มาอธิบายต่อวันนั้น เมาข่าว - -. ข่าวมันเยอะมากเกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลยดูแล้วเมาๆ
(ไม่อยากดู แต่มันก็มีให้เต็มไปหมด - -.)
- -. อย่าคิด ว่าการเรียนรู้มันเป็นวันเวย์ หรือมีแค่ในระบบน่ะ
อย่างที่เคยพูดไปส่วนใหญ่จะอธิบายจากในเกม ให้ไปปรับใช้กับชีวิตจริง แต่มันกลับกันได้ คือเรียนรู้จากชีวิตจริงมาใช้ในเกม
อย่าไปคิดอะไรแค่ในกรอบว่าเรียนมันต้องมาจากในระบบ หรือครูต้องสอน - -. บางทีนักเรียนสอนครูก็มีน่ะ
พยายามหาวิธีเล่นแร่แปรธาตุ ใช้สิ่งหนึ่งไปอีกสิ่งหนึ่งแล้วใช้อีกสิ่งหนึ่งกลับไปหาอีกสิ่งหนึ่ง แล้วเราจะเจอโลกที่เราไม่รู้จักแม้เราจะอยู่ที่เดิมก็ตาม
(จะเข้าใจกันมั้ย - -.)
จากชีวิตจริง เราก็เรียนรู้ตัวอย่างที่ไม่ดีต่างๆ (ของการเมือง)แล้วพอกลับมาในเกมเราก็
อย่าเอาสิ่งนั้นไปใช้เจอสิ่งไม่ดีเราก็เรียนรู้จากมันได้ แต่ไม่ใช่ทำตาม - -. ง่ายๆ เลย คือ อย่าไปเอาแต่ปากเสียกับจับผิดคนอื่นมาใช้ในเกม
(เป็นวัฒณธรรมทางการเมืองของหลายๆที่แล้วมั้ง ที่ชอบด่าว่าและจับผิดกัน ลองไปดูของเมืองนอกก็มี อเมริกาที่กำลังจะเลือกตั้งครั้งต่อไปเงี้ย)
- -. ตรวจสอบ(จับผิด)กันอ่ะได้ แต่ลองคิดดูน่ะ ถ้าเราเอาเวลาส่วนใหญ่กันไปตรวจสอบแล้วมันจะเหลือเวลาไปพัฒนาอย่างอื่นมั้ย - -"
มีได้แต่ขอพอประมาณ
เข้าเรื่องๆ จะพูดถึง - -. เรื่องการสับสนของข้อมูลที่เข้ามา
ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็กระแสข่าวการเมืองในปัจจุบัน ดูทีวี คนล่ะช่อง นี้เหมือนอยู่คนะล่ประเทศกันเลย อธิบายไม่เหมือนกันเลย
ยกตัวอย่างยากขึ้นมาหน่อย ก็ให้ไปดูวิทยาศาสตร์การกีฬา - -. มักจะเถียงเรื่องวิธีการออกกำลังให้ได้ผลอยู่บ่อย และถ้าเราอ่านนิตยสารสุขภาพ
สัปดาห์หนึ่ง อ่านพบ กินกาแฟแล้วดีมีสารอะไรว่าไป ผ่านอีกเดือน อ่านเล่มใหม่ บอกวิธีที่ทำให้สุขภาพดี คือ ลดกาแฟ - -.
ไปพูดคุยกับคนออกกำลัง เขาบอกต้องกินกาแฟดำ1เอสเพรสโซช๊อต พอกินเองก่อนออกกำลัง - -.เดี้ยงเลยไม่มีแรงเล่น
คือพวกนี้มันเป็นผลมาจากความสับสนของข้อมูล เกิดจากหลายๆอย่าง
1 ความขัดแย้งกันของข้อมูลที่ ไม่ได้มีรายละเอียดให้ครบ ถ้าเราศึกษาดีๆ จะพบว่าจริงมันไม่ได้ขัดแย้งกัน
แต่มันมีข้อแม้เล็กที่เราลืมอ่าน หรือสื่อ อาจจะไม่ได้นำเสนอ คือเป็นจริงได้ทั้ง2แบบ(หรือหลายแบบ) แต่ แต่ละแบบจะเป็นจริงได้ภายในเงื่อนไขใดบ้าง อย่างข้าพเจ้า น่าจะเป็น caffein sensitive ก็ไม่ควรดื่มกาแฟไงล่ะ เพิ่งมารู้ข้อนี้ทีหลัง (- -.แต่คนมันชอบหง่ะ)
มันก็เหมือน ลางเนื้อชอบลางยา
2ความน่าเชื่อถือของแรงข่าวและความbiasของตัวผู้รับ
- -. ข่าวบางอย่าง หรือข้อมูลที่นำเสนอ บางอย่างมันก็ซูเอี้ยแหล่งเงินทุนเขา เหมือนนิตยสารบางเล่ม หรือ สารคดีเพื่อการโฆษณาบางอัน
มันได้เงินมาจากไหน หรือว่าใครควบคุมเขาอยู่เขาก็ต้องเสนอในมุมมองที่เข้าข้าง
คำว่ามุมมองที่เข้าข้างในที่นี้ไม่ได้บอกว่า มันคือเสนอ ข้อมูลเท็จ แต่เสนอ ข้อมูลเพียงบางด้านที่เป็นประโยชน์
เหมือนคนขายรถคงไม่บอกว่ารถตัวเองไม่ดียังไง ล่ะ
แต่การมองไม่รอบด้าน หลายๆครั้ง จะทำให้การนำข้อมูลไปใช้ผิดพลาดได้สูง (แต่การหาข้อมูลรอบด้านนี้ก็เสียเวลาพอสมควรเลย)
ความbiasของตัวผู้รับ คือ คนเรามักจะเชื่อในสิ่งที่เราอยากเชื่อ ถ้าได้ข้อมูลที่ตัวเองไม่อยากเชื่อมาก็มักหาว่าโกหกบ้างมั่วบ้าง ต่างๆนาๆ
ตัวอย่างเช่น เพื่อน บอกว่าแฟนเราแอบไปมีกิ๊ก เราไม่เชื่อ เราบอกแฟนเรารักเดียวใจเดียวอยู่แล้ว แล้วเราก็ไม่ได้ตรวจสอบ
แต่สุดท้าย ไปเห็นแฟนอยู่กับกิ๊ก - -.
