GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 860 861 [862] 863 864 ... 1751
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~  (อ่าน 293721 ครั้ง)
<(おたく)>Warl3ird<(Otaku)>
Hero Member
*****
กระทู้: 2,417

จงทำสิ่งที่ใจตัวเองอยากทำ


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12915 เมื่อ: 28-04-2010, 20:45:22 »

<a href="http://www.youtube.com/v/Hl2laDkYT1s&amp;rel=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/Hl2laDkYT1s&rel=1</a>

ฟังเพลงเพราะๆก่อนนอน  Evil Evil

ชอบเพลงนี้



Sig นี้อัพเดท Anime Sub ไทยไวที่สุดในประเทศจ้า Real Time ด้วย*3*
ปลวก
Hero Member
*****
กระทู้: 19,445


ไอธนวินพ่องตายสัส


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12916 เมื่อ: 28-04-2010, 21:08:07 »

อ้างจาก: SpïrîtëÐBøyz™ ที่ 28-04-2010, 20:10:40
อ้างจาก: OveGoDeN ที่ 28-04-2010, 19:01:41
หมวกซีส คับ

พี่ครับ ๆ ผมอยากได้หมวกซีสปีกนางฟ้าอะคับ  laugh

มันเป็นหมวกใหม่หรอน้อง  laugh


NeeD not to know

<(おたく)>Warl3ird<(Otaku)>
Hero Member
*****
กระทู้: 2,417

จงทำสิ่งที่ใจตัวเองอยากทำ


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12917 เมื่อ: 28-04-2010, 21:12:21 »

ถึงรู้ว่ามันต้องเจ็บช้ำ
ถึงรู้ว่าตอนสุดท้ายเป็นน้ำตา
ถึงย้อนทุกวันผ่านไปให้หวนมา
ก็ยัง..จะรัก เธอเหมือนเก่า
ถึงรู้ว่าเราต้องจบกัน
ถึงรู้ว่าเธอกอดฉันแค่ชั่วคราว
ถึงรู้ว่าความผูกพันจะไม่ยาว
ก็ยัง..จะรัก เธอกว่าใคร
คนอย่างฉัน สักครั้งในชีวิตหนึ่งได้รักเธอ สุดหัวใจ
ความเจ็บช้ำ ไม่อาจจะลบความ งดงามอันมากมาย
ในช่วงเวลาที่ใจได้รักเธอ
ไม่รู้ว่าเธอจดจำไหม
แต่รู้ว่าฉันเก็บไว้เสมอมา
กี่ครั้งที่ภาพเหล่านั้นมันย้อนมา
ก็ยัง..คิดถึง เธอกว่าใคร
ท่ามกลางสายลมของความเปลี่ยนแปลง
แต่ภาพของเธอไม่เคยเก่า
ยาวนานถึงเมื่อไหร่ในใจฉันจำอยู่
ว่าเคยมีเธอเป็นที่รัก



Sig นี้อัพเดท Anime Sub ไทยไวที่สุดในประเทศจ้า Real Time ด้วย*3*
—> เลิกเล่น —> ไม่ได้แปลว่าเลิกรัก —>
Hero Member
*****
กระทู้: 4,266


คารมณ์มีเป็นเข่ง รถเก๋งเอาไปแดก


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12918 เมื่อ: 28-04-2010, 21:53:22 »

 laugh

ลาออก
• Porpangz •
Hero Member
*****
กระทู้: 2,018

• แคสเปอร์' ณ จ๊ะ


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12919 เมื่อ: 28-04-2010, 22:12:05 »

.


ฉันยังเหมือนเดิม.. สิ่งเหล่านั้นยังเหมือนเดิม*
กฏการเวล P.1377
—> เลิกเล่น —> ไม่ได้แปลว่าเลิกรัก —>
Hero Member
*****
กระทู้: 4,266


คารมณ์มีเป็นเข่ง รถเก๋งเอาไปแดก


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12920 เมื่อ: 28-04-2010, 22:12:57 »

อ้างจาก: • Porsche_ • ที่ 28-04-2010, 22:12:05
.

..

ลาออก
—> เลิกเล่น —> ไม่ได้แปลว่าเลิกรัก —>
Hero Member
*****
กระทู้: 4,266


คารมณ์มีเป็นเข่ง รถเก๋งเอาไปแดก


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12921 เมื่อ: 28-04-2010, 22:39:07 »

นอน  Cool

ลาออก
PaToNgGo
Jr. Member
**
กระทู้: 261


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12922 เมื่อ: 28-04-2010, 22:46:04 »

อ่านแล้วแบบว่าน้ำตาท่วม
ผมกำลังยืนอยู่บนสะพาน แขวนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ท้องฟ้าในคืนนี้มืดสนิท

มีเพียงแสงเรือง เรืองของหลอดไฟทอดยาวตามแนวสะพานไป

การที่ได้เห็นกรุงเทพในมุมนี้

มัน ทำให้ได้พบหลายต่อหลายอย่างที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น ผมมองออกไปในย่านชุมชน

แสง ไฟหลากสีในอาคารบ้านเรือนกระจายไปจนสุดลูกหูลูกตา

เรียบแม่น้ำเจ้า พระยาไปเป็นถนนทอดยาว มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถที่สาดไปยังริมถนน

ส่วน บนสะพานที่ผมกำลังยืนอยู่นี้ก็เป็นถนนกว้างพอสมควร

มีรถวิ่งอย่าง เบาบางเพราะคนมักจะใช้เส้นทางอื่นกัน บนนี้มันจึงเงียบสงบ

ผมไม่ แปลกใจเลยที่เธอมักจะชวนผมมาที่นี่เป็นประจำ

ผมไม่ได้ขึ้นมาบนนี้ หลายปีแล้วเพราะที่แห่งนี้มันทำให้ผมหวนนึกถึงเธอ

เธอมักจะให้ผมมา ยืนดูดาวเป็นเพื่อนเธอ

กินไอศกรีมรสสตอเบอรี่ที่เธอชอบเป็นเพื่อนเธอ

ที่แห่งนี้มันเคยทำให้ผมมีความสุข ผมคงได้ขึ้นมาบนนี้เป็นครั้ง สุดท้ายแล้ว

หลังจากวันนี้ไปผมจะ จากไปและไม่หวนกลับมาอีก จะมีเพียงความทรงจำของเธอเท่านั้น

ที่จะ อยู่ในใจผมตลอดไป~~~~

+++++++++++++++++++++++++++

ผมได้รู้จักเธอครั้ง แรกก็เมื่อตอนที่ผมอยู่ชั้น ม.1

ผมก้าวเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้ พวกเราต่างก็เป็นนักเรียนใหม่

หลายหลายอย่างในห้องใหม่ของผมนี้ดู มันจะน่าเบื่อซะจริงจริง

หลังจากที่เคารพธงชาติแล้วทุกคนก็เข้าชั้น เรียน

และก็เป็นธรรมดาของนักเรียนใหม่ทั้งหลายก็ต้องมีการแนะนำตัว กัน

อาจารย์ประจำชั้นของผมเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ดูท่าทางอาจารย์เป็นคนใจดีมาก

อาจารย์ก็เริ่มแนะนำตัวเอง ขณะที่อาจารย์กำลังพูดอยู่

ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา “อาจารย์ค่ะ ขออนุญาตเข้าห้อง”

ผมรีบหันไปยังที่มาของเสียงนั้นทันที แล้วหญิงสาวก็ก้าวเข้ามา

โอ้!แม่เจ้าโว้ย เธอช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ ถึงดูเธอจะชอบตื่นสายไปสักหน่อย

แต่ถ้า เอามาบวกลบกับความสวยแล้ว ตื่นสายแค่นี้ผมยกให้ ความคิดผมในตอนนั้น

ทำ ยังไงจะได้รู้จักเธอบ้างนะเธอเดินเข้ามาแล้วก็หาเก้าอี้นั่ง

ตอน นั้นที่ข้างผมมีกระเป๋าใครก็ไม่รู้วางอยู่

คนทั้งห้องตอนนั้นก็คุย กันโดยไม่สนใจอะไรเลย

ผมเลยจับกระเป๋านายที่นั่งข้างผมโยนไปโต๊ะตัว ข้างหลัง

ทั้งห้องเลยเหลือที่ว่างอยู่ที่เดียว คือที่นั่งข้างผม เธอเดินมาใกล้ๆ

ผมแล้วก็พูดอย่างอ่อนหวาน

“นั่งด้วยได้มั๊ย” ก็จะไม่ได้ ได้ยังไง

ก็ที่ตรงนี้ผมพึ่งจัดไว้ให้ เธอโดยเฉพาะ ผมหันหน้าไปหาเธอแล้วก็พยักหน้า

แล้วเธอก็นั่งลงฟังที่ อาจารย์พูดหน้าห้อง

ขณะที่เธอกำลังจับจ้องอยู่ที่อาจารย์

แต่ ผมไม่สนใจอาจารย์เลยเอาแต่ชำเรืองไปที่หน้าของเธอ

ใบหน้าของเธอช่าง ขาวหมดจดอะไรอย่างนี้ แก้มเป็นสีชมพูอ่อนๆ

ดวงตาของเธอกลมโตใสเป็น ประกาย ผมไม่เคยเห็นดวงตาคู่ไหนสวยแบบนี้มาก่อน

ขนตาของเธองอน ยังกะตุ๊กตา ปากเรียวเล็ก

ทั่วทั้งใบหน้าของเธอมันช่างสวยจับใจอะไร เช่นนี้

ผมใจลอยมองหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย

ผมพยายามมองไป ที่ปกเสื้อของเธอเพื่อจะดูว่าเธอชื่ออะไร

เกือบจะเห็นอยู่แล้วเชียว ทันใดนั้นเธอก็หันมาหาผม เธอยิ้ม “มีอะไรหรอค่ะ”

ผมสะดุ้งขึ้นมา ทันที “อ้อ ปะ ปะ ป่าวครับ”

ผมตื่นเต้นไม่รู้จะทำอะไรเลยหยิบ หนังสือในกระเป๋าขึ้นมา

ดันไปหยิบผิดหยิบเอาหนังสือโป๊ขึ้นมา เธอเหลือบมาเห็นเข้าเลยยิ้มแกมหัวเราะ

ทีแรกผมคิดว่าเธอยิ้มให้ผม แต่พอเห็นหนังสือในมือตัวเอง

ผมตกใจเลยรีบปัดความรับผิดชอบทันที “ไม่..ไม่ใช่ของผมครับ!

