GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 73 74 [75] 76 77 ... 106
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค  (อ่าน 25673 ครั้ง)
สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1110 เมื่อ: 12-02-2009, 06:35:20 »



สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1111 เมื่อ: 12-02-2009, 08:00:04 »

<a href="http://www.youtube.com/v/E6Iup11cSy8&amp;rel=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/E6Iup11cSy8&rel=1</a>


MumuiiZa
Jr. Member
**
กระทู้: 105


โสด..ใส...ไร้เสน่ห์


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1112 เมื่อ: 12-02-2009, 20:39:52 »

คิดถึงทุกคนมากมายเลย

รักมากมายๆๆ
สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1113 เมื่อ: 13-02-2009, 07:53:30 »

ศุกร์ 13 วันอาถรรพ์? ความเชื่อนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากไหนกัน
ความเชื่อที่ว่าถ้าวันศุกร์เกิดไปตรงกับวันที่ 13 ของเดือนใดก็ตามแล้ว จะกลายเป็นวันแห่งความโชคร้ายนั้น เป็นความเชื่อที่อยู่ในบรรดาชาติที่พูดภาษาอังกฤษทั่วโลก และยังขยายไปถึงชาติอื่นๆอีกด้วย และในประเทศบางประเทศอย่าง กรีซ สเปน ถือเอาวันอังคารที่ 13 เป็นวันโชคร้ายเช่นกัน สำหรับโรคกลัววันศุกร์ที่ 13 มีชื่อเรียกว่า Paraskavedekatriaphobia หรือ paraskevidekatriaphobia หรือ friggatriskaidekaphobia ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรค triskaidekaphobia คือ โรคกลัวหมายเลข 13
       
       จุดเริ่มต้นความเชื่อเรื่องศุกร์ 13 นั้น เชื่อมโยงกับความเชื่อที่ว่ามีคน 13 คนร่วมทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู (The Last Supper) ก่อนที่พระองค์จะถูกนำตัวไปตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) กระนั้น ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่า ประชาชนถือเอาว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็นวันโชคร้ายจนเมื่อมาถึงศตวรรษที่ 19 อย่างไรก็ตาม หมายเลข 13 มีประวัติว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องโชคร้ายมายาวนาน เนื่องจาก ตามปฏิทินจันทรสุริยคติแล้ว ในบางปีต้องมีเดือน 13 เดือน ขณะที่ตามปฏิทินเกรกอเรียนและปฏิทินของศาสนาอิสลามจะมี 12 เดือนเสมอ
       
       ขณะที่บ้างก็ว่า ความเชื่อนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความเชื่อและตำนานของชาวนอร์สในดินแดนสแกนดิเนเวียที่เรียกว่า Norse myth เกี่ยวกับเทพ 12 องค์ มารวมกันจัดงานเลี้ยงในห้องโถงของเอกีร์ เทพแห่งมหาสมุทร แต่แล้วเทพแห่งไฟที่ชื่อ โลกิ ซึ่งไม่ได้รับเชิญมาร่วมงานจึงพังประตูรั้วเข้ามาร่วมงานในฐานะแขกคนที่ 13 และยังให้เทพฮอดซึ่งเป็นเทพแห่งความมืดมิดซึ่งตาบอดโยนกิ่งของพืชกาฝากใส่ บาลเดอร์ เทพแห่งความสุขและความยินดี จนบาลเดอร์สิ้นลมหายใจไปในทันที ทำให้โลกต้องตกอยู่ในความมืดมิดและความเศร้าสลด


       
       กระนั้น ความเชื่อนี้มีผู้แย้งว่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากข้อความในบทกวีโลกาเซนนาที่เป็นภาษาโอลด์นอร์สได้มีการกล่าวถึงชื่อเทพ 17 องค์ที่ไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งระบุว่าเทพโลกิเป็นผู้พังประตูรั้วเข้าไปจริง แต่ว่าเขาไม่ใช่คนที่ 13 และยังไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างบทดังกล่าวกับการถึงจุดจบของเทพบาลเดอร์อีกด้วย


