คุณจะมีความเชื่อเหมือนผมรึปล่าวไม่รู้นะ
แต่ผมเชื่อว่าหากร่างกายนี้ดับสูญไป อย่างน้อยก็ยังเหลือดวงวิญญาณที่ยังคงล่องลอยในจักรวาลแห่งนี้ โลกไม่แตกหรอกครับแล้วเราก็ไม่ตายด้วย เพราะหากโลกแตกนั่นก็ต่อเมื่อโลกได้ถูกหลุมดำกลืนกินไปแล้วถึงจะเรียกว่าโลกแตก แต่ที่เราใช้ศัพท์ว่าโลกแตกไปนั้นก็เพื่อให้ตระหนักถึงภัยพิบัติในภายภาคหน้า เพื่อให้เราต้องยอมรับมันกับผลกรรมที่ทำร่วมกัน ไม่ว่ามันจะเกิดหรือไม่เกิดสุดท้ายแล้วเราก็ต้องตาย จะตายเร็วหรือตายช้าก็เรียกว่าตายอยู่ดี
ถึงจะมีคนรอดสุดท้ายแล้วก็ต้องตายอยู่ดี ไม่มีใครอยู่ได้ยืนยงคงนานหรอก เพราะทุกสิ่งย่อมมีเกิดและมีการดับศูนย์นี้คือสัจธรรมของจักรวาลแห่งนี้
การหวงชีวิตนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูก เพราะนั่นเป็นสิทธิของเรา แต่หากต้องตายจริงๆ เมื่อถึงเวลานั้นเราก็ต้องยอมรับมัน มีคนบอกไว้ว่าความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะทุกๆคนและทุกๆสิ่งมีชีวิตก็ย่อมเคยตายไปแล้ว หากแต่เพียงแค่หลงลืมไปว่าเราเคยตายไปแล้วก้เท่านั้น
การที่เราได้เกิดเป็นมนุษย์ใช่ว่าจะรักตัวกลัวตายเพียงผู้เดียว แต่ทุกสิ่งที่มีชีวิตก็ย่อมกลัวอย่างเราเช่นกัน เพราะทุกๆสิ่งมีชีวิตกลัวที่จะพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรักไป สิ่งที่สำคัญไป แต่เมื่อถึงตอนนั้นเราจะยอมรับมันและเฝ่ารอวันเวลาที่จะเกิดร่วมกันใหม่รึไม่เท่านั้น
ผมเชื่อว่าวิญญาณของทุกสิ่งมีชีวิตมีคู่ของมัน จะไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นแน่ และดวงวิญญาณคู่หนึ่งก็จะมีสายใยหรือความผูกพันกันดวงวิญาณคู่อื่นๆไปเรื่อยๆ แล้วสายใยเหล่านั้นก็จะไม่มีวันขาดลง ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรในชาติต่างๆก็ตาม
การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นก็เพื่อให้ตระหนักถึงบาป เพื่อที่จะได้ทำความดี ได้รับรู้ความสัตย์ที่ได้รับจากธรรมชาติ เพราะความรักย่อมอยู่รายล้อมรอบตัวเรา ได้สัมผัสความสุขและความเหงา เพื่อให้ตระหนักถึงช่วงชีวิตอันน้อยนิด และได้สัมผัสความเป็นจริงที่เป็นไป เพื่อให้ยอมรับในทุกๆสิ่งจะได้ไม่มีเรื่องกังวลหลังจากหมดลมหายใจไปแแล้ว
ขอย่อๆค่ะ