นายที่นั่งข้างหลังมันฝากไว้”

เธอ หัวเราะอย่างน่ารัก”ก็ไม่แปลกหนิพี่ชายเค้าก็อ่าน”

ผมรีบเก็บทันที แล้วเอาหนังสืออื่นขึ้นมา ผมอายเธอแทบแย่

ผมหยิบหนังสืออื่นขึ้นมา ทันที

ผมนั่งอ่านหนังสือทั้งที่จิตใจมันอยู่ที่คนข้างข้าง

ผม นั่งเงียบได้พักหนึ่งเธอก็มาสะกิดผม ผมรีบหันไปหาเธอทันที

“อาจารย์ให้แนะนำตัวกับคนนั่งข้างข้างเค้าชื่อ รุ่งฟ้า เรียกว่า ฟ้า

เฉย เฉยก็ได้ แล้วตัวเองชื่ออะไร” ผมนั่งพิจารณาอยู่พักหนึ่ง

อืม…..คน อะไรนอกจากจะน่ารักแล้ว ชื่อก็ยังเพราะอีก “รุ่งฟ้า”

ผมทำไมชอบชื่อ นี้จังนะ! ผมนั่งจนลืมไปเลยว่าเธอกำลังถามถึงชื่อผมอยู่

เธอสะกิดผม อีก

“ชื่ออะไร บอกบ้างสิ” ผมสะดุ้งอีกที “อ้อ! เราชื่อ แบ๊งค์”

“บ้านฟ้าอยู่แถวบางเขนนู้นบ้านแบ๊งค์อยู่แถวไหนหละ”

ผมตอบเธอทันที เลยว่าอยู่แถวบางเขนเหมือนกัน

ทั้งที่ความจริงบ้านผมอยู่คนละเขตกับ เธอเลย


“งั้นขากลับแบ๊งค์กลับ เป็นเพื่อนฟ้านะ”

เธอก็ยิ้มแล้วพยักหน้าผมชอบรอยยิ้มของเธอจริง จริง หลังจากที่ผมรู้จักเธอ

ชั่วโมงนั้นทั้งชั่วโมงผมก็คุยกับเธอ ไม่หยุดเลย เธอเป็นคนพูดเพราะ

และคุยสนุกมาก ผมสามารถฟังเธอได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อเลย

หลังจากคาบนั้นผมก็ตาม ติดฟ้าทั้งวันเลย

ชนิดที่ว่าที่นั่งข้างเธอไม่มีใครแตะต้องได้เลย

เพื่อนทั้งห้องผมยังไม่รู้จักใครเลย ผมรู้จักแต่ฟ้าคนเดียว

หลังจากเลิกเรียนเราก็กลับบ้านพร้อมกันพอรถถึงบ้านเธอ เธอก็ลงรถ

เธอชวนผมลงไปเล่นบ้านเธอ แต่ผมก็ส่ายหน้ากลัวว่าพ่อเธอจะว่า

ผม นั่งรถเลยบ้านฟ้าไปอีก 1 ป้ายรถเมล์

จากนั้นผมก็ลงมาขึ้นฝั่งตรง ข้ามเพื่อตีรถกลับไปลงโรงเรียน

แล้วผมถึงขึ้นรถที่จะกลับบ้านผม จริงจริง

และดูเหมือนการนั่งรถมาส่งฟ้าแบบนี้ผมทำทุกวันจนเป็น นิสัยเลยก็ว่าได้

ฟ้าเธอชอบที่จะมาสายทุกวันเลย อาจารย์เริ่มที่จะสอนหนังสือแล้ว

ทุกอย่างที่อาจารย์สอนดูเหมือน มันจะซึมเข้าสมองผมอย่างรวดเร็ว

แต่ฟ้านี่สินั่งฟังอยู่ด้วยกัน แท้แท้ แต่เธอกลับไม่รู้เรื่องเลย

พอพักเที่ยงผมก็ซื้อข้าว 2 จานออกมานั่งทานอยู่ม้าหินอ่อนกับฟ้า

ผมไม่เคยเข้าไปทานข้าวในโรง อาหารเลย

หลังจากที่ผมยื่นจานข้าวให้เธอเธอก็นั่งทานอย่างเอร็ด อร่อย

ผมยังไม่ทานข้าวเพราะมีสิ่งที่ผมกังวลมากกว่า

ผม หยิบหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ในกระเป๋าฟ้าออกมา “ฟ้า!

ไม่เข้าใจตรง ไหนเดี๋ยวแบ๊งค์ อธิบายให้ฟัง”

ผมเปิดไปเรื่อยๆขณะที่กำลังรอคำ ตอบจากเธอ

เธอใช้นิ้วเรียวเรียวของเธอชี้มาบนหนังสืออย่างรังเร

“ก็..ก็….ทั้งหมดเลยแหละ”

ผมจึงเริ่มอธิบายทั้งหมดให้ฟ้า ฟังชนิดก๊อป+++ทุกคำที่อาจารย์พูด

ผมอธิบายไปเกือบชั่วโมง จนหมดเปลือกเลยทีเดียว “เป็นไงฟ้าเข้าใจแล้วใช่มั๊ย”

เธอเริ่มมี อาการรังเรอีกแล้วครับท่าน “ฟ้า….ฟ้า…. เข้าใจ..ก็ได้”

ผมรู้ ทันทีเลยว่าเธอไม่เข้าใจ

“โธ่! ฟ้าก็…งั้นฟังใหม่นะ”

ผม จึงเริ่มอธิบายใหม่ทั้งหมดไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบกว่าฟ้าจะเข้าใจได้

สงสัย ว่าความสวยของเธอมันจะดูดกลืนเอาความเฉลียวฉลาดที่เธอมีไปซะหมดเลย

แต่ ยังไงเธอก็น่ารักดี ยิ่งเวลาที่เธอทำหน้างงในสิ่งที่ผมสอน

ผมยิ่ง รู้สึกว่าเธอน่ารักเข้าไปใหญ่

ผู้หญิงในอุดมคติของผมไม่จำเป็น ต้องเรียนเก่งก็ได้

จากวันนั้นผมก็คอยเป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้ฟ้า เสมอมา

หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรผมก็จะอยู่ข้างฟ้าเสมอ

แล้ว ความรู้ทั้งหลายก็กำลังจะต้องถูกใช้ออกมา

วันนี้อาจารย์สอบเก็บ คะแนนพวกเราก่อนที่จะสอบผมก็ติวให้ฟ้าอย่างเต็มที่

ย้ำแล้วย้ำอีก จนเธอบอกว่าเธอเข้าใจอย่างดีเยี่ยมเลย พอเข้าห้องสอบผมก็เริ่มทำ

มัน ง่ายมากเลยสำหรับผม อาจารย์ให้เวลา 1 ช.ม. แต่ผมเสร็จตั้งแต่ 20 นาทีแรก

ผมห่วงก็แต่ฟ้าที่นั่งอยู่คนละฟากกับผมเลย

สีหน้าของเธอตอน นี้ชักจะออกอาการแล้ว

พอหมดชั่วโมงอาจารย์ก็สั่งให้ผมยกข้อสอบ ทั้งหมดไปวางไว้โต๊ะห้องอาจารย์

ขณะเดินผมก็รีบเปิดหาของฟ้าทันที โอ้! แม่เจ้า ผิดหมดเลยครับ

ผมยืนคิดอยู่พักว่าจะทำยังไงดี เพราะข้อสอบคราวนี้มีคะแนนเยอะมาก

หากสอบไม่ผ่าน มีหวังเกรด 0 อยู่แค่เอื้อม

ผมเลยตัดสินใจหยิบกระดาษคำตอบใบใหม่ขึ้นมาแล้วผมก็ ทำใหม่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

ระหว่างทื่ทำก็ต้องคอยระวังอาจารย์ เหมือนกัน พอผมทำเสร็จ ก็เขียนชื่อฟ้าลงไป

จากนั้นก็เก็บเข้ากอง เดิมแบบที่อาจารย์ไม่สงสัยแม้แต่น้อย

ส่วนกระดาษคำตอบใบเดิมของ ฟ้าผมก็พับเป็นจรวดเล่นเห็นจะเป็นประโยชน์มากกว่า

หลังจากวันนั้น อาจารย์ก็ประกาศคะแนน ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ผ่านกัน

แต่ทุกคนก็ต้อง อึ้ง! เมื่อทั้งห้องมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้คะแนนเต็ม

คือผม กับฟ้า

ผมหนะเขาไม่ค่อยสงสัยกันหลอกเพราะใครก็รู้ว่าผมเรียนเก่ง แค่ไหน แต่ที่

“รุ่งฟ้า” ได้คะแนนเต็มนี่สิทำเอาเพื่อนๆงง แบบบอกไม่ถูกเลยหละ

เธอดีใจหันมาหาผม “เห็นมั๊ยแบ๊งค์ ฟ้าก็ทำได้”

ผมแอบหัวเราะในท่าทางอันมั่นใจว่าทำได้! ของเธอ แต่ปากผมก็ชมเธอ

ผมไม่เคยบอกกับฟ้าสักคำว่าผมเป็นคนแก้ข้อสอบให้ เธอ

และผมก็ยังใช้วิธีนี้ช่วยเหลือเธอหลายต่อหลายครั้งโดยที่เธอ ไม่รู้ตัว

จนในที่สุดเราก็ขึ้นมา ม.2 จนได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

ผมยังไปส่งเธอที่บ้านทุกวันไม่เปลี่ยน แปลง

ฟ้าก็ยังมาสายเหมือนทุกวันในปีที่แล้ว

จะเปลี่ยน ไปก็แต่หนุ่มๆที่มาแอบชอบเธอดูเหมือนจะเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันทุกวัน

วันนี้หลังจากโรงเรียน เลิกผมก็นั่งทำงานกลุ่มกับเพื่อนเพื่อนผมอีก 7 คน

แล้วผมก็ได้ยิน เสียงคนเถียงกันอยู่ห้องถัดไป ทีแรกผมก็ไม่สนใจ

เพราะอะไรที่มัน ไม่ใช่เรื่องของผม ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด

หรือแม้แต่แค่สนใจ ที่จะฟัง แต่พอเสียงมันเริ่มชัดขึ้น

คราวนี้ผมสนใจขึ้นมาทันที มันเป็นเสียงของฟ้าที่มีเสียงผู้ชายประมาณ 5-6

คนกำลังรุมต่อว่า เธอแบบที่ไม่ปล่อยให้เธอพูดเลย ผมลุกขึ้นทันที

หยิบไม้เบสบอลที่ วางอยู่หลังห้องแล้วเดินไปยังที่มาของเสียง

เพื่อนผมที่นั่งด้วย กันมันก็ตามมาทันที “มีอะไรว่ะ แบ๊งค์!”

