Korea's Got Talent
http://www.youtube.com/v/BewknNW2b8Y&rel=1เวที Got Talent ไม่ว่าจะเป็นของชาติไหน ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจ และมีเหตุการณ์มาทำให้ผู้ชมอึ้งและทึ่ง อยู่ไม่น้อย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเวที Got Talent ที่กระปุกดอทคอมนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ ก็คงไม่ต่างกัน และดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อึ้งและทึ่งอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมันถึงกับทำให้ผู้ชมและคณะกรรมการน้ำตาคลอเบ้าด้วยความซาบซึ้งเลยทีเดียว
และเรื่องราวสุดซาบซึ้งที่ว่านี้ เกิดขึ้นบนเวที Korea's Got Talent ของเกาหลี เมื่อผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ซุง บอง ชอย หนุ่มวัย 22 ปี ได้ปรากฎตัวขึ้นบนเวทีเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ แต่ยังไม่ทันจะได้โชว์ความสามารถต่อหน้าผู้ชม เขาก็ทำเอาผู้ชมได้อึ้งกันซะแล้ว เมื่อคณะกรรมการได้ถามเกี่ยวกับภูมิหลังของครอบครัวเขา หลังจากที่เขาไม่ระบุสถานภาพครอบครัวในใบสมัคร และเขาได้ให้คำตอบว่า เขาเป็นเด็กที่ถูกทิ้งไว้ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ แต่เมื่อเขาอายุได้ 5 ขวบ ก็หนีออกจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าเพราะคนที่นั่นทุบตีเขา จากนั้นมาเขาก็กลายเป็นเด็กเร่ร่อน ขายหมากฝรั่ง และเครื่องดื่มให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาบนถนน และใช้ชีวิตตัวคนเดียวอย่างคนเร่ร่อนที่นอนตามบันไดหรือไม่ก็ห้องน้ำสาธารณะเรื่อยมา แต่ก็ยังจบการศึกษาชั้นมัธยมจากระบบการศึกษานอกโรงเรียน และวันนี้เขาก็จะมาร้องเพลง เพราะเขาชอบร้องเพลงและมันเหมือนเป็นชีวิตของเขาเลยทีเดียว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขากลับบอกว่าเขาไม่ได้เป็นนักร้องที่ดีอะไรเลย เขาแค่ชอบร้องเพลงเท่านั้น ซึ่งหลังจากเขาพูดจบ คณะกรรมการก็ขอให้เขาโชว์ความสามารถ
และทันทีที่ ซุง บอง ชอย เริ่มร้องเพลงโชว์พลังเสียง เขาก็ได้สร้างความอึ้ง! ทึ่ง! ให้กับคณะกรรมการเป็นอย่างมาก ขณะที่ผู้ชมต่างพร้อมใจปรบมือให้เขาและน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งไปตาม ๆ กัน และหลังจากจบการแสดง เขาก็ได้รับเสียงปรบมือดังก้องห้องส่งดังกึกก้องเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่กรรมการก็ต้องปรบมือ และน้ำตาคลอเบ้าให้กับ ซุง บอย ชอย ด้วย และเมื่อสิ้นเสียงปรบมือแล้ว คณะกรรมการได้เอ่ยปากบอกทันทีว่า "ฉันแค่รู้สึกอยากจะกอดคุณน่ะ" ส่วนคณะกรรมการอีกคนก็ได้ถามเขาว่า ทำไมเขาถึงอยากร้องเพลง และเขาก็ตอบว่า "ตอนเด็ก ๆ ชีวิตของผมมันเหมือนฝันร้าย ผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกขายให้สถานสงเคราะห์ วันหนึ่ง เมื่อผมกำลังขายหมากฝรั่งอยู่ในไนท์คลับ ผมก็เหลือบไปเห็นนักร้องร้องเพลงอยู่บนเวที และนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็ทำให้ผมหลงใหลการร้องเพลงแล้วเริ่มร้องเพลงเรื่อยมา ตอนนี้ผมอยากเป็นนักร้อง และอยากจะเรียนร้องเพลงเพื่อพัฒนาการร้องเพลงให้ดีขึ้น หลังจากที่ผ่านมาผมฝึกหัดด้วยตัวเองมาตลอด และไม่มีโอกาสได้เรียนร้องเพลงเลย"
หลังจากที่ ซุง บอง ชอย พูดจบ เขาก็ได้ฟังถ้อยคำที่ทำให้ปลาบปลื้มอย่างที่สุด เมื่อคณะกรรมการบอกเขาว่า "ไม่ว่าคุณจะได้เป็นแชมป์เวทีนี้หรือไม่ ฉันก็อยากจะช่วยคุณให้ได้ทำอย่างที่ฝัน ขอบคุณสำหรับเสียงเพลงที่ยอดเยี่ยมมากของคุณค่ะ" และแน่นอนว่า คณะกรรมการทุกคนต่างให้เขาผ่านเข้ารอบไปได้ ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้ชมทั่วห้องส่ง
งานนี้ ซุง บอง ชอย เลยได้ใจของผู้ชมไปไม่น้อย รวมถึงทีมงานสองคนที่อยู่หลังเวทีด้วย โดยพวกเขาได้บอก ซุง บอง ชอย ว่า "ตอนนี้มีคนให้กำลังใจคุณหลายร้อยคนแล้วนะ และคุณกำลังจะมีกำลังใจจากคนอีกหลายล้านคนหลังจากเทปนี้ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ และถ้าหากคุณสามารถทำได้ดีในรอบต่อ ๆ ไป คุณก็จะมีกำลังใจจากคนกว่า 50 ล้านคนทั่วเกาหลี และถ้าคุณทำดีที่สุด ผมคิดว่าจะมีคนกว่า 6 พันล้านคนทั่วโลกกลายเป็นแฟนคลับของคุณเลยล่ะ"
นอกจากนี้ ทีมงานสองคนยังฝากคำพูดสุดท้ายไว้ก่อน ซุง บอง ชอย จะเดินกลับไปว่า "ในที่สุดวันนี้ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว สู้ต่อไปนะ ซุง บอง ชอย"
ดูแล้วจะร้องไห้