เอาความรู้มาแปะ
ฉี่...สกปรกหรือไม่?
ฉี่ คือน้ำส่วนเกินที่ร่างกายขจัดออกมาจากเลือดของเราเอง โดยไตทำหน้าที่เป็นเครื่องกรองอย่างดี ทำให้น้ำฉี่ใส มีสีเหลืองอ่อน รสเค็มนิดๆ มีกลิ่นเหมือนแอมโมเนีย ฉี่เป็นน้ำที่อยู่ในร่างการเราอยู่แล้ว จากผลการวิจัยระบุว่า สามารถนำมาดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย
ในสมัยก่อน มีการนำฉี่ของตนเองมาดื่มเพื่อรักษาโรค แต่ห้ามไปรักษาคนอื่น ต้องดื่มเฉพาะของใครของมันเท่านั้น นอกจานี้ไตยังเป็นอวัยวะที่เปรียบเหมือนเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สามารถกรองฉี่ได้ใสสะอาด จงจำไว้ว่า ไตไม่ใช่อวัยวะที่ขับของเสียออกจากร่างกาย แต่ของเสียที่เรากินเข้าไปจะถูกกำจัดโดยตับ ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานกำจัดขยะในร่างกาย และของเสียที่เป็นกากจะถูกขจัดออกมาทางลำไส้ คืออุจจาระ น้ำทางเหงื่อ และก๊าซหายใจออก
ฉี่ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
95% ของฉี่คือน้ำ 2.5% เป็นยูเรีย (urea) 2.5% เป็นส่วนผสมของเกลือแร่ เกลือฮอร์โมน เอ็นไซม์และภูมิคุ้มกัน ฉี่เป็นสารที่ไม่มีพิษ และไม่มีอาการข้างเคียง นอกจากถ้าดื่มมาก อาจจะมีอาการท้องเสียบ้าง
มีการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียพบว่า เมื่อดื่มฉี่จะทำให้เรามีสมาธิ จิตใจสดชื่น อารมณ์ดีขึ้น แจ่มใส เพราะในฉี่มีฮอร์โมนชื่อเมลาโทนิน ซึ่งจะพบในฉี่ตอนเช้า
นอกจากนี้ในฉี่ยังมีเอ็นไซม์ชื่อว่า "ยูโรคินาส" (urokinase) ที่ช่วยละลายไม่ให้เลือดแข็งตัว ช่วยในกรณีคนเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรงได้
ในงานวิจัยค้นพบว่าฉี่ของแต่ละคน จะมีผลต่อการทำงานในร่างกายของเจ้าของฉี่ โดยจะทำหน้าที่เป็นวัคซีนธรรมชาติ เป็นตัวต่อต้านแบคทีเรียและไวรัส ต่อต้านสารก่อมะเร็ง ทำให้เกิดความสมดุลกับฮอร์โมน และช่วยเรื่องภูมิแพ้
ฉี่รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
การใช้ฉี่มีสองแบบ คือ แบบใช้ภายในและแบบใช้ภายนอก
ดื่ม ดื่มปัสสาวะตอนเช้า ช่วงกลางของปัสสาวะ โดยเริ่มต้นจาก 5-10 หยด ก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มจนถึงหนึ่งแก้ว มีประโยชน์ในการรักษาโรคทั่วไป
ล้างพิษ ดื่มปัสสาวะได้ตลอดทั้งวัน ยกเว้นตอนเย็น และดื่มน้ำสะอาดตามด้วย เป็นการล้างพิษจากร่างกาย โดยทำให้เลือดสะอาดขึ้น พิษจะถูกกำจัดออกจากร่างกายทางอุจจาระ เหงื่อและทางหายใจ
กลั้วคอ เมื่อเรามีอาการเจ็บคอ ปวดฟันและเมื่อมีอาการไอ เป็นหวัด