“ตามผมมา” ผมพูดพร้อมกับเร่งฝีเท้า พอผมเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ

อย่างที่คิด ไว้ไม่มีผิดฟ้ากำลังยืนอยู่ท่ามกลาง รุ่นพี่ 5 คนที่กำลัง

ด่าเธอ ด้วยเรื่องที่ผมคอยช่วยเธอมาหลายต่อหลายครั้ง

ก็รุ่นพี่นายที่ เป็นหัวโจกมันแอบชอบฟ้า แต่ฟ้าไม่สนใจมัน

เรื่องแบบนี้มันเกิด ขึ้นกับฟ้ากี่ครั้งผมนับแทบไม่ไหว

ก็ฟ้าเป็นคนสวยนี่ครับก็ต้องมี คนรุมชอบเธอเป็นธรรมดา

แต่ทุกครั้งที่มีคนบอกรักเธอ

เธอ ก็มักจะปฏิเสธทุกครั้งไป

ผมปล่อยให้มันด่าฟ้าต่อไปโดยที่ผมยังไม่ ผลีผลามเข้าไป

ผมยืนดูอย่างไม่พูดไม่จากับพวกเพื่อนผม

แล้ว การเถียงกันมันก็เริ่มที่จะรุนแรงขึ้น

รุ่นพี่คนหนึ่งมัน กระชากกระเป๋าฟ้าแล้วก็ผลักเธอล้มลงกับพื้น

ผมฟิตร่างกายเป็น ครั้งสุดท้ายแล้วก็เรียกนายที่มันผลักฟ้า พอมันหันมา

ไม้เบสบอลใน มือผมก็ถูกขว้างออกไปอย่างเต็มแรงไม้หมุน360องศา ประมาณ 4 รอบ

แล้ว ก็ถึงปากมันพอดีไม้กระแทกปากมัน มันกระเด็นเลยทีเดียว มันลุกขึ้นมา

แล้ว ใช้มือจับดูปริมาณเลือดของตัวเองเลือดมันไหลนองไปหมด มันเดินตรงมาที่ผม

ผมรู้ดีว่าการชกกันในแบบนี้ ผู้ที่ลงมือก่อนจะได้เปรียบ

ผม ไม่รอช้ายิงหมัดขวาอย่างไม่ยั้ง คราวนี้มันสลบยาวเลย

เพื่อนมัน ที่เหลือก็ตรงเข้ามากะจะอัดผมเต็มที่ เพื่อนผมที่มาด้วยกัน

จึง วิ่งเข้าตะลุมบอลกัน เก้าอี้ โต๊ะบริเวณนั้นถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ

ข้าว ของในห้องกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ผลสุดท้ายรุ่นพี่ทั้ง 5

ก็สลบ ตินคาพวกผม สภาพผมแต่ละคนในตอนนั้นก็สะบักสะบอมเอาการเหมือนกัน

จาก นั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ผมเก็บกระเป๋าฟ้าที่วางอยู่กับพื้นยื่นให้เธอ

“ฟ้า กลับบ้านกันเถอะ”



ผมกับฟ้าก็เดินกลับ บ้านโดยที่เธอไม่พูดจาสักคำเอาแต่มองหน้าผม

แต่ถึงผมจะสะบักสะบอม แค่ไหนแต่ผมก็ยังจะไปส่งฟ้าเหมือนเดิม

เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอ เช็ดเลือดให้ผม จนผ้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเลย

เรายืนรอรถอยู่ นานมาก เวลาก็เริ่มจะมืดแล้ว จนรถมา ผมเดินจะไปขึ้น

แต่ฟ้าเธอดึง ผมไว้ “แบ๊งค์อย่าพึ่งกลับไปดูดาวเป็นเพื่อนฟ้าหน่อย”

ผมก็นึกตลก เหมือนกันทำไมเธอถึงอยากจะดูดาวนะ เธอพาผมขึ้นรถคันใหม่ไปกับเธอ

จนท้องฟ้ามืด ก็มาถึงที่ดูดาวที่เธอว่า “ที่นี่เหรอฟ้า

ที่ ว่าจะพาแบ๊งค์มาดูดาว” เธอพยักหน้า “ใช่! ที่นี่หละ ฟ้าไม่เคยชวนใครมาเลยนะ

แบ๊งค์เป็นผู้ชายคนแรกที่ฟ้าพามาเลยหละ” ผมมองที่ ที่เธอว่าดูดาวที่นี่

มันสวย แล้วผมก็หัวเราะ ก็ที่นี่มันสะพานแขวนชัดชัด มันจะสวยกว่าที่อื่นตรงไหน

แต่ผมก็ ไม่พูดอะไรปล่อยให้เธอเดินจูงมือผมแล้วก็เดินเพื่อจะขึ้นไปบนสะพานที่ว่า

เธอแวะซื้อไอศกรีมรสสตอเบอรี่ 2 อัน แล้วก็เดินต่อ

ข้างบน นี้มันเป็นสะพานแขวนที่รถวิ่งได้ 4 เลน แต่ไม่ค่อยจะมีรถวิ่งเท่าไหร่

เพราะเส้นทางนี้มันทำให้เสียเวลามาก

คนจึงมักจะใช้เส้นทาง อื่นจะมีก็แต่รถที่จะวิ่งไปฝั่งธนบุรี

สะพานนี้มันจึงดูเงียบ เชียบ

ขอบสะพานเป็นทางเท้าสำหรับคนเดินที่ทั้งสะพานดูเหมือนจะมี แค่ผมกับฟ้าเท่านั้นที่กำลังเดิน
อยู่

เธอพาผมเดินไปจนถึง กลางสะพานแล้วเธอก็หยุดเดิน

เธอมองลงไปตามชุมชนที่มีแสงไฟระยิบ ระยับ

และก็มองตามถนนที่เรียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนสุดลูกหูลูก ตา

เธอมองขึ้นไปข้างบนเพื่อจะดูดาวบนท้องฟ้า อย่างที่เธอพูดจริงครับ

บนนี้ทุกอย่างมันดูสวยไปหมด เธอมองดาวพร้อมกับกินไอศกรีม

ผมแอบมองใบหน้าเธอตาไม่กระพริบเลย เธอทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ

ไม่ว่าจะเรื่องหน้าตา หรือจะนิสัย เธอก็ดูดีไปหมด

เธอยังสวยเหมือนที่ผมเห็นครั้งแรกไม่มีผิด แต่ตอนนี้เธอดูจะสวยกว่าเดิม

เธอเริ่มที่จะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว

แววตาที่กลมโตและเป็นประกายของเธอมันช่างสวยจับใจจริงจริง เธอหันมายิ้มให้ผม

“แบ๊งค์ ที่นี่สวยมั๊ย..ฟ้าชอบมาบ่อยๆ” ผมพยักหน้า “อื้ม ก็…สวยดีหนิ

แล้วปกติฟ้ามากับใครหละ”

“ก็มาคนเดียวหนะสิ…ถามได้ จะให้ฟ้ามากับใครหละจ๊ะ”

ผมมองตาเธอ แล้วพูด “ทำไมฟ้าต้องมาคนเดียวด้วยหละ…. แค่ฟ้าออกปากชวน

ผู้ชาย ทั้งโรงเรียนก็พามากันเป็นแถบแล้ว มีคนเขาชอบฟ้าเยอะจะตาย” เธอยิ้ม

“ผู้ชายที่ว่า เนี่ย…รวมถึงแบ๊งค์ด้วยหรือเปล่าหละ”

ผมไม่ตอบเธอแล้วเงียบไป เธอใช้มือมาจับแผลที่อยู่แก้มผม “เจ็บมั๊ยแผลนี่”

ผมส่ายหน้า “ก็ ไม่เท่าไหร่” เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมออกมาเช็ดให้ผมอีก

“แบ๊งค์เนี่ย ยอมเจ็บเพื่อฟ้าเสมอเลยนะ แบ๊งค์เหมือนเป็นฮีโร่ ประจำตัวฟ้าเลย

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ช่วยฟ้าเสมอเลย ว่าแต่ว่าทำไมน๊า…. แบ๊งค์ถึงชอบช่วยฟ้า

เอ๊ะ….เอ๊ะ….คิดอะไรอยู่ น๊า….” เธอพูดแบบอมยิ้มด้วยท่าทางน่ารัก

ผมรีบตอบไปเพราะความเขิน “ก็ ก็ ฟ้าเป็นเพื่อนแบ๊งค์ไง

เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิจริง มั๊ย” ผมพยายามหลบสายตาที่เธอมอง

แล้วก็ชวนเธอคุยเรื่องอื่น เราคุยกันจนดึกเธอก็ชวนผมกลับ ผมก็พยักหน้า “ฟ้า

ว่าแต่ว่าเราจะ กลับกันยังไง รถก็หมดแล้ว ทุกครั้งที่ฟ้ามาฟ้ากลับยังไงหละ”

“ฟ้ามาทุกครั้งก็เดินกลับไง!”

ผมรู้สึกตลกทำไมเธอถึงต้องเหนื่อย เดินเพียงเพื่อมาดูดาวแค่นี้นะ

ผมก็เดินนำหน้าเธอ เธอเรียกผม “แบ๊งค์! แต่วันนี้ฟ้าไม่ต้องเดินกลับแล้ว”

ผมหันมาทันที “แล้วเราจะกลับยังไงหละฟ้า” เธอยิ้มแบบเด็กเด็ก “ก็

ทุกวันฟ้ามา คนเดียวฟ้าก็เดินกลับ….แต่วันนี้มีแบ๊งค์

ฟ้าก็จะขี่หลังแบ๊งค์ กลับยังไงเล่า”

เธอพูดจบก็กระโดดขึ้นหลังผมแบบไม่ให้ตั้งตัวเลย “โธ่! ฟ้า..ก็..ตั้งไกลนะ”

เธอไม่ฟังผม แล้วเธอก็ชี้นิ้วไปข้างหน้า แล้วสั่งให้ผมเดิน เธอชวนผมคุยตลอดทาง

การ ที่ผมได้ใกล้ชิดเธอขนาดนี้มันทำให้ผมไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย

คืน นี้มันทำให้ผมมีความสุขมาก หากผมหยุดเวลาได้ผมจะหยุดอยู่แค่ตอนนี้ตลอดไป……

การมาโรงเรียนอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับหลายคน แต่สำหรับผมไม่เลยครับ

ผมอยากจะมาทุกวัน ทุกวัน ไม่มีวันหยุดไม่มีปิดเทอมเลยด้วยซ้ำไป

เพราะถ้าวันไหนผมไม่ได้ เห็นหน้าฟ้าก็เหมือนบางอย่างในชีวิตผมมันขาดหายไป

วันนี้ผมมา โรงเรียนแต่เช้าเลยวันนี้เป็นวัน “วาเลนไทน์”

ผมนั่งข้างฟ้า ตลอดทั้งวันมีผู้ชายเอากุหลาบมาให้เธอนับดอกไม่ถ้วนเลย

แต่ผมก็ ยิ้มและก็แสดงความยินดีกับเธอ

หลังจากที่โรงเรียนเลิกผมก็มาทำ ความสะอาดห้องเพราะวันนี้เป็นเวรประจำวันของผม

ฟ้าเธอก็นั่งรอผม อยู่หลังห้อง เธอนั่งเด็ดกลีบกุหลาบเล่น

ดูเธอจะไม่เสียดายดอก กุหลาบเหล่านั้นเลย หลังจากที่ผมทำความสะอาดเสร็จ

เวลาในตอนนั้น มันก็เย็นมากแล้ว ผมจึงออกไปล้างไม้ล้างมือแล้วก็ปิดห้อง

ฟ้าเธอ ก็ชวนผมกลับ

ขณะที่เธอกำลังเดินผมก็คิดอยู่นานจนในที่สุดผมก็แข็ง ใจเรียกเธอ

“ฟ้าเดี๋ยวก่อน” เธอหันมาหาผมแล้วยิ้ม “มีอะไรหรอแบ๊งค์”

ผมเปิดกระเป๋าสะพายของผมแล้วค้นหาสิ่งที่อยู่ ข้างในนั้น

มันถูกห่อไว้อย่างทนุถนอม

มันคือดอกทิว ลิปส์สีขาวที่ผมเตรียมมาให้เธอตั้งแต่เช้า

แต่ผมไม่กล้าที่จะให้ เธอ ถึงมันจะดูเฉาลงไปบ้าง แต่ก็ยังคงงดงามอยู่

ผมค่อยๆคลี่ กระดาษที่ห่อมันอยู่แล้วก็ยื่นให้ฟ้า

“อ๊ะ แบ๊งค์ให้” ตอนนั้นใจผมเต้นตุ๊บตั๊บเลย

เธอดีใจมากที่ผมให้เธอ

เธอ ค่อยๆหยิบจากมือผมไป ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ดวงตาของเธอจับจ้องมา

