บทที่ 3 รักวัยเรียน..ก็เป็นแบบนี้
“ต้น วันนี้อย่าลืมคุยMSNนะ แล้วพู่จะรอ”
[ครับ ไม่ลืมแน่นอนครับ]
เด็กสาวคนหนึ่งผมยาวสยาย เธอมีชื่อว่าพู่ วางสายโทรศัพท์ลงแล้วอมยิ้ม ก่อนจะเดินกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี
เมื่อมาถึงที่บ้าน เธอก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์ทันทีพร้อมที่จะแชทพูดคุยทางอินเทอร์เน็ตกับต้น แฟนของเธอ
และพอพู่เปิดMSNดู ก็ยังไม่เจอต้นออนMSNอยู่ พู่เลยหาเวลานอกเล่นเว็บอื่นหรือดูข่าวสารเกี่ยวกับMSN เพื่อฆ่าเวลา
‘เย็นนี้จะนัดกับต้นไปกินข้าวด้วยกัน เอ..เอาที่ไหนดีน้า..’
ระหว่างที่พู่คิดต้นก็ออนMSNซะแล้ว พู่ก็รีบชวนนัดกับต้นไปกินข้าวเย็นนี้พร้อมกับไปดูหนังตามที่คิดเอาไว้
“ต้น ทำไมดูแปลกๆหละ ทำไมไม่ค่อยพูดเลย”พู่ถามอย่างสงสัย ในใจรู้สึกหวั่นๆ
“เปล่าหรอกพู่ ไม่มีอะไรหรอก”
เมื่อได้ยินคำตอบดังนั้น พู่ก็โล่งใจถึงกับอมยิ้ม แล้วพิมพ์ต่อไป
“งั้นก็ดี ตกลงนะว่าเราจะไปกินข้าวและไปดูหนังกัน”
“แต่ที่ผ่านมาพู่ไม่ค่อยดูแลผมหรือใส่ใจผมเลย”
พู่งุนงงเล็กน้อย หัวใจเริ่มเต้นโครมครามผิดจังหวะราวกับว่าจะมีเหตุร้ายเกิด
“และพู่ดูนี่นะ เดี๋ยวผมจะเปิดเว็บแคมให้ แล้วพู่จะเห็นเองว่าทำไมถึงสายไปแล้ว”
เมื่อต้นเปิดเว็บแคม พบผู้ชายหน้าตาดีทรงผมลากไทร ยิ้มให้ในเว็บแคม พู่มองอย่างสงสัย สักพัก เพื่อนรักของเธอ ‘เบล’ ก็เดินเข้ามาหอมแก้มก่อนจะเริ่มจูบปากกับต้น พู่มองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง น้ำตาค่อยๆเอ่อไหลริน มืออันสั่นเทาค่อยๆเลื่อนไปพิมพ์อย่างชำนาญ
“นี่ต้นแอบมีคนอื่นหรอ พู่เห็นต้นกับเบล กำลังจูบกัน ทำไมต้นทำแบบนี้ล่ะ”
“เห็นรึยังครับพู่ ว่าทำไมถึงสายไป ลาก่อนนะครับ เราจบกันแค่นี้เถอะ และอย่าได้ย้อนหวนคืนมาอีก”
พู่โมโหมากจึงคิดอยากฆ่าต้นกับเบล สองมือกำหมัดแน่น เขวี้ยงแจกันหน้าโต๊ะคอมอย่างรุนแรง ก่อนจะหอบหายใจ และอยู่ดีๆก็มีข้อความด่วนส่งมาว่า
“ผมรู้ว่าคุณอยากฆ่าคนใช่ไหมครับ”
เป้าหมายพิมพ์ MSN ตอบมา พู่เอะใจเล็กน้อยว่าตัวเองไปรับอีเมล์ของคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็พิมพ์ตอบกลับไปอยู่ดี
“ใช่ค่ะ อยากฆ่ามาก ทั้งรักทั้งเกลียด ว่าแต่คุณเป็นใครกัน”
“ผมเป็นใครไม่สำคัญ แต่ถ้าคุณขอก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะฆ่าเขาให้ แต่ผมขออะไรคุณสักอย่าง”
“ได้ค่ะ คุณจะขออะไรดิชั้นคะ”
“ผมขอชื่อคนที่คุณอยากฆ่า และส่งชื่อเขามาไห้ผม และสิ่งที่ผมต้องการ”
“ได้ค่ะ และตอนนี้คุณจะเอาอะไรกับดิชั้นก็เอาไปเลยค่ะ ขอแค่ให้2คนนั้นตายก็พอแล้วค่ะ”
“ครับ บอกชื่อเขามาเลยครับ”
“คนที่ชื่อ ต้น กับ เบล ค่ะ รู้จักไหมคะ หวังว่าคุณคงพอจะทราบ”
“ได้ครับไม่มีปัญหา”
พู่เอะใจเล็กน้อยว่าคนคนนี้รู้จักเธอได้อย่างไร ทำไมถึงรู้จักต้นกับเบล สงสัยคงจะล้อเล่น แต่คุยแก้เซ็งไป ก็คงไม่เสียหาย ใครจะไปเชื่อเรื่องพรรค์นี้กันล่ะ..
และวันรุ่งขึ้น ขณะพู่กำลังเดินไปดูรายละเอียดของห้างสรรพสินค้าที่สร้างใหม่ในจังหวัดกรุงเทพเพื่อคลายความเหงา และมีเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง กำลังปั่นปูนแข็งให้ละเอียด เสียงฝีเท้าดังขึ้น พู่หันหน้าไปก็เจอต้นกับเบลกำลังเดินเล่นกันอยู่ ความโมโหเริ่มครอบงำจิตใจทันที
และอยู่ดีๆ ต้นกับเบลก็หกล้มโดยที่ไม่มีสาเหตุ ไม่ได้สะดุดขา ร่างของทั้ง2หล่นลงไปในเครื่องบดปูน เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างเจ็บปวด ผู้คนระแวกนั้นกรีดร้องกันไปตามๆกัน เศษชิ้นเนื้อและเลือดพุ่งกระจายออกมาเต็มขอบเครื่องบดปูน และตกลงมาบนพื้น พร้อมเลือดที่พุ่งเข้าหาหน้าพู่ไปหยดหนึ่ง
“มะ..ไม่จริงน่า”พู่มองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง สักพัก มือของใครสักคนก็ผลักเธอตกลงไปเหมือนกัน
“กรี๊ดดดดด !!”เธอหวีดเสียงร้องลั่นหวังจะขอความช่วยเหลือ แต่มันก็สายไปเสีย เครื่องค่อยๆบดไปที่แขนและมือ หน้าตา ตามด้วยลำตัว ลูกตาที่กระเด็นออกมากลิ้งหันไปมองร่างที่เละของต้นและเบล
และมีเสียงกระซิบก่อนตายว่า
“ขอบคุณที่ใช้บริการของพวกเรา โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ”