ความรู้สึกดีๆกับคำว่าเพื่อน...
และเมื่อเข็มนาฬิกาที่มันเคลื่อน ก็พาเรามาจนถึงวันที่ตัวฉันเองก็อยากเลื่อน
ถึงเวลาที่คำว่าเพื่อน ต้องตามหาในสิ่งที่ตัวเชื่อ
หยิบปากกามาเซ็นต์เสื้อ ว่าในทุกเมื่อที่น้ำตาทำแก้มของเทอเปื้อน
มันจะเป็นเรื่องธรรมดา ความเศร้าไม่เคยมาแตะที่นี่ก็แค่พระศาสดา
เมื่อเรายังเป็นแค่คน ที่ออกเดินคนในสิ่งที่ตามหา
ขวากหนามและอุปสรรคจึงกลายเป็นสิ่งที่ตามมา การจากลาเป็นตัวแทนของการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
โลกนี้มันกว้างใหญ่เกินกว่าที่เราจะแขวนเอาไว้บนไหล่ ข้างนอกมีความฝันใฝ่ยืนรอให้เทอไปคว้าไขว่
และจำนวนของมันมีเยอะกว่านี้เราสองจะนับได้ถ้วนว่ามีเท่าไหร่ เมื่อกบสองตัวแยกกันออกจากกะลา
ฉันจึงเก็บมิตรภาพเจือจางกับหมึกปากกา เขียนข้อความถึงตรงนี้ว่าไกลห่างนับหมื่นลี้
แต่ ซอโซ่ กอดคอไม้โท และสระอียังเหมือนเดิม เทอจงจำไว้เพื่อนซี้แม้จะยังมีผลสมการที่เราโบกมือบ๊ายบาย
ให้ความเป็นเพื่อนเป็นสัมปทานกับสิ่งดีๆและร้ายๆ เขียนคำลาตั้งยืดตั้งยาวเพียงอยากบอกเทอตอนท้ายๆ
ฉันมีเรื่องราวดีๆที่ทำให้ใครต้องอิจฉา ฉันมีเวลาดีๆกับเพื่อนดีๆตลอดมา
แต่ว่าคนอื่นๆจะเป็นอย่างไรเทอยังมีความหมายบอกไว้ก่อนน่ะ คือความทรงจำงดงามที่ไม่มีเลือนลาง
ฟ้าที่ถูกเมฆดำมากั้นบัง ไม่ได้แปลว่าข้างหลังเมฆจะปราศจากซึ่งแสงจันทร์
มันก็คงจะเหมือนดังที่ใครสักคนเค้ากล่าว ว่าเพื่อนแท้มันหายากเพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
เราล่องเรือลงลำเดียวกันมาทั่วทั้งอ่าว แต่แล้วจะมีใครรู้ว่าอ่าวที่ว่ามันอาจจะกว้างแค่กะละมัง
พรุ้งนี้ยังมีอาทิตย์อันร้อนผ่าว และมันคงถึงคราวที่ฉันและเทอต้องหันหางเสือเรือกลับเข้าฝั่ง
เพราะฝนทั่งเพื่อให้เป็นเข็มง่ายกว่าหางมในทะเล เก็บภาพของข้าวมื้อนั้นที่เราแบ่งกันในจานแปล
เก็บเนื้อร้องเดิมๆท่อนนั้นที่เรากอดคอกันร้องเพลง เหลือเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายทีฉันจะปล่อยให้บรรเลง
แทนน้ำตาร่วงผล่อยกับดวงตาจ๋อยๆ กับสีหน้าหงอยๆก่อนโบกมือลาหยอยๆ
ในวันพรุ้งนี้ที่นี่ก็คงจะเปลี่ยนไป ผู้คนมากมายเข้ามาแทนเทอกับฉัน
บนกระดานข้อความเดิมๆที่ฝากเตือนทิ้งไว้ มันคงสลายกลายเป็นเพียงแค่ฝุ่นผงบนความว่างเปล่า
บนทางเดินเก่าๆบนโต๊ะเก้าอี้เก่าๆ ไม่ว่าจะมีใครมาตรงนี้มันก็ยังเป็นที่เก่าๆ
ก็เรื่องราวที่เราได้ทิ้งไว้ ไม่ลบเลือนไปง่ายดาย....
และเพียงเทอยังมีข้อความให้รับรู้ และเมื่อคิดถึงยังมองดูรูปถ่าย
ภาพที่ยังจำได้มาเจอกันอีกครั้ง จำไว้ว่าฉันยังมีเทอเสมอไป....
และเมื่อเข็มนาฬิกาที่มันเคลื่อน ก็พาเรามาจนถึงวันที่ตัวฉันเองก็อยากเลื่อน
ถึงเวลาที่คำว่าเพื่อน ต้องตามหาในสิ่งที่ตัวเชื่อ
หยิบปากกามาเซ็นต์เสื้อ ว่าในทุกเมื่อที่น้ำตาทำแก้มของเทอเปื้อน
มันจะเป็นเรื่องธรรมดา ความเศร้าไม่เคยมาแตะที่นี่ก็แค่พระศาสดา
เมื่อเรายังเป็นแค่คน ที่ออกเดินคนในสิ่งที่ตามหา
ขวากหนามและอุปสรรคจึงกลายเป็นสิ่งที่ตามมา การจากลาเป็นตัวแทนของการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
โลกนี้มันกว้างใหญ่เกินกว่าที่เราจะแขวนเอาไว้บนไหล่ ข้างนอกมีความฝันใฝ่ยืนรอให้เทอไปคว้าไขว่
และจำนวนของมันมีเยอะกว่านี้เราสองจะนับได้ถ้วนว่ามีเท่าไหร่ เมื่อกบสองตัวแยกกันออกจากกะลา
ฉันจึงเก็บมิตรภาพเจือจางกับหมึกปากกา เขียนข้อความถึงตรงนี้ว่าไกลห่างนับหมื่นลี้
แต่ ซอโซ่ กอดคอไม้โท และสระอียังเหมือนเดิม เทอจงจำไว้เพื่อนซี้แม้จะยังมีผลสมการที่เราโบกมือบ๊ายบาย
ให้ความเป็นเพื่อนเป็นสัมปทานกับสิ่งดีๆและร้ายๆ เขียนคำลาตั้งยืดตั้งยาวเพียงอยากบอกเทอตอนท้ายๆ
ฉันมีเรื่องราวดีๆที่ทำให้ใครต้องอิจฉา ฉันมีเวลาดีๆกับเพื่อนดีๆตลอดมา
แต่ว่าคนอื่นๆจะเป็นอย่างไรเทอยังมีความหมายบอกไว้ก่อนน่ะ คือความทรงจำงดงามที่ไม่มีเลือนลาง
ฟ้าที่ถูกเมฆดำมากั้นบัง ไม่ได้แปลว่าข้างหลังเมฆจะปราศจากซึ่งแสงจันทร์
มันก็คงจะเหมือนดังที่ใครสักคนเค้ากล่าว ว่าเพื่อนแท้มันหายากเพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
เราล่องเรือลงลำเดียวกันมาทั่วทั้งอ่าว แต่แล้วจะมีใครรู้ว่าอ่าวที่ว่ามันอาจจะกว้างแค่กะละมัง
พรุ้งนี้ยังมีอาทิตย์อันร้อนผ่าว และมันคงถึงคราวที่ฉันและเทอต้องหันหางเสือเรือกลับเข้าฝั่ง
เพราะฝนทั่งเพื่อให้เป็นเข็มง่ายกว่าหางมในทะเล เก็บภาพของข้าวมื้อนั้นที่เราแบ่งกันในจานแปล
เก็บเนื้อร้องเดิมๆท่อนนั้นที่เรากอดคอกันร้องเพลง เหลือเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายทีฉันจะปล่อยให้บรรเลง
แทนน้ำตาร่วงผล่อยกับดวงตาจ๋อยๆ กับสีหน้าหงอยๆก่อนโบกมือลาหยอยๆ
ในวันพรุ้งนี้ที่นี่ก็คงจะเปลี่ยนไป ผู้คนมากมายเข้ามาแทนเทอกับฉัน
บนกระดานข้อความเดิมๆที่ฝากเตือนทิ้งไว้ มันคงสลายกลายเป็นเพียงแค่ฝุ่นผงบนความว่างเปล่า
บนทางเดินเก่าๆบนโต๊ะเก้าอี้เก่าๆ ไม่ว่าจะมีใครมาตรงนี้มันก็ยังเป็นที่เก่าๆ
ก็เรื่องราวที่เราได้ทิ้งไว้ ไม่ลบเลือนไปง่ายดาย....
และเพียงเทอยังมีข้อความให้รับรู้ และเมื่อคิดถึงยังมองดูรูปถ่าย
ภาพที่ยังจำได้มาเจอกันอีกครั้ง จำไว้ว่าฉันยังมีเทอเสมอไป....