ที่ ผม “สวยจังเลย…. รู้มั๊ย ทั้งวัน ฟ้ารอดอกไม้จากแบ๊งค์คนเดียวเลย”

เธอ พูดจบก็เอากุหลาบหลายดอกที่ เพื่อนๆเธอให้

เธอเอากุหลาบทั้งหมด ทิ้งลงถังขยะทันที เหลือแต่เพียงทิวลิปส์ที่ผมให้เธอ

มันทำให้ผม รู้สึกว่าผมมีความสำคัญสำหรับเธอมากเลย

เธอรีบเดินมาขวางทางไม่ ให้ผมเดินต่อ

เธอจ้องตาผมแววตาของเธอมันทำให้ผมเขินแบบที่ไม่เคย เป็นมาก่อน ใจของผมเต้น ราว

150 ครั้ง ต่อนาทีได้มั๊ง เธอยิ้มแบบหน้าแดง ดูแล้วน่ารักมาก แล้วพูดกับผม

“เอ๊ะ….เอ๊ะ….เอ๊ะ แบ๊งค์ให้ฟ้าทำไมน๊า…บอกมาซะดีดี

รู้นะว่าคิด อะไรอยู่…รู้น๊ะ…รู้น๊ะ” ผมรีบหลบสายตาเธอด้วยความเขิน

แต่เธอก็ ยังเดินอ้อมมาจ้องหน้าผม แล้วก็ถามอีก ผมหลบหน้าเธอไปเรื่อยๆ

จน ในที่สุดผมก็ต้องจนมุม เพราะทุกครั้งที่เธอเริ่มจะจับได้ว่าผมชอบเธอ

เธอ จะชอบถามผมแบบนี้ทุกครั้งไป แต่ผมก็มักจะหาข้อแก้ตัวทุกครั้ง

ผม คิดด้วยความเขินอยู่นานว่าจะแก้ตัวว่ายังไงดี “คือ…คือ อ้อใช่!

ก็ วันนี้วันวาเลนไทน์ไง แบ๊งค์ ก็อยากจะให้อะไรฟ้าบ้าง”

เธอหัวเราะ ในคำตอบของผม “แล้วทำไมถึงอยากจะให้ฟ้าหละจ๊ะ….ตอบให้ตรงประเด็นสิ”

ผม ชักจะจนมุม เลยต้องวกไปคำตอบที่ผมมักจะใช้อยู่เสมอ “ก็…ก็

ฟ้า เป็นเพื่อนแบ๊งค์ไง”

“นั่นไง…ว่าแล้วเชียว ชอบวนมาจบคำว่าเพื่อนอยู่เรื่อยเลยแบ๊งค์หนะจะตอบแบบอื่นบ้างไม่ได้
หรือ ไง”

“อ้าว..ก็ถ้าไม่ให้พูดว่าเพื่อนจะให้พูดว่าไงหละ…ฟ้าก็” เธอจ้องตาผมอยู่นาน

”อ๊ะ…ถ้าแบ๊งค์บอกว่าคิดกับฟ้าแค่เพื่อน แล้วในห้องเราก็มีกันตั้ง 50 กว่าคน

ไม่เห็นว่าจะได้ดอกไม้จาก แบ๊งค์ บ้างเลย….เนอะ”

ดูเหมือนผมจะแก้ตัวไม่ขึ้นเลยสำหรับคำพูด ของเธอ ฟ้าเธอมักจะต้อนผมจน จนมุมเสมอ

และพยายามให้ผมยอมรับ ให้ได้เลยทีเดียว ผมไม่รู้จะตอบเธอว่าไง

ผมเลยชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ “ฟ้า ฟ้า รถมาแล้วรีบไปกันดีกว่า”

“เดี๋ยวก่อนซี้…มาตอบก่อน” ผมรีบวิ่งขึ้นทันที

ตลอดทางบนรถเธอยิ้มและก็จ้องหน้าผมไม่กระพริบ ตาเลย

การเอาทิวลิปส์ให้เธอในวันนั้นทำให้ฟ้าเธอดูมีความสุขมาก

แต่อาจารย์ก็สั่งให้ทุกคนนั่งลงเพื่อเตรียมตัวที่จะสอบ

หลัง จากวันนั้นก่อนที่อาจารย์จะติดป้ายประกาศชื่อนักเรียนว่าจะได้อยู่สายไหน

ห้องไหน ผมไปขอดูผลกับอาจารย์ที่ปรึกษาของผมก่อน

ชื่อผมกับ ฟ้าเราได้อยู่คนละห้อง กันเลย ฟ้าเธอหัวอ่อนได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา

ส่วน ผมได้อยู่สาย วิทย์-คณิต คะแนนนี้นำโด่งเลย

ผมเห็นอย่างนั้นเลยขอ อาจารย์ย้ายไปอยู่ สายศิลป์-ภาษา ทันที

ทีแรกอาจารย์ก็ไม่อยากให้ ผมเปลี่ยนห้องอาจารย์บอกว่าคนหัวไวอย่างผม เรียนสาย

วิทย์-คณิต จะไปได้ไกลเลย แต่ผมก็ไม่ฟัง ขอร้องอาจารย์ด้วยเหตุผล นานัปการ

จน ในที่สุดอาจารย์ก็ย้ายชื่อผมไปห้องเดียวกันกับฟ้าเลยครับ

ผมดีใจ มากที่ผมจะได้ใกล้ชิดเธออีกตั้ง 3 ปี

ก็ตลอดเวลาที่ผมได้รู้จัก เธอมันกลายเป็นความผูกพันที่ฝังลึกอยู่ในใจผม

มันคงยากที่ผมจะละ สายตาจากเธอได้

วันที่ผมรอก็มาถึง ฟ้าเธอดีใจมากที่เห็นผมได้อยู่ห้องเดียวกับเธอ

แต่เธอก็แปลกใจ อยู่เหมือนกันว่าคนอย่างผมทำไมถึงได้อยู่สาย ศิลป์-ภาษา

ฟ้าเธอดู เป็นสาวขึ้น สวยขึ้น

แต่นิสัยก็ยังคงเป็นฟ้าเหมือนเดิมเด็ก ผู้หญิงที่น่ารัก ขี้เล่น

และก็ชอบที่จะให้ผมเอาใจอยู่เสมอ เธอมักจะให้ผมชอบอะไรที่เหมือนเหมือนกับเธอ

เวลากินข้าวอาหารก็ ต้องเหมือนกัน

ถ้าข้าวจานไหนเยอะกว่ากันเธอก็ต้องเอามาแบ่งให้ เท่ากันทั้ง 2 จานถึงจะกินได้

น้ำที่ดื่มก็ต้องเหมือนกันโดยมากจะ เป็นน้ำส้ม

ปากกายังต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันเลย

และก็ อีกหลายต่อหลายอย่างที่เธอมักจะสรรหามา แม้แต่รองเท้า

เธอยังเคย เปลี่ยนกันใส่กับผมเลย ถึงผมจะอายเพื่อนก็เหอะ แต่ผมก็ไม่เคยขัดใจเธอ

เธอว่าไง

ผมก็ว่างั้น ความสุขเล็กเล็กน้อยน้อยที่เกิดขึ้นในใจผมทุกวัน

จึงทำให้ผม รู้สึกห่วงใยเธออยู่ตลอดเวลา

เวลาที่เธอร้อนผมก็จะหากระดาษมาทำ เป็นพัดแล้วก็พัดให้เธอ

เวลาที่เธอหนาวผมก็จะถอดเสื้อหนาวของผม คลุมให้เธอ

เวลาที่เธอตากฝนผมก็จะใช้กระเป๋าผมเป็นร่มบังฝนให้เธอ โดยที่ไม่สนใจหนังสือที่อยู่ข้างใน
เลยว่ามันจะเปียกแค่ไหน

หรือ แม้แต่เวลาที่เธอถูกอาจารย์ทำโทษ ผมก็มักจะออกรับแทนเธอเสมอ

ฟ้า เธอเป็นคนที่ไม่กล้าเถียงคนอื่น ผมจึงหาข้อแก้ตัวสารพัดมาช่วยเธอ

หรือ ถ้ามันเป็นความผิดแบบเต็มเต็ม ที่เถียงไม่ขึ้น ผมก็จะรับโทษแทนเธอ

เธอ มักจะถามผมเสมอว่าผมทำไมถึงต้องดีกับเธอขนาดนั้น

แต่ทำไมนะถึงไม่ มีสักครั้งเลยที่ผมจะกล้าเอ่ยปากบอกเธอว่า “ผมรักเธอ”

ผมเอาแต่ กลัวกลัวว่าหากเธอรู้เธออาจจะจากผมไป

ผมเห็นจากที่ผู้ชายหลายคน ที่มาจีบฟ้า ทั้งหล่อทั้งรวย

ฟ้าเธอก็ไม่เคยสนใจใครเลย ดูเหมือนชายในฝันของเธอคงจะต้องดีไปซะทุกอย่าง

สำหรับผม ผมขอแค่ได้อยู่ใกล้ใกล้เธอ ได้ทำอะไรเพื่อเธอ ได้เห็นเธอยิ้ม

เห็น เธอมีความสุข เท่านั้นมันก็มากพอแล้วสำหรับคนอย่างผม

ผมเป็นฮีโร่ ประจำตัวฟ้าอยู่หลายปี ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะให้เธอยืนเดียวดาย

ตอน นี้พวกเราก็มาถึงชั้น ม.6แล้วนี่ก็เป็นปีสุดท้ายในชั้นมัธยมแล้วสินะ

ถ้า จะนับจากวันแรกที่ผมเห็นเธอและก็แอบหลงรักเธอ

ตั้งแต่วันนั้นมาจน วันนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว

แต่ความรักที่ผมมีให้กับเธอมันไม่ เคยลดน้อยลงไปเลย ตรงกันข้าม

มันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ต้นรักที่เธอได้ปลูกไว้ในใจผมอย่างไม่ รู้ตัวตอนนี้มันดูเหมือนจะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปทุกอนู
ภาคของ

ร่าง กายผมเลยก็ว่าได้

เธอจะรู้บ้างไหมนะว่าผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนเคียง ข้างเธอเสมอมา

เขาแอบหลงรักเธอจนหมดหัวใจ

เดี๋ยวนี้ผม กับเธอมักจะไปไหนด้วยกันเป็นประจำ ไม่ห่างกันเลยทีเดียว

เวลาที่ ผมไปไหนเธอก็มักจะตามติดผมแจเลยเหมือนเด็กที่ขี้อ้อน

แต่ผมก็ไม่ เคยรู้สึกรำคาญเธอเลย

มันกลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกผูกพันกับเธอมาก ขึ้นเรื่อยเรื่อย

ผมฟันฝ่าอุปสรรคเคียงข้างฟ้าเสมอมา

จน ในที่สุดเวลาในช่วงมัธยมของเราก็มาถึงจุดสุดท้าย เรากำลังที่จะEnt

ผม รู้ว่าฟ้าเธอจะเลือกคณะ สถาปัตยกรรม เธอขอให้ผมเรียนกับเธอด้วย ทีแรกผมก็ไม่

ไม่คำเดียวเลย เพราะใจผมอยากจะเรียนแพทย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร

และความสามารถอย่าง ผมรับรองว่าสอบแพทย์ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด


"ภูมิใจที่ได้ทำอะไรให้ เต็มใจแม้ว่าใครจะว่าเพ้อเจ้อ ดีใจที่ได้คอยห่วงใยใส่ใจเธอ  สุขใจเสมอและจะมีเพียงเธอ...ตลอดไป"
PaToNgGo
Jr. Member
**
กระทู้: 261


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12923 เมื่อ: 28-04-2010, 22:48:46 »

แต่ความผูกพันที่ฝัง ลึกในใจผม ที่มีให้กับฟ้านี่สิ มันทำให้ผมต้องคิดหนัก

ถึงเวลา แล้วที่ผมต้องเลือกระหว่างคนที่ผมรักกับอาชีพที่ผมรัก ตลอดเวลา 6

ปี ที่ผ่านมา เธอทำให้ผมมีความสุข เธอทำให้ผมไม่เคยเหงา

เธอทำให้ผม รู้สึกว่าโลกนี้มีคนที่ผมสามารถสละแม้ชีวิตเพื่อเธอ

แล้วผมจะทำ ได้หรือหากสองเราจะต้องห่างกัน ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่นาน

ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจ Ent

สถาปัตย์ กับฟ้า ผมทิ้งอาชีพที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อสิ่งที่ผมรักยิ่งกว่า

วัน ประกาศผลEnt ก็มาถึงผมรีบมาตั้งแต่เช้าเลย ผู้คนมากมายมาจากทั่วสารทิศ

มาเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน เพื่อที่จะมาหาชื่อตนเองบนบอร์ด ผมเบียดเสียดผู้คน

กว่าจะเข้าไปถึงก็เกือบชั่วโมง ชื่อผมอยู่เป็นอันดับแรกเลย

ดูมันจะหมูมากสำหรับผม ผมไม่สนใจชื่อผม เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือฟ้า

หากไม่มีชื่อ ฟ้าบนนี้ ผมจะเรียนมหาลัยเปิดกับเธอ ผมมองหาชื่อฟ้าเรียงลงมาเลย

20 คนก็แล้ว 50 คนก็แล้ว 100 คนก็แล้ว 300 คนก็แล้ว ผมเปิดหาแผ่นแล้วแผ่นเล่า

มันเริ่มทำให้ผมใจเสียขึ้นมาทุกที ผมเปิดมาจนถึงแผ่นสุดท้าย มองลงไปเรื่อยๆ

เห็นชื่อฟ้าอยู่เป็นอันดับสุดท้ายพอดีเป๊ะเลย ผมดีใจมากเลย

ผมจะไม่ได้จากเธออีกแล้ว ผมกระโดดดีใจวิ่งไปทั่วเลย

หลังจากวันนั้นผมก็เฝ้ารอวันที่ผมจะได้เจอฟ้าอีกครั้งในชุดนัก ศึกษามหาลัย

แล้ววันแรกในมหาลัยก็มาถึง เมื่อคืนผมนอนแทบไม่หลับผมอยากที่จะเห็นหน้าเธอ

ผมเดินเข้า ประตูมหาลัยมา ที่นี่มันกว้างใหญ่มาก

เต็มไปด้วยร่มไม้ดูร่มรื่น ไปหมด

ตามทางเดินก็มีทั้งนักศึกษาหญิงชายเดินพลุกพล่านไปหมด

ข้างทางก็ติดป้ายแสดงความยินดีกับนักศึกษาใหม่ ผมมองหาคณะ สถาปัตย์ อยู่นาน

ผมนั่งรอฟ้าอยู่หน้าตึก เธอนี้ยังชอบมาสายเหมือนเดิมเลย ไม่รู้จักโตสักที

แล้วผมก็เห็นฟ้าเดินผ่าเหล่านักศึกษามาแต่ ไกลเลย

ตอนนี้เธอดูไม่เหมือนฟ้าคนเดิมเลย ผมเธอยาว

ตา ก็กลมโตเป็นประกายแก้มกับปากก็สีชมพูอ่อนๆ เธอสวยกว่าเดิมจนผมจำแทบไม่ได้

และยังใส่ชุดนักศึกษามหาลัย ที่มองแล้วโค้งเว้าเข้ารูป

มัน ต่างกันลิบลับกับตอนมัธยมเลย นักศึกษาชายที่เดินสวนกับฟ้ามองตามกันเป็นแถบ

ผมของเธอเวลาที่ต้องลมก็ปลิวออกเล็กน้อย ทำไมถึงสวยขนาดนี้นะ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะดีใจหรือจะเสียใจดี ที่ฟ้าเธอสวยขึ้น

เธอเห็นผมนั่งรออยู่เธอรีบวิ่งมาทันที ถึงหลายหลายอย่างในตัวฟ้ามันจะเปลี่ยนไป

แต่ที่ยังเหมือนเดิมก็ เห็นจะเป็นนิสัยของเธอ

เธอยังคงเป็นนางฟ้าตัวน้อยน้อยของผมเช่น เดิม ผู้หญิงที่น่ารัก ขี้เล่น

ทำตัวเหมือนเด็กเด็ก ที่ผมชอบเธอก็ตรงนี้แหละ

ถึงผมกับฟ้าจะเข้าสู่มหาลัยแล้วแต่ ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม

ผมยังนั่งรถไปส่งเธอบ้านทุกวัน ผมยังทานข้าวกับเธอทุกมื้อ

ผมยังไปดูดาวกับเธอเป็นประจำ และผมก็ยังเป็นบอดี้การ์ดของเธอทุกลมหายใจ……………

……..แต่พอเราขึ้น ปี 2 ทุกอย่างมันก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป

มีผู้ชายที่พร้อมไปซะ ทุกอย่างทั้งเรื่องหน้าตาและฐานะ

หลายต่อหลายคนต่างมารุมชอบเธอ ดูผมจะเทียบกับใครเขาไม่ได้เลย

ตอนนี้ฟ้าเธอเป็นดาวของมหาลัยเลย ก็ว่าได้ เธอไม่ใช่ฟ้าที่เพื่อนๆ

ชอบหาว่าเรียนอ่อน ชอบมาสาย อีกต่อไปแล้ว ดูเหมือนความบกพร่องที่เธอเคยมี

มันถูกความสวยและ ความสามารถในด้านอื่นของเธอทดแทนไปหมดเลย

เธอเป็นเชียร์หลีดเดอร์ ของมหาลัยที่เด่นกว่าคนอื่นๆ

เธอเข้าร่วมในหลายหลายกิจกรรมของ โรงเรียน

หรือจะเป็นการประกวดด้านความสวยความงามต่างๆ ดูเหมือนฟ้าเธอจะกวาดเรียบเลย

แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่ฟ้าเธอจะลืม ผม จิตใจเธอข้างในยังเหมือนเดิมทุกประการ

จะเปลี่ยนไปก็แต่สภาพ แวดล้อมรอบตัวเธอที่มันทำให้ผมดูจะไม่เหมาะกับฟ้า

ลงไปทุก ขณะ เดี๋ยวนี้เวลาที่ผมไปไหนกับเธอมักจะมีคนมองตลอด

ผมเริ่ม รู้สึกว่าผมห่างเธอไปเรื่อยๆ เหมือนเรือที่ถูกปล่อยลอยเคว้งคว้าง

ซึ่ง นับวันลมฝนจะทำให้มันห่างออกจากผืนดินเข้าทุกขณะ เมื่อก่อนผมเคยคิดเสมอว่า

เธอเป็นนางฟ้า……. ที่ผมต้องคอยช่วยเหลือเสมอตอนนี้มันก็ยิ่งไกลลับตา

เปลี่ยนเป็นคำ ว่า “ดอกฟ้ากับหมาวัด”ดูจะเหมาะกว่า เมื่อก่อนที่ผมคอยช่วยเธอไปซะทุกเรื่อง

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มหมดความสำคัญแล้ว

ผู้คนรอบ ตัวฟ้าต่างช่วยเหลือดูแลเธอยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก

จึงทำให้ผม พยายามปลีกตัวออกจากเธอ เวลาเดินกับเธอผมก็พยายามรักษาระยะไว้

หลาย อย่างในตัวผมมันเปลี่ยนไป จนทำให้ฟ้าเธอผิดสังเกต

ยิ่งผมหนีเธอ เธอก็ยิ่งตามติดผมเข้าไปใหญ่ เหมือนกำลังประชดผม

ฟ้าเธอช่างไม่ เข้าใจอะไรเอาซะเลยว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

เธอยังเอาแต่เป็น เด็กไม่รู้จักโต หลายครั้งที่เธอถามผมว่าผมเป็นอะไรไป

แต่ผมก็มัก ตอบเธอไปว่าไม่มีอะไรทุกอย่างยังเหมือนเดิม……

เดี๋ยวนี้เวลาที่ เธอชวนผมไปดูดาวผมก็มักบ่ายเบี่ยงไป บอกว่าไม่ว่างบ้าง

ติดธุระ บ้าง

~เมื่อก่อนการที่มา โรงเรียนแล้วได้เห็นหน้าเธอมันทำให้ผมมีความสุขแต่เดี๋ยวนี้มันกลับทำ

ให้ผมปวดร้าวเมื่อรู้ว่าระหว่างเราช่องว่างมันมากขึ้นทุกที~

ความเหงาความอ้างว้างมันเริ่มก้าวเข้ามาในใจผม

วันนี้หลังจากที่เลิกเรียนผมกำลังเดินกลับบ้าน ...ผมแอบกลับคนเดียวโดยไม่บอกฟ้า

ผมเดินเตะกระป๋องโค้กมาตามทางแบบสุดเซ็ง ผมเตะกระป๋องไปข้างข้างทางที่รถวิ่ง

รถเก๋ง BMW ขับผ่านมาอย่างช้าๆแล้วเหยียบ กระป๋องโค้กของผมซะแบนเลย

ผมยิ้มในความแม่นของล้อรถ ผมมองไปที่คนขับอย่างผ่านผ่าน แต่คนที่นั่งข้างนี่สิคือฟ้า

เธอเห็นผมกำลังเดินเข้าพอดี ผมจึงรีบหลบสายตาที่เธอมองทำเป็นมองไม่เห็นเธอ

ผมก้มหน้าแล้วเดินต่อไป ผมคิดว่าดีแล้วหละ ผู้หญิงน่ารักอย่างฟ้าไม่ควรที่จะมานั่งรถเมล์

ผมเดินไปอย่างใจลอยจนถึงป้ายรถเมล์ ตลอดหลายปีมานี้ผมนั่งรถไปส่งฟ้าทุกวัน

ต่อจากนี้ผมคงไม่ต้องทำเช่นนั้นอีกแล้ว

ผมจะนั่งรถกลับบ้านของผมเลยซักทีไม่ต้องนั่งไปแถวบางเขนเหมือนเช่นทุกวัน

รถเมล์จอดเทียบผมก้าวจะไปขึ้น ทันทีที่ผมก้าวก็มีมือมาดึงแขนผมไว้ พอผมหันไปก็เห็นฟ้า

“เอ๊ะ….เอ๋…ทำไมขึ้นรถผิดสายเอ่ยคันนี้ไม่ได้ไปบางเขนนะ…”

เธอพูดจบก็ดึงแขนผมไปขึ้นรถคันต่อไปที่จะไปบ้านเธอ

ระหว่างทางฟ้าเธอก็หันมาคุยกับผม “แบ๊งค์ ที่จริงบ้านแบ๊งค์ไม่ได้อยู่บางเขนใช่มั๊ย

หลายปีมาเนี่ยที่ต้องขึ้นคันนี้ ตัวเองอยากมาส่งเค้าใช่มั๊ย…ใช่มั๊ย..”