       
       ด้วยเหตุนี้ คำอธิบายในข้อแรกจึงดูมีความเชื่อมโยงกับเรื่องความโชคร้ายของเลข 13 ที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ ซึ่งมีการบันทึกเอาไว้ในศตวรรษที่ 18 โดยเชื่อกันว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คน 13 คนมานั่งทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกันแล้ว คนที่ลุกจากโต๊ะไปเป็นคนแรกจะเป็นคนแรกที่ต้องตาย


       
       อีกทฤษฏีที่กล่าวถึงวันศุกร์ที่ 13 ระบุว่า วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 1307 เป็นวันที่พระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ทำการจับกุมตัวบรรดาอัศวินเทมพลาร์ชาวฝรั่งเศสจำนวนหลายร้อยคนไป ก่อนจะนำตัวไปทรมานและสังหาร เพื่อนำทรัพย์สินของพวกเขามาเป็นของฝรั่งเศส


       
       ทั้งนี้ เรื่องที่น่าแปลกเกี่ยวกับวันศุกร์ที่ 13 คือ มีหลักฐานที่ยืนยันว่า วันศุกร์ที่ 13 เป็นวันโชคร้ายสำหรับใครบางคนจริงๆ โดยนักจิตวิทยาพบว่า ในบางคนจะมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือล้มป่วยในวันศุกร์ที่ 13 ซึ่งมีการให้เหตุผลเอาไว้ว่าเป็นเพราะบางคนรู้สึกวิตกจริตเป็นอย่างมากในวันศุกร์ที่ 13 โดยทางศูนย์จัดการความเครียดและสถาบันอาบำบัดการกลัวในเมืองแอชวิลล์ มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเมินว่าในแต่ละครั้งที่มีวันศุกร์ที่ 13 สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นเงิน 800 – 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯทีเดียว เพราะว่าประชาชนบางคนไม่กล้าเดินทางไปไหนและไม่กล้าแม้แต่จะไปทำงาน





Nu_Nong
Jr. Member
**
กระทู้: 380



Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1114 เมื่อ: 13-02-2009, 09:32:45 »

ไม่ได้มาทักนู๋ ริน นานเลย กิกิ

............รักทุกคนเยย............
สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1115 เมื่อ: 13-02-2009, 13:36:16 »

 Smiley Smileyเวล60 แล้ว..ไม่รู้จะทำอะไรเลย.. Smiley Smiley


สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1116 เมื่อ: 13-02-2009, 15:03:13 »

 Smiley Smiley Smiley
ประวัติ

วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรัก กันและแต่งงานกันในที่สุด

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลาย ครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วม ในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุง โรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญวาเลนไทน์ ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์และนักบุญมาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ ด้วย

และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศีรษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์


Orensia_The Warlock
Jr. Member
**
กระทู้: 253

EyeZ : ติงต๊อง บองแบ๊ว


Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1117 เมื่อ: 13-02-2009, 17:02:10 »

ขุด \(>..<)/

สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1118 เมื่อ: 14-02-2009, 05:42:51 »

อ้างจาก: zamander ที่ 13-02-2009, 15:03:13
Smiley Smiley Smiley
ประวัติ

วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรัก กันและแต่งงานกันในที่สุด

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลาย ครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วม ในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุง โรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญวาเลนไทน์ ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์และนักบุญมาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ ด้วย

และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศีรษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์


ari_char
Full Member
***
กระทู้: 657

อยู่ด้วยกันไปนานๆนะคะ ^^


Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1119 เมื่อ: 14-02-2009, 12:12:36 »

ลองอ่านดูนะคะ

http://am-naja.exteen.com/20070910/entry

ari_char
Full Member
***
กระทู้: 657

อยู่ด้วยกันไปนานๆนะคะ ^^


Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1120 เมื่อ: 14-02-2009, 16:27:28 »





^^

อุตสาห์นั่งวาดนะเนี่ย

สวยมะๆ

กรวิทย์ เอื้อมอิสระโยธิน
Jr. Member
**
กระทู้: 95

Are You Fear The End?


Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1121 เมื่อ: 14-02-2009, 18:24:05 »

อ้างจาก: ari_char ที่ 14-02-2009, 16:27:28




^^

อุตสาห์นั่งวาดนะเนี่ย

สวยมะๆ


น่ารักดีนะ แต่นิ้วดูแปลกๆ Huh?


