ตอน สุด ท้าย ละ
ไม่รู้ ซึ่ง จิงป่าวไม่ได้ อ่าน
555+
นาร้องไห้โทรหาบี "บี นากลัว เอ้โทรมาอาละวาด หาว่านามีคนอื่น" บีเริ่มทนไม่ได้กับการกระทำของเอ้ บีตัดสินใจพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"นา ถึงเวลาแล้วนะ บีจะเอาของบีคืน บีจะเอานามาจากเอ้" นาดีใจและพูดว่า "ขอบใจนะ ที่บียังไม่ลืมนา อ้อ เห็นบีบอกซื้อโทรศัพท์ใหม่นี่ เครื่องเก่าล่ะ ขายหรือยัง"
"ยัง มันเป็นของนานะ บีจะขายได้ไงล่ะ" บีตอบ "งั้น วันอาทิตย์นี้บีเอามาคืนเราได้ไหม ที่เดิม เวลาเดิม" นาถาม "ตกลงบีจะเอาไปให้ ทั้งกล่องเลย" บีรีบตอบทันควัน
ถึงวันอาทิตย์ ทั้งคู่ต่างมาตามนัด นามาช้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้บีโกรธเลย ตลอดเวลาที่เคยนัดกันนาจะมาช้าเสมอ แต่บีไม่เคยเบื่อที่จะรอ
ทันทีที่ทั้งสองเจอหน้ากันในรอบเกือบ 2 ปีที่เอาแต่คุยกันในโทรศัพท์ ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่า ยังลืมกันไม่ได้เลย
"ผอมไปนะ กินข้าวบ้างสิ" บีที่เห็นผู้ใหญ่และน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น ไม่ขี้เล่นเหมือนแต่ก่อนถามนา
"กินแล้ว ได้แค่นี้ล่ะ ไหนขอดูตาหน่อยสิ" บีเอี้ยวตัวด้านซ้ายให้นาดูตาเขา เปลือกตาของบีจะตกเล็กน้อยเพราะแผลเป็นที่เกิดจากการเย็บ
"หายดีแล้วนี่" นาบอก "อืม หมอดีน่ะ พยาบาลก็น่ารัก เลยหายไว" บีพูดติดตลกแล้วพูดต่อ "โทดที ผมกระเซิงไปหน่อย งานยุ่งเลยไม่มีเวลตัด"
"น่ารักดีออก" นาขัด บีตอบทันควัน "ขอบใจ อ่ะนี่โทรศัพท์เอามาคืน ขอบคุณนะ มันคุ้มค่ามาก ถึงเวลาต้องคืนเจ้าของแล้ว" บียื่นกล่องโทรศัพท์ให้นา
"งั้นนากลับแล้วนะ ที่บ้านมีงาน" นาพูดก่อนจะเดินไปขึ้นรถ "อื้ม กลับบ้านดีๆล่ะ" บีตอบและบอกด้วยสายตาเปล่งประกาย
ยังไม่ทันจะถึงบ้าน เสียงโทรศัพท์บีก็ดังขึ้น
"บี นามีอะไรจะบอก" เสียงเงียบๆ จากโทรศัพท์ "ว่ามาสิ" บีรับคำ
"ที่นัดเจอวันนี้นาไม่ได้อยากเอาโทรศัพท์คืนหรอก นาแค่อยากเห็นหน้าบีเฉยๆ และทำให้นารู้ว่า นาก็ลืมบีไม่ได้เลย" บีดีใจแอบยิ้มมุมปากเล็กๆ ตอบกลับไปว่า
"เรารอมาเกือบ 2 ปีที่จะฟังคำนี้ และเกือบ 2 ปีที่ความรู้สึกเดิมๆตอนเราคบกันแรกๆ กลับมาหมดแล้ว" นาน้ำตาไหล รู้สึกผิดที่ทำอะไรให้บีเสียใจไว้อย่างมากมาย
แต่บีไม่เคยแม้จะด่าว่าหรือตะคอกนาเลย "งั้นเดือนหน้า เราไปดูหนังด้วยกันนะ" นาชวน "ได้ ครั้งนี้บีให้นาเลือกว่าอยากดูเรื่องอะไร" บีตอบ
ทั้งคู่วางหูและเต็มไปด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบกับความรัก ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ว่าจะได้กลับมาคบกันอีกครั้ง
และบีได้งานใหม่ที่ไม่ไกลจากบ้านของนามากนัก แต่ที่ทำงานใหม่นัดบีตรวจสุขภาพตอน 8 โมงเช้า แล้วบ้านบีอยู่อีกฟากของกรุงเทพ
"คงไปทำงานที่ใหม่ไม่ได้แล้วล่ะ บีไปตรวจสุขภาพไม่ทันหรอก" บีคุยโทรศัพท์กับนา นาเลยเสนอ
" งั้นนาจะขอพ่อนาใหบีมาค้างที่บ้านนา 1 คืนเพื่อจะได้ไปตรวจสุขภาพทันไง" "ลองขอดูนะ" บีแนะ
พ่อของนาได้ยินที่นาพูดและอยากเจอผู้ชายที่ดีกับลูกสาวตัวเองตลอด 3 ปี ตกปากตกลงทันที
คืนนั้นที่บ้านนาหลังจากข้าวเย็นที่แม่ของนาละเลงสุดฝีมือให้บีทาน
บีและพ่อของนากำลังคุยกันเรื่องงานใหม่ของบี โทรศัพท์นาดังขึ้น แต่นาล้างจานอยู่เลยยื่นโทรศัพท์ให้บี นารู้แล้วว่าเป็นเบอร์ของเอ้ แต่บีไม่รู้
บีรับสาย เป็นเสียงผู้ชาย "ขอสายนาครับ" บีตอบว่าเดี๋ยวนะ และส่งโทรศัพท์ให้นา
นากระซิบ "แหม ยังทำใจกว้างอีกนะ" หลังจากนั้นนาคุยกับเอ้
"มันจบแล้วเอ้ นาพยายามเข้าใจเอ้แล้ว ทำใจเถอะ นาไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเอ้" พูดจบนาก็วางหูแบบไร้เยื่อใย
จากนั้นก็จัดแจงที่นอนให้กับบีในห้องของนาเอง ส่วนนาไปนอนห้องพ่อกับแม่
ก่อนนอน นาเดินมาในห้อง กอดและหอมแก้มบีฟอดใหญ่ แล้วกระซิบที่หูว่า "ฝันดีนะจ้ะ Darling"
บีตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลัง พลังแห่งรักของนาที่กลับมาหาเขา ว่า "ฝันดีเหมือนกัน วันนี้บีมีความสุขมาก"
บีได้งานใหม่และเช่าห้องเล็กๆใกล้ๆที่ทำงาน ช่วงแรกๆบีปรับตัวกับระบบกะหมุนเวียนไม่ได้
4 เดือนแรกบีไม่ผ่าน Professional ช่วงแรก แต่มีนาคอยให้กำลังใจ และปลอบว่า "ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร นาจะช่วยหางานใหม่"
ชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้น จึงบอกตัวเองว่า "ห้ามทำให้นาลำบากเด็ดขาด" แค่ 2 เดือนต้องทำให้ได้
และบีก็ทำได้ และได้จัดว่าเป็นช่างกะระดับๆต้นๆของบริษัทฯ
เดือนละประมาณ 2 ครั้งที่นาจะมาห้องเพื่อมาทำความสะอาดให้ และซักผ้าปูที่นอนให้เพราะบีต้องทำงานหนักช่วงทดลองงาน
กุมภาพันธ์ปีต่อมาบีพานามาที่บ้านบีเพื่อพบ พ่อ แม่ พี่ชายบี และเป็นวันเกิดน้องสาวบี
ซึ่งบีและนารวมเงินกันซื้อโทรศัพท์ให้น้องสาวคนสุดท้อง พ่อและแม่ต่างดีใจที่ลูกชายกลับบ้านพร้อมแฟนสาว
ที่เฝ้ารอวันที่ลูกชายพามาเปิดตัว ว่าที่ลูกสะไภ้ของแม่ในอนาคต ทั้งบ้านมีคามสุขมากในวันเกิดน้องสาวของบี
หลังจากนั้น บีก็ทุ่มเทให้กับงาน โดยบอกกับนาว่า "บีเข้ากะแล้วเวลาพบกันคุยกันจะน้อยลงนะ"
ซึ่งเป็นแบบนั้นจริงๆ บางเวลานานอนหลับ บีต้องมาทำงาน บางเวลานาหยุดวันอาทิตย์ บีต้องนอนเนื่องจากออกกะดึกมา
ทั้งคู่มีเวลาให้กันน้อยมาก หลังเลิกงานนาจะโทรหาบี "กินข้าวยัง เหนื่อยไหม วันนี้ฝนตกอย่าลืมร่มนะ"
"จ้ะๆ บีขอทำงานก่อนนะงานยุ่งมาก วันนี้เข้าบ่าย บีพักตอน 1 ทุ่มไว้คุยกันนะ" บีตอบ
บีทำงานจนลืมเวลา นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหานา แต่โทรไปตอน 4 ทุ่มครึ่งซึ่ง นานอนแล้ว
"ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะบี นาเหนื่อย" นาตอบ บีที่อยากจะคุยกับคนรักตัวเองหนักหนา จำต้องวางหูไปเพราะเห็นว่านาเหนื่อยมาก
ต่างคนต่างทำงานทำให้ทั้งคู่บอกรักกันน้อยมาก พักหลังนาไม่ค่อยได้ไปที่ห้อง ส่วนบีมี OT ทำตลอดเลยต้องควบกะ 16 ชั่วโมงต่อวัน
เนื่องจากมีระบบใหม่มาติดตั้งที่บริษัทฯ และเป็นที่แน่นอนว่า บีต้องเรียนรู้ระบบนั้น ยิ่งทำให้ไม่มีเวลาให้นามากขึ้น
"เราห่างกันไปไหม" บีถามนาผ่านโทรศัพท์ "ไม่นี่ บีบอกนาแล้วว่า เวลาคุยกันจะน้อยลง"
เกือบปีที่ทั้งคู่ไม่เคยดูหนังด้วยกันเลย
บีที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อตำแหน่งการงาน และเงินเดือนที่หวังจะได้เพิ่มมากขึ้นเพื่ออนาคตของเขาและนา ซึ่งบีหวังไว้ว่า ไม่นาน
"เราจะแต่งงานกัน" แต่บีไม่เคยบอกความฝันนี้ให้นาได้รู้ เอาแต่ทำงานและทุ่มเทให้มันเต็มที่ จนกระทั่ง...
นารู้สึกเหมือนบีเปลี่ยนไป ไมมีเวลาให้ โทรไปบางที่ก็ไม่รับสาย รู้สึกเหมือนถูกงานดึงคนรักของเธอไป
บ่อยครั้งที่ทะเลาะกันเรื่องเวลา "นา !! บีทำงานอยู่นะ เครื่องจักรมันหยุดไม่ได้ขอซ่อมก่อนได้ไหม"บีบอกเสียงแข็ง นาไม่พูดอะไรแล้วก็วางหู
พอเลิกงานบีกลัวนาโกรธจึงรีบโทรกลับแต่นาไม่รับเพราะห้าทุ่มแล้ว บีจึงส่งข้อความไป "ฝันดีนะ อากาศหนาว อย่าลืมห่มผ้าล่ะ"
2 เดือน นาไม่มาที่ห้อง 3 เดือน นาไม่มาที่ห้อง บีโทรไปหา นาตอบว่า "นาขออยู่คนเดียวสักพัก ได้ไหม" ซึ่งบีไม่ปฏิเสธ
ก่อนวางสายนาถามว่า "ถ้าเกิดนาถลำไปทางอื่นที่ไกล บีจะดึงนากลับมาไหม" บีไม่ตอบ แต่ต้องการบอกอะไรสักอย่างที่บีอยากบอกนา
แต่บียังไม่พร้อมจะบอก แล้วนาก็วางหูไป
ใกล้ถึงวันเกิดบี ซึ่งปีก่อน นาจัดงานวันเกิดเล็กๆในห้องของบี ทั้งสองมีความสุขมาก นาเซอร์ไพรส์โดยโกหกว่าไปต่างจังหวัดกับเพื่อน
ซึ่งบีถอนหายใจและตอบว่าไม่เป็นไร บีก็ทำงานเหนื่อย จะกลับไปนอนแล้ว แต่กลับไปก็ต้องอึ้งและน้ำตาคลอ
เมื่อแฟนสาวตัวเองจุดเทียนเล่มเล็กปักบนเค้กวันเกิดที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก ร้องเพลงวันเกิด และอัดเสียงใส่ตุ๊กตาหมีที่ซื้อไว้ให้
ความรู้สึกที่เธอให้เขาวันนี้ ทำให้ชายหนุ่มมุ่งมั่นสานฝันตัวเองให้สำเร็จเร็วที่สุด เพื่อจะได้แต่งงานกับคนรักของตัวเอง
แต่วันเกิดของบีปีนี้ บีชวนนากลับบ้านแต่นาบอกไม่ว่างไปธุระ นาได้แต่โทรศัพท์ไปอวยพรให้บีในวันนั้น
คราใดที่บีเหงา บีจะกดหน้าอกหมีที่มีเสียงของนาดังออกมาว่า "ของให้บีมีความสุขนะ นารักและเป็นห่วงบีนะ"
หลายเดือน จนแบตในตัวหมีหมด บีที่อยากจะโทรไปหาแฟนใจจะขาด แต่ไม่กล้าเพราะมันดึกมาก
เวลานอนไม่เคยตรงกันเลย บีล้มตัวลงนอนอย่างเดียวดายในห้องที่เปล่าเปลี่ยว หลับลงด้วยความเหนื่อยล้า
จนวันนี้มาถึง บีซึ่งได้เลื่อนตำแหน่ง และได้ทำงานในเวลาปกติแล้ว ได้โทรไปบอกแฟนสาวตัวเองว่า "นา บีมีเวลาให้นาแล้วนะ"
เสียงผู้ชายรับ "นาไม่อยู่ครับ อยู่ต่างจังหวัด" ครั้งที่ 2 "นาไม่อยู่ อยู่ต่างจังหวัด" ครั้งที่ 3 "นาไม่อยู่ นี่ใครหรอ" บีเอะใจเลยถามผู้ชายคนนั้นว่า
"นี่แฟนบีใช่ไหม" คำตอบที่ได้ทำเอาหัวใจของบีเหมือนถูกบีบอัดด้วยแผ่นเหล็กหนา "ใช่ เราแฟนนา" บีร้องไม่ออก ช็อค ทำไรไม่ถูก
"งั้นฝากบอกนาด้วย บีโทรมาหา" บีพูดก่อนวางหู หลังจากนั้นไม่นาน นาโทรมา "อะไรหรอบีพอดีเข้าห้องน้ำ " นาถาม
"อะไรหรอ ก็แฟนนาคนนั้นไงล่ะ คบกันนานแล้วใช่ไหม" นาเงียบไม่ตอบ "ทำไมไม่ตอบล่ะ ก็แค่บอกจะได้หลีกทางให้"
บีพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่ใจสลาย "นาไม่รู้" นาแย้ง "ไม่รู้แล้วไอ่ที่มันบอกว่ามันเป็นแฟนนาล่ะ ไม่รู้ด้้วยใช่ไหม" เสียงของบีหนักขึ้น
"ใช่ !! เค้าเป็นแฟนนา" นาตอบเสียงเข้ม "เพราะบีไม่มีเวลาให้นาเลย นาโทรไปบีก็ไม่รับ นาอยากคุยกับบีแต่บีไม่เคยว่างคุยกับนาเลย"
"เราเคยคุยกันแล้วนี่ ว่าบีขอเวลา แล้ววันนี้..." ไม่ทันพูดจบนาแทรก "แล้ววันนี้บีถึงได้รู้ไงว่านาเสียใจแค่ไหน วันที่นาป่วยนาไม่สบาย
บีไม่เคยโทรหา นาโทรไปบีก็ไม่รับ มีแต่เค้าที่ไปเฝ้าไข้นาตลอด รู้ไหมนาเปลี่ยนไปตอนไหน ตอนที่นาถามบีว่า
"ถ้าเกิดนาถลำไปทางอื่นที่ไกล บีจะดึงนากลับมาไหม" แต่บีไม่ตอบนาเลย นาเสียใจมากรู้ไหม" นาร้องไห้หนัก ส่วนบีก็สะอื้น
ที่ได้ยินนาพูดแบบนี้และเสียใจกับการกระทำของตัวเอง และพยายามรวมสติพูดกับนาต่อ
"นา บีขอโทษ บีพยายามทำเพื่อเรานะ และวันนี้บีก็มี..." นาตัดบท "ช้าแล้วบี มันช้าไป" จบคำพูดนาวางหูทันที
ชายหนุ่มทรุดลงกับพื้น "ทุกอย่างที่ทำมา ทุกอย่างที่สร้างมา เท่ากับ 0 ไม่เหลือแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว"
บีเดินกลับไปห้องด้วยอาการที่หมดทั้งแรงกายและแรงใจ ล้มตัวลงนอนร้องไห้ น้ำตาลูกผู้ชายไหลจนหลับไปแบบไม่รู้ตัว
ตื่นมากับความว่างเปล่า บีพยายามง้อนาหลายครั้ง นาไม่รับโทรศัพท์ สุดท้ายนาก็รับและพูดมาว่า "นามี 2 ทางให้เลือก เดินต่อ หรือจบแค่นี้
แต่นาให้คำตอบบีไม่ได้หรอกนะว่านาจะเลือกทางไหน ซึ่งนาอาจเลือกจะจบก็ได้ และไม่ต้องโทรมาหานาอีก เพราะนารำคาญ !!"
บีอึ้งกับคำนี้ คำที่นาเอ่ยเป็นครั้งที่ 2 ตลอด 5 ปีที่รู้จักกันและคบกันมา บีไม่เคยพูดคำนี้กับนาเลย
และนาพูดคำนี้ 2 ครั้งแล้ว ครั้งคือเลิกกันครั้งก่อน ส่วนครั้งนี้ บีไม่อยากจะคิดต่อ..
