เรื่องราวของดาวปริศนา(Planet X)ยังคงเป็นที่ถกเถียงและหาทางพิสูจน์กันอยู่ว่า ไอ้ดาวลึกลับในตำนานบทนี้มันมีอยู่จริงหนือไม่? และถ้ามี ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน? และเนื่องดวยมันยาวมาก จึงต้องแบ่งหัวข้อย่อยออกเป็นสองส่วนคือ ภาคตำนานในอดีต และภาคข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
เนื่องด้วยความสงสัยของตัวผมและใครอีกหลายๆคนว่าทำไมปี 2012 จึงมีข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมากมายเหลือเกิน!!!
บางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจาเหตุโลกร้อน บางแหล่งก็อ้างไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมา แต่มีสิ่งที่นึงที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อมเกี่ยวปรากฎการณ์ที่อาจ หลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศานาดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาล (นับตามแบบของชาวสุเมเรียน)
ถ้า ใครได้พอดูความปี 2002 จะได้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆ แต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ปี 1982 แล้วซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกัน มันคือดาวที่มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru)
และด้วยหลักฐานโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เนืองๆ ว่า...
สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจากดาวดวงนี้
แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราะห์ดวงใหม่ ที่อาจสำคัญมากๆๆ ทำไมผมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น?
สิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....
ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้ว
แต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้
แปลว่า... ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาดวงก็แปลว่ามันโคจรเข้ามาใกล้กาแล็คซี่เราสินะ
ถูกครึ่งเดียวครับ ความจริงมันเเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย
เส้น ทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ มีความเป็นไปได้ที่มันจะโคจรมาทับเส้นเดียวกับวงโคจรของโลกเลยล่ะครับ ซึ่งนั่นก็แปลว่า... มันมีสิทธิชนโลกใด้!!
มันเข้าใกล้มาจริงเร้อ?
เส้นทางวงโคจร ทำให้เรารู้ได้ว่าถ้าเมื่อก่อนเราส่องดูดาวบริเวณทิศใต้สุดของดาวโลกเราจะเห็นมัน แต่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลช่วย
แต่ปัจจุบันนี้ ปีนี้สามารถเห็นได้ด้วยเปล่าแล้ว!!
(เส้นขาวๆ คือลูกศรชี้ตำแหน่งดาวนิบิรุครับ)
และสำหรับคนที่อยากเห็นแต่ไม่มีตังไปออสเตรเลียหรือประเทศอะไรที่อยู่ทางใต้ของโลกนะครับ แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม googleSky ดู ท่านจะเห็นเป็นวงแดงๆ อยู่วงเดียวทั้งท้องฟ้า นั่นหละครับ นิบิรุ...
แล้วทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับโบราณสถานและวัตถุในอดีตหละ
นัก โบราณฯ สันนิษฐานว่า นิบิรุเคยโคจรเข้ามาใกล้ทีนึงแล้วในเมื่อหลายแสนปีก่อน หลายหมื่นปีก่อน และหลายพันปีก่อน (ในช่วงพระคริสต์นั่นเอง)