(ไม่ใช่ใครเป่าหูมาก็เชื่อน่ะ - -. แต่ไม่ใช่ เป็นปฎิปักษ์ ค้านหัวชนฝาว่าไม่จริงโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบ - -. อาจจะเฉยๆไว้ก่อนก็ได้แบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง)
3 การมองให้รอบด้าน
- -. แหล่งข้อมูลอาจจะเป็นกลางแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นกลางแท้จริง การมองไปรอบด้วย เพื่อที่จะเข้าใจได้มากขึ้น ไม่ได้หมายความแค่ว่า
ให้ดูข้อมูลเปรียบเทียบแค่ระนาบเดียว - -. แต่ให้ลองคิดว่า ข้อมูลมันมีหลายมิติ เราก็ต้องดูจากหลายๆอย่าง
งึมๆ อธิบายไงดีล่ะ - -. ยากแหะ เรื่องนี้ ไว้คิดออกค่อยอธิบาย - -" น่าจะยากสุดแหล่ะ เพราะจริงๆ ถ้าทำอันนี้ได้คงแก้จุดอื่นได้หมด - -"
- -. สรุปคือ
เห็นหัวข้อกระทู้ในmthai ว่า ดูข่าวช่องไหนดี
ขอตอบว่าไม่รู้ แต่ใช้สมอง ทั้งก่อนดูและตอนดู - -.
เก็ทมั้ย ทำไม ต้องใช้ก่อนดูด้วย - - เพราะว่าคุณกดรีโมทเลือกช่องก่อนดูไงหล่ะ
ใช้สมองพิจารณาว่าเราจะรับข้อมูลยังไง แล้วใช้การคิดรอบด้านว่า เราควรดูข่าวแค่ช่องเดียวแล้วเชื่อถือเหรอ?
กลับเข้ามาในเกม คือเราจะใช้ยังไงในเกม
ง่ายๆ ได้ข่าวลืมมาในเกมเนี้ย เราควรจะเชื่อมั้ย - -. หรือได้ข้อมูลมา เราควรจะเชื่อมั้ย
แหล่งข้อมูลเป็นจีเอ็มเชื่อถือได้มั้ย?
(จีเอ็มบางท่านยังตอบคำถามๆ งงเลย (อิอิ แอบว่าใครหว่ารู้ตัวมั้ย)- -. อาสาบางท่านก็ตอบบางคำถามไม่ได้หรือไม่ครบ เพราะไม่ได้ชำนาญเรื่องนั้น)
แหล่งข้อมูลเป็นผู้เล่นเก่าที่สนิท เชื่อถือได้มั้ย?
ก็ลองมาคิดๆดูน่ะ
ว่าแต่ที่เราไปอธิบายไปทั้งหมดนี้มั้นเชื่อได้เหรอ ??
อย่าไปเชื่อๆ เราโม้
ไปคิดเอาเอง ที่คิดเอาเองหรือท่านที่มาอ่านแล้ว รู้กันอยู่แล้ว อาจจะดีกว่านี้ก็ได้
ปล. - -. ถ้าไปอ่านพระธรรมเกี่ยวกับว่าจะเชื่ออะไร?เขื่อใครดีมั้ย จะละเอียดยิบกว่านี้อีก แต่ฉันก็บ่เคยอ่านหรอก เคยฟังผ่านๆแต่รู้ว่า ไปไกลกว่าสิ่งที่ฉันอธิบายเยอะมากๆ - -"
ปล.2 - -. cost ของการหาข้อมูลมันให้เชื่อถือได้ก็สูงพอสมควร ใช้ว่าต้องหาข้อมูลหรือมองให้รอบด้านทุกครั้ง เดี๊ยวจะเกิด information overloadเอา - -.