วันต่อมาบีโทรหานาและบอกว่า บีขอเดินต่อ ส่วนนาได้ยินแล้วก็วางหูไป บีโมโหตัวเองมาก ขว้างโทรศัพท์กระแทกกำแพงห้อง โทรศัพท์แตกกระจาย
และกำลังเงื้อมือชกกำแพงอีกครั้ง "ไม่ได้ เราจะผิดสัญญากับคนที่รักไม่ได้" สิ่งที่บีทำคือ ประกอบโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่
ทำใจให้เข้มแข็งและหนักแน่น แล้วส่งข้อความสั้นๆให้นาว่า "บีจะเดินต่อ เดินตามทางของบีเอง มันจบแล้ว"
ครั้งแรกในชีวิตที่บีบอกเลิกกับคนที่ตัวเองรักมากที่สุดด้วยตัวเอง หลังจากนั้นบีใช้เวลาที่เหลือ เพื่อทำใจ และสู้ต่อ
15 วันหลังจากนั้น นาโทรมาหาบี น้ำเสียงสะอื้น "เลือกทางนั้นแล้วใช่ไหม" บีซึ่งหนักแน่นขึ้นตอบไปว่า "ใช่"
"บีคงจะเลือกสื่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเองสินะ" นาพูด บีซึ่งกำลังจะพูดแก้แต่ต้องหยุดชะงักแล้วพูดอีกลัษณะนึงว่า
"ก็แล้วแต่นาจะคิดนะ" ตรงข้ามกับหัวใจที่อยากบอกนาเหลือเกินว่า
"รู้ไหมที่รัก ที่บีเลือก บีเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับคนรักของบีเสมอมา
วันแรกที่เห็นนาสายตาเศร้า
วันที่นาผ่านเรื่องเลวร้าย
วันที่นาบอกว่าตัวเองไร้ค่า
วันที่นาซบอกคนคนนี้ เพื่อระบายปัญหาต่างๆนาๆ
วันที่นาบอกว่าเป็นคนไม่ดี
จะจมอยู่ในความเสียใจของผู้ชายคนนี้
มันจะลึกลงไปแบบไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น
มันจะอยู่กับผู้ชายคนนี้ คนที่ยังรักเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ไม่มีใครถูก ไม่มีคนผิด ฉันจะไม่โทษเธอ และขอร้องเธออย่าโกรธฉัน
คนอื่นจะเห็นแต่ความสวย ความดีของเธอ
ขอให้เขารักเหมือนที่ฉันเคยรัก และขอให้มันมากกว่าฉัน
ขอให้เธอมีความสุขกับคนรัก ตลอดไป....
จากคนที่รักเธอสุดหัวใจ จากผู้ชายธรรมดาคนนึง"
ก่อนจะวางหู นาถามคำถามสุดท้าย "บี ถึงเราจะเลิกกันแล้ว เรายังเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ไหม"
"ได้เสมอ" บีตอบอย่างใจเย็น
และนาไม่เคยรู้แรงปราถนาของบีเลยว่าอยากแต่งงานกับนาแค่ไหน ส่วนบีก็ไม่เคยที่จะบอกนาเลยสักคำ.....
หลังจากนั้น 1 ปี นาได้เจอคนรักใหม่ซึ่งจะแต่งงานกันในไม่ช้า และเชื่อว่าเขาเป็นคนดีสำหรับนา และนายังคงโทรคุยกับบีอยู่เสมอ
ส่วนบี โอนย้ายไปอีกที่หนึ่งที่เป็นบริษัทฯเดียวกันแต่ต่างสาขา และลาออกไปอยู่บริษัททำระบบ Automation และได้ไปต่างประเทศในปีต่อมา
บีพบคนรักคนใหม่ซึ่งอยู่ใกล้ตัวเขามาก(อย่าที่นาเคยบอกไว้) คือเพื่อนของน้องสาวเขาเอง เขาบอกไม่จำเป็นต้องรักกัน แค่เข้าใจกันก็พอ
เคยมีคนถามว่าทำไมบีไม่โกรธกับคนที่ทำผิดกับเขาเลยเลยล่ะ บีเปรียบเปรยว่า แก้วที่แตกมันหลอมใหม่เป็นแก้วได้โดยไม่มีรอยร้าวเก่าเลย
แต่ใจคนที่ถูกทำร้าย หลอมใหม่ก็ยังเหลือซึ่งความรู้สึกทิ่มแทงอยู่ ถ้าเราโกรธเหมือนเราทำร้ายใจเขา จะโกรธทำไมในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายเลย
8