สวนก้น ใช้ดีท๊อกซ์โดยการสวนเข้าไปในก้น เพื่อล้างลำไส้ และเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หยอดหูและตา เมื่อมีอาการหูและตาอักเสบ โดยการใช้ปัสสาวะผสมกับน้ำสุกที่สะอาดหยอดหูและตา
สูดเข้าจมูก สูดเอาปัสสาวะสดๆตอนเช้าเข้าจมูกทั้งสองข้าง เพื่อล้างโพรงจมูก เหมาะกับคนที่เป็นไซนัส เป็นหวัดหรือภูมิแพ้มีน้ำมูกไหลเป็นประจำ
ใช้ทานวดผิวหนัง โดยการนวดร่างกายทั้งหมดหรือบางส่วน โดยทิ้งไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วล้างออก จะช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ หรือผิวหนังที่โดนแดดเผา
ล้างเท้า กรณีที่มีปัญหาที่ผิวหนัง และเล็บเท้า
สระผม ปัสสาวะช่วยทำให้ผมสะอาดและนุ่มสลวย อีกทั้งอาจทำให้ปริมาณผมมากขึ้น
The Facts
ในสังคมไทยมีคนใช้ฉี่รักษาโรคกันมากในรูปแบบต่างๆแต่ไม่กล้าเปิดเผย เพราะสังคมภายนอกไม่ยอมรับและคิดว่าคนดื่มฉี่เป็นคนบ้า
ทั้งนี้ ผศ.น.พ. กัมมาล กุมารปาวา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันในวงการแพทย์ยังไม่ยอมรับในเรื่องนี้ แต่ก็เคยมีการศึกษากันอยู่บ้าง พบว่า ในฉี่มีสารชนิดหนึ่งเรียกว่า "อินเทอร์ฟารอน" เชื่อว่ามีสรรพคุณในการรักษาอาการเจ็บป่วยของเจ้าของปัสสาวะได้ ทว่าก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ และยืนยันในเรื่องนี้ได้ชัด แต่โดยทั่วไปแล้วปัสสาวะเป็นแค่น้ำและเกลือแร่ที่เกินความจำเป็นจนร่างกายต้องขับออกเท่านั้น
ฉี่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังป่วย มีโรคร้ายมากมายที่แสดงอาการทางฉี่โดยเฉพาะโรคไต
ฉี่มีเม็ดเลือดแดง อาจเกิดจากโรคนิ่ว ไตอักเสบหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มะเร็งของระบบทางเดินปัสสาวะหรือโรคไต เป็นต้น
ฉี่บ่อยกว่าปกติ กลางวันมากกว่า 5-6 ครั้ง กลางคืนมากกว่า 3-4 ครั้ง โดยเฉพาะกลางคืนกลังจากที่นอนหลับแล้ว จะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ถ้าเกิดเป็นประจำอาจจะเป็นโรคเบาหวาน เบาจืด โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือเป็นโรคไตเรื้อรัง
โดยทั่วไปการฉี่บ่อยในเวลากลางวันมักจะเกิดจากความวิตกกังวลทางจิตใจ ซึ่งกระตุ้นให้อยากฉี่อยู่เรื่อยๆโดยที่ไม่ได้เป็นโรคไต
ฉี่มีฟองมาก เมื่อตรวจทางห้องปฎิบัติการอาจพบว่ามีโปรตีน(ไข่ขาว) ออกมามากผิดปกติ ซึ่งแสดงอาการของโรคไต
แหม่..แหม่..อ่านแล้วไม่ใช่จะไปทดลองกันดูเลยนะคะ ยังไงบทความนี้ เจ๊อ่านเจอในหนังสือ Front ก็อยากให้อ่านกัน ก็แล้วแต่วิจาณญาณของเพื่อนๆผู้หญิงนะคะแล้วล่ะค่ะว่าคิดเห็นกันอย่างไร
เครดิต ai-kao
ว่างๆลองกินดูก็ได้นะ