                                    The Last Hunter
สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1122 เมื่อ: 14-02-2009, 22:18:18 »

อ้างจาก: นักล่าแห่งแสงจันทร์ราตรี ที่ 14-02-2009, 18:24:05
อ้างจาก: ari_char ที่ 14-02-2009, 16:27:28




^^

อุตสาห์นั่งวาดนะเนี่ย

สวยมะๆ


น่ารักดีนะ แต่นิ้วดูแปลกๆ Huh?
ก็มันการ์ตูนนี่ แปลกนิดๆหน่อย..ไม่เห็นเป็นไร


สมภพ จันทร์อุฏฐานะ
Jr. Member
**
กระทู้: 382

เพราะชีวิตคือการต่อสู้ อะโช๊ะ..


เว็บไซต์
Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1123 เมื่อ: 15-02-2009, 09:11:05 »

 Smiley Smileyไม่มีตัง....จนเหมือนเดิมเลย..555 Smiley Smiley


ari_char
Full Member
***
กระทู้: 657

อยู่ด้วยกันไปนานๆนะคะ ^^


Re: ~*Lucky CLuB*~ :คลับของคนมีโชค
« ตอบ #1124 เมื่อ: 15-02-2009, 09:12:13 »

แปลความหมายคำว่า “มั่นคง”
ในพจนานุกรมความเหงา



บททดสอบความเข้มแข็งของความรักนั้น
มักมีมาทดสอบเป็นระยะๆ
ซึ่งถ้าคนสองคน   สามารถจูงมือก้าวผ่านด้วยกันไปได้หนึ่งเรื่อง
ภูมิต้านทานแห่งรักก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งสิ่ง
ไม่มีความรักของใครที่เรียบง่ายไปหมดทุกอย่าง
แต่ละคู่ แต่ละคน

...ล้วนมีปัญหาให้ได้แก้ไข
ล้วนมีขวากหนามให้ก้าวข้าม
ล้วนมีวันฝนตกหนักที่เสี่ยงต่อรักป่วยไข้


บางครั้ง  เราอาจเบื่อปัญหา และตั้งคำถามว่าทำไมต้องเกิดขึ้นกับคู่ของเราด้วย
แต่ถ้าคนสองคนช่วยกันแก้ปัญหานั้นได้
เราก็จะรู้สึกขอบคุณที่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะปัญหานั้นเองที่ทำให้เราได้รู้ว่า
การยืนอยู่เคียงข้างกันในวันที่ชีวิมีอุปสรรคนั้น เป็นความอบอุ่นเพียงใด


ความห่างไกล ก็คือบททดสอบความรักอย่างหนึ่ง
บางคู่...ก็ไกลห่างเพียงช่วงเวลาสั้นๆ
บางคู่...ก็ไกลห่างเป็นช่วงเวลาเนิ่นนาน
บางคู่...ก็ยอมให้รักพ่ายแพ้ต่อความไกลห่าง ยอมให้ “รักแท้แพ้ความใกล้ชิด”
ใครคนใดคนหนึ่งอาจเป็นฝ่ายมีคนใหม่ก่อน
อาจเป็นฝ่ายเริ่มปันใจให้คนที่ใกล้กว่า เหตุเพราะไม่อยากเดินเหาๆคนเดียว
และลงท้ายก็คือเลิกรอคนที่อยู่ไกล

...ความรัก...
หลายครั้งที่ต้องการ “การรอคอย”
ท่ามกลางความเหงา เราต้องรู้จักสะกดคำว่า “มั่นคง”
และควรจะทำใจให้หนักแน่นเชื่อว่า ...

“แม้จะไกลจนไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ถ้าใจสองใจยังคิดถึงกัน
ความไกลก็เป็นได้แค่ความไกล
ไม่ใช่ตัวกั้นไม่ให้ใจสองดวงร่วมสะกดคำว่ารัก”


บททดสอบความเข้มแข็ง ของความรักนั้น มักมีผ่านมาทดสอบเรื่อยๆ
จับมือกันไว้แล้วก้าวผ่านไปให้ได้ทุกบท
แล้วภูมิต้านทานแห่งรักของเราก็จะมีมากมาย
จนท้ายที่สุด...

ก็จะไม่มีอะไรสามารถทำให้รักของเราหวั่นไหวเปลี่ยนแปลง

ป้าย:
หน้า: 1 ... 73 74 [75] 76 77 ... 106