ผมไม่ตอบเธอแต่ยักคิ้วแทน “นั่น..แน่! คิดอะไรอยู่นะ..ตั้งแต่ ม.1 จนตอนนี้ ปี2 แล้ว ก็ตั้ง 8 ปีเชียวนะบอกมาเหอะเค้าไม่ว่าหลอก…”

ผมยิ้มให้เธอแต่ก็ไม่ตอบ

ทำไมนะทั้งที่ผมอยาก บอกเธอใจแทบขาดว่าผมรักเธอ รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

แต่ปากของ ผมมันกลับไม่กล้าพูดออกไป ผมนั่งเงียบอยู่พักแล้วก็ถามเธอ “ฟ้า

เมื่อ ตะกี๊ มีคนขับรถไปส่งไม่ใช่เหรอทำไมลงมาซะหละ…” เธอยิ้มแล้วพูดหวานๆ

“อ้าว!…ก็เค้านึกว่าตัวเองกลับไปแล้วหนิ เพื่อนก็เลยมาส่ง

แต่พอ เห็นแบ๊งค์เดินอยู่ริมถนนก็เลยรีบลงมาหานี่ไง ทำไม…หึงใช่มั๊ย

คราว หน้าจะไม่กลับกับใครอีกแล้วจะรอให้แบ๊งค์ไปส่งคนเดียว….แบ๊งค์เนี่ยขับรถ นิ่ม…จะตาย”

ผมหัวเราะที่เธอบอกว่าผมขับรถไปส่งเธอ “รถแบ๊งค์! ไหนหละรถแบ๊งค์”

เธอหัวเราะ “อ้าว! ก็นั่งอยู่เนี่ยไง แบ๊งค์ก็ส่งฟ้าทุกวัน ทุกวัน

มาตั้ง8ปีแล้ว”

ผม หัวเราะที่เธอพูด เธอชอบที่จะหาอะไรมาพูดให้ผมขำอยู่เสมอ

ทุก ครั้งที่เธอพูดมันทำให้ผมมีความสุข

หลังจากที่ผมส่งเธอถึงบ้านผม ไม่รู้จะไปไหนต่อ

ผมยังไม่อยากกลับบ้านผมเลยนั่งรถไปสะพานคนเดียว

ทุกครั้งที่ผมมาฟ้าจะมาด้วยแต่วันนี้ผมมาคนเดียวรู้สึกหวิวใจยัง ไงบอกไม่ถูก

ท้องฟ้าวันนี้ดูโปร่งมากดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด นี่ถ้าฟ้าเธอได้เห็นเธอคงจะชอบมาก

ผมยืนดูจนเพลิน แล้วก็มีมือมาปิดตาผม “ทายซิ! ใครเอ่ย” ผมหัวเราะ

ผมรู้ทันทีเลย ว่าเป็นฟ้า ผมหันไปหาเธอ เธอโกรธเล็กน้อยแต่ก็ยังยิ้ม

“นึกแล้วเชียวว่าต้องแอบมาดูคนเดียว..แบ๊งค์เนี่ย! ไม่ชวนฟ้าบ้างเลยนะ”

เธอพูดจบก็ยื่นไอศกรีมให้ผม แล้วเธอก็แหงนหน้ามองดาวบนท้องฟ้า

ดู เธอจะชอบมันมาก ผมแอบมองใบหน้าเธอ ผมมองอยู่นานโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เธอ หันมาหาผม

“วันนี้ดาวสวยดีเนอะ ว่ามั๊ยแบ๊งค์” ผมตอบเธอเบาๆไม่คิดว่าเธอจะได้ยิน

“ฟ้าดูสวยกว่าดาวบนนั้นอีก”เธอยิ้มเหมือนจะได้ยิน“ฮะ! แบ๊งค์พูดว่าอะไรนะ”

“อ้อ เปล่าหลอก” ผมเห็นไดอะรี่เล่มเดิมของเธออีกแล้ว “ฟ้า นี่มันก็ปี2

แล้วนะ แบ๊งค์อ่านไดอะรี่ของฟ้าได้หรือยัง” เธอหันมา

“ใกล้แล้วหละแบ๊งค์มันใกล้จะสมบูรณ์แล้วขาดก็แต่……”

เธอ อ้ำอึ้งไปพักแล้วก็หยุดพูดไป

ประโยคสุดท้ายเธออยากจะพูดว่าอะไรนะ ดูท่าทางมันคงสำคัญมาก…..

ผมว่ามันดึกมากแล้วเลยชวนฟ้าเธอกลับ ผมออกเดิน เธอดึงแขนผมไว้ทันที

“แบ๊งค์….ฟ้าอยากขี่หลัง”

เธอ พูดจบก็กระโดดขึ้นหลังผมมันเหมือนสมัยก่อนไม่มีผิดเธอยังคงชอบที่จะขี่หลัง ผม
เหมือนเดิม

แต่ที่มันจะเปลี่ยนไปซักหน่อยก็เห็นจะเป็นหน้า อกของฟ้าที่มันต่างจากเมื่อก่อนไกลกันลิบเลย

ผมหันไปยิ้มให้เธอ “อะไร!!..คิดอะไร..ห้ามลามกเดินต่อไปเร็วๆ”

เธอคงรู้ว่าผมกำลัง คิดถึงสรีระของตัวเธอที่มันเปลี่ยนไปมาก

เดี๋ยวนี้เธอเป็นสาวเต็ม ตัวแล้ว นี่ถ้าใครเห็นเธอขี่หลังผมแบบนี้คงอิจฉาน่าดู

หลายหลาย อย่างในวันนี้ทำให้ผมได้รู้ว่าฟ้าเธอยังคงนิสัยเหมือนเดิม

เมื่อ ก่อนเคยเป็นไงเดี๋ยวนี้ก็เป็นงั้น

ย่างเข้าปี 3 ของมหาลัยแล้ว ผมมีเพื่อนต่างคณะคนหนึ่ง มันเรียนนิติศาสตร์

เกี่ยวกับกฎหมาย มันชื่อชัย พ่อของมันเป็นนักการเมืองชื่อดัง

ถึงมันจะรู้ว่าตัว เองเส้นใหญ่แค่ไหนแต่มันกลับไม่เคยข่มเหงคนอื่น

ตรงกันข้ามมัน กลับเป็นคนที่นิสัยดี ชอบที่จะช่วยเหลือผู้อื่น

หน้าตาก็หล่อเอา การเลยทีเดียว นายชัยมันแอบรักฟ้ามานานแล้ว

มันเคยถามผมหลายครั้ง ว่าผมคิดยังไงกับฟ้าแต่ผมก็ตอบว่าแค่เพื่อน

ผมเห็นว่าชัยมันเป็น คนดีและด้วยการที่มันอ้อนผมเช้าเย็นนั่นหละ

จนในที่สุดผมก็พามัน ไปแนะนำให้ฟ้ารู้จัก แต่จากที่ผมดู

ฟ้าก็รู้สึกเฉยเฉยกับมัน เหมือนกับรายอื่นๆนั่นหละ

ถึงมันจะหล่อจะรวยแค่ไหนก็เหอะ….

เวลาว่างๆนายชัยมันก็ชอบมาถามผมเกี่ยวกับตัวฟ้า

ซึ่งมันก็ รู้ดีว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้าผมดูจะรู้ดีกว่าทุกคน

มันค่อยๆ ทำอย่างที่ฟ้าชอบทุกวัน ทุกวัน มันตามจีบฟ้าอยู่เป็นปี

จนในที่ สุดฟ้าก็เริ่มรู้สึกว่าชัยมันเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง

เวลาที่เธอ ไปไหนชัยมันก็จะตามติด

ผมเริ่มรู้สึกว่านายชัยมันกำลังเป็นผมใน อีกตัวตนหนึ่ง

แต่ในตัวตนของมันดูจะเพรียบพร้อมไปกว่าตัวของผมไป ซะทุกเรื่อง

ผมจึงเริ่มที่จะถอยห่างเปิดช่องว่างให้เขาทั้งสองมาก ขึ้นทุกวัน

หลายคนที่เห็นชัยกับฟ้าต่างก็คิดเหมือนเหมือนกันว่า เป็นคู่ที่เหมาะสมกัน

ผู้หญิงหลายหลายคน ชอบนายชัยแต่มันไม่เคยสนใจใครเลย นอกจาก….ฟ้า

แล้วเราก็ใกล้เข้า มาถึง วาระสุดท้ายของการเรียนแล้ว

วันรับปริญญาใกล้เข้ามาทุกขณะ

ผมกำลังคิดที่จะตอบคำถามของฟ้าที่เธอเฝ้าถามผมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผมได้แอบ

ออกแบบแหวนออกมาวงหนึ่งแหวนวงนี้ผมใช้เวลา อยู่หลายเดือนในการทุ่มเทที่จะทำ




เกลียวของแหวนเป็นก้าน ทิวลิปส์ ส่วนหัวแหวนก็เป็นดอกทิวลิปส์

ผมใช้เงินที่ผมเก็บหอมรอม ริบมาตลอดหลายปีทำแหวนนี้ขึ้นมา

ถึงค่าของมันจะน้อยมาก เมื่อเทียบกับเพชร

แต่ในด้านจิตใจแล้วผมรับรองว่าฟ้าเธอต้องชอบ มันมากเลยทีเดียว

ผมจะมอบแหวนนี้ให้เธอในวันรับปริญญาแล้วผมจะ สารภาพในสิ่งที่ผมไม่กล้าพูดมาตลอด

10 ปี คำว่า “ผมรักเธอ”

วันรับปริญญาก็มาถึง…หลังจากที่พิธีทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมเดินตรงเข้าไปหาฟ้า

ยืนข้างๆเธอแล้วพูดแบบไม่กล้าที่จะสบตาเธอ

“ฟ้าคืนนี้ไปดูดาวด้วยกันนะ…แบ๊งค์มีบางอย่างอยากจะบอก”

เธอ รีบมายืนข้างหน้าผมทันที ท่าทางฟ้าดีใจมาก

ผมไม่เคยเห็นเธอดีใจ เท่านี้มาก่อน “แบ๊งค์อยากจะบอกอะไร…!”

ฟ้าเธออยากจะรู้มากเลยเธอ ตื่นเต้นอยากจะรู้ให้ได้เอาซะตอนนั้น

ผมจับมือเธอมาประกบไว้ “เอาไว้คืนนี้ฟ้าจะได้รู้สิ่งที่อยู่ในใจแบ๊งค์ ตลอด

10 ปี” เธอจ้องตาผม “สัญญาแล้วนะถ้าไม่มาเค้าโกรธด้วยหละ” พูดจบผมก็เดินจากไป

เธอตะโกน “แบ๊งค์! ฟ้าจะรอนะ”

….ผมกลับถึงบ้านผมก็หยิบของ ชิ้นหนึ่งที่ผมซ่อนไว้อย่างดี

มันถูกเก็บในกล่องอย่างมิดชิด ผมหยิบสิ่งของชิ้นนั้นออกมา มันคือ แหวน แหวน

รูปดอกทิวลิปส์

ผมได้ทุ่มเทออกแบบอย่างเต็มที่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฟ้าเพียงคนเดียว

ผมหยิบแหวนนั้นมาแนบไว้กับอกแล้วผมก็เผลอหลับไป ผมตื่นอีกทีเวลามันปาเข้าไป 4

ทุ่ม ผมลุกขึ้นแล้วรีบออกจากบ้านทันที นี่ผมช้ามากเลย!!

พอผมไปถึงผม รีบวิ่งทันทีผมดีใจมากที่เธอยังรอผมอยู่เธอยืนรอผมอยู่กลางสะพาน

ผม ค่อยๆเดินเข้าไปหาเธออย่างใจเย็นคืนนี้ผมจะกล้าพูดกับเธออย่างเต็มที

ผม เดินเข้าไป แต่ผมก็เห็นชายคนหนึ่ง เดินมาจากอีกฟากหนึ่งของสะพาน “นายชัย”

ดูเหมือนมันจะเดินถึงตัวฟ้าก่อนผมประมาณ 10 วินาทีเท่านั้นเอง

ตอน นั้นผมก็ใกล้จะถึงตัวฟ้ามากแล้ว ผมจึงรีบหลบเข้าหลังเสาทันที

ตอน นั้นไฟบนสะพานมืดมากเขาทั้ง 2 เลยมองไม่เห็นผม

ผมแอบดูชัยคุยกับ ฟ้าอยู่นานมากจนในที่สุดชัยมันเอาสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
ของ มัน

เป็นกล่องสีแดงเล็กๆ มันเปิดกล่องออกแล้วหยิบของข้างในนั้นยื่นให้ฟ้า

มันคือแหวน แหวนเพชรหลายกระหลัดเลยทีเดียว

เธอไม่รับแหวนนั่นเธอยังคงยืนรอ ที่จะฟังคำสารภาพของผมอยู่

เธอรอชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ในที่สุดเธอก็รับแหวนจากนายชัย

ฟ้าเธอร้องไห้และก็กอดนายชัย แล้วผมก็รู้ทันทีเลยว่าโอกาสของผมมันหมดลงแล้ว

นี่ผมคงมาช้าไป ผมไม่ได้ช้าแค่ 10 วินาที หรือ 10 นาที แต่ผมช้าไป 10 ปี

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ฟ้าเธอเฝ้าถามผมครั้งแล้วครั้งเล่าว่าผมรู้สึกอย่าง ไรกับเธอ

แต่ผมกลับไม่เคยตอบ ผมปล่อยให้เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ

จนถึงวันนี้โอกาสครั้งสุดท้ายของผมมันได้หลุดมือไปแล้ว

แต่ ถึงผมจะไม่ได้เคียงคู่กับเธอ แต่เธอก็ได้คนที่ดีอย่างชัยเคียงข้าง

มัน เป็นคนดีและก็เพรียบพร้อมทุกอย่าง ที่สำคัญมันรักฟ้ามาก

มันรัก ฟ้าไม่น้อยกว่าผม ผมควรที่จะปล่อยให้ฟ้าได้พบกับสิ่งที่ดีที่สุด

ผม เชื่อว่าชัยมันจะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่ถ้าวันใดที่มันทำให้ฟ้าต้องเสียใจ

ผมจะกลับมา และทวงของของผมคืน…

…หลังจากวันนั้นผมก็หายไปจาก ชีวิตของฟ้า เธอโทรมาหาผม สายแล้วสายเล่า

แต่ผมไม่รับและก็ เปลี่ยนเบอร์ไปในที่สุด ผมคอยเฝ้าดูฟ้าอยู่ห่างๆ

เธอยังไม่แต่ง งานกับชัย เธอยังคอยคำสารภาพจากผมอยู่ เธอรอผมถึง 2 ปี

จนในที่ สุดพ่อของฟ้าก็ยกฟ้าให้กับชัย เธอคงจะลืมผมได้สักที…

ข่าวคราวการ แต่งงานของ “รุ่งฟ้า” กับ “ชัยวัตร” ดังไปทั่วตามหน้าหนังสือพิมพ์

นิตยสาร รวมไปถึงสื่อทุกแขนง

ผมเฝ้าดูความสำเร็จของฟ้าอยู่โดยที่เธอไม่ รู้ตัว

ตอนนี้เธอมีทุ่งทิวลิปส์อย่างที่เธอเคยฝันแล้ว

บ้านของเธอก็เป็นคฤหาสถ์หลังใหญ่ ที่ด้านบนสุดเป็นชั้นลอยเป็นหอสำหรับดูดาว

มีกล้องดูดาวเกือบทุก ชนิด คงทำให้เธอมีความสุขกับการดูดาว มากกว่าการมา

ทนยืนดูดาวบน สะพานเก่าเก่า กับคนเดินดินเช่นผม

ตอนนี้นายชัยก็ได้เป็นนักการ เมืองเจริญรอยตามพ่อ

ซึ่งมันก็เป็นนักการเมืองที่ขาวสะอาดไม่เคย โกงกิน เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน……

ผมเฝ้าวนเวียนอยู่รอบตัวฟ้า โดยที่เธอไม่เห็นมา 5 ปีเต็มแล้ว ทุก วาเลนไทน์

ผมจะนำทิวลิปส์ สีขาวที่เธอชอบไปปักไว้รั้วหน้าบ้านเธอ ทุกครั้งที่เธอได้มัน

เธอ จะออกตามหาเจ้าของดอกไม้ทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เธอจะได้เห็นผม 5

ปีที่ผ่านมานี้ ผมได้สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาอย่างเงียบเงียบ ผมกลายเป็น

ดีไซเนอร์ ชื่อดัง ผมมักจะไม่ใช้ชื่อจริงในการทำงาน

คนที่มาติดต่องานกับผมจะรู้จักผมในชื่อ “ทิวลิปส์”

ส่วนใหญ่ เขามักจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าผม เพราะผมชอบที่จะทำตัวลึกลับ

ตอนนี้ผมกำลังได้รับ งานใหญ่ที่ ปารีส หน่วยงานที่นั่นเขาขอให้ผมไปเป็น

ดีไซเนอร์ ประจำที่นั่น เขาติดต่อผมมานานแล้ว

แต่ผมยังไม่เคยคิดที่จะ ไปผม…อยากที่จะรอดูให้แน่ใจว่าฟ้าเธอจะมีความสุข

และตอนนี้เวลา มันก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว มันถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องวางมือสักที

ผม ตัดสินใจที่จะไปอยู่ที่ปารีส และจะโอนสัญชาติเป็นคนที่นั่น

และจะ ไม่กลับมาอีก คืนนี้เครื่องของผมก็จะออกแล้ว

วันนี้ผมเลยตัดสินใจ ที่จะเอาทิวลิปส์ดอกสุดท้ายไปวางไว้หน้าบ้านเธอ

มันเป็นทิวลิปส์ ดอกสุดท้ายแล้วที่จะให้ฟ้า …..หลังจากที่ผมวางทิวลิปส์ไว้

ผมก็ ค่อยๆเดินจากไป แต่ฟ้าเธออยู่ข้างในบ้านและก็เห็นผมเข้าพอดี

เธอ รีบวิ่งตามผมออกมาทันที ผมเร่งฝีเท้าเดินหลบเธอเข้าไปในสวนสาธารณะ

ผม คิดว่าเธอคงไม่เห็นผมแล้ว

ขณะที่ผมกำลังจะเดินต่อก็มีมือเข้า มากอดผมจากทางด้านหลังความรู้สึกอย่างนี้ผมรู้ทันทีว่าเป็น
ใคร

ผม ไม่เคยลืมความรู้สึกอบอุ่นที่เธอเคยกอดผมได้เลย

ตอนนี้เธอกำลัง ร้องไห้และซบหน้าลงบนแผ่นหลังของผมน้ำตาของเธอนองหลังผมไปหมด

ผม ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกอยู่นาน ผมจึงค่อยๆหันหน้าไปหาเธอ

ผมใช้มือ เอื้อมไปเช็ดน้ำตาที่แก้มของเธออย่างเบามือ

แก้มของเธอยังคงเป็น สีชมพูเหมือนเดิม ดูเธอยังน่ารักไม่เปลี่ยนแปลงเลย เมื่อ

15 ปีที่ผมเคยเห็นเธอ ครั้งแรกเป็นอย่างไรเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิม

แวว ตายังคงใสเป็นประกาย

ซึ่งต่างจากผมที่นับวันดูจะแก่ลงไปทุกขณะ

เธอยื่นมือมาจับมือผมที่กำลังเช็ดน้ำตาให้เธอแล้วก็พูดอย่างสะอื้น “แบ๊งค์!

….แบ๊งค์หายไปไหนมา ทำไมคืนนั้นแบ๊งค์ไม่มา”

ผม ไม่ตอบเธอยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “ฟ้าตามหาแบ๊งค์ทุกวันเลยรู้มั๊ย

ฟ้า รอแบ๊งค์ จนที่สุด พ่อฟ้าก็ให้ฟ้าแต่งกับชัย”

หลายต่อหลายคำถาม ที่เธอถามผมแต่ผมก็ไม่ตอบ เอาแต่ยืนนิ่ง

เธอหยิบของบางอย่างยื่น ให้ผม “แบ๊งค์….ฟ้าให้

ไดอะรี่ที่ฟ้าสัญญาว่าจะให้แบ๊งค์ไง แต่ถึงวันนี้มันก็ยังไม่สมบูร์นะ”

ผมหยิบมาจากมือเธอ ไดอะรี่ที่ผมอยากจะดูว่าข้างในมันคืออะไรมาตั้ง 15 ปี

แต่เธอก็ มักจะบอกว่ารอให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน

แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์ อีกหรือ เธอร้องไห้แบบไม่พูดอะไรเลยอยู่นาน

แล้วเธอก็ถามผม ที่ทุกทุกครั้งที่เธอถามเธอมักจะถามแบบอ้อมค้อม

แต่คราวนี้เธอถาม ตรงตรงเลย “แบ๊งค์…แบ๊งค์ รักฟ้าบ้างหรือเปล่า”

ถ้าหากทุกครั้ง ที่เธอเคยถามผม เธอถามตรงเช่นนี้

ผมคงให้คำตอบเธอแบบไม่หยุดคิด สักนิดตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว…..

ผมเงียบไปในขณะที่ใบไม้ใบหนึ่ง ค่อยๆ ร่วง ลงมาจากต้นไม้

ผมดูจนมันตกลงถึงพื้นดิน มันทำให้ผมคิดได้ว่า

อะไรบางอย่างเมื่อมันผ่านพ้นมาแล้วมันไม่มี ทางที่จะหวนกลับคืนได้อีก

เหมือนดังเช่นผมที่จนวินาทีสุดท้ายที่ ผมจะได้เห็นเธอเช่นนี้

ผมก็ยังไม่กล้าที่จะพูดออกไป หรือถึงผมจะกล้าพูดออกไปมันก็คงไม่มีประโยชน์

ผมยืนจ้องตาเธออยู่ นาน

“ฟ้า….ต่อไปนี้ฟ้าดูแลตัวเองนะแบ๊งค์คงไม่ได้เป็นฮีโร่ประจำ ตัวฟ้าอีกแล้วนะ”

เธอรีบถามผมด้วยท่าทางตกใจ “ทำไม! แบ๊งค์ แบ๊งค์จะไปไหน” “ปารีส”

ผมเช็ดน้ำตาที่แก้มเธอเป็นครั้งสุดท้าย “..ลาก่อนนางฟ้าตัวน้อยน้อยของผม.”

