GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 8
ผู้เขียน หัวข้อ: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)  (อ่าน 4958 ครั้ง)
Sweet_berry จ๊ะจ๋าเจ้าขา
Hero Member
*****
กระทู้: 3,298

จ๊ะจ๋าเจ้าขา


เว็บไซต์
Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #15 เมื่อ: 22-01-2010, 21:52:32 »

พ่อของแผ่นดิน

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน



Sweet_Berry [เกรียน,เบอร์รี่์ No.1]: ไม่หาเรื่องใคร แต่ไม่ยอมคนที่มาหาเรื่องก่อนค่ะ
ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต
Jr. Member
**
กระทู้: 486

อยู่บ้านเรายามหนาว ก็หนาวเเค่เพียงกาย


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #16 เมื่อ: 23-01-2010, 07:11:45 »

 woon Sad Wink Cry


ตนค้นตน ดีชัวที่ตัวทำสูงตํ่าที่ทำตัว
เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #17 เมื่อ: 23-01-2010, 11:36:25 »

ประเทศอื่นมีข่าวเกี่ยวกับพระมหากษัตย์(สะกดผิดขออภัย)วันล่ะครั้งไหม

นี่คือคำถาม ที่อาจบอกได้ว่า เรารักในหลวงจริงๆ
เซงมาก,,
Hero Member
*****
กระทู้: 2,655

เซงมาก >,<


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #18 เมื่อ: 23-01-2010, 14:18:06 »

ทรงพระเจริญ!!


~ ต่อจากนั้นชั้นก้อล้มทั้งยืน ไม่มีเหลือเรี่ยวแรงที่จะเดิน ~
ĈŸß€®ĿËă
Sr. Member
****
กระทู้: 1,649

VIP MEMBER


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #19 เมื่อ: 23-01-2010, 19:56:17 »

เรื่องจาก FW mail

ในหลวงทรงร้องไห้

เมื่อวันที่ 8 มีนา ที่ผ่านมาผมได้ไปงานที่โรงเรียน
เหมือนเช่นทุกปีตอนกลับเดินมาตามตึกยาวเพื่อจะกลับมาทางประตูด้านเพาะช่าง ยังไม่ถึงบริเวณเศาลหลวงพ่อปู่ พบอาจาร์ยท่านหนึ่งนั่งอยู่

จำได้ว่าเป็นอาจารย์สุธี ท่านเกษียณไปแล้ว ไม่รู้คุณรู้จักรึเปล่า กราบอาจารย์ท่านแล้ว สังเกตุเห็นว่าอาจารย์ร้องไห้อยู่ ท่านบอก เพิ่งได้พบกับรุ่นพี่ที่มาในงาน รุ่นที่เท่าไหรก้อไม่ได้ถาม เป็นนายทหารราชองครักษ์ชั้นผู้ใหญ่ เค้าเล่าให้อาจารย์ฟังว่า

****ในหลวงทรงร้องให้เห็นบ่อย****

'ทรงเสียใจที่เมืองไทยจะสิ้นในรัชกาลของท่าน แล้วกระนั้นหรือ'

ผมอยากจะตอบอาจารย์ไปว่าคงไม่หรอก ถ้าคนไทย รู้จำคำว่าว่า'หน้าที่'มากกว่า'สิทธิ'
เราเคยชินกับการเป็น..ผู้รับ...จากคนคนหนึ่งที่เกิดมาเป็น..ผู้ให้...ให้มาตลอด เคยชินจนลืมไปว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วรึยังที่ เราควรจะผู้ให้แก่พระองค์ท่านบ้าง... ผมลาอาจารย์เรียบร้อยร้อย กลับไปตามตึกยาว ไปไหว้ พระผู้ให้กำเนิดโรงเรียน อธิฐาษขอให้พระองค์ท่านช่วยคุ้มครองให้หลานท่านทรงมีแต่ความสุข..ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง...เพียงแค่ไม่อยากได้ยินว่า
..ในหลวงทรงร้องไห้
ความสุขของพระมหากษัตริย์
หนึ่งปีที่ผ่านมา
เราใส่เสื้อเหลืองเราใส่สายรัดข้อมือสีเหลือง

คนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่นาทีวันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเราได้ แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์ จักรี และ พระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย

.....สิบสองปีที่ผ่านมา


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไปในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพระราชชนนี
ไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือ ม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่ ยังจำกันได้ไหม?
..... 34 ปีที่ผ่านมา

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516

เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด
วันนั้น นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้นตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า
' คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง '

คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า 'คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน'
และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน หลังจากนั้นไม่นาน มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า 'เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น?' ผมไม่ได้ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น 'SOUL OF THE NATION' หรือ'จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ' ยังจำกันได้ไหม?
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด
เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส
เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ 'สิทธิ
' แต่ลืมคำว่า 'หน้าที่'
เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
เราสร้าง 'กฎหมู่' ให้เหนือ 'กฎหมาย'
เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย
เราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน
และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่
เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา
จะทรงเสียพระทัยเพียงใด?
แล้วสิ่งที่เราทำไปในวันเฉลิมพระชนมพรรษาคืออะไร การที่เราใส่เสื้อเหลือง สายรัดข้อมือ ที่ว่า Long life The King เราทำเพื่ออะไร
มันเป็นแค่ผักชีโรยหน้าที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าคุณรักพระมหากษัตริย์เพียงใดเท่านั้นนะเหรอ

80 ชันษาของพระองค์ท่าน หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์

พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ
ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้
ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ล้อม
ด้วยข้าราชบริพาร

หากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ
เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกัน
รู้จักความ พอเพียง และมีสติ-เพียงเท่านี้เอง
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของเรา



ĈŸß€®ĿËă
Sr. Member
****
กระทู้: 1,649

VIP MEMBER


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #20 เมื่อ: 23-01-2010, 19:59:20 »

ผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง

 คนสงสัยว่า รถนายก ทำไมต้องติดไฟแดง
> >>> เหตุ นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน บนถนนแห่งหนึ่งในกทม.
> >>> มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำ
> >> คันหนึ่งได้ขับ
> >>> ไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าวมี
> >>> เพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียง
> >> คนเดียวและ
> >>> ในระหว่างทางที่ขับไปนั้น ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1ถุง
> >> และได้ออก
> >>> รถไปจนกระทั่งขับ
> >>> มาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่งชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่
> >> จนมีรถ
> >> ;> ตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถเบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นจอดติดไฟ
> >>> แดงอยู่
> >> นั้นให้ถอย
> >>> ไปและรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า
> >>> "เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของชายดังกล่าว
> >> หลบ
> >>> ไป"
> >>> แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดัง
> >> กล่าว
> >>> และเรียกให้ชายผู้นั้นล งจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ ตำรวจได้เห็นชายคน
> >> นั้นถึงกลับ
> >>> เป็นลมล้มทั้งยืน
> >>> สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถจนต้องวิ่งลง
> >> มาดูพร้อม
> >>> กับ รัฐมนตรี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจ
> >> และรัฐมนตรี
> >>> ได้นั่งลงไปกับพื้นทันทีเสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้
> >>> อ่อนแรงลงไปทันใดและได้
> >> เงยหน้า
> >>> มองดูชายซึ่งยืนอยู่ข้างหน ้าตนด้วยอาการตัวสั่น ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็น
> >> เป็นชายที่มีรูปอยู่
> >>> บนธนบัตร ซึ่งก็คือ " ในหลวงองค์ปัจจุบัน "
> >>> ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและตำรวจติดตามว่า
> >>> พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับ
> >> จะ
> >>> ต้องฝ่าไฟแดงข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่น
> >> และกราบลง
> >>> บนพระบาท และในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า
> >> ให้ข้าพระ
> >>> พุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า
> >>> ในหลวงทรงตรัสว่าเรา
> >> ไม่ต้อง
> >>> ให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรี
> >>> เถอะ และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้นโดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่
> >> อย่าง
> >>> ใด เลย
> >>
> >>
> >
>
>
> DISCLAIM ER:



ĈŸß€®ĿËă
Sr. Member
****
กระทู้: 1,649

VIP MEMBER


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #21 เมื่อ: 23-01-2010, 20:04:02 »

คุณเคยเห็นช้างของรัชกาลที่ 9 ยัง‏













The kIP
Asura Tester
Full Member
*
กระทู้: 988

ดีใจที่มีเพื่อนดีๆ


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #22 เมื่อ: 23-01-2010, 20:11:55 »

ผมไม่ได้รักในหลวงมากที่สุดในโลก แต่ผมรักท่านเท่าคนธรรมดาคนนึงที่จะรักและเทิดทูนใครซักคนได้
จะเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง แค่โลกอาจจะเป็นคำจำกัดความที่น้อยไปสำหรับผม

เดินไปบนวิถีแห่งสวรรค์ เพื่อปกครองทุกสิ่ง
~พ.แพรว~
Sr. Member
****
กระทู้: 1,121


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #23 เมื่อ: 23-01-2010, 21:26:31 »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

" หื่นซึ่งหน้า ห่นไม่แคร์สื่อ..มีปัญหาม่ะ!! "
เซงมาก,,
Hero Member
*****
กระทู้: 2,655

เซงมาก >,<


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #24 เมื่อ: 23-01-2010, 21:41:14 »

อ้างจาก: ~พ.แพรว~ ที่ 23-01-2010, 21:26:31
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ทางการเลย

 Wink


~ ต่อจากนั้นชั้นก้อล้มทั้งยืน ไม่มีเหลือเรี่ยวแรงที่จะเดิน ~
~:•悪魔猫。<แมวปีศาจ>•:~
Asura Tester
Hero Member
*
กระทู้: 16,568


ทำไมพักนี้ดราม่าเยอะจังฟะ - -*


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #25 เมื่อ: 23-01-2010, 21:52:17 »

อ้างจาก: tHe_kIP ที่ 23-01-2010, 20:11:55
ผมไม่ได้รักในหลวงมากที่สุดในโลก แต่ผมรักท่านเท่าคนธรรมดาคนนึงที่จะรักและเทิดทูนใครซักคนได้
จะเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง แค่โลกอาจจะเป็นคำจำกัดความที่น้อยไปสำหรับผม

เง้อ  Shocked
ให้คำจัดกัดความรู้สึกไม่ครบถ้วน  ผมผิดไปแล้วคับ Sad

แต่จะให้เพิ่มว่า  รักเหนือสิ่งอื่นใด ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ
เดี๋ยวคนที่โหวตไปก่อน จะน้อยใจ Sad


อ้างจาก: ĈŸß€®ĿËă(เพื่อนนักเดินทาง) ที่ 23-01-2010, 20:04:02
คุณเคยเห็นช้างของรัชกาลที่ 9 ยัง‏


เคยเห็นแล้วคับ  สง่า น่าเกรงขาม  สมกับเป็นสัตว์คู่บารมีมหากษัตริย์จริงๆคับ ใช่


ĈŸß€®ĿËă
Sr. Member
****
กระทู้: 1,649

VIP MEMBER


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #26 เมื่อ: 25-01-2010, 10:35:46 »

จากยายซุบ ถึง ในหลวง..‏


แล้วท่านล่ะ...วันนี้ท่านตอบแทนคุณในหลวงอย่างไรบ้าง ..?
อ่านกี่ครั้งก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานแค่ไหน
ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ยากจนมาตังแต่ยังสาวจวบจนวันนี้ หากแต่เธอกลับยืนยันว่า เธอมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่ ไม่ว่าแกจะยังจนต้องขอเงินลูก ๆ 9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้นได้ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้

สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม ?

ยาย-ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่รู้หรอกนะตอนน ั้นว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว

เดินไม่ไหว แล้วไปยังไง ?

ยาย-ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย

ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ ?

ยาย-ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้ แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้ำแห้ง เรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อน

แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม ?
ยาย-ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)

แล้วได้เห็นท่านไหม ?

ยาย-ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่าง ๆ แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน

ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น ?

ยาย-ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินีท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็ถามว่า เป็นอะไร ? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว ? เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู

แล้วหมอว่ายังไง ?

ยาย-หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอยางนั้น พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไปที่ในหลวงซึ่ง ทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก

รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง ?

ยาย-รู้สิ เพราะเห็นในหลวง พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกันถึง 1 กิโล ( แค่นี้ก็ตื้นตันแทนคุณยายแล้ว)

รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น ?

ยาย-ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมาก ๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่ คิดว่าตัวเองรอดแน่ มันมีกำลังใจ คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้

พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่ ?

ยาย-ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน พอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด เราก็มองลงมาเห็ นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์ เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้

ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่ ?

ยาย-แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที ก็ไม่รอดแล้ว แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย

เหมือนกับได้ชีวิตใหม่ ?

ยาย-ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา

ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง ?

ยาย-จำไม่ค ่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราพูดไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แ้วก็คนขับอีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ

ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน ?

ยาย-โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี

แล้วพักอยู่กี่วัน ?

ยาย-ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่ แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตา ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง ๆ ว่า ดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี

** ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยม ถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน คนใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม เราบอกให้ พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น มั นตื้นตันจนนึกไม่ออก**

หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร ?

ยาย-ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาส จะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลย สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว

** คิดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่านห่วงเราเหมือนเราเป็นลูกพระองค์ท่าน ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์ ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด**

กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร ?

ยาย-ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี ครั้งละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่ เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนักพระราชวัง จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก

แล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน ดูข่าวทุกวัันไม่เคยเว้นเลย ** ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย**

การเสียสละของในหลวงคราวนั้น ได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่ ?

ยาย-มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่ว ไปไหนไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางทีถึงไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ บางทีก็ไปบีบให้นวดให้ นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ

** เมืองไทยเราโชคดีที่มีในหลวง โชคดีมาก ๆ ไม่มีกษัตริย์ที่ไหนในโลกอีกแล้วที่จะเป็นห่วงชาวบ้านอยางฉันเท่ากับท่าน คนอยางเราเปรียบไปก็เหมือนมดปลวก แต่ท่านก็ยังใส่ใจ ท่านใส่ใจจริง ๆ เหมือนกับว่าคนไทย คือ ลูกของท่านทั้งแผ่นดิน**
 




 



ĈŸß€®ĿËă
Sr. Member
****
กระทู้: 1,649

VIP MEMBER


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #27 เมื่อ: 25-01-2010, 10:49:13 »

เรื่องจาก FW mail.

พระสหายแห่งสายบุรี ... น้ำตาแห่งความภักดี .... ไม่เคยเหือดแห้ง ...



เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ข้าพเจ้าเปิดทีวีผ่านไปที่ช่องทีวีไทยโดยบังเอิญ
เป็นความบังเอิญที่ทำให้ต้องหยุดดูจนจบรายการ

รายการนั้นชื่อว่า ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย (ถ้าจำไม่ผิด)
เป็นตอนที่นำเสนอ เรื่องราวของบุคคลผู้หนึ่ง
ที่เราได้ยินชื่อและรู้จักท่านมานาน
คุณปู่วาเด็ง ปูเต๊ะ ผู้ที่เป็น “ พระสหายแห่งสายบุรี ”
ชายชราชาวมุสลิมที่มีความจงรักภักดีต่อในหลวงไม่เสื่อมคลาย

ข้าพเจ้าหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปคุณปู่ผ่านหน้าจอทีวี
ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำเช่นนี้

คุณปู่เดินทางจากอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มาโรงพยาบาลศิริราช
ด้วยเหตุผลเดียวกันกับคนไทยอีกหลายล้านคนที่ไปที่นั่นเพื่อ
“ ลงนามถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร ”

คุณปู่เลือกชุดที่ดีที่สุดที่เก็บรักษาไว้
และด้วยเงิน 1,700 บาทที่ติดตัวมา คุณปู่ยังแวะลงกลางทาง
เพื่อซื้อหารองเท้าคู่ใหม่ แทนคู่เก่าที่ใช้มาหลายปี
เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้า
ซึ่งคุณปู่ก็ได้ไปสั่งตัดเสื้อผ้าชุดใหม่ แถมยังไปนั่งเฝ้าอยู่ที่ร้านหลายวัน
ด้วยกลัวจะตัดเสร็จไม่ทันวันเดินทาง
คุณปู่บอกว่า “ เพื่อให้พระองค์เห็นวาเด็งแต่งกายเรียบร้อย
ไม่อายคนที่ได้เป็นพระสหายแห่งสายบุรี ”

อีกครั้งทันทีที่ทราบข่าวพระอาการประชวรของในหลวง
คุณปู่อยากเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเมื่อมีโอกาส
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายชราผู้จงรักภักดี
ก็ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจไปด้วย

ทางรายการถามว่า
ทำไมเวลาคุณปู่พูดถึงในหลวงถึงน้ำตาซึม

คุณปู่วาเด็งเงียบไปครู่หนึ่ง
น้ำตารื้นๆ ที่ขอบตาอีกครั้ง
คุณปู่พูดเบาๆ ว่า “ ตื้นตัน ”

ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงตัวเอง และคนไทยอีกหลายๆ คน
ที่เวลาพูดถึงพระองค์ท่าน
อดไม่ได้ที่จะต้องน้ำตาซึม
จะมีใครสักกี่คนในโลกใบนี้หนอ
ที่เมื่อเรานึกถึง จะทำให้เราปลาบปลื้มและตื้นตัน
จนเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้
นึกๆ แล้ว นอกจาก พ่อแม่ ก็เห็นจะไม่มี

ทางรายการถามต่อไปว่า
ถ้าขอได้ อยากขอให้คนไทยทำอะไรเพื่อในหลวง
คุณปู่ตอบว่า
เราไม่สามารถขอให้ทุกคนทำอะไรเพื่อในหลวงได้
แต่อยากให้ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม
อย่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

และคำพูดจากหัวใจของชายชราผู้ภักดีคนนี้ที่บอกเล่าถึงสิ่งที่เขารู้สึก
“ ผมไม่สามารถขอให้คนไทยทุกคนรักในหลวงอย่างที่ผมรัก
แต่ผมรักในหลวงหมดหัวใจ
ผมทำทุกอย่างเพื่อพระองค์ท่านได้ ”

คำพูดจากปากของชายชราผู้หนึ่ง ที่แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด
หากจะยังก้องสะท้อนอยู่ในหัวใจไปอีกตราบนานเท่านาน

ข้าพเจ้าเชื่อว่ายังมีคนไทยอีกหลายล้านคนที่รักและภักดีต่อพระองค์ท่าน
ในหลวง พระผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย

.................................................................................



ประวัติ
วาเด็งปูเต๊ะ หรือ "เป๊าะเด็ง" หรือที่รู้จักกันในนาม "พระสหายสายบุรี"
ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2535
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินไปโครงการพัฒนาพรุแฆ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
จึงทำให้เป๊าะเด็ง และพสกนิกรในพื้นที่ทุกคนพ้นจากความทุกข์ยาก
ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
นอกจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว
การทูลเกล้าฯ ถวายข้อมูลในพื้นที่ และที่ดินผืนหนึ่งเพื่อทำโครงการพระราชดำริ
จึงทำให้เป๊าะเด็งได้กลายมาเป็น " พระสหาย" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตที่น้อยคนจะได้รับ

วันนั้นเป๊าะกำลังทำสวนอยู่กับภรรยา
คุณหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า "ในหลวง"
ต้องการพบตัวแต่ภรรยาไม่กล้าไปพบ จนกระทั่งเป๊าะเลี้ยงโคกลับมา
ก็มีตำรวจมาตามเป็นครั้งที่สอง
เป๊าะตกใจมากว่าตำรวจมาตามเรื่องอะไร
เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด จนกระทั่งสื่อสารกันเข้าใจว่าในหลวง
ต้องการมาสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี
เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร เป๊าะ ถึงกล้าไปพบ

แต่ตอนนั้นเป๊าะ ยังไม่ค่อยเชื่อว่าพระองค์จะเข้ามาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้
จึงคิดว่าคนที่มาบอกโกหก ขนาดมาพบพระองค์แล้วเป๊าะ
ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นในหลวงจริงหรือเปล่า
จึงแอบหยิบเงินใบละ 100 ใบ กับใบละ 20 บาทขึ้นมาดู
จึงแน่ใจว่าเป็นพระองค์เสด็จฯ มาจริงๆ

ตอนแรกที่พบในหลวงเป๊าะ ไม่กล้าเข้าไปใกล้ๆ เพราะตอนนั้นนุ่งโสร่งตัวเดียว
เสื้อก็ไม่ได้ใส่ด้วย แต่พอเข้าไปใกล้ๆ ในหลวงก็ตรัสเป็นภาษามลายู ว่า
จะสร้างคลองชลประทานให้
หลังจากนั้นในหลวงท่านก็ทรงสอบถามเส้นทางการขุดคลอง
และข้อมูลในพื้นที่อื่นๆ พระองค์ยังตรัสชมว่า วาเด็งเป็นคนรู้พื้นที่จริง
วันรุ่งขึ้น ข้าราชการที่มารับเสด็จก็ต้องตกตะลึงไปตามๆกัน
เมื่อพระองค์ทรงรับสั่งให้เป๊าะพายเรือให้พระองค์เพื่อทำการสำรวจคลองสายทุ่งเค็จ
พระองค์มีพระราชดำรัสถาม พร้อมเปิดแผนที่เพื่อให้รู้ว่าจะสร้างแหล่งชลประทานอย่างไร

ตอนพายเรืออยู่ ในหลวงตรัสด้วยว่า "ให้วาเด็งทำตัวให้สบาย
มีอะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อนก็ให้เล่ามาตามความจริง"

ในหลวงคงจะทรงลองใจเป๊าะจึงตรัสถามขอที่ดิน
เพื่อทำโครงการพระราชดำริ ด้วยความปลาบปลื้ม
เป๊าะจึงขอยกที่ดินถวายให้พระองค์ทันที
ในหลวงจึงแย้มพระสรวล และมีพระราชดำรัสว่าให้เป๊าะเป็น
" พระสหาย ตั้งแต่บัดนั้น

ในหลวงตรัสเรื่องนี้ว่า
" วาเด็งเป็นคนซื่อตรง จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง"
พร้อมทรงชวนให้เป๊าะและภรรยาเดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ
และเมื่อพระองค์เสด็จฯ มาสามจังหวัดก็เรียกให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ทุกครั้ง

ต่อมาในหลวงทรงสงสารจึงมอบเงินให้เป๊าะครั้งละหลายหมื่นบาท
หากไม่ได้เสด็จฯ มาก็ทรงฝากเงินมากับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แทบทุกครั้ง

ล่าสุด ในหลวง ตรัสว่าให้วาเด็งหยุดทำงานได้แล้ว เพราะแก่แล้ว อายุมากแล้ว
ทรงเป็นห่วงสุขภาพวาเด็ง กลัวว่าทำงานหนักจะไม่สบาย
เป๊าะก็นั่งทบทวนคำตรัสของพระองค์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มด้วยความภาคภูมิ
กับคำว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"
นอกจากละหมาดขอพระผู้เป็นเจ้าเป๊าะยังเดินทางจาก จ.นราธิวาส
มาเยี่ยมพระอาการประชวรของในหลวงถึง รพ.ศิริราช ด้วย

เป๊าะเด็งเป็น "แบบอย่าง" ของคนที่ซื่อสัตย์ เจียมเนื้อเจียมตัวและใช้จ่ายอย่างประหยัด
เพราะต้องการทำตัวให้เป็นแบบอย่างตาม



●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #28 เมื่อ: 25-01-2010, 16:03:50 »

 Cry            Cry              Cry            Cry               Cry

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 Cry               Cry             Cry             Cry              Cry

เซงมาก,,
Hero Member
*****
กระทู้: 2,655

เซงมาก >,<


Re: กษัตริย์ยอดกตัญญู (1เหตุผลว่าทำไม เราจึงรักในหลวง)
« ตอบ #29 เมื่อ: 25-01-2010, 16:11:57 »

ยิ่งอ่านยิ่งประทับใจ และภูมิใจที่ตัวเองเกิดให้ผืนแผ่นดินไทย

 Wink


~ ต่อจากนั้นชั้นก้อล้มทั้งยืน ไม่มีเหลือเรี่ยวแรงที่จะเดิน ~
ป้าย:
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 8