล ส่วนหัวเป็นหญิงสาว
วีล่า = เป็นหญิงสาวผิวผุดผ่องราวแสงจันทร์ เรือนผมสีทองสุกสว่าง
เรเปรอคอน =ชาวฟ้าตามความเชื่อของชาวไอริชคล้ายแอลฟ์และก๊อบลิน มักสวมชุดสีเขียว มีหน้าที่ทำรองเท้าให้ชาวฟ้าอื่นๆเชื่อกันว่าเรเปรอคอนรู้ที่ซ่อนทองคำและมีนิสัยคดโกง
แมนติคอร์ = เป็นสัตว์ร้ายพบในประเทศกรีซหัวเป็นมมุษย์ตัวเป็นสิงห์ และมีหางเหมือน
แมงป่อง พิษจากเดือยแหลมมีฤทธิ์ทำให้ถึงตายทันที
นิฟเฟลอร์ = ขนปุยสีดำมีจมูกยาวๆใช้มันหาสมบัติ

ออฟไลน์ pittawat2542

  • Sergeant
  • *
  • กระทู้: 34
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #28 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 16:04:58 »

ออฟไลน์ naygue

  • Captain
  • **
  • กระทู้: 128
Re: รวมเรื่องเล่าตำนานเทพเจ้า
« ตอบ #29 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 21:11:52 »
ปวดหมองเยอะตึ๊บ -0-