ผมหันหลังแล้วก็เดินจากเธอไป เธอใช้มือมาดึงแขนผมไว้

ความรู้สึกแบบนี้ผมเคยรู้สึกหลายต่อหลาย ครั้ง ทุกครั้งผมจะต้องหันไปหาเธอ

แต่คราวนี้มันไม่เหมือนทุก ครั้ง

ผมค่อยๆแกะนิ้วเธอที่จับที่แขนผมแล้วก็เดินอย่างไม่เหลียว หลัง

ผมได้ยินเพียงเสียงเธอร้องสะอื้นจากข้างหลัง

“แบ๊งค์!….ไม่ มีที่ไหนที่ดาวจะสวยเหมือนบนสะพานนั่น

ไม่มีใครทำให้ฟ้ารู้สึกมี ความสุขเหมือนกับแบ๊งค์

ไม่มีทิวลิปส์ดอกไหนเหมือนที่แบ๊งค์ให้”

“ฟ้า~~ ฟ้ารัก………….”

ประโยคสุดท้ายเธอพูดว่าอะไร ผมก็ได้ยินไม่ชัดเพราะผมอยู่ห่างจากเธอมากแล้ว

ผมรู้สึกแต่เพียง ว่าเธอกำลังยืนมองผมเดินจากไป จนลับตา

…..คืนนี้ผมมาสะพานแห่งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

ผมคิดถึงหลายต่อหลายอย่างบนนี้ ผมไม่เคยขึ้นมาโดยไม่มีเธอมาก่อน

ผมไม่ได้ขึ้นมานานแล้วคืนนี้มัน ดูเงียบเชียบจริงจริง

เมฆที่บดบังบนท้องฟ้าเริ่มที่จะลอยออกจาก หมู่ดาว

ดวงดาวเริ่มที่จะส่องแสงระยิบระยับดูแล้วมันช่างสวยจริง จริง

ผมพึ่งเคยมองมันแบบเต็มตาเป็นครั้งแรก

เพราะทุก ครั้งที่มาผมไม่เคยใส่ใจกับดาวเลย ผมสนใจที่เธอมากกว่า

เพราะตา ที่เป็นประกายของเธอมันสวยกว่าหมู่ดาวบนท้องฟ้าเสียอีก



ผมยังรู้สึกเหมือนกับ ว่า เธอกำลังยืนดูดาวข้างข้างผม

และเสียงเธอกินไอศกรีมมันก็ยัง ก้องอยู่ในหัวผมอยู่เลย

ผมหยิบไดอะรี่ที่เธอให้ผมขึ้นมาดู ผมค่อยๆเปิดออก

ข้างในมันยังใหม่อยู่เลยไม่มีแม้รอยยับ เธอทำไมถึงรักษาได้ดีขนาดนี้นะ….

ผมเปิดเข้าไป ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่ง

วันเดือนปีที่ระบุไว้ หน้าแรกก็ประมาณ 15 ปีได้

เธอพูดถึงครั้งแรกที่อยู่ห้องเดียวกัน กับชายคนนั้นที่ห้อง ม.1/3

เธอเริ่มหลงรักเขาตั้งแต่ครั้งแรก

เธอพูดถึงความเป็นบอร์ดีการ์ดที่แสนดีของเขาที่ คอยช่วยเหลือเธอทุกครั้ง

ยอมออกรับแทนเธอทุกเรื่องยอมเจ็บตัว เพราะเธอทุกครั้ง

ให้เธอขี่หลังโดยไม่บ่นสักคำ เขาทำให้เธอมีความสุข เขารู้ใจเธอไปซะทุกอย่าง

เขาทำให้ชีวิตเธอ ไม่อ้างว้าง เขากลับบ้านพร้อมเธอทุกวัน

ทั้งที่บ้านเขาและเธอไม่ ได้อยู่ใกล้กันเลย

และเธอก็เขียนถึงเหตุการณ์หลายต่อหลายอย่าง

ที่ทุกเหตุการณ์เหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันวาน

แต่ประโยค หนึ่งในไดอะรี่ที่ผมอ่านแล้วดูเหมือนจะ น้ำตาคลอเลย ก็ประโยคสุดท้าย

ที่ เธอเขียนถึงชายในไดอะรี่ของเธอ “เมื่อไหร่น๊า…แบ๊งค์เขาจะบอกรักเราสักที”

ผมอึ้งไปเลยมันเป็นสิ่งที่ผมมองข้ามมาตลอด และผมก็เข้าใจแล้ว

คำ ว่าเสร็จสมบูรณ์ของไดอะรี่เล่มนี้ว่ามันหมายถึงอะไร เธอหมายถึง

คำ บอกรักจากปากผม ที่ผมไม่เคยบอกกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว

ซึ่ง นั่นก็เป็นเหตุผลเดียวที่ไดอะรี่ของเธอไม่เคยจบ

ยังคงขาดสิ่ง สำคัญที่สุดจากปากของผม ผมอ่านจนหมดเล่ม

มันทำให้น้ำตาของผมไหล ออกมาทันที น้ำตาของลูกผู้ชายที่ตลอด 20

ปีไม่เคยมีใครได้เห็น นี่ถ้าฟ้ามาเห็นเข้าเธอคงหัวเราะแย่เลย

ฮีโร่ ที่เธอบอกว่าเก่งนักหนา

แต่กลับต้องมาร้องไห้เพียงเพราะไดอะรี่ ที่เธอเขียนสำหรับเขา

ถึงอย่างไรชีวิตผมก็ได้ทำเพื่อฟ้ามา จนถึงที่สุดแล้ว สำหรับบอร์ดีการ์ด

คนนี้ก็ต้องหมดหน้าที่ซักที มันเป็นหน้าที่ของชัยแล้วที่จะดูแลเธอต่อไป

ผมหยิบของบางอย่างที่ ผมเก็บมาหลายปี แหวน แหวนที่ผมทุ่มเททำขึ้นสำหรับฟ้า

แต่ผมก็ไม่ มีโอกาสแม้แต่จะให้เธอได้เห็นมัน ผมเคยคิดว่าจะเก็บไว้ให้หญิงอื่น

แต่ ถึงวันนี้ผมก็รู้แล้วว่าไม่มีใครเหมาะกับมันเท่ากับเธออีกแล้ว

เธอ คือรักแรกและจะเป็นรักครั้งสุดท้ายสำหรับผม ผมปล่อยแหวนจากมือทันที

มัน ค่อยๆหล่นลงไปเบื้องล่าง และจมหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดกาล

ใกล้ จะถึงเวลาที่เครื่องกำลังจะออกแล้วผมเช็ดน้ำตาแล้วเดินลงไปตามทางเรื่อยๆ

ที่ที่ครั้งหนึ่ง เธอจะขี่หลังผม และไม่ยอมลงเลย จนถึงบ้านเธอ

ต่อ จากนี้ในใจผมจะมีเพียงความทรงจำเกี่ยวกับเธอและไม่มีวันจางหาย…ตลอดกาล…

“ภูมิใจที่ได้ทำอะไรให้ เต็มใจแม้ใครจะว่าเพ้อเจ้อ

ดีใจที่ ได้คอยห่วงใยใส่ใจเธอ สุขใจเสมอและจะมีเพียงเธอ…..ตลอดไป”

ผมอยู่ บนเครื่องเที่ยวที่จะไป ปารีส ท้องฟ้าบนนี้ช่างสวยจริงจริง

ผม กำลังจะได้เป็นหนึ่งในดีไซน์เนอร์ของไทย ที่กรุงปารีส ขอให้ไปประจำ

ที่ นั่น ต่อจากนี้งานของผมทุกชิ้นจะมีเพียง .ทิวลิปส์ ท้องฟ้า และ แสงดาว

~~~THE END~~~



อาจจะยาวนะ แต่แบบว่า เวรี่ SaiD
 Cry Cry Cry Cry Cry


"ภูมิใจที่ได้ทำอะไรให้ เต็มใจแม้ว่าใครจะว่าเพ้อเจ้อ ดีใจที่ได้คอยห่วงใยใส่ใจเธอ  สุขใจเสมอและจะมีเพียงเธอ...ตลอดไป"
., JeeJoiiz !* :"))
Hero Member
*****
กระทู้: 5,544

..DevilPriestZ..


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12924 เมื่อ: 28-04-2010, 23:00:48 »

~ • วันนี้มี การซ้อมกิลวอกัน สนุกมากเลย เอาภาพมาฝาก สำหรับคนไม่ได้ซ้อมจ๊า• ~




รูปนี้ ตอนรวมที่จุด 8 จ๊า มากันเยอะเลย =w=



ท่านแชมป์กำลัง แนะนำ ด่าน 2 มีบางคน อู้อยู่ ตู 8 ไม่ยอมมา  Angry แฮ่ ๆ !




อันนี้ มาดู สะพาน ซ้ายขวา  เหมือนคนเริ่ม อู้ ไม่มาดู 555  Smiley

" แม้แต่ผู้ที่ ปราชัย ยังสามารถดำรงตนให้สูงได้ด้วย วาจา "

- • Richiez • -
Full Member
***
กระทู้: 549

ไร้ตัวตน..


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12925 เมื่อ: 28-04-2010, 23:12:24 »


Cool นอนแล้วเจ้าค่ะ ฝันดีีี ...........................

., JeeJoiiz !* :"))
Hero Member
*****
กระทู้: 5,544

..DevilPriestZ..


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12926 เมื่อ: 29-04-2010, 01:14:29 »

รัก

" แม้แต่ผู้ที่ ปราชัย ยังสามารถดำรงตนให้สูงได้ด้วย วาจา "

€•‘‘SerXz’’•3
Sr. Member
****
กระทู้: 1,676

"• ผู้คุมกฏ แห่ง กระโป่ยแฟมิลี่ •"


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12927 เมื่อ: 29-04-2010, 01:19:05 »

อ้างจาก: ., Luv.Chamqz __ * ที่ 28-04-2010, 23:00:48
~ • วันนี้มี การซ้อมกิลวอกัน สนุกมากเลย เอาภาพมาฝาก สำหรับคนไม่ได้ซ้อมจ๊า• ~




รูปนี้ ตอนรวมที่จุด 8 จ๊า มากันเยอะเลย =w=



ท่านแชมป์กำลัง แนะนำ ด่าน 2 มีบางคน อู้อยู่ ตู 8 ไม่ยอมมา  Angry แฮ่ ๆ !




อันนี้ มาดู สะพาน ซ้ายขวา  เหมือนคนเริ่ม อู้ ไม่มาดู 555  Smiley

5555+


~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~  จงIจริญ!!~~
IridesCent.'__™~*
Sr. Member
****
กระทู้: 1,354

•_'Kapoey JOON. *


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12928 เมื่อ: 29-04-2010, 02:24:32 »

Cry
Soul_Mignon
Jr. Member
**
กระทู้: 123


I'm S0UL


Re: ~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~ !•~คSoบครัวสุดเอ๋O •*•IIต่IIสuจาอUอุ่u!!~~
« ตอบ #12929 เมื่อ: 29-04-2010, 04:43:08 »

ฝันดีนะคะชาวโป่ย^^' Cool

~*•VบวuกาSกS:โป่€IsuIจOร์•*~
ถ้าไม่อดทนต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็จะล้มเหลวในทุกๆสิ่ง
ป้าย:
หน้า: 1 ... 860 861 [862] 863 864 ... 1751