หากดาวดวงนี้โคจรมาที่ ระบบสุริยะของดวงอาทิตย์อีกครั้ง ซึ่งกำลังจะเกิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ มันจะทำให้เกิดมหันตภัยชนิดโหดสุดยอด เพราะแกนของดาวมีสนามแม่เหล็กอยู่ ซึ่งมันจะทำปฎิกิริยากับสนามแม่เหล็กโลก อาจจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนครั้งใหญ่ เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ เกิดภาวะน้ำขึ้นกระทันหัน ซุปเปอร์สึนามิ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เกิดพายุต่างๆ นาๆ และอื่นๆนับไม่ถ้วน!! และเค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่าในปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว
ข้อมูล อาจจะยังไม่แน่นพอ เพราะ NASA ยังปิดข่าวอยู่ แต่นักดาราศาสตร์ชั้นนำของประเทศต่างๆออกมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความเป็นไปได้ กันอย่างจ้าละหวั่น
ข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่คือ บางแหล่งบอก ดาวฤกษ์ และบางแห่งบอกว่าเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ประมาณดาวพฤหัส!!! (ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบนี้
Data of Nibiru
คาดหมายว่าเป็นสมาชิกของระบบสุริยะ ตามการคาดหมายเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9(นับตามแบบสากล โดยได้ตัดดาวเคราะห์แคระพลูโตออกไป)
เนื่องจากนักดาราศาสตร์ได้ศึกษาการโคจรของดาวยูเรนัสและพบว่าวงโคจรของ ยูเรนัสมีลักษณะที่ผิดปกติอยู่พอสมควรจึงคาดว่าน่าจะมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ ที่สามารถส่งแรงโน้มถ่วงรบกวนการโคจรของยูเรนัส จึงได้มีการพยายามค้นหา และได้พบดาวเนปจูนแต่การค้นพบนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายความผิดปกติทั้งของ ยูเรนัสและเนปจูนจึงได้มีการพยายามค้นหาเพิ่มเติมและได้พบพลูโต แต่พลูโตเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กมากทำให้ยังไม่สามารถอธิบายความผิดปกติ ของการโคจรของยูเรนัสและเนปจูนได้จึงได้มีความพยายามที่จะค้นหาดาวเคราะห์ ดวงที่ 9ของระบบสุริยะอีกครั้ง ความพยายามครั้งนี้ไม่เพียงแต่แค่ค้นหาโดยการสังเกตเทหวัตถุในท้องฟ้าเท่า นั้น ยังมีความพยายามในการค้นหาโดยการศึกษาบันทึกโบราณที่อาจจะบันทึกถึง ปรากฏการณ์ที่อาจจะสรุปได้ว่ามีการเคยพบเห็นดาวเคราะห์ลึกลับดวงนี้อีกด้วย (Planet X นี้เป็นชื่อที่ผู้คนหลงใหลเพราะนัยหนึ่งหมายถึงดาวเคราะห์ดวงที่ 9 อีกนัยหนึ่งหมายถึงดาวเคราะห์ลึกลับที่ไม่เคยมีใครพบเห็น)
ขนาด: ใหญ่กว่าโลก 5 เท่า = ประมาณดาวพฤหัสบดี <<<(อันนี้ผมไม่รู้ว่าข้อมูลมันถูกมั้ยเพราะได้ยินมาว่าพายุบนดาว พฤหัสยังใหญ่กว่าโลกตั้ง 3 เท่า จขกท.)
มวล: ไม่ทราบ
บริวาร: ไม่ทราบ
คาบการโคจร: ประมาณ 3,600 ปี วงโคจรคล้ายดาวหาง จุดที่ห่างจากดวงอาทิตย์ที่สุดอยู่ในแถบกลุ่มเฆมออร์ด จุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์น่าจะเป็นบริเวณแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวพฤหัสบดี และดาวอังคาร
จุดกำเนิด: ไม่ใช่สมาชิกดั้งเดิมของระบบสุริยะ แต่ถูกดวงอาทิตย์จับไว้เป็นบริวารเมื่อ 500,000 ปีก่อน คาดว่าน่าจะหลุดมาจากระบบสุริยะของดาวซีรีอุสA
ลักษณะพิเศษ: เป็นดาวเคราะห์ที่อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เช่นเดียวกับโลก
ผลกระทบที่มีต่อโลก: ในอดีตมีความเป็นไปได้สูงเคยโคจรเฉียดใกล้โลกทำให้ดวงจันทร์น้อยที่เป็นดาว บริวารชนโลกทำให้เกิดเป็นมหาสมุทรแปซิฟิค ปัจจุบันน่าจะมีวีถีโคจรที่แน่นอนแล้ว คาดว่าไม่ถึงกับชนโลกแค่เฉียดๆ แต่จะสร้างหายนะให้โลกอย